ตอนที่แล้วChapter 179 แผนสาม พลังกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเศร้าใจหรือสงสาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 181 แผนสี่ ลั่นกองรบ ข่มขวัญทั่วทั้งเมือง.

Chapter 180 ที่นี่คือบ้านของพวกเรา.


แน่นอนว่าไม่ใช่โม่เหล่ยหวังเป็นคนยิง ทว่าในเวลานี้คันศรและลูกศรสีน้ำเงินอยู่ในมือเขาแล้ว ดูเหมือนว่าเขายังจับแน่นยังไม่ทิ้งแต่อย่างไรด้วย.

อย่างไรก็ตามลูกศรที่ยิ่งใส่สุ่ยเทียนหยานั้นมีรูปลักษณ์และคุณสมบัติที่เหมือนกัน เป็นรูปร่างและรูปแบบเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าลูกศรดังกล่าวนั้นถูกปล่อยออกมาจากป่าที่มีควันพิษอยู่ เป็นลูกศรที่ถูกยิงจากอาต้านั่นเอง.

ลูกศรที่อาต้ายิงออกไปนั้นแม่นยำเป็นอย่างมาก และการที่โม่เหล่ยหวังไม่สามารถรับรู้ตัวตนของเขานั้น เพราะว่าจงซานได้ให้เขายืมของวิเศษอย่างหนึ่งไป เป็นของวิเศษที่มีเพียงชิ้นเดียวในเมืองอู๋ซวัง.

ค่ายกลหมอกเทวะอำพราง!

นี่เป็นของที่จงซานซื้อมาเมื่อครั้งเข้ามาในเมืองอู๋ซวัง ขณะเดินเที่ยวเมืองพร้อมหนานป้าเทียนและสุ่ยอู๋เหิน ที่ร้านธวัชแห่งหนึ่ง และเป็นธวัชที่เขาแย่งกันซื้อจากโม่เหยี่ยนปิง.

อำพลางสัมผัสเทวะ ทำให้ไม่สามารถใช้สัมผัสเทวะตรวจสอบได้ ทำให้โม่เหล่ยหวังไม่สามารถรับรู้ตัวตนของอาต้าที่อยู่ในค่ายกลดังกล่าวนั่นเอง.

ขณะที่ลูกศรปักไปยังร่างของสุ่ยเทียนหยานั้น เป็นเวลาเดียวที่เขากำลังโบกมือให้กับประชาชนนับหมื่นคน ทำให้ทุกคนได้เห็นว่าเขาได้อุทิศทำงานเพื่อทุกคนอย่างเต็มกำลัง แม้ว่าเขาจะถูกยิงก็ตาม สัมผัสเทวะของทุกคนที่ถูกปล่อยออกไปพื้นที่รอบ ๆ .

ทุกสายตาทุกสัมผัสที่จับจ้องไปยังโม่เหล่ยหวัง มีเพียงแค่โม่เหล่ยหวังที่กระโดดออกมา หัวใจของสุ่ยเทียนหยาที่รัดแน่น ลูกศรนั่นพุ่งตรงมายังร่างของเขาตามคาด.

ในพริบตาเดียว ลูกศรที่พุ่งตรงมายังร่างของเขา.

ศรปราณนั่นทำอันตรายได้แค่ผู้ฝึกตนระดับแกนทองเท่านั้น แต่ด้วยเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก สัมผัสเทวะของทุกคนที่กวาดออกไป.

ในทิศทางของลูกศรที่พุ่งมาก สุ่ยเทียนหยาที่ปรับแต่งร่างกายเล็กน้อย ตัวเขานั้นไม่ได้รับบาดเจ็บแน่นอน ด้วยพลังปราณที่แข็งแกร่ง เหล่าองค์รักษ์ที่พุ่งเข้ามาล้อมรอบ.

"พรึบ ๆ  ๆ ."

เขาที่แสร้งลดปราณคุ้มกายรอบ ๆ ร่างอย่างจงใจ เขาที่กุมศรปราณให้ทะลวงเข้าไปในร่างของตัวเองด้วยความตั้งใจ.

"พรึด!!!"

โลหิตที่ซ่อนเอาไว้ในเกาะและกัดริมฝีปากของตัวเอง สุ่ยเทียนหยาที่เผยยิ้มออกมาอย่างเจ็บปวด พร้อมกับพ่นโลหิตคำโต ก่อนที่จะล้มลง.

"คุ้มกันใต้เท้า!"

เสียงตะโกนโหวกเหวกดังก้องไปทั่ว.

"ท่านพ่อ!"

สุ่ยอู๋เหินที่ตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด กระโดดตรงไปยังที่สุ่ยเทียนหยายืนอยู่ พร้อมกับเข้าพยุงก่อนที่เขาจะล้อมลง.

"จับมือสังหาร!"

เหล่าขุนพลที่ตะโกนออกมาเสียงดัง

"ข้า ข้าไม่ได้ยิง!"โม่เหล่ยหวังที่ตะโกนออกมากลางอากาศ.

อย่างไรก็ตาม ใครจะเชื่อล่ะ ในเมื่อรอบ ๆ นี้ ไม่มีใคร ไม่มีใครเลยสักคน มีแค่เพียงเขา หนำซ้ำเขายังมีคันศรและลูกศรที่เหมือนกับดอกที่ใช้ยิงสุ่ยเทียนหยา หากไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร.

ในเวลานี้ ดูเหมือนแทบจะทุกคนต่างก็สรุปเป็นความเห็นอย่างเดียวกัน เหล่าทหารมากมายที่บินตรงมา เข้าล้อมกรอบโม่เหล่ยหวังอย่างรวดเร็ว แต่ละคนดวงตาแดงกล่ำ ราวกับว่ากำลังจะสังหารโม่เหล่ยหวัง.

"วางอาวุธซะ ห้ามขัดขืน."เหล่าทหารที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.

จากนั้น เหล่ามือธนูที่ง้างศรปราณทะลวง ง้างคันศรเล็งไปยังโม่เหล่ยหวังในทันที.

กับสถานการณ์เช่นนี้ เขายังจะสามารถหนีได้อีกเหรอ? มีเพียงแค่ยอมให้ถูกจับเท่านั้น คาดว่าถึงแม้ถางซ่งของเขาจะชนะ เกรงว่าว่าก็คงยากที่จะช่วยเขาได้แล้ว ถึงแม้ว่าแท้จริงจะไม่ใช่ฝีมือเขาก็ตาม.

"ข้าไม่ได้ยิง! ข้าไม่ได้ทำ."โม่เหล่ยหวังที่โยนคันสองและลูกศรออกไป เขาที่ยังคงตะโกนเสียงดัง ค่อย ๆ ร่อนลงพื้น ทว่าเหล่ามือธนูยังคงเล็งไปยังเขา รอจนกว่าที่เขาจะถูกจับ.

ทว่าในเวลาเดียวกัน บนพยัคฆ์ตัวมหึมา สุ่ยอู๋เหินที่ดวงตาแดงกล่ำ ดูเหมือนว่ากำลังจะบ้าคลั่ง.

"ไป พาบิดาของข้ากลับไปก่อน ให้ตามหมอมารักษาท่านพ่อในทันที ไป เร็วเข้า."สุ่ยอู๋เหินที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.

พยัคฆ์ตัวใหญ่ยักษ์ดูเหมือนว่าจะเข้าใจสถานะการณ์ มันได้หันหน้ากลับ พร้อมกับพุ่งตรงไปยังที่ทำการหนานเฉิงตง.

พื้นที่รอบ ๆ ตอนนี้ตกอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่เลยทีเดียว หลังจากที่พยัคฆ์หลายตัวจากไปแล้ว โม่เหล่ยหวังที่ถูกจับกุม เหล่าคนที่สนับสนุนสุ่ยเทียนหยา หลาย ๆ คนที่ชักกระบี่ออกมาชี้ไปยังเขา จิตสังหารที่คละคลุ้งเต็มไปหมด ดูเหมือนว่าทุกคนต้องการจะฉีกร่างของโม่เหล่ยหวัง.

เหล่าทหารที่คุมตัวโม่เหล่ยหวัง นำไปเขาตรงไปยังที่คุมขังในทันที.

กระบี่เหินกว่า 300  เส้น เหินข้ามอากาศคุมตัวนักโทษจนหายลับตาไป ทว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่คลี่คลาย.

"สังหารเขา เขาลอบสังหารใต้เท้าสุ่ย."

"เขาคือโม่เหล่ยหวัง เป็นถางซ่งของโม่ไป่หลี."

"โม่ไป่หลีเพื่อคะแนนเสียงแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะลอบสังหารใต้เท้าสุ่ย สังหารเขา."

...

กับเหตุการณที่เกิดขึ้นตอนนี้ เหล่าผู้เห็นเหตุการณ์นับหมื่นต่างถูกปลุกเร้าด้วยเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้กำลังตะโกนเสียงดัง โม่เหล่ยหวังที่ถูกคุมตัวไปแล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังคุกรุ่นอยู่.

บนหอคอยที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่มีใครรู้ ว่ามีคนกำลังใช้หยกบันทึก บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด.

มีคนเรือนหมื่นที่เห็นการกระทำทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับใต้เท้าสุ่ย กำลังโบกมือให้กับทุกคน ลูกศรที่ถูกยิงออกมา และโม่ไป่หลีถูกจับ ที่พยายามสังหารใต้เท้าสุ่ย.,

ทันใดนั้น หยกบันทึกก็ถูกกระจายไปอย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งเมืองราวกับว่าถูกคัดลอกนำไปแจกจ่ายอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะย่านชุมชนแห่งใหนต่างก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนมากมายที่ได้เห็นต่างหวาดผวาไปตาม ๆ กัน.

ขณะที่อีกฝั่งหนึ่ง เสียงที่ดังอื้ออึ้ง เกิดเหตุวุ่นวายเป็นอย่างมาก โม่ไป่หลีที่กำลังนั่งอยู่บนพยัคฆ์ตระเวนไปแต่ละเขต ทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกน ทำให้เขาได้หยุดชะงัก.

บนที่ทำการเป่ยเฉิงตง เซียนเซิงสุ่ยจิงที่นั่งอยู่ในห้องโถง กำลังขมวดคิ้วไปมา พร้อมกับได้ยินเสียงดังโหวกเหวกโวยวายไปทั่ว ภายในใจรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาในทันที.

"ไม่ดีแล้ว ไม่ได้การแล้ว เซียนเซิง เซียนเซิง โม่เหล่ยหวังถือคันศรและลูกศรระดับห้า ยิงสังหารสุ่ยเทียนหยาแล้ว."โม่เหยียนปิงที่วิ่งตรงเข้ามาจากด้านนอก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ.

"หะ!"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ยืนขึ้นในทันที.

"เจ้าพูดว่าอะไรนะ?"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ชำเลืองมองด้วยความประหลาดใจ.

"เซียนเซิง ท่านดูหยกบันทึกนี่ ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองมันถูกส่งไปทั่ว ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงแจกจ่ายรวดเร็วขนาดนี้ ตอนนี้ไม่ว่ามุมใหน ๆ ต่างก็มีหยกบันทึกดังกล่าวนี้กระจายไปหมด."โม่เหยี่ยนปิงที่กล่าวออกมาในทันที.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่รับหยกบันทึกมา แผ่แกนแท้ลงไป จ้องมองอย่างระเอียด.

เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว สายตาของเซียนเซิงสุ่ยจิงที่กระพริบปริบ ๆ  เพราะว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนี้มันเฉพาะเจาะจงเป็นอย่างมาก ลูกศรที่พุ่งไปนั้นแม้ว่าจะเร็วแต่ไม่น่าจะใช่ศรปราณระดับห้า ถึงแม้ว่าสุ่ยเทียนหยาจะหลบก็ยังได้ แต่เขากับยินยอมให้มันทะลวงผ่านเข้าร่างกายอย่างงั้นรึ?ทำไมปราณคุ้มกันร่างกายของเขาอ่อนจริง.

เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เซียนเซิงที่ได้แต่หลับตาพร้อมกับสูดหายใจยาวเข้ามาในทันที.

"เซียนเซิง สุ่ยเทียนหยาจะตายอย่างงั้นรึ?แล้วท่านพ่อของข้าจะชนะใช่หรือไม่?"โม่เหยียนปิงราวกับว่าจะเข้าใจได้ในสถานการณ์?ที่เกิดขึ้น ใบหน้าของเขาที่หวาดกลัวและกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก.

"สุ่ยเทียนหยาไม่ตาย เขาสบายดีด้วยซ้ำ ทว่า บิดาของเจ้าเวลานี้พ่ายแพ้แล้ว."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ได้แต่หลับตา ถอนหายใจพร้อมกับกล่าวออมา.

"เซียนเซิง ท่านบอกว่านี้เป็นเรืองที่สุ่ยเทียนหยาจงใจใช่ใหม? มันเป็นแผนการของเขา?เขากำลังหลอกลวงทุกคนทั่วทั้งเมืองอู่ซวัง?"ใบหน้าของโม่เหยียนปิงที่เต็มไปด้วยความร้อนใจ.

"ใช่แล้ว แพ้แล้ว พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ พ่ายแพ้อย่างยับเยิน."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ถอนหายใจเบา ๆ .

"เซียนเซิง เช่นนั้นคนที่พวกเราซื้อมาก่อนหน้านี้ ให้เขายิงท่านพ่อของข้าสิ."โม่เหยี่ยนปิงที่เอ่ยออกมาในทันที.

"ไร้ประโยชน์ ตอนนี้หากยิงไปพ่อเจ้าก็ตายนะสิ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะชนะ."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ลืมตาขึ้นมาจ้องมองเขม็ง.

"ไม่ ทำไม ทำไมล่ะ?"ใบหน้าโม่เหยียนปิงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ส่ายหน้าไปมา ก่อนที่จะก้าวออกมาจากห้องโถง ทว่าในเวลาเดียวกันเขาที่ค่อย ๆ คลายคิ้วที่ขมวดแน่นนั่นออก พร้อมกับเผยยิ้มที่ยากจะเห็นออกมาได้ เป็นรอยยิ้มที่นุ่มนวล เป็นรอยยิ้มทีเป็นดั่งที่เขาคาด ก่อนที่จะบินตรงไปยังตำหนักเจ้าเมือง.

"ไม่ได้การล่ะ ข้าจะต้องขัดขวางพวกเขา."บนใบหน้าของโม่เหยียนปิงทีเปลี่ยนเป็นเย็นชา ทว่าจะป้องกันอย่างไร?

โม่เหยียนปิงที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ ทันใดนั้น ที่ด้านนอก็ได้ยินเสียงของสุ่ยอู๋เหิน สุ่ยอู๋เหินที่ใช้ของวิเศษที่กระจายเสียงไปทั่วทั้งเมือง ทำให้ทุกคนทั่งทั้งเมืองสามารถได้ยินเสียงของเขา.

"ทุก ๆ ท่าน ข้า สุ่ยอู๋เหิน บิดาของข้าสุ่ยเทียนหยา บิดาของเขาถูกลอบสังหาร ตอนนี้ยังหมดสติไม่ฟื้น ข้าขอกล่าวแทนบิดาของข้า ด้วยศรปราณทะลวงระดับห้า อาวุธระดับห้า ปราณหลอมกายธาตุที่ทะลวงเข้าไปในร่างกาย ธนูสีน้ำเงิน ลูกศรสีน้ำเงิน ทุกท่านต่างก็เห็น ทว่าลูกศรพุ่งมาเร็วมาก ไม่มีเวลาที่จะป้องกัน ศรปราณทะลวงที่ทะลวงผ่านร่างกาย ผ่านปราณคุ้มกาย ทะลวงชุดเกราะ ปักยังอกของท่าน ทะลุผ่านร่าง จนทำให้บิดาของข้ายังไม่ได้สติ.

ในเวลานั้น มีคนนับหมื่นเป็นพยาน ได้โปรดสนับสนุนท่านพ่อ โปรดสนับสนุน"วิกฤติสงคราม" ที่จะเกิดขึ้นในเมืองอู๋ซวังของพวกเรา ข้าเข้าใจดี ว่าหลายพันปีมานี้ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีเข้าโจมตีตลอดเวลา ปีแล้วปีเล่าที่มีสงครามเกิดขึ้น มีคนมากมายนับไม่ถ้วนที่ต้องตาย บิดาของข้าห่วงใยกลัวว่าจะเกิดสงครามมันผิดด้วยรึ? ในเวลานั้นทุกคนนับหมื่นต่างก็เห็น พวกเขาก็เป็นเหมือนกับบิดาของข้า ทุกคนนั้นรักในบ้านเกิดเมืองอู๋ซังของพวกเรา ในเวลานี้หากทุกท่านห่วงใยเมืองอู๋ซวังล่ะก็ โปรดสนับสนุนบิดาของข้า ข้าเห็นทุกคนต่างก็ต้องการช่วยบิดาของข้า ทว่าลูกศรนั้นมาเร็วจนเกินไป.

ข้าไม่รู้ว่าบิดาของข้าได้กระทำอะไรผิด ข้ารู้เพียงแค่ว่าทุกคนต่างก็ห่วงใยบ้านเกิดของพวกเรามาตั้งแต่รุ่นก่อนแล้ว เมืองอู๋ซวังต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา ทำไม ทำไมล่ะ ทุกท่านจะทำลายความห่วงใยความตระหนักในวิกฤติไปอย่างงั้นรึ?

อาจารย์ปรุงยาเขาได้ตรวจดูอาการของบิดาของข้าแล้ว ตราบเท่าที่ศรเยือกแข็งนั้น หากแช่แข่งปราสาทหยางล่ะก็ หากว่าไม่สามารถรักษาได้ทันท่วงที คงจะต้อง คงต้อง.....

บิดาของขาที่ตระเวนไปได้แค่เพียงสิบเขตชุมชนเท่านั้น เหลืออีกแค่หกสิบสองเขต ไม่มีโอกาสได้ไปเยือนพื้นที่เหล่านั้นแล้ว อาจารย์ปรุงยากล่าวว่าบิดาของข้าเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก ท่านจะต้องพักไปจนถึงยามไฮ่ เพื่อรักษาตัว บิดาของข้าไม่สามารถหาเสียงเพิ่มได้อีกแล้ว บางทีการแข่งขันการเป็นเจ้าเมืองครั้งนี้คงจะพ่ายแพ้แล้ว ทว่าข้ารู้ถึงความมุ่งมั่นของบิดาดี ถึงแม้ว่าเขายังเหลือลมหายใจ เขาก็จะปกป้องเมืองแห่งนี้จนตาย เขาก็จะปกป้องเมืองอู๋ซวังแห่งนี้ด้วยชีวิต เพราะว่าที่นี่ คือบ้านของพวกเรายังไงล่ะ."

ยามไฮ่ (亥时) คือเวลา 21.00 น. – 23.00 น.

กับคำพูดของสุ่ยอู๋เหินนั้นถึงกับทำให้ทุกคนทั่วทั้งเมืองอยู่ในความสงบฟังคำพูดของเขาจนจบ.

"สนับสนุนใต้เท้าสุ่ย! ปกป้องเมืองอู๋ซวัง!"ไม่รู้ว่าใครที่ใหน เป็นคนที่ตะโกนออกมาก่อน.

"สนับสนุนใต้เท้าสุ่ย!ปกป้องเมืองอู๋ซวัง!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด