Immortal Chapter 44 เหินฟ้า.
หลังจากพักผ่อนหนึ่งวันเต็ม อาการบาดเจ็บของจงซานเวลานี้นับว่าแทบจะหายดีแล้ว ผลข้างเคียงของวิชากายาเทพอสูรเองก็หายไปด้วยเช่นกัน.
อย่างไรก็ตามเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น ด้วยปากทางเข้าถ้ำถูกปิดแน่น ทำให้อุณภูมิสูงขึ้นเป็นอย่างมากและทำให้อากาศเบาบางขึ้นเรื่อย ๆ กล่าวอีกอย่างหนึ่ง เทียนหลิงเอ๋อเริ่มหายใจหอบ ๆ แล้วใบหน้าของนางที่กลายเป็นสีแดง แม้ว่าจะเอ่ยว่าใช้เวลาในการซ่อมอุปกรณ์สองเดือน ทว่าพวกเขาคงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานนัก.
"จงซาน เจ้ามีแผนอันใด เร็วเข้า."เทียนหลิงเอ๋อเร่งเร้า.
เห็นท่าทางของเทียนหลิงเอ๋อแล้ว จงซานอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ "ทำตามคำแนะนำของข้าอย่างระมัดระวัง."
"ได้ ได้."เทียนหลิงเอ๋อพยักหน้า ราวกับว่านางต้องการที่จะออกไปจากที่นี่เร็วที่สุด.
"ผ้าแพรไหมของเจ้ายืดออกไปได้ยาวสุดเท่าไหร่?"จงซานถาม.
"ตอนนี้มันฉีกขาด อย่างมากที่สุดยืดยาวออกไปได้หนึ่งร้อยเมตร อย่างไรก็ตาม มันไม่สามารถใช้บินได้เลย."เทียนหลิงเอ๋อที่ส่ายหน้าไปมา.
"หนึ่งร้อยเมตรรึ? แค่นี้ก็พอแล้ว."จงซานพยักหน้า.
"หืม?"เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางสับสน ไม่รู้ว่าผ้าแพรของนางนั้นจะใช้ทำอะไรในแผนการของเขา.
"เจ้าใช้ผ้าแพรไหมของเจ้าล้อมรอบเอวข้าไว้ ข้าจะปีนขึ้นไปเช็คตรวจสอบอุโมงค์ด้านบน หากว่าข้าตกลงมาล่ะก็ เช่นนั้นให้เจ้าดึงข้ากลับมาบนพื้น อย่าให้ตกลงไปในบ่อลาวา จงซานกล่าวด้วยความจริงจังจ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อ.
"จงซาน เจ้าคงจะไม่ขอให้ข้าปีนขึ้นไปด้านบนใช่ไหม?มันสูงมากเลย ข้าก็ไม่คิดว่าผ้าแพรของข้าจะสามารถทำเช่นนั้นได้."เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.
"ข้ายังไม่บอกเลยว่าให้เจ้าปีนด้วย เชื่อข้า ตกลงนะ?"จงซานกลายเน้นย้ำ.
ได้ยินคำพูดที่จริงจังของจงซาน เทียนหลิงเอ๋อที่ได้แต่ต้องพยักหน้าตกลงเท่านั้น.
"อืม."จงซานพยักหน้าพึงพอใจ.
จากนั้นเทียนหลิงเอ๋อที่นำปลายด้านหนึ่งของผ้าไหมแดงผูกที่เอวของจงซาน อีกส่วนหนึ่งนั้นผูกไว้ที่มือของนาง.
จงซานที่เดินเข้าไปหากำแพงและเริ่มปีนขึ้นไป เขาที่ปีนขึ้นไปจนชิดเพดานของถ้ำ จากนั้นเขาก็เริ่มใช้นิ้วทั้งห้าทะลวงเข้าไปในศิลาก่อนที่จะค่อย ๆ ปีนต่อไป.
ถ้ำแห่งนี้ มีลักษณะเป็นกำแพงโดยมีเพดานราบไปจนถึงปล่องไฟเหมือนกับขวดไวน์ผ่าซีก จงซานที่เคลื่อนที่อย่างช้า ๆ ตรงไปหาปล่องภูเขาไฟ.
ในเวลานี้จงซานกำลังเคลื่อนที่มือที่ยึดไปบนเพดานขาที่เกี่ยวกำแพงมุ่งตรงไปยังปล่องภูเขาไฟ เขาที่ปล่อยลมออกมาจากปากเป็นระยะ ๆ .
ด้านล่างของเขานั้นเป็นลาวาที่เดือดปุด ๆ หากว่าเขาหล่นลงมาแล้วล่ะก็ แม้แต่เถ้าก็คงไม่เหลือแน่.
ด้วยความร้อนที่บีบรัด พร้อมกับอากาศที่ผลักดันขึ้นไปด้านบน จงซานรู้สึกราวกับว่าเหงื่อบนใบหน้าที่กำลังไหลออกมา เขาเองก็ยังคงเคลื่อนที่ไปด้านหน้าเรื่อย ๆ เกาะบนเพดานถ้ำแห่งนี้อย่างยากลำบาก เขาต้องใช้นิ้วมือทั้งห้าในการสร้างรูขึ้นมาเพื่อใช้เป็นที่เกาะ.
ท้ายที่สุด ห่างออกไปสามเมตรจากจงซาน เขาก็พบสิ่งที่เขาต้องการ หมอก หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นไอน้ำมหาศาลมากกว่า ซึ่งมันเกิดจากการสะสมของน้ำใต้ดินที่ระเหยออกมารวมตัวเป็นไอ มาสะสมรวมกันอยู่.
เขายังคงไต่ไปด้วยความระมัดระวัง.
"ซี่ ๆ ๆ ."
เท้าของเขาที่ก้าวพลาด ลื่นลงมาชี้เด่ตั้งตรงเกาะเพดานเอาไว้ ทว่านิ้วทั้งสิบของเขาที่ยังเกราะหลุมเอาไว้แน่น แม้ว่าจะมีเทียนหลิงเอ๋อเป็นหลักประกันอยู่ก็ตาม ทว่าด้วยการก้าวพลาดเช่นนี้ก็ทำให้ตกใจไม่น้อย เป็นเรื่องที่หวาดเสียว น่าหวาดกลัวอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้เขาที่ตั้งตัวใหม่ เริ่มไต่ไปอีกครั้ง.
ดูเหมือนว่าจะมีแอ่งน้ำใต้ดินที่ลึกราว ๆ สิบเมตร อยู่ในระหว่างช่องศิลา จงซานที่ไต่ไปยังก้อนศิลาดังกล่าวนั้น ซึ่งมีก้อนศิลากั้นอยู่ทำให้น้ำใต้ดินนั้นไม่ไหลออกมา.
เขาที่ใช้มือข้างเดียว เจาะลึกลงเป็นรูเพื่อสร้างที่ยึดจับ ก่อนที่จะใช้มืออีกข้าง กุมดาบของเขาและเริ่มขุดผนังศิลาดังกล่าวในทันที.
เขาทำการถากศิลาบนกำแพงหินให้กลายเป็นรูลึกเข้าไป จากนั้นก็เซาะร่องรอบ ๆ ปล่องภูเขาไฟ ขุดลึกบนกำแพงเป็นรูลึกเข้าไปทั้งสองข้าง เซาะแผ่นศิลาออกมาพร้อมกับนำไปเก็บไว้ในกำไลเก็บของ และทำร่องให้เป็นทางเดินบนผนังด้วย.
ซึ่งตอนนี้ เขามีแผ่นศิลาขนาดครึ่งเมตรที่ใช้เป็นฐานเหยียบ.
จงซานที่มองไปรอบ ๆ ตอนนี้มีพื้นเป็นฐานเหยียบที่มีรัศมีขนาดห้าเมตรแล้ว
เขาที่ค่อย ๆ ไต่กลับมาหาเทียนหลิงเอ๋อ ก่อนที่จะจ้องมองไปยังนางและเผยยิ้ม.
"อย่างไร?เจ้ากำลังทำอะไรอย่างงั้นรึ?ไม่ใช่ว่าเจ้าวางแผนที่จะสร้างทางเหยียบขึ้นไปจนถึงข้างบนหรอกนะ?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล.
จงซานที่ส่ายหน้าไปมา เขาไม่ตอบแต่อย่างใด เขาที่เผยยิ้มให้กับนางและเริ่มเดินสำรวจไปรอบ ๆ ถ้ำ ท้ายที่สุดเขาก็เจอศิลาขนาดใหญ่ที่ดูแข็งแกร่ง ซึ่งมีขนาดความกว้างขนาดหกเมตร เขาที่เริ่มเซาะศิลาดังกล่าวเป็นรูปร่าง หลังจากนั้นไม่นานศิลาก้อนดังกล่าวก็ได้กลายเป็นแผ่นทรงกลมขนาดใหญ่.
"หลิงเอ๋อ ผูกรัดแผ่นศิลานี้ที่หลังของข้าด้วย ข้าจะปีนกลับขึ้นไปอีก.
"หืม?เจ้าจะแบกแผ่นศิลานี้ขึ้นไปกับเจ้าด้วยรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่แสดงท่าทางไม่อยากเชื่อ.
"ใช่แล้ว."จงซานพยักหน้า.
"เช่นนั้นทำไมเจ้าไม่ปีนขึ้นไปก่อนและจากนั้นค่อยดึงแผ่นศิลานี้ขึ้นไปทีหลังล่ะ?"เทียนหลิงเอ๋อที่แสดงท่าทางดีใจ ราวกับว่านางได้คิดแผนการที่ดีเลิศได้มากกว่าเขา.
"ทว่า หากข้าหล่นลงไปด้านล่างล่ะ?"
รอยยิ้มของนางที่จางหายไป พร้อมกับนึกขึ้นมาได้ หากว่าเขาหล่นลงมาแล้วล่ะก็ เช่นนั้นก็ไม่มีหวังที่จะรอดชีวิตได้.
จงซานที่ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับเผยยิ้มให้นาง ก่อนที่จะแบกแผ่นศิลากลับขึ้นไป ซึ่งเวลานี้นับว่าเคลื่อนที่ยากลำบากอยู่ไม่น้อย เนื่องจากว่ามันมีน้ำหนักมากกว่าปรกติ.
ด้วยเส้นทางที่เขาได้ขุดเป็นทางเอาไว้ ทำให้เขาสามารถนำแผ่นศิลาเข้าไปเสียบยังร่องปากปล่องที่เขาได้ขุดเป็นช่องเอาไว้
จงซานที่ระมัดระวังเป็นอย่างมาก ในการเสียบแผ่นศิลาเข้าไปช้า ๆ เขาพยายามทำให้มั่นดูมั่นคง ให้สามารถที่จะทรงตัวได้ซึ่งแผ่นศิลาดังกล่าวนี้แทบจะปิดกั้นปากทางของปล่องควันเอาไว้.
ด้วยความรอบคอบ จงซานที่ปีนขึ้นไปบนแผ่นศิลาดังกล่าว เพื่อทดสอบความมั่นคงของแผ่นศิลาว่าเพียงพอหรือไม่.
เขาที่นั่งลงบนแผ่นศิลา มือข้างหนึ่งที่ทำการขุดผนังเป็นรูและจับผ้าแพรไหมเอาไว้แน่น พร้อมกับตะโกนออกไปว่า "หลิงเอ๋อผูกผ้าแพรนั้นเอาไว้กับเอวของเจ้าแล้วตามข้ามาตามทางที่ข้าสร้างไว้.
"ตกลง ข้ากำลังจะไป."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
นางที่ผูกผ้าแพรไหมเข้ากับเอวของนาง ก่อนที่จะปีนขึ้นไปบนเส้นทางที่จงซานได้สร้างไว้ ซึ่งมีที่ยั้งเท้าอยู่แล้ว ทำให้มันง่ายกว่าที่ควรจะเป็น แต่ถึงกระนั้นก็ยังนับว่ายากและเป็นอันตรายอยู่เช่นเดิม.
เทียนหลิงเอ๋อที่กัดฟันแน่นและค่อย ๆ ปีนไปช้า ๆ .
จงซานที่ค่อย ๆ ดึงผ้าแพรไหมเข้ามาหาตัวช้า ๆ เช่นกัน.
ด้วยมีไอน้ำใต้ดินที่เกิดเป็นไอออกมาเกาะที่ช่องศิลาทำให้ลื่น.
"โอ้ว ข้า อ๊าก ๆ ๆ "
เทียนหลิงเอ๋อที่ลื่น ด้วยความตื่นตกใจ ทำให้นางหวีดร้องออกมาเสียงดังเมื่อนางหล่นลงไป.
ตาย? นางที่อยู่เหนือลาวา เทียนหลิงเอ๋อที่รู้สึกหวาดกลัวตัวแข็งไปในทันที.
"ปึก."ผ้าแพรไหมที่ดึงรั้งร่างของเทียนหลิงเอ๋อเอาไว้
นางที่ห้อยหมุนไปมาเหนือลาวา ทว่านางที่ตื่นตะลึงหวาดกลัวอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง.
"หยุดตกใจและขึ้นมาได้แล้ว."จงซานที่อยู่ด้านบนก่อนที่จะค่อย ๆ ดึงนางขึ้นมา ซึ่งมันกำลังแกว่งไปมา?
"อืม อืม."เทียนหลิงเอ๋อที่ตกใจเพราะว่านางลื่น ก่อนที่จะตั้งสติได้นางที่ยึดผ้าแพรไหมและเริ่มดึงตัวเองขึ้นไป.
เมื่อนางขึ้นไปอยู่บนแผ่นศิลาได้ เทียนหลิงเอ๋อถึงกับทิ้งตัวลงนอนเลยทีเดียว.
"น่ากลัว น่ากลัวเกินไปแล้ว ข้าเกือบจะตายแล้ว."เทียนหลิงเอ๋อที่บนพึมพำไปมา ชีวิตของนางที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย หากว่าไม่มีผ้าแพรไหมของนางล่ะก็ นางก็คงสลายกลายเป็นไออย่างแน่นอน.
เห็นท่าทางของเทียนหลิงเอ๋อ จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
"เจ้าเป็นอะไรไหม?พวกเรากำลังจะออกไปข้างนอกแล้ว."จงซานกล่าว.
"ออกไป?"เทียนหลิงเอ๋อที่ชำเลืองมองมา ออกไปอย่างไร จากปล่องไฟนี้สูงขึ้นไปถึงสามพันเมตร พวกเราจะออกไปได้อย่างไรกัน?
"ครั้งนี้ ข้าจะพาเจ้าลอยออกไป."จงซานกล่าวอย่างมั่นใจ.
"ลอยออกไป?"เทียนหลิงเอ๋ออุทาน.
"เจ้านอนลงและจับผ้าแดงเอาไว้ให้แน่น ๆ รอข้าชั่วครู่."จงซานกล่าว.
"ตกลง "เทียนหลิงเอ๋อกล่าวตอบ นางไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามนางก็ยังไม่ต้องการจะถาม.
จงซานที่ขยับไปยังทางเดิน จ้องมองไปยังลาวาด้านล่างของเขา เขาที่กลืนน้ำลายลงคอ มันจะต้องได้ผล.
จงซานที่กุมดาบของเขาและจ้องมองไปยังพื้นที่รอบ ๆ ที่มีน้ำใต้ดิน ซึ่งกระจายอยู่ทุกที่.
จงซานที่รวบรวมสมาธิ พร้อมกับเล็งไปยังผนังเหล่านั้น ก่อนที่จะปล่อยปราณดาบออกไป.
"ครืนน......"
เสียงระเบิดออกมาน้ำที่ไหลปุด ๆ ออกมาจากรอยร้าวเนื่องจากกำแพงถูกเปิด.
เขาที่ยังคงฟันออกไป ยังพื้นที่รอบ ๆ กำแพงที่มีน้ำใต้ดิน.
ตูมม ตูมม ตูมมม.
"ซี่ ๆ ซี่ ๆ ซี่ "ด้วยการฟาดฟันออกไป ผนังรองรับน้ำใต้ดินที่ถูกเปิดออกทั้งหมด เมื่อศิลารองรับน้ำแตกออกหมด น้ำใต้ดินก็ไหลออกมาอย่างแรง.
เมื่อเป็นไปตามแผน จงซานที่เก็บดาบเข้ากำไลมิติ ก่อนที่จะเร่งรีบปืนขึ้นไปบนแผ่นศิลา.
"จงซาน เจ้ากำลังทำอะไรอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่อุทาน.
เห็นเทียนหลิงเอ๋อที่นั่งอยู่ ดวงตาของจงซานที่เบิกกว้าง ก่อนที่จะจับนางและกดลงให้นอนราบไปบนแผ่นศิลาในทันที.
ด้วยการกดนางเอาไว้แน่น เขาและนาง ร่างกายทั้งสองแทบจะไม่มีช่องว่างระหว่างกัน.
เทียนหลิงเอ๋อที่ถูกจงซานกดให้นอนราบ นางที่ตื่นตะลึง ใบหน้าไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย จงซานเขาต้องการทำอะไรกัน?
ขณะที่เทียนหลิงเอ๋อกำลังจะขัดขืน ทันใดนั้น.
"ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม"
จากด้านล่าง เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น.
น้ำมากมายที่ไหล่ออกมาจากแอ่งน้ำใต้ดิน ไหลลงไปบนลาวาด้านล่าง แน่นอนว่าถ้ามีเพียงแค่เล็กน้อยก็จะกลายเป็นไอที่ค่อย ๆ ระเหยออกไปทางปล่องไฟ อย่างไรก็ตามมวลน้ำที่ไหลออกมานั้นมีจำนวนมากมายมหาศาล.
เมื่อน้ำทั้งหมดไหลลงบ่อลาวา น้ำทั้งหมดก็ระเหยเป็นไออย่างรวดเร็ว เป็นไอน้ำจำนวนมากมายมหาศาล.
ไอน้ำที่มีความหนาแน่นมากกว่าอากาศทั่วไปนับพันเท่า.
ในสภาพถ้ำที่ถูกปิดกั้นทั้งหมด ซึ่งอากาศจะถูกบีบและดันจากด้านล่างออกไปสู่ด้านบน.
ชั่วระยะเวลาแค่อึดใจเท่านั้น น้ำใต้ดินทั้งหมดก็กลายเป็นไอน้ำในชั่วพริบตา.
แทบจะในทันที ถ้ำแห่งนี้ไม่ต่างจากกระบอกปืนใหญ่ที่มีแรงดันมหาศาล ความกดดันที่มีมากมายนับพันเท่า.
ปืนใหญ่แรงกดไอน้ำที่กระแทกและยิงออกไป.
"วูซซซซซซซซ!!!!!"
แผ่นศิลาของจงซานที่ปิดช่องทางปล่องภูเขาไฟอยู่นั้น ด้วยแรงขับจากไอน้ำด้านล่าง ก็ถูกยิงออกไป ด้วยความเร็วสูง แผ่นศิลาลอยขึ้นไปบนฟ้าพุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว.
เทียนหลิงเอ๋อที่ถูกจงซานกดเอาไว้ นางที่ต้องการจะขัดขืน ทว่ากลับเกิดระเบิดขึ้นที่ด้านล่าง จากนั้นเทียนหลิงเอ๋อก็รู้สึกว่าศิลาด้านล่างนาง มีแรงมหาศาลที่กำลังผลักมัน แรงดังกล่าวนั่นได้บีบให้ร่างของจงซานและร่างกายของนางแทบจะติดกัน ด้วยแรงอัดมหาศาล ดูราวกับว่ามันบังคับให้ร่างของนางกับเขาชิดเข้าหากัน.
บินอย่างงั้นรึ?ศิลาบิน?แผ่นศิลาชิ้นนี้กำลังบินอยู่หรือไม่?เทียนหลิงเอ๋อที่ตื่นตะลึงตลอดจนนึกถึงคำพูดของจงซานที่เขาบอกว่าจะพานางบินออกไปจากที่นี่?
ทว่าหลังจากนั้น ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นแดงซ่าน ร่างกายของพวกเขาทั้งคู่ที่ใกล้ชิดติดกัน และหน้าอกของนางราวกับว่ามันถูกร่างของเขากดลงมา จนรู้สึกราวกับว่าทั้งคู่ได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน.