ตอนที่แล้วChapter 178 ใครจะไร้ยางอายกว่ากัน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 180 ที่นี่คือบ้านของพวกเรา.

Chapter 179 แผนสาม พลังกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเศร้าใจหรือสงสาร


กู่หลินที่มีผู้ใต้บังคับบัญชาคุ้มกันมากมาย ก้าวเดินเข้ามาอย่างเร็วไว.

ใบหน้าที่ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นกงจูเฉียนโหยว.

"กู่หลิน ไม่เห็นเจ้านานเลยนะ."กงจูเฉียนโหยวพยักหน้าเผยยิ้มออกมา กล่าวตอบรับตามมารยาท เพราะนางไม่ต้องการที่จะทำอะไรให้ผิดพลาดเผยพิรุธ.

"อืม ไม่ได้เห็นเจ้ามาหนึ่งปี ในหนึ่งปีนี้ เฉียนโหยว ข้าต้องยอมรับในเชาว์ปัญญาของเจ้าจริง ๆ  สุ่ยจิงถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดทุก ๆ วันเลย."กู่หลินเอ่ย.

"อย่างงั้นรึ?เซียนเซิงสุ่ยจิงถึงกับขมวดคิ้วแน่นทุกวันเลยรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ปรากฏรอยยิ้มเล็ก ๆ ขึ้น พร้อมกับเหล่สายตาไปยังจงซานที่อยู่ใกล้ ๆ .

"อืม โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้าวันที่แล้ว สุ่ยจิงถึงกับไม่กินไม่นอนเลย เจ้าร้ายกาจมาก ทว่าด้วยคะแนนเสียงที่ห่างกันถึง 900,000 เสียง เฉียนโหยว ครั้งนี้ ข้าคงชนะเจ้าแล้ว ขออภัยเจ้าจริง ๆ ."กู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ.

"จริง ๆ รึ?"กงจูเฉียนโหยวเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.

กับท่าทางที่ดูไม่ตื่นตกใจของกงจูเฉียนโหยวเป็นอะไรที่เกินคาดจริง ๆ  กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมา ภายในใจปรากฏท่าทางไม่สบายใจขึ้นมาอยู่เหมือนกัน ทว่าในเวลานั้นเขาได้หันไปมองด้านหลังกงจูเฉียนโหยว.

อาเอ้อ อาต้าล่ะ? แล้วนั้นใครกัน? เขารึ?

"เป็นเจ้า."กู่หลินที่ชี้หน้าโพลงออกมาในทันที.

"จงซานคารวะซือจื่อ."จงซานที่ยกมือคารวะกู่หลิน.

"เจ้ามาอยู่ที่นี่เองเหรอ? จะใจกล้าเกินไปแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาปรากฏขึ้นต่อหน้าข้า."กู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

"เซี่ยเฉินเป็นองค์รักษ์หลวงของกงจู."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

下臣  Xià chén ขุนนางน้อย.

"ฮ่าฮ่าฮ่า องค์รักษ์หลวง ด้วยพลังฝึกตนเท่านี้นะเหรอ องค์รักษ์หลวง คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีเพียงแค่ระดับแกนทอง? อะไรนะ! เจ้าไปถึงระดับแกนทอง คาดไม่ถึงเลยว่าเป็นองค์รักษ์หลวงของเฉียนโหยว นี่เจ้า......"กู่หลินที่ยังคงโวยวายเสียงดัง.

"พอแล้ว!"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาทันควัน.

"หืม?"กู่หลินที่ถูกกงจูเฉียนโหยวหยุด สายตาที่จ้องมองไปยังนางด้วยความสงสัย.

"อย่างแรก จงซานคือองค์รักษ์หลวงของข้า เขาได้รับการรับรองจากอาวุโสศาลาเจ็ดดาว เป็นขุนนางขั้นห้า มีตำแหน่งองค์รักษ์ขั้นสาม หากเจ้ามีความเห็น ให้ไปสอบถามศาลาเจ็ดดาวด้วยตัวเอง."กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาในทันที.

"หืม เฉียนโหยว ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น คนผู้นี้มีพลังฝึกตนต่ำเกินไป เจ้าให้เขามาเป็นองค์รักษ์หลวงอย่างงั้นรึ? อย่างน้อยก็ต้องมีพลังเท่าอาต้า อาเอ้อถึงจะถูก."กู่หลินที่กล่าวออกมาในทันที.

"ชิ มันเรื่องของข้า ข้าไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาจัดการ ข้าจะเลือกใครมาเป็นองค์รักษ์หลวง ข้าต้องเป็นคนเลือกเอง ไม่เคยมีใครกล้ามาก้าวก่ายเรื่องของข้า."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ได้ ก็ดี ข้าจะไม่พูดเรื่องนี้ ให้มันจบก็แล้วกัน ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังอารมณ์ไม่ดี ทว่าโม่ไป่หลีจะต้องกลายเป็นเจ้าเมือง เรื่องนี้ไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว เจ้าอย่ามาต่อว่าข้าก็แล้วกัน."กู่หลินกล่าว.

"ชิ."กงจูเฉียนโหยวที่ไม่สนใจกู่หลินอีกต่อไป ยังคงจ้องมองไปยังป้ายหยกขนาดใหญ่ทางทิศใต้.

กู่หลินที่เห็นกงจูเฉียนโหยวไม่สนใจเขา ทำได้แค่ทำใจ จากนั้นก็จ้องมองไปยังจงซานที่อยู่ด้านหลัง สายตาที่หรี่เล็ก แววตาที่มีความโกรธแฝงอยู่.

จงซานที่ยืนอยู่ด้านหลัง แน่นอนว่าเป็นหน้าที่ขององค์รักษ์หลวง.

รอบเขตแดนแต่ละแห่งนั้นมีป้อมปราการมากมาย และภูเขาขนาดเล็กหลาย ๆ แห่ง ซึ่งทำการแยกพื้นที่แต่ละเขตออกจากกัน ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน ภายในป่ารอบ ๆ นั้นเต็มไปด้วยความชุ่มชื้น มีพืชพรรณต่าง ๆ มากมายปกคลุม ซึ่งมีควันมลพิษอยู่รอบ ๆ  ถึงแม้ว่าจะมีผู้ฝึกตนเข้ามาบ้าง แต่ส่วนมากแล้วไม่มีใครเข้าไป.

บนป้อมปราการแห่งหนึ่งในนั้น ในเวลานี้มีคนสองคนยืนอยู่.

หนึ่งคือชายในชุดสีแดงชาด อีกหนึ่งคือชายในชุดสีน้ำเงิน ชายในชุดสีแดงเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นหนึ่งในทีมหาเสียงของสุ่ยเทียนหยา ด้วยชุดนี้ เป็นชุดของทีมสุ่ยเทียนหยานั่นเอง ส่วยชายในชุดสีน้ำเงินกำลังยืนอยู่ด้วยรอยยิ้มเช่นกัน.

"โม่เหล่ยหวัง เจ้าเป็นถางซ่งของโม่เป่ยหลีซินะ ก่อนหน้านี้โม่ไป่หลีได้แย่งชิงของวิเศษของบรรพชนไปต่อหน้าเจ้า ทำให้เจ้าเป็นปฏิปักษ์กับเขา ตอนนี้ ถึงเวลาแก้แค้นเขาแล้ว."ชายในชุดสีแดงกล่าว.

"เจ้าโปรดวางใจในเมื่อใต้เท้าสุ่ยได้มอบศิลาวิญญาณมากมายให้กับข้า แน่นอนว่าข้าต้องช่วยเขา ในเวลานั้น เจ้ารอคอยดูข้าลงมือได้เลย."ชายในชุดสีน้ำเงิน โม่เหล่ยหวังพยักหน้า ที่มุมปากที่เผยยิ้มเหยียดหยันออกมาเล็กน้อย.

"อืม ข้าจะไปรอทางเข้าเขต เมื่อเจ้าเห็นใต้เท้าสุ่ยเข้ามา เจ้าก็ตรงไปยังทิศทางดังกล่าวและยิงลูกศรออกมาเลย หลังจากยิงเสร็จ เจ้าก็หนีได้เลย."ชายชุดแดงกล่าว.

"ไว้ใจได้เลย."โม่เหล่ยหวังที่พยักหน้าพูด.

"อืม นี่คือคันศรและลูกศรระดับห้า รับไป ทำงานให้สำเร็จ "ชายชุดแดงกล่าว.

"อืม."โม่เหล่ยหวังพยักหน้า พร้อมกับรับธนูสีน้ำเงินและลูกศรมา.

"จัดการได้."ชายชุดแดงกล่าว.

โม่เหล่ยหวังพยักหน้า ส่วนคนชุดแดงที่เร่งรีบจากไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ไปปรากฏที่ย่านชุมชนแล้ว.

เห็นชายชุดแดงจากไปแล้ว รอยยิ้มที่เย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโม่เหล่ยหวัง คิดว่าเขาถูกสุ่ยเทียนหยาซื้ออย่างงั้นรึ? รอก่อนเถอะ นี่เป็นเพียงแค่คำแนะนำจากถางซ่งเท่านั้น ตราบเท่าที่ถ่วงเวลาออกไป เมื่อถึงเวลานั้นข้าไม่ยิง ใครจะทำอะไรข้าได้? เมื่อถางซ่งได้เป็นเจ้าเมือง สุ่ยเทียนหยาไม่มีอะไรเลย ฮึ แม้แต่เป็นคนขัดรองเท้าของข้ายังไม่คู่ควรเลย.

โม่เหล่ยหวังที่จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังชายชุดแดง.

ชายชุดแดงที่อยู่ที่ทางเข้าย่านชุมชน ส่วนเขายังคงยืนอยู่ไม่ไปใหน และรอคอยการโบกมือให้สัญญาณ ดูเหมือนอีกฝั่งจะมั่นใจมาก โม่เหล่ยหวังพยักหน้าให้กับคนชุดแดง เพื่อให้เขาวางใจ ภายในใจนั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน.

โม่เหล่ยหวังที่จ้องมองไปยังสุ่ยเทียนหยา หยิบคันศรและลูกศรระดับห้า เขาไม่กลัวว่าเขาจะพลั้งมือสังหารเขาให้ตายไปจริง ๆ รึ?

คิดได้เช่นนี้โม่เหล่ยหวังหัวใจบีบรัด คิดถึงเรื่องที่ถางซ่งเป็นกังวลว่าใกล้ ๆ นี้จะมีคนซ่อนอยู่หรือไม่?

ด้วยสัมผัสเทวะที่เขาปล่อยออกไป ยังพื้นที่รอบ ๆ ภูเขาแห่งนี้อย่างรวดเร็ว โชคดี ไม่มี ไม่มีใครเลยเหมือนดังที่ถางซ่งเขาเป็นกังวล มีเพียงแค่ควันพิษสีดำที่อยู่ในป่า แม้แต่สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กยังไม่มีปรากฏให้เห็นแม้แต่น้อย.

โม่เหล่ยหวังที่จับคันศรและลูกศรแน่น ที่มุมปากเผยยิ้มอย่างวางใจ ตอนนี้ก็แค่รอเวลา รอให้สุ่ยเทียนหยาผ่านสถานที่ด้านหน้า จากนั้นเขาก็ไม่ต้องทำอะไร เมื่อเขาจากไป โชคลาภทั้งหมดก็มีแต่วิ่งเข้ามาหา.

สุ่ยเทียนหยาได้มายังเขตที่สิบแล้ว จากเหนือไปยังทิศใต้เพื่อหาเสียงเพิ่ม.

โม่ไป่หลี 4.4 ล้านเสียง

สุ่ยเทียนหยา 3.5 ล้านเสียง.

ห่างกัน 900,000 เสียง ภายในใจสุ่ยเทียนหยาที่เต็มไปด้วยความกังวล ถึงแม้ว่าจงซานจะรับประกัน ทว่าเขาก็ยังคงกังวลอย่างช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะเต็มไปด้วยความกังวล แต่บนใบหน้าของเขานั้นก็จะไม่เผยออกมาให้ใครเห็นได้.

ขณะที่เขาเข้ามายังเขตนี้ บนใบหน้าของสุ่ยเทียนหยายังคงเผยยิ้มออกมา.

ย่านชุมชนที่สิบ ดวงตาของเขาที่หดเกร็งอย่างไม่รู้ตัว ที่นี่ละ เขาที่กำหมัดแน่น ภายในใจเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย ที่นี่ แผนการของเขากำลังจะเริ่ม.

ไม่เพียงสุ่ยเทียนหยา สุ่ยอู๋เหินและเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เพราะนี่จะเป็นการตัดสินว่าใต้เท้าของพวกเขาจะสำเร็จหรือล้มเหลว.

สถานที่แห่งนี้ สุ่ยอู๋เหินที่ยืนอยู่บนพยัคฆ์สีดำพร้อมกับเคลื่อนที่ช้า ๆ  ตรวจตราจ้องมองไปยังพื้นที่รอบ ๆ  ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายกว่าปรกติถึงสองเท่า.

ดูเหมือนว่า พื้นที่แห่งนี้ จะมีคนสนับสนุนสุ่ยเทียนหยาเป็นอย่างมาก พวกเขาที่สนับสนุนแทบบ้าคลั่ง ตะโกนออกมาเสียงดังตลอดสองข้างทาง ดังก้องกังวานราวกับจะได้ยินไปทั่วทั้งเมือง.

"สนับสนุนใต้เท้าสุ่ย ปกป้องเมืองอู๋ซวัง."

เหล่าผู้คุ้มกันของสุ่ยเทียนหยาที่เข้าขนาบข้าง.

สุ่ยอู๋เหินและผู้คุ้มกันหลายคนที่ต่างสบตาจ้องมองกันและกัน.

สุ่ยเทียนหยาที่ก้าวออกไปด้านหน้า พยัคฆ์ตัวอื่น ๆ ค่อย ๆ ปรับขบวน ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าแผนการกำลังจะเริ่มแล้ว พวกเขาที่ค่อย ๆ ขยับมาด้านหลัง เจ้าหน้าที่หลายคนที่รู้สึกงงงวยถูกผลักให้ออกไปอยู่ข้าง ๆ .

ท้ายที่สุด ขณะที่สุ่ยเทียนหยาเดินทางมาถึงทางเข้า ยกเว้นคนเจ็ดคนตามแผน มีประชาชนกว่าหนึ่งหมื่นคนที่ติดตามเข้ามาอย่างใกล้ชิด.

ขณะที่เข้ากำลังก้าวเข้าประตูทางเข้า มีประชาชนไม่กี่คนที่ทางเข้า แต่มีคนเป็นจำนวนมากหลายหมื่นคนที่กำลังยืนรอเขาอยู่ จ้องมองสุ่ยเทียนหยาที่กำลังก้าวเข้าไปประตู.

พยัคฆ์ขนาดห้าสิบเมตรที่ก้าวนำหน้า ที่ด้านล่างนั้นเป็นย่านชุมชนที่มีคนอยู่อย่างคับคั่ง.

โม่เหล่ยหวังเวลานี้ยืนอยู่บนภูเขาลูกหนึ่ง จ้องมองสุ่ยเทียนหยาที่กำลังเข้ามา ที่มุมปากของเขานั้นเผยรอยยิ้มที่น่าพึงพอใจ.

หน้าที่ของเขาเพียงแค่ถ่วงเวลาออกไปก็จะสำเร็จแล้ว เพียงแค่ถ่วงเวลาสุ่ยเทียนหวังไปจนกว่าการเลือกตั้งเสร็จ โดยที่ไม่จำเป็นต้องยิงลูกศร.

แต่ขณะที่เขากำลังยิ้มอย่างพึงพอใจ ที่ไกลออกไปนั้นชายในชุดสีแดงให้สัญญาณ พร้อมกับแค่นเสียง ฮึ! พร้อมกับส่ายหน้าไปมา.

"ฟิ้ว!!"

ลิ้วแสงของลูกศรสีน้ำเงินที่พุ่งตรงออกไป มันพุ่งออกมาจากคันศรในมือของเขาอย่างงั้นรึ?

???โม่เหล่ยหวังไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อยลูกศรนั่นมันพุ่งออกไปได้อย่างไร คันศรล่ะ ซ่อนมันไว้ในกำไลเก็บของ

แต่ว่า

นี่มันเกิดอะไรขึ้น ไม่สามารถซ่อนคันศรได้อย่างงั้นรึ? เกิดอะไรขึ้น? นี่มันเกิดบ้าอะไร?

กับเรื่องที่เลวร้ายนี้โม่เหล่ยหวังตระหนักได้ทันทีว่าไม่ได้การแล้ว ร่างกายทั่วร่างที่ขนลุกตั้งชูชัน เขาถูกใส่ร้าย!

หนี หนีให้เร็วที่สุด เขาจะต้องหนี.

แม้ว่าจะไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไร ทว่าโม่เหล่ยหวังรู้ว่าตัวเองต้อนนี้ ติดกับแล้ว.

พริบตาเดียวที่โม่เหล่ยหวังกระโจนออกไป ที่ด้านล่าง แสงสีนำเงินที่พุ่งตรงไปยังร่างของสุ่ยเทียนหยาในทันที.

เร็วมาก! พริบตาเดียวเท่านั้น โม่เหล่ยหวังแทบจะไม่มีเวลาตอบสนอง เขาที่กลายเป็นเป้าสายตาของผู้คนในทันที  สายตาของทุกคนที่จับจ้องมองมายังเขา ทุกคนที่อยู่ด้านล่างรวมทั้งสุ่ยเทียนหยา ที่เข้าล้อมกรอบสุ่ยเทียนหยาในทันที.

แปลกมาก มันแปลกเกินไปแล้ว เขาได้ตรวจสอบดีแล้ว ทว่านอกจากในป่าแห่งหนึ่งที่มีควันพิษ เขาไม่สามารถพบเห็นอะไรได้ ด้วยสัมผัสเทวะที่ตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดแล้ว ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่อย่างแน่นอน.

.............

"คุ้มกันใต้เท้า!"

เหล่าพยัคฆ์ คำรามออกมาเสียงดัง สร้างความตื่นตะลึงกับผู้คนเป็นอย่างมาก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเร็วมาก ทุกคนที่วิ่งออกมาล้อมรอบสุ่ยเทียนหยา.

ทว่ามันสายไปแล้ว ริ้วแสงสีน้ำเงินนั้นเร็วมาก พริบตาเดียวก็ทะลวงปราณคุ้มกายของสุ่ยเทียนหยาแล้ว ทะลวงเข้าไปในหน้าอกของเขา.

"พรึด!!!"

บนใบหน้าของสุ่ยเทียนหยา ที่เผยยิ้มออกมาราวกับว่ากำลังร่ำลาทุกคน เขาที่ค่อย ๆ ฟุบลงต่อหน้าคนนับหมื่น ที่มือขวาของเขายังคงโบกมือให้ทุกคน ทว่าริ้วแสงที่พุ่งมานั้นเร็วจนเกินไป แทบจะไม่มีเวลาให้หลบเลี่ยง โลหิตที่พุ่งกระฉูด หน้าอกของเขาที่ถูกปักด้วยศรปราณสีน้ำเงิน.

ทุกอย่างที่หยุดนิ่ง ทุกคนที่เงียบไปในทันที ในเวลานั้นราวกับว่าเวลาถูกหยุดลง.

ที่ไกลออกไปบนภูเขาที่สูงขึ้นไปบนหอคอย มีเสียงหนึ่งดังออกมา "ข้าไม่ได้ยิง ข้าไม่ได้ยิง!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด