Chapter 177 แผนการแสดง
"เซียนเซิงจะบอกว่าเซียนเซิงสุ่ยจิงไม่พยายามรุก ทำให้เขาได้ก้าวเข้าไปสู่กับดักของเซียนเซิง และสุดท้ายก็ไม่มีแรงที่จะขัดขืนได้อย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เฮ้เฮ้ หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น."จงซานที่เผยยิ้มไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ.
"ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าเซียนเซิงได้ร้องขอให้อาจารย์จื่อเฉินสร้างอะไรให้อย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"อาจารย์จื่อเฉินรึ? อ๋อ ข้าได้ให้อาจารย์จื่อเฉินสร้างคันศรและลูกศรให้ เป็นคันศรและลูกศรที่พิเศษมาก ๆ ."จงซานกล่าว.
"อย่างไรรึ?"กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยท่าทางสงสัย.
"ไปเถอะ ไปดูด้วยกันก็จะเห็นเอง."จงซานกล่าว.
"อืม."กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้า.
ในเวลานี้ อาต้าได้ทำการตัดแต่งทรงผมใหม่แล้ว ก่อนที่จะโน้มตัวคารวะกงจูเฉียนโหยวและจงซาน พร้อมกับมายืนอยู่ข้าง ๆ อาเอ้อ.
ภายใต้การนำของจงซาน ได้นำคนทั้งสี่ไปยังเกาะลอยฟ้าอีกแห่งหนึ่ง.
อาจารย์จื่อเฉินที่อยู่ที่ลานที่พักยืนขึ้น เห็นกงจูเดินมา ก็เร่งรีบออกมาทักทายในทันที."คารวะกงจู."
"อืม."กงจูเฉียนโหยวพยักหน้าให้.
จงซานที่กล่าวออกมาในทันที "อาจารย์จื่อเฉิน คันศรและลูกศรเสร็จรึยัง?"
"เรียบร้อยตามที่ท่านร้องขอเลย."อาจารย์จื่อเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
จากนั้นก็เดินเข้าไปในโรงหล่อ พร้อมกับนำกล่องใบหนึ่งออกมา.
จงซานที่พยักหน้าให้กับอาจารย์จื่อเฉิน อาจารย์จื่อเฉินก็เร่งรีบจากไปในทันที ต้องไม่ลืมว่ามีเรื่องบางเรื่องที่เขาไม่ควรที่จะรู้ เป็นความลับทางการทหารนั่นเอง.
สายตาของทุกคนที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ก่อนที่จะเปิดกล่องดังกล่าวออกมา ที่ด้านในนั้นมีคันศรยาวที่สลักอักษรรูนเอาไว้มากมาย และยังมีลูกศรสองลูกที่มีอักษรรูนเต็มไปหมดเช่นกัน สีของคันศรและลูกศรเหมือนกัน เป็นสีคราม ธนูและลูกศรต่างก็มีคุณสมบัติเดียวกัน.
"คันศรระดับห้า ลูกศรระดับห้าอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่หรี่ตาจ้องมองและกล่าวออกมา.
"อืม คันศรระดับห้าและลูกศรระดับห้า ซึ่งมีปราณของผู้ฝึกตนระดับหลอมกายธาตุคลุมเอาไว้ สามารถใช้กับสุ่ยเทียนหยาที่มีระดับก่อตั้งวิญญาณได้หรือไม่?"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หรือว่าเซียนเซิงต้องการที่จะใช้ศรปราณนี่ยิงสุ่ยเทียนหยาจริง ๆ รึ?"กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"กงจูโปรดตรวจสอบ คันศรระดับห้าและลูกศรระดับห้าอีกที มีอะไรแปลกตาหรือไม่?."จงซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม.
ได้ยินคำพูดของจงซานแล้วกงจูเฉียนโหยวที่หยิบคันศรและลูกศรขึ้นมา พร้อมกับใช้สัมผัสเทวะตรวจสอบโดยระเอียด จากนั้นดวงตาของนางที่เบิกกว้า."ลูกศรนี้มัน..."
"ถูกแล้ว ลูกศรทั้งสองนั้น เหมือนกันมาก ทว่าอีกดอกหนึ่งนั้นเป็นของปลอม ไม่ใช่ศรปราณระดับห้า แต่เป็นระดับสามเท่านั้น ไม่สามารถที่จะทะลวงปราณคุ้มกายของใต้เท้าสุ่ยได้ ทว่าหากไม่สังเกตให้ละเอียดแล้วล่ะก็ จะไม่สามารถแยกแยะได้ แม้ว่าใต้เท้าสุ่ยจะไม่ใช้ได้รวบรวมปราณคุ้มกายปกคลุมร่างก็ตามที ทว่าด้วยพลังฝึกตนเช่นใต้เท้าสุ่ยแล้ว เพียงแค่พริบตาเดียวที่ลูกศรพุ่งมา หากไม่ใช่จุดตาย สามารถที่จะป้องกันลูกศรนี้ได้อย่างง่ายดาย."จงซานกล่าวยืนยัน.
"เซียนเซิงต้องการให้สุ่ยเทียนหยาถูกศรนี้ยิงอย่างงั้นรึ? ให้ทุกคนเห็นใจ?และยังเป็นเหตุให้ประชาชนทั้งเมืองรู้สึกไม่พอใจอีกฝ่าย และเทคะแนนมาอีกฝั่งอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"กงจูช่างฉลาดหลักแหลมนัก เข้าใจได้เพียงแค่ชำเลืองมอง."จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"แต่ว่า ถางซ่งโม่ไป่หลี จะยิงศรปราณนี้อย่างงั้นรึ?"
"เขาไม่ยิงแน่ และไม่จำเป็นต้องให้เขายิง คนที่ยิงก็คืออาต้า."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ.
"ข้าอย่างงั้นรึ?"อาต้ากล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ใช่แล้ว อาต้าจะเป็นคนลงมือ ข้าจะเป็นคนอธิบายทุกอย่างให้กับอาต้าฟังเอง."จงซานกล่าว.
"ทว่า ถางซ่งของโม่ไป่หลีล่ะ เขาจะต้องกระทำอะไร?"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"ถางซ่งของโม่ไป่หลีก็เพียงแค่ถือคนศรนี้เอาไว้เท่านั้น."จงซานที่ยกคันศรขึ้นและกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
"คันศร? คันศรนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาพิเศษอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยความสงสัย เห็นได้ชัดเจนว่านางไม่ได้ตรวจสอบละเอียดในตอนแรก.
"กงจู ลองตรวจสอบโดยระเอียดดู ว่าคันศรนี้มีปัญหาอะไร?"จงซานกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม.
นางไม่สามารถหาอะไรที่พิเศษได้ ทว่าด้วยน้ำเสียงของจงซานแล้ว คันศรนี่จะต้องเหมือน ๆ กับลูกศร นางที่พยายามตรวจสอบโดยละเอียด แต่ก็ไม่พบปัญหา?
กงจูเฉียนโหยวที่ดึงสายคันศร พลังงานสีน้ำเงินที่เอ่อล้น ไปกับสายธนู ดูเหมือนว่ามันจะมีพลังมากมายเลยทีเดียว.
ไม่มีปัญหา เป็นคันศรระดับห้าอย่างแน่นอน กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้ว มองไปยังจงซาน.
"กงจู ท่านลองเก็บเข้าไปกำไลเก็บของดูซิ."จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.
ได้ยินสิ่งที่จงซานกล่าวแล้วกงจูเฉียนโหยวที่สะบัดมือเก็บคันศร ทว่าไม่สามารถเก็บได้อย่างงั้นรึ?
"ไม่ใช่ของวิเศษจิตวิญญาณหรอกรึ?ไม่ใช่ นี่คือของวิเศษระดับห้า แต่กลับไม่สามารถเก็บได้ ทว่า ทำไมล่ะ? เซียนเซิง คันศรนี้ผนึกชีวิตลงไปได้อย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"ฮ่าฮ่า ใช่แล้ว นี่คือเป็นฝีมือของอาจารย์จื่อเฉิน ที่สร้างคันศรด้ามนี้ เขาสามารถผนึกหนอนไหมหิมะให้ไปอยู่ด้านใน มันจะหลับไปอย่างน้อยหนึ่งพันวันไม่ตื่นขึ้นมา และคันศรคันนี้ยังสร้างขึ้นมาอย่างซับซ้อนมีค่ายกลสลักอยู่ ไม่มีทางที่สัมผัสเทวะจะสามารถตรวจพบหนอนไหมหิมะได้ ถึงแม้ว่าจะรู้ก็ไม่สามารถที่จะมองเห็นมัน เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์จริง ๆ ."จงซานที่กล่าวออกมา.
"เช่นนั้น ถางซ่งโม่ไป่หลี จะทำได้แค่จับคันศรนี้ในมือ แต่ไม่สามารถเก็บเข้ากำไลเก็บของ ยืนมองอย่างช่วยไม่ได้ กับคนหลายหมื่นคนที่กำลังจดจ้องว่ากำลังจะสังหารสุ่ยเทียนหยา?"กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"อืม การที่ซื้อคนเหล่านี้มานั้นด้วยการจ่ายผลประโยชน์ให้มากมายไม่ใช่เพื่อไร้เหตุผล แต่รอเวลาที่สุกงอมเท่านั้น."จงซานกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"แต่ว่าเซียนเซิงจะลงมืออย่างไร?ในเมืองนั้นมีผู้ฝึกตนมากมาย เมื่อศรปราณถูกปล่อยออกมา ทุก ๆ คนจะต้องจับจ้องมองมายังทิศทางดังกล่าว ทุกคนก็จะต้องมองเห็นข้าด้วย ไม่ใช่ว่าข้าต้องยืนอยู่ข้าง ๆ ถางซ่งของโม่ไป่หลีหรอกเหรอ แน่นอนว่าเมื่อข้ายิง เขาที่อยู่ข้าง ๆ จะต้องรับรู้ ธนูที่ปล่อยออกจากข้าก็เหมือนว่าข้าติดกับไปด้วยไม่ใช่รึ?"อาต้ากล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.
"เฮ้ เฮ้ อาต้าเจ้าโปรดวางใจในเวลานั้นข้าได้คิดวิธีการเอาไว้แล้ว เมื่อถึงเวลา บริเวณแห่งนั้น รับรองว่าหลังจากที่เจ้ายิงออกมาแล้ว จะไม่มีใครเห็นเจ้าเลยแม้แต่คนเดียว ทุกคนจะต้องมองไปที่ถางซ่งโม่ไป่หลี่เพียงแค่คนเดียว."จงซานที่เผยยิ้มกล่าวออกมาอย่างมั่นใจ.
"ครับ เซียนเซิง."อาต้าทำได้แค่เพียงพยักหน้ารับ.
หากไม่เพราะว่าภูมิปัญญาที่น่าเกรงขามของจงซานได้แสดงออกมาให้เห็นในหลายวันนี้ ถึงถูกฆ่า อาต้าคงไม่เชื่อง่าย ๆ ในเมืองนั้นมีผู้ฝึกตนมากมาย นี่ไม่ใช่ดินแดนโลกปุถุชนที่พวกเขาจะไม่สามารถมองเห็นได้ง่าย ๆ เมื่อศรปราณถูกยิง จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่มีคนมองเห็นเขา? พวกเขาจะไม่เห็นข้าจริง ๆ รึ?
"เฉียนโหยวจะรอดูการแสดงนี้!"กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"กงจูเฉียนโหยวโปรดรอชมได้เลย."จงซานเผยยิ้มออกมา.
...........
เกาะลอยฟ้าทิศเหนือของเมืองอู๋ซวัง.
กู่หลินที่ในห้องโถงใหญ่ มีเซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมา พร้อมกับแสดงท่าทางครุ่นคิด.
"สุ่ยเทียนหยามันบ้าไปแล้ว? นี่จะให้ถางซ่งของเจ้ายิงเขาอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของกู๋หลินที่แสดงท่าทางประหลาดใจกล่าวออกมาต่อหน้าโม่ไป่หลี.
"ครับ ถางซ่งของข้ากล่าวเช่นนั้น."โม่ไป่หลีที่ขมวดคิ้วกล่าวเช่นเดียวกัน.
เซียนเซิงส่ยุจิงที่ขมวดคิ้วย่น ครุ่นคิดอย่างหนัก.
"สุ่ยจิง สุ่ยเทียนหยาต้องการทำอะไรกันแน่?"กู่หลินสอบถาม.
"วันสุดท้าย เขาต้องการให้ใต้เท้าโม่ แสร้งลอบโจมตีสุ่ยเทียนหยาพลาด เพื่อที่จะทำให้คนทั้งเมืองกล่าวโทษใต้เท้าโม่ พร้อมกับเปลี่ยนไปสนับสนุนเขา."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.
"จะให้ข้าลอบสังหารเขาอย่างงั้นรึ? สถานการณ์ในตอนนี้เห็นได้อย่างชัดเจนเพียงแค่ชำเลืองก็รู้ว่าข้าต้องชนะ ทำไมข้าจะต้องลอบสังหารสุ่ยเทียนหยาด้วย?ชิ สุ่ยเทียนหยามันช่างหน้าหนานัก."โม่ไป่หลีกล่าว.
เห็นท่าทางของโม่ไป่หลีแล้ว เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สอบถามออกมา."แล้วใต้เท้าโม่เตรียมการไว้อย่างไร?"
"แน่นอนว่าข้าก็จะไม่ให้ถางซ่งออกไปทำตามพวกเขา "โม่ไป่หลีกล่าวออกมาในทันที.
"ทว่าเช่นนั้นไม่ใช่ว่าสุ่ยเทียนหยาจะหาคนอื่น ๆ แทนหรอกรึ? ไม่ใช่ว่ายังมีคนอื่น ๆ ที่ใช้แทนกันได้อยู่รึ? ในเมื่อนี้คือการแสร้งสังหารสุ่ยเทียนหยาพลาด ในเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ทุกคนก็จะรู้ว่ามีคนกำลังลอบสังหารสุ่ยเทียนหยา."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.
"พวกเราควรจะทำอย่างไรดี?"โม่ไป่หลีกล่าวออกมาทันที.
"ใช่แล้ว สุ่ยจิง พวกเราห้ามแพ้เด็ดขาด ครั้งนี้จะต้องชนะ ข้าไม่เคยชนะเฉียนโหยวได้เลย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ครั้งนี้ห้ามผิดพลาดโดยเด็ดขาด."กู่หลินที่กล่าวออกมาในทันที.
"ให้ถางซ่งเจ้าไป ทว่าให้แสร้งกระทำการตามคำพูดของข้า."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.
"เซียนเซิงเชิญพูด."โม่ไป่หลีกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"ถ่วงเวลาจนถึงวันสุดท้าย ให้ถางซ่งของเจ้าเตรียมการเหมือนกับที่พวกเขาสั่ง ทว่าในเวลานั้น แน่นอนว่าไม่ให้เขายิงลูกศร ให้คล้อยตามแผนพวกเขา ทว่าเมื่อถึงเวลาไม่จำเป็นต้องทำตามแผนของเขาก็พอ."เซียนเซิงสุยจิงกล่าว.
"ครับ เซียนเซิง ตราบเท่าที่ถ่วงเวลาออกไปได้ สถานการณ์ได้เปรียบก็จะอยู่ฝั่งเรา พวกเขาจะไม่มีโอกาสอย่างแน่นอน."โม่ไป่หลี่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม ในเมื่อพวกเขาใช้แผนการนี้ เจ้าก็ให้คนที่เจ้าซื้อมา เมื่อถึงเวลานั้นก็แสร้งยิงเจ้าด้วย."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.
"พวกเขาจะยอมทำอย่างงั้นรึ?"โม่ไป่หลีกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"พวกเขาไม่ยินดีแน่นอน ในเมื่อนี้เป็นเพียงการแสดง ก็ให้พวกเขารู้ว่าพวกเราทำ ต้องการให้พวกเขายิงเจ้า นอกจากนี้ โอ้ว ในเวลานั้น เจ้าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะซื้อพวกเขาได้อีกครั้ง."เซียนเซิงขมวดคิ้ว.
"เซียนเซิงให้ทำอย่างเดียวกันอย่างงั้นเหรอ."โม่ไป่หลีกล่าว.
"ช้าก่อน."ฝ่ายตรงข้ามคงป้องกันไว้แล้วแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเรียบง่ายเช่นนี้ พวกเขาจะต้องรู้อยู่แล้วว่าถางซ่งของเจ้าจะไม่ยิง ทว่าแล้วพวกเขาจะทำอย่างไรล่ะ?"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมาอยู่ในห้องโถงหลัก.
เซียนเซิงที่ก้าวออกไปข้างหน้าก่อนที่จะหยุด "ข้าคิดว่าสุ่ยเทียนหยาคงจะมีแผนอื่นเตรียมเอาไว้แล้ว ทว่าไม่รู้ว่ามันคืออะไรในตอนนี้ ให้ถางซ่งของเจ้าสังเกตให้ดี มีอะไรเปลี่ยนแปลงให้มารายงาน."
"ครับ."โม่ไป่หลีที่สูดหายใจลึก เห็นได้ชัดเจนว่านี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นกังวลเป็นอย่างมาก.
"ในเมื่อไม่สามารถหาคนยิงได้ง่าย ๆ เช่นนั้นเจ้าลองมองหาคนแปลกหน้า เพื่อที่จะทำให้แผนของพวกเรายังเดินต่อไปได้"เซียนเซิงกล่าว.
"ดำเนินต่อไป?อย่างไร?"กู่หลินกล่าว.
"หาคนแปลกหน้า คนที่จะมาแทนที่คนที่ใต้เท้าโม่ซื้อตัว เผื่อไว้ในกรณีที่พวกเขาไม่ทำตามแผน เพื่อแสร้งลอบยิงใต้เท้าโม่ เพื่อที่จะขัดขวางไม่ให้แผนการนี้ของพวกเขาสำเร็จได้."เซียนเซิงสุ่ย หรี่ตาจ้องมองขณะพูด.
"อืม รับรองได้ ถึงแม้ว่าสุ่ยเทียนหยาจะมีแผนอะไรก็ตาม พวกเราก็สามารถที่จะจัดการได้ทั้งหมด."โม่ไป่หลีกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"อืม."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่พยักหน้า แม้ว่าภายในใจของเขาจะรู้สึกสังหรใจแปลกประหลาดก็ตามที.
"ไปได้ ข้าจะไปเฝ้าดูเหตุการณ์อีกฝั่งให้ เพื่อที่จะได้เห็นว่าเฉียนโหยวใช้แผนการอะไร.."กู่หลินที่กล่าวออกมาในทันที.
"ครับ."โม่ไป่หลีรับคำในทันที.
จากนั้น คนทั้งสองก็ออกจากห้องไป ซึ่งตอนนี้มีเพียงเซียนเซิงสุ่ยจิงคนเดียวที่กำลังครุ่นคิดทบทวนแผนการดังกล่าวอยู่.
คนผู้นี้ เป็นใครที่อยู่ด้านหลังกงจูเฉียนโหยว เขาต้องการทำอะไรอีก? กับเหตุการณ์แสร้งยิงสุ่ยเทียนหยา เพื่อทำให้ประชาชนไม่พอใจ นับว่าเป็นแผนการที่ดีทีเดียว ทว่าทำไมเขาต้องการจะบอกอะไรกับข้าอย่างงั้นรึ? ไม่ใช่ว่าเขาต้องการให้ข้ารู้หรอกรึ? ทำไมล่ะ? หรือต้องการบอกว่าต้องการสู้รบกับข้ารึ? เขามั่นใจขนาดนั้นเลยรึ? ไม่ใช่ มันมีปัญหาที่ตรงใหนกัน?