ตอนที่แล้วChapter 173 ลั่นปาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 175 หลอกล่อเซียนเซิงสุ่ยจิง.

Chapter 174 เริ่มต้นแผนการของจงซาน.


บนเกาะลอยฟ้า ห้องโถงขนาดใหญ่ทางทิศเหนือ.

กู่หลินและเซียนเซิงสุ่ยจิงกำลังถือกระดาษใบเล็ก ๆ  พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาจ้องมองข้อความที่อยู่ในนั้น.

โม่ไป่หลีที่แสดงท่าทางเป็นกังวลอยู่เหมือนกัน.

"ซือจื่อ เซียนเซิง  สุ่ยเทียนหยามันจะหน้าหนาเกินไปแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะเอ่ยอ้างผลประโยชน์เช่นนี้ออกมา อีกทั้งยังให้คนของเขาแจกจ่ายกระดาษใบเล็ก ๆ นี้ไปทั่วเลยทีเดียว."โม่ไป่หลีรู้สึกฉุนเฉียวอยู่ไม่น้อย.

กู่หลินและเซียนเซิงสุ่ยจิงอ่านแผ่นหาเสียงขนาดเล็ก.

ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีดุร้ายป่าเถื่อน หากพวกเขาเข้าโจมตี ทุกท่านต้องการให้พี่น้องทุกคนถูกราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีสังหารอย่างงั้นรึ? ต้องการให้เหล่าสหายถูกราชวงศ์ต้ายวีย่ำยีอย่างงั้นรึ? ด้วยความดุร้ายทารุณของราชวงศ์ต้ายวีพวกเขาจะต้องเข้าโจมตีเมืองทิศใต้ พวกเขาจะต้องเข้าโจมตีอย่างแน่นอน พวกเขาจะต้องเข้ายึดเมือง ทุกคนจะต้องถูกจับไปเป็นทาส เพื่อใช้แรงงาน ลูกสาวภรรยาของพวกท่านจะถูกนำไปขาย เป็นนางบำเรอกามต่อเหล่าทหาร.

พวกท่านทุกคนต้องการบ้านแตกสาแหรกขาดอย่างงั้นรึ? ต้องการกลายเป็นทาสและถูกขายอย่างงั้นรึ? พอใจกับที่เป็นอยู่ตอนนี้แล้วเหรอ!

หากใครก็ตาม ไม่ต้องการเห็น ถึงแม้ว่าจะมีสัญญาสงบศึกก็ตาม พวกเราก็ไม่ควรประมาทราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี พวกเขากำลังเตรียมตัว เมื่อไหร่ที่พวกเราประมาทพวกเขาจะเข้าโจมตีพวกเราในทันที หากใครต้องการความปลอดภัยโปรดเลือกสุ่ยเทียนหยา หนานเฉิงตง.

เมืองทิศใต้ที่เข้าใจกับเรื่องดังกล่าวนี้ สุ่ยเทียนหยาเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีทุกเวลา สุ่ยเทียนหยาสามารถป้องกันเมืองทิศใต้ ไม่มีทางที่เมืองทิศใต้จะล่มสลาย มีเพียงแค่เมืองทิศใต้ที่จะปลอดภัย แล้วเมืองอื่น ๆ ล่ะจะเป็นอย่างไร?

อย่าไว้ใจปิศาจร้ายราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี พวกเขาต้องการโจมตีทิศใต้ และจะโจมตีเมืองอื่น ๆ อย่างแน่นอน! อย่าได้วางใจ ในความสงบสุข.

ทุกอย่างเป็นไปได้!!

ต้องการให้เมืองอู๋ซวังมีม่านพลังที่แข็งแกร่ง ไม่พังทลายหรือไม่? โปรดลงคะแนนให้กับสุ่ยเทียนหยา.

เพื่อความปลอดภัยทั้งสี่เขต โปรดเลือกสุ่ยเทียนหยา!

"น่าอาย มันจะหน้าหนาเกินไปแล้ว สุ่ยเทียนหยาไร้ยางอายจริง ๆ ."กู่หลินที่รู้สึกขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก.

"ใช่แล้ว ซือจื่อ เซียนเซิง สุ่ยเทียนหยาได้แจกแผ่นหาเสียงนี้ไปทั่ว สร้างเรื่องไปทั่วทุกเขต แต่ละวันราวกับคนบ้า ตะโกนอย่างเอาเป็นเอาตาย."ใบหน้าของโม่ไป่หลีกล่าวออกมาด้วยความเป็นกังวล.

"ตอนนี้คะแนนเสียงเป็นอย่างไรบ้าง?"กู่หลินสอบถาม.

"ข้ายังนำอยู่ ทว่าคะแนนของสุ่ยเทียนหยาก็เพิ่มขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าจะตามหลังอยู่ 800,000 ก็ตาม แต่หากว่าเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วันเช่นนี้ ข้าเกรงว่าจะไล่ทันในไม่ช้า."โม่ไป่หลีเอ่ย.

"เซียนเซิง ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?"กู่หลินเองก็แสดงท่าทางเป็นกังวลเช่นกัน.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่โบกสะบัดพัดไปมา ขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ในเมื่อพวกเขาไร้ซึ่งกฎเกณฑ์หาเสียงทุกพื้นที่แม้แต่ถนน เช่นนั้น ใต้เท้าโม่ ท่านก็ควรนำคนออกไปหาเสียงตามถนนและทุกพื้นที่ก็แล้วกัน."

"ใช่แล้ว คนของพวกเรามีมากกว่าพวกเขาสามเท่า สามารถกระจายไปได้ทุกที่ ด้วยการกระจายข่าวไปทั่ว ย่อมต้องได้ผลดีกว่าพวกเขาอย่างแน่นอน."กู่หลินกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"ครับ."โม่ไป่หลีรับคำในทันที.

"เอิ่ม."เซียนเซิงสุ่ยจิงสะบัดพัดไปมา.

คนทั้งคู่ที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงสุ่ยจิง.

"ให้ตรวจสอบคะแนนเสียงทั้งหมด กับทหารของพวกเรา ว่าพวกเขาลงคะแนนให้พวกเราหมดรึยัง!"เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"เซียนเซิง เกี่ยวกับเหล่าทหารนั้น เสียงทั้งหมดต้องเป็นของพวกเรา ทำไมต้องใส่ใจด้วยเล่า ตอนนี้ที่พวกเราจะต้องใส่ใจคือ เหล่าคนที่ควบคุมไม่ได้ พวกที่ไม่ได้อยู่ในการปกครองของท่านพ่อไม่ใช่รึ?"กู่หลินที่ครุ่นคิดสอบถามออกไป.

เซียนเซิงสุ่ยจิงจ้องมองไปยังกู่หลิน พร้อมกับเผยยิ้มออกมา คาดไม่ถึงเลยว่ากู่หลินจะคิดเป็นเหมือนกัน.

"ซือจื่อ ที่ข้าต้องการให้ตรวจสอบนั้น มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เช่นนั้นก่อนหน้านี้ข้าจึงไม่ได้เอ่ย ตอนนี้เหตุการณมันเปลี่ยนไป เหล่าทหารที่ข้าหมายถึงนั้นไม่ใช่คนของพวกเรา แต่เป็นคนของฝ่าบาท คะแนนเสียงเหล่านี้ หากไม่สามารถควบคุมได้ อาจจะเป็นปัญหาต่อพวกเรา."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"อย่างไรรึ?"กู่หลินจ้องมองไปยังเซียนเซิงสุ่ยจิงด้วยความสงสัย.

"เรื่องนี้อย่าได้ประมาท หลังจากนี้พวกเราไม่ควรที่จะเสียคะแนนเสียงเหล่านี้ไปง่าย ๆ  กองทัพและประชาชนทั่วไปนั้นแตกต่างกัน โดยเฉพาะกองทัพภายในเมืองอู๋ซวังนั้น กองทัพต้องทำศึกมาหลายต่อหลายปี เกี่ยวกับสงครามที่ผ่านมานั้น พวกเขาสูญเสียพี่น้องล้มตายไปด้วยฝีมือของราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีเป็นจำนวนไม่น้อย แน่นอนว่าพวกเขาต้องคิดแก้แค้นอีกฝั่งแน่ ข้ากังวลว่ากงจูเฉียนโหยวจะใช้จุดนี้ เพื่อชักชวนเหล่าทหารให้เข้าใจผิดไป."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ถอนหายใจยาว.

"ใช่ รีบดำเนินการเร็วเข้า."กู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.

"ขอบคุณเซียนเซิง."โม่ไป่หลีถึงกับใจหายเหมือนกัน เหมือนดังที่เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว หากว่าพวกเขาประมาทล่ะก็ เกี่ยวกับคะแนนเสียงของกองทัพอาจจะหลุดลอยไปก็ได้.

"ซือจื่อ ท่านควรที่จะไปดูแลเกี่ยวกับคะแนนเสียงของเหล่าทหาร ส่วนใต้เท้าโม่ก็ควรที่จะไปจัดการคนของท่านให้กระจายออกไปหาเสียงให้ครอบคลุม."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"อืม."คนทั้งสองที่แยกย้ายกันไปในทันที ดูเหมือนว่ามีเรื่องเร่งด่วนที่พวกเขาจะต้องจัดการ.

หลังจากที่ทั้งสองคนจากไป เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ขมวดคิ้วแน่น ก้าวเดินเข้าไปในห้องโถง จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า กล่าวออกมาเบา ๆ  "กงจู นี่ไม่ใช่รูปแบบของท่าน เป็นใครกันที่อยู่ข้างกายท่านกัน?"

.........

ที่ลานบ้านของจงซาน.

"เซียนเซิง นี่คือปรมาจารย์หลอมศิลปะวัตถุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศรปราณทะลวง กล่าวได้เลยว่าในเมืองอู๋ซวังแห่งนี้ จะมีใครที่มีความสามารถมากกว่าอาจารย์จื่อเฉิน."กงจูเฉียนโหยวกล่าวต่อชายกำยำในชุดสีเทา.

"อาจารย์จื่อเฉิน? ต้องขออภัยที่รบกวน."จงซานกล่าวออกมาในทันที.

"มิกล้า ๆ  เซียนเซิงโปรดกล่าวมาได้เลยว่าต้องการให้ผู้น้อยทำอะไร."อาจารย์จื่อเฉินกล่าวออกมาทันที.

"อาจารย์จื่อเฉินช่วยอธิบายเกี่ยวกับศรปราณทะลวงให้ข้าได้ฟังหน่อยได้หรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม ศรปราณทะลวงนั้น มีสองส่วนที่สำคัญ หนึ่งคันศร อีกหนึ่งก็คือลูกศร ในระดับต่าง ๆ  ย่อมให้พลังที่แตกต่างกัน ศรปราณทะลวงที่มีพลังต่ำสุดจะมีพลังเทียบเท่ากับปราณของผู้ฝึกตนระดับแกนทอง ส่วนคันศรและลูกศรที่มีพลังสูงสุดนั้น ในตำนานเคยกล่าวไว้ว่าสามารถยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าทำลายดวงดาวได้ ทว่าที่ผู้น้อยสร้างได้ในตอนนี้เพียงแค่ปราณของผู้ฝึกตนระดับหลอมกายธาตุเท่านั้น ทว่าเพียงเท่านี้อาวุธวิเศษก็ยากที่จะทำลายได้ง่าย ๆ แล้ว."อาจารย์จื่อเฉินกล่าว.

"แล้วศรปราณทะลวงระดับหลอมกายธาตุนั้น ทั้งคันศรและลูกศร ต้องมีพลังฝึกตนเท่าไหร่ถึงจะใช้ได้?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.

"อย่างน้อยต้องระดับก่อตั้งวิญญาณ."อาจารย์จื่อเฉินกล่าว.

"ศรทะลวงสามารถที่จะสังหารผู้ฝึกตนหลอมกายธาตุได้จริง ๆ รึ?"จงซานที่สอบถามอีกครั้ง.

"ไม่ อาจทำได้แค่ทะลวงแค่เกราะป้องกัน หากเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมกายธาตุแล้ว แน่นอนย่อมสามารถหลบได้ หรือแม้แต่ใช้กระบี่สับลูกธนูให้ล่วงหล่นก่อนได้."อาจารย์จื่อเฉินกล่าว.

"ใต้เท้าสุ่ย มีพลังฝึกตนเท่าไหร่อย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามสุ่ยเทียนหยาที่อยู่ใกล้ ๆ .

"ระดับก่อตั้งวิญญาณ."สุ่ยเทียนหยากล่าว.

"เช่นนั้นศรปราณทะลวงปราณหลอมกายธาตุ สามารถสังหารใต้เท้าสุ่ยได้หรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

ได้ยินคำพูดของจงซานแล้ว สุ่ยเทียนหยาถึงกับหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา "หากถูกลูกศรเช่นนั้นเข้า หากไม่เตรียมตัวป้องกัน ไม่มีทางหนีได้อย่างแน่นอน."

"ไม่สามารถหนีได้?หากศรปราณทะลวงเข้าไปในร่างกาย หากไม่ถูกจุดสำคัญ ก็ไม่สามารถหนีได้อย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถามด้วยความสงสัย.

"หากถูกยิงเข้าสู่ร่างกายแล้ว ศรปราณดังกล่าวมีธาตุที่แตกต่างกันไป มันจะระเบิดหรือเยือกแข็ง ตามกลิ่นอายที่ใช้สร้าง สามารถที่จะทำลายปราสาทหยาง สร้างบาดแผลต่อวิญญาณก่อกำเนิด ยากที่จะสามารถรักษาได้."อาจารย์จื่อเฉินตอบ.

"หากใต้เท้าสุ่ยสามารถหลบได้ ไม่ใช่ว่าศรปราณไม่มีผลอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกมา.

"หากเป็นระดับก่อตั้งวิญญาณ หากมีลูกศรพุ่งตรงมายังข้า ข้าย่อมสัมผัสได้โดยสัญชาติญาณ ทว่าก็จำเป็นต้องหลบในทันที ทว่าหากมีมือธนูมากกว่าหนึ่งคน ก็ยากที่จะหลบพ้นได้."สุ่ยเทียนหยากล่าว.

"อืม ข้าคงต้องรบกวนอาจารย์จื่อเฉินเพื่อสร้างคันศรและลูกศรให้ข้า และลูกศรพิเศษหลายลูก สำหรับคุณสมบัติของมันนั้น ข้าจะอธิบายให้กับอาจารย์ฟังอย่างละเอียด"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม เซียนเซิงโปรดวางใจ."อาจารย์จื่อเฉินที่พยักหน้ารับ.

จากนั้น จงซานได้ให้อาจารย์จื่อเฉินกลับไปก่อน ต้องไม่ลืมว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่เขาไม่สามารถให้เขารู้ได้.

"ใต้เท้าสุ่ย สถานการณ์เวลานี้เป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานที่สอบถามออกมาทันที.

"โม่ไป่หลีเวลานี้ได้ส่งคนออกหาเสียงทุกพื้นที่ และยังได้รับคะแนนเสียงจากกองทัพทั้งหมดด้วย ตอนนี้เขามีคะแนน 3.1 ล้าน ทว่าข้ามีเพียง 1.05 ล้านเท่านั้น."สุ่ยเทียนหยาที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.

"เฮ้เฮ้ ไม่จำเป็นต้องกังวลแค่เพียง 2 ล้านเองไม่ใช่รึ? ประชาชนในเมืองนั้นมีสิบล้านคน ตอนนี้คะแนนรวมยังไม่ถึงครึ่งเลย คะแนนของท่านเองตอนนี้เพิ่มขึ้นกว่าของโม่ไป่หลี ระยะห่างตอนนี้ยังไม่ได้มากนัก."จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม ดูเหมือนว่าคะแนนเสียงกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  ตอนนี้คะแนนยังไม่ได้ต่างกันมากนัก."สุ่ยเทียนหยาที่กล่าวอกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ตอนนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องกังวล สองสามเดือนนี้ปล่อยให้โม่ไป่หลีพึงพอใจไปก่อน เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างจะพลิกกลับเอง ตอนนั้นท่านจะเป็นคนหัวเราะภายหลัง."จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ครับ เซียนเซิง."สุ่ยเทียนหยาที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"ทว่า มีเรื่องที่ท่านต้องทำ."จงซานที่คิดครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวออกมา.

"เซียนเซิงโปรดกล่าว."สุ่ยเทียนหยาที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ เพราะว่าด้วยแผนการของจงซาน ตอนนี้ทำให้สุ่ยเทียนหยาสามารถมองเห็นความหวังได้ ตอนนี้ทำให้เขารู้สึกเคารพจงซานเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจงซานจะมีพลังฝึกตนต่ำกว่าก็ตาม.

"ข้าต้องการให้เจ้าซื้อใจคนที่อยู่ตรงข้ามคนที่เป็นศูนย์รวมใจของค่ายทหาร.

"ซื้อเหรอ?เซียนเซิง เรื่องนี้ท่าทางจะยาก คนที่เป็นศูนย์รวมใจของค่ายทหารนั้น คนกลุ่มนั้นมักจะเป็นคนเชื่อใจของโม่ไป่หลี ยิ่งพวกเขาได้รับความเชื่อใจจากโม่ไป่หลีเท่าไหร่ คนเหล่านี้ยิ่งไม่สามารถซื้อได้."สุ่ยเทียนหยาขมวดคิ้วไปมา.

"มันจำเป็นต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ เจ้าค่อย ๆ ชักจูงพวกเขาช้า ๆ  ค่อย ๆ ทำ อาจจะมีใครสักคนเห็นดีด้วยก็ได้."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เซียนเซิง การกระทำเช่นนั้นจะไม่เป็นการเปิดเผยแผนการต่อพวกเขาอย่างงั้นรึ?"สุ่ยเทียนหยาที่ขมวดคิ้วไปมา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการจะซื้อคนของโม่ไป่หลีนั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ .

"เปิดเผยข่าว?เปิดเผยแผนการอย่างงั้นรึ?ฮ่าฮ่า โปรดวางใจใต้เท้าสุ่ย ข้าไม่เคยปิดบังแผนการจากโม่ไป่หลีเลย ให้พวกเขาได้เห็น กับความเป็นไปทั้งหมด "จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

"หืม? เซียนเซิงมีจุดประสงค์อะไรอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของสุ่ยเทียนหยาที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"อย่าเพิ่งถามตอนนี้เลย ท่านเพียงตอบตกลงก็พอแล้ว."จงซานที่แสดงท่าทางลึกลับ.

"ครับ."สุ่ยเทียนหยาที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ทำตามที่เซียนเซิงบอก!"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวต่อสุ่ยเทียนหยา.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด