Chapter 175 หลอกล่อเซียนเซิงสุ่ยจิง.
หลังจากที่สุ่ยเทียนหยาจากไปแล้ว กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มให้กับจงซาน"ข้าสงสัยว่าเซียนเซิงคงมีจุดมุ่งหมายไปที่ใครบางคน.”
จงซานที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว ก็เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล."กงจูช่างมีปัญญาที่ล้ำเลิศ ภายใต้สวรรค์นี้ ข้าไม่เคยเห็นคนที่ร้ายกาจเช่นเซียนเซิงสุ่ยจิง เขาทำการได้หมดจด หลาย ๆ แผนการของข้า เขาสามารถนำหน้าข้าไปได้ก้าวหนึ่ง หลาย ๆ ครั้ง ทำให้ข้าต้องปรับเปลี่ยนแผนการ การมีคนเช่นนี้อยู่ฝ่ายตรงข้าม ไม่เป็นผลดีกับพวกเรานัก."
"โอ้ว?เซียนเซิง เตรียมพุ่งเป้าไปยังเซียนเซิงสุ่ยจิงแล้วรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางสนใจ.
กงจูเฉียนโหยวที่เปิดโอกาสให้จงซานอย่างอิสระ ทุกความคิด ทุกการการะทำ กงจูเฉียนโหยวเพียงแค่จับตามองด้วยตา ซึ่งมูลค่าของจงซานนั้นได้เพิ่มขึ้นในใจของกงจูเฉียนโหยวเรื่อย ๆ จงซานที่มีความสามารถ?เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ร้ายกาจ? กับการดวลกันทั้งสองคน กงจูเฉียนโหยวรู้สึกคาดหวังเป็นอย่างมาก.
การเลือกตั้งทั้งสองฝ่าย ที่จริงเป็นการแสดงความสามารถของกุนซือทั้งสองด้วย จงซานปะทะเซียนเซิงสุ่ยจิง.
หลายวันมานี้เกี่ยวกับการลงคะแนนเสียง เป็นเหมือนกับสงครามเงียบ แม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน แต่ก็มีปะทะกันในทุกทิศทาง กงจูเฉียนโหยวที่สามารถมองเห็นการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายได้.
หลัก ๆ แล้ว จะพุ่งเป้าไปยังคนข้าง ๆ ของเซียนเซิงสุ่ยจิงมากกว่า ทว่าดูเหมือนว่าเซียนเซิงสุ่ยจิงเองก็สามารถที่จะแก้ไขได้ทันท่วงที.
อย่างไรก็ตาม จะเป็นใครกันที่จะได้รับชัย?
ตอนนี้จงซานได้พุ่งเป้าไปยังเซียนเซิงสุยจิง เหมือนดั่งที่กงจูเฉียนโหยวคาดการ.
นี่เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก เป็นอะไรที่น่าดูสำหรับกงจูเฉียนโหยว เป็นความน่าสนใจมากยิ่งกว่าการชนะล้มเหลวของการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยซ้ำ.
"เฮ้ เฮ้ กับแผนการนี้ ข้ายังไม่รู้เลยว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว ทว่าเซียนเซิงสุ่ยจิงนั้นไม่รู้ตัวตนของข้า ในเมื่อไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร ก็ย่อมไม่เข้าใจในความคิดของข้า ซึ่งจะทำให้ข้าเหนือกว่าเขาอยู่ก้าวหนึ่ง หากว่าเซียนเซิงสุ่ยจิงถูกลวง เขาจะก้าวลึกเข้าไปในแผนนี้ในทันที."จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.
"ลวง?หลุมพลาง? รอคอยให้เซียนเซิงสุ่ยจิงหลงกลอย่างงั้นรึ? แล้วผลจะเป็นอย่างไร?"กงจูเฉียนโหยว กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"เมื่อเซียนเซิงสุ่ยจิงก้าวเข้าไปในแผนลวง ฝ่ายตรงข้ามก็จะถอนตัวไม่ทัน และจะทำได้แค่จ้องมองแต่เพียงอย่างเดียว โม่ไป่หลีจะไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกเลย."จงซานที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
"เฉียนโหยวจะตั้งตาคอย "กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เฮ้เฮ้ เซียนเซิงสุ่ยจิงนั้นทรงเชาว์ปัญญา ข้ามีประสบการณ์เพียงไม่กี่วัน ผลที่ได้นั้นยากที่จะบอกได้ ผลลัพธ์สุดท้ายนั้นคงจะต้องแล้วแต่ลิขิตสวรรค์."จงซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"เรื่องเเผนการอยู่ที่คน เรื่องสำเร็จอยู่ที่ฟ้า ไม่อาจฝืนได้ เฉียนโหยวจะรอคอย ขอให้เซียนเซิงได้รับชัยชนะ."กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
***谋事在人 成事在天 不可强也 (โหมว ซื่อ ไจ้ เหริน เฉิง ซื่อ ไจ้ เทียน ปู้ เข่อ เฉียง เหย่)เรื่องเเผนการอยู่ที่คน เรื่องสำเร็จอยู่ที่ฟ้า ไม่อาจฝืนได้***
"ข้าจะพยายามทำอย่างเต็มที่."จงซานพยักหน้าเผยยิ้มออกมา.
.....
บนเกาะลอยฟ้าทิศเหนือของเมืองอู๋ซวัง.
ห้องโถงใหญ่.
กู่หลินที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมาอยู่ข้าง ๆ โม่ไป่หลีที่ยืนอยู่ด้วยความเคารพ ที่ด้านหลังโม่ไป่หลีนั้นมีชายห้าคนที่รอคอยอยู่.
"ใต้เท้า คนทั้งห้า คนของข้าเป่ยเฉิงตง พวกเขาได้รับการติดต่อจากผู้ใต้บังคับบัญชาของสุ่ยเทียนหยา ต้องการซื้อพวกเขา."โม่ไป่หลีกล่าว.
"หืม? ซื้อพวกเขาอย่างงั้นรึ? ทำไมล่ะ?"กู่หลินที่สอบถามออกมาด้วยท่าทางสงสัย.
"เขาคงไม่รู้ว่าทั้งห้าคือคนที่ข้าไว้ใจ ดังนั้นจึงได้ปฏิเสธไป และเร่งรีบมารายงานข้า."โม่ไป่หลีกล่าวรายงานด้วยความเคารพ.
"น่ากลัว ทำตามอำเภอใจไม่เกรงกลัวใคร."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมาครุ่นคิดขมวดคิ้วย่น.
หลายเดือนมานี้ เซียนเซิงสุ่ยจิงสามารถสัมผัสความแตกต่างได้ นี่ไม่ใช่รูปแบบของกงจูเฉียนโหยวแน่นอน มีใครบางคนอยู่เบื้องหลังกงจูเฉียนโหยว เป็นกุนซือที่น่าเกรงขามมาก ซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง ทุกการก้าวของเขาแต่ละครั้ง สั่นสะเทือนถึงจิตวิญญาณทีเดียว หากว่าไม่มีเขาอยู่ที่นี่แล้วล่ะก็ กับเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้น การหาเสียงของโม่ไป่หลี่ อาจจะถือว่าย่ำแย่จนไม่สามารถประเมินได้แน่.
เกี่ยวกับคนที่อยู่เบื้องหลังกงจูเฉียนโหยวนั้น เซียนเซิงสุ่ยจิงเต็มไปด้วยความอยากรู้ ใครกัน?ข้ารู้จักหรือไม่?อย่างไรก็ตามเซียนเซิงสุ่ยจิงเองก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา แม้ว่ากู่หลินจะอยู่ฝั่งเดียวกัน ทว่าเขากับอ่อนไหวเรื่องเจ้านายและลูกน้อยอย่างไม่ธรรมดา เขาจะต้องสอบถามจนทำให้กงจูเฉียนโหยวรู้แน่.
ส่วนสุ่ยจิงเอง ตราบเท่าที่เป็นฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะรู้หรือไม่ นี่เป็นการประลองอย่างหนึ่ง เขาจะต้องแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ เขาเองก็ต้องการที่จะเห็นเช่นกัน คนที่อยู่เบื้องหลังนั้นมีความสามารถขนาดใหน.
"สุ่ยจิง ใครน่ากลัวอย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมา.
ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังเซียนเซิงสุ่ยจิง.
"พวกเขาบอกพวกข้าว่า สุ่ยเทียนหยาสนใจที่จะซื้อพวกเจ้า ต้องการให้พวกเจ้าไปภัคดีต่อเขา ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถชักชวนได้ อีกทั้งยังไม่ห้ามให้มารายงานเจ้าอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ส่ายหน้าไปมาขณะพูด.
ได้ยินคำของเซียนเซิงสุ่ยจิงแล้ว โม่ไป่หลีก็ตกใจขึ้นมาในทันที ใช่แล้ว ยังมาบอกเรื่องนี้กับข้า ไม่ใช่ว่าพวกเขาถูกซื้อไปแล้วรึ?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โม่ไป่หลีถึงกับหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา.
"สุ่ยจิง เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี?"กู่หลินที่สอบถามออกมาทันที.
"ตอนนี้ คะแนนของเจ้านำสุ่ยเทียนหยาถึง 2 ล้าน และยังมีแนวโน้วที่ดี ไม่สามารถสั่นคลอนได้ ทว่าฝ่ายตรงข้ามย่อมมีแผนการอีกแน่ อาจจะเป็นอะไรที่ลึกล้ำ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม สุ่ยเทียนหยาต้องการซื้อคนของเจ้า."เซียนเซิงสุ่ยจิงขมวดคิ้วขณะพูด.
"เซียนเซิงหมายความว่า?"โม่ไป่หลีที่กล่าวต่อเซียนเซิงสุ่ยจิง.
"ซ้อนกล (แผนซ้อนแผน)"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัด คิ้วที่ขมวดแน่น เพราะว่าเซียนเซิงสุ่ยจิงที่สัมผัสได้ถึงความไม่ธรรมดา ทว่าก็รู้สึกผิดปรกติอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ ไม่รู้ว่ามีปัญหาตรงส่วนใหน.
"เซียนเซิงจะบอกว่า แสร้งยอมให้คนของข้าถูกซื้อไป เพื่อที่จะค้นหาแผนการของสุ่ยเทียนหยาอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของโม่ไป่หลีที่ฝืนยิ้มออกมาในทันที.
"อืม เพื่อที่จะตั้งรับแผนการนี้ พวกเราก็จะต้องค้นหาก่อนว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีแผนอะไร เช่นนั้นถึงจะสามารถตอบโต้ได้."เซียนเซิงสุ่ยจิงพยักหน้า.
"ครับ ข้าจะรีบจัดการเดียวนี้."โม่ไป่หลีที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้น.
"อืม เจ้าไปได้."เซียนเซิงสุ่ยจิงพยักหน้า.
...................
ที่ด้านนอกบ้านพักของจงซาน.
จงซานที่เพิ่งเช็ดเหงื่อ และออกมาจากบ้านพักสายฟ้า.
กงจูเฉียนโหยว อาต้า อาเอ้อ และสุ่ยเทียนหยาที่ออกมารอที่ด้านนอกแล้ว.
"เซียนเซิง ข้าสามารถซื้อคนของฝ่ายตรงข้ามมาสองคน หนึ่งคือถางซ่งของโม่ไป่หลี่ อีกหนึ่งคือลูกน้องของเขา "สุ่ยเทียนหยาที่กล่าวออกมาในทันที.
堂兄(tángxiōng/ถางซง) ลูกพี่ลูกน้อง
"โอ้ว?"จงซานที่เดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าของทุกคน ก่อนที่จะยกน้ำชาขึ้นจิบ.
"คนทั้งสอง เมื่อเร็ว ๆ นี้เหมือนว่ามีความบาดหมางเกิดขึ้นกับโม่ไปหลี ทว่า ด้วยสถานะของพวกเขาแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นคนที่เชื่อใจของโม่ไป่หลีที่สุด พวกเขาคือคนที่สำคัญเป็นตัวหลักของโม่ไป่หลีเลยก็ว่าได้."สุ่ยเทียนหยากล่าว.
"ฮ่าฮ่า บาดหมาง? ทั้ง ๆ ที่เห็นกันอยู่ อย่างไรก็ตาม ข้าต้องการให้พวกเขารู้เอง แล้วพวกเขารู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแผนการของเซียนเซิงสุ่ยจิงหรือไม่."จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ข้าได้ถามพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่เคยเห็นเซียนเซิงสุ่ยจิงเลย ดูเหมือนว่าเซียนเซิงสุ่ยจิงจะทำการเรียกโม่ไปหลี่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้นในทุกครั้ง ทำให้พวกเขาไม่รู้อะไรเลย."สุ่ยเทียนหยากล่าว.
"ไม่สำคัญ เมื่อสามารถดึงพวกเขามาได้ แค่นี้ก็ถือว่าประสบผลแล้ว เพียงแค่นี้ก็สามารถทำให้ดำเนินแผนต่อไปได้."จงซานกล่าว.
"เซียนเซิงต้องการให้พวกเขาทำอะไรอย่างงั้นรึ?"สุ่ยเทียนหยากล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"แล้วพลังฝึกตนของพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานที่ยังไม่ตอบคำถามสุ่ยเทียนหยาและถามเขาไปอีกครั้ง.
"อืม ลูกน้องของโม่ไป่หลีมีระดับแกนทองขั้นสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ถางซ่งของโม่ไปหลี มีระดับก่อตั้งวิญญาณ."สุ่ยเทียนหยาตอบ.
"ดี ยอดเยี่ยมมาก เป็นไปตามแผน ตอนนี้ให้พวกเขารอไปก่อน อีกห้าวันหลังจากนี้ ข้าจะบอกแผนการให้กับพวกเขาอีกครั้ง."จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หืม ครับ."สุ่ยเทียนหยาทำได้แค่เพียงพยักหน้าเท่านั้น.
"เซียนเซิงจงใจเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาที่จะซื้อตัวคนของโม่ไป่หลี จงใจที่จะให้เซียนเซิงสุ่ยจิงเห็นอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม ข้าทำการซื้อฝ่ายตรงข้ามนั้น ต้องการทำให้โม่ไป่หลีครุ่นคิด และหาวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ทว่า ก่อนหน้านี้เซียนเซิงสุ่ยจิงเห็นแผนการต่าง ๆ มากมายของข้า แน่นอนว่าเขาจะต้องคิดว่าข้ามีแผนการใหญ่วางเอาไว้อยู่ เขาที่ไม่เข้าใจเหตุผลนี้ จึงจำเป็นต้องส่งคนเข้ามา ในเวลานั้นพวกเขาก็จะทำการซื้อคนของพวกเราด้วย พวกเขาต้องทำตามพวกเราอย่างไม่ต้องสงสัย ใต้เท้าสุ่ย ท่านก็จัดเตรียมคนของท่านให้ถูกซื้อไปด้วยแล้วกัน."จงซานกล่าวออกไปด้วยรอยยิ้ม.
"ครับ."สุ่ยเทียนหยาแม้ว่าจะสงสัยแต่ก็ทำได้แค่ตอบรับ.
"เอาล่ะ เจ้าไปเตรียมตัว."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"ครับ."สุ่ยเทียนหยารับคำและจากไป.
"เซียนเซิง ท่านทำเช่นนี้ เพื่ออะไรอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวจ้องมองไปยังจงซานด้วยรอยยิ้ม.
"เซียนเซิงสุ่ยจิงนั้น เป็นคนมีพรสวรรค์ที่หายากในโลกหล้า หากต้องการหลอกล่อเขา เป็นเรื่องที่ยากมาก เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจึงได้ชักนำให้เขาเข้าสู่วงจรปัญหา ให้เขาแก้ปมที่พันกันแน่น ด้วยภูมิปัญญาที่ยอดเยี่ยมของเขานั้น จำเป็นต้องมีปมและการเปลี่ยนแปลงไม่มีที่สิ้นสุดให้กับเขาได้แก้."จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม ข้าคงจะได้เห็นเซียนเซิงสุ่ยจิงเสียท่าเป็นครั้งแรกสินะ."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"กงจูโปรดวางใจขอให้กงจูโปรดรอชมเรื่องที่ยอดเยี่ยมนี้ได้."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
"ได้พบกับเซียนเซิง นับว่าเป็นโชคลาภของเฉียนโหยว ว่าแต่การฝึกฝนของเซียนเซิง มีสิ่งใดต้องการหรือไม่?"กงจูจูเฉียนโหยวสอบถาม.
"อืม ต้องการคู่ต่อสู้ที่เหมาะสม."จงซานที่คิดใคร่ครวญและกล่าวออกมาด้วยความซาบซึ้ง.
"คู่ต่อสู้อย่างงงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองด้วยความประหลาดใจ.
"อืม ด้วยการฝึกฝนจากการต่อสู้จริง ๆ ยิ่งตกอยู่ในสภาวะที่ด้อยกว่า ยิ่งได้ต่อสู้ ก็ยิ่งทำให้พลังฝึกตนของข้าก้าวหน้า และด้วยวิชาที่ข้าฝึกฝนนั้น จำเป็นต้องต่อสู้ ยิ่งได้ต่อสู้ และได้รับบาดแผลบ้าง จะทำให้พลังฝึกตนยกระดับ."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างตรงไปตรงมา.
เขาต้องการหาคนฝึกอย่างงั้นรึ? หากจะคิดใคร่ครวญให้ดีล่ะก็ มีเพียงแค่ระดับก่อตั้งวิญญาณที่เหนือกว่าเท่านั้นถึงจะเหมาะสมกับเขา จงซานต้องการหาผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณเพื่อช่วยฝึก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดูเกินจะคาด ในอดีต จึงไม่มีใครเคยคิดวิธีนี้.
อย่างไรก็ตาม นี่นับว่าเป็นโอกาสที่ดี ตราบเท่าที่สามารถเพิ่มพลังฝึกตนได้อย่างต่อเนือง ฝึกฝนอย่างจริงจัง เป้าหมายภายในใจของจงซานย่อมสำเร็จ จงซานที่มีเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว.
ระยะยาวคือเป็นอมตะ สร้างราชวงศ์สวรรค์ มีพลังต่อต้านสวรรค์ จนสามารถมีชีวิตที่เป็นนิรันดร์.
ส่วนเป้าหมายระยะกลางคือสังหารไท่จื่อเหล่ยเทียนแก้แค้นให้กับภรรยากุยเอ๋อ.
ระยะสั้นคือนำพาราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้งให้แข็งแกร่ง เดินทางไปราชวงศ์ต้าหลีเพื่อหาภรรยาอีกคน เทียนหลิงเอ๋อ.
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะมีคุณสมบัติเขาจะต้องก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณก่อนเท่านั้น ในเวลานี้เขาอยู่ในระดับสองแกนทอง จำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อก้าวไปให้ถึงระดับก่อตั้งวิญญาณให้ได้.