ตอนที่แล้วChapter 96 เจ้ากล้ามาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 98 ล้อมเมือง.

Chapter 97 บิดกลับฟ้าดิน


乾坤 Niǔzhuǎn qiánkūn หนิวจ่วน เฉียนคุน แปลว่า บิดกลับฟ้าดิน คือการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์แบบกลับร้ายเป็นดี กลับตาลปัตร เป็นต้น

ส่งมือสังหารมาสังหารบุตรบุญธรรมของจงซาน ซูเหลียงเซียงเป็นคนทำอย่างงั้นรึ? แทบจะในทันที ดูเหมือนว่าความชอบธรรมที่ซูเหลียนเซียนมีนั้นจะหายไปในทันที.

"ข้าจงซาน,ทุกคนต่างก็รู้ดีว่า การกระทำของข้าทุกอย่าง ทำเพื่อประชาชนทุกคน แม้ว่าข้าจะเป็นพ่อค้า ทว่าก็ช่วยเหลือคนทุกคน ตอบแทนทุกคน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันทุกคนทั่วแผ่นดิน แผ่นดินต้าคุนนี้นั้นแห่งแล้งเทียบกับแผ่นดินอาณาจักรต้าสงไม่ได้เลยแม้แต่น้อย มีคนมากมายที่กำลังจะอดตาย หลายปีมานี้เกิดภัยพิบัติขึ้นนับไม่ถ้วน แต่แผ่นดินต้าคุนก็ไม่เคยมีใครอดตาย เรื่องนี้เป็นฝีมือของราชวงศ์อย่างงั้นรึ?ข้าจงซานได้จัดเตรียมช่วยเหลือประชาชนทุกคนแทนสวรรค์ เพื่อบรรเทาภัยพิบัติในทุก ๆ ครั้ง หากไม่มีข้าจงซานแผ่นดินนี้จะเป็นเช่นไร? วันนี้เจ้ากับต้องการกำจัดข้าจงซานให้สิ้นอย่างงั้นรึ? การกระทำของเจ้าในวันนี้ ยังคิดว่าเหล่ากลุ่มการค้าจะยังมีใครกล้าช่วยประชาชนในประเทศนี้อยู่อีกรึ?หลังจากวันนี้ไปเจ้ายังกล้าเงยหน้าสู้ฟ้า ยืนอยู่ต่อหน้าประชาชนได้อีกหรือ ถึงแม้ว่าจะเป็นทหารที่อยู่ด้านหลังเจ้าก็ตาม เจ้ากล้าบอกพวกเขาหรือไม่ว่าพวกเจ้าไม่รู้จักสำนึกบุญคุณคน?"จงซานที่กล่าวออกไปเสียงดัง.

กับคำพูดของจงซานที่กล่าวออกไปทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างพร้อมเพรียงกัน เหล่ากองทัพที่เต็มไปด้วยความอาจหาญ ในเวลานี้คาดไม่ถึงเลยว่าปรากฏความขลาดกลัวขึ้นมาในทันที เป็นความจริง ที่ทหารส่วนมากแล้วเป็นประชาชนทั่วไป มีส่วนน้อยมากที่ไม่ได้รับความกรุณาของจงซาน ส่วนใหญ่แล้วติดหนี้บุญคุณจงซานทั้งนั้น พ่อแม่พวกเขาที่ได้รับภัยพิบัติ หลายคนที่กำลังจะอดตาย จงซานที่เป็นคนช่วยเหลือมอบอาหารให้พวกเขาจนสามารถก้าวผ่านความอดตายไปได้.

ตอนนี้ กองกำลังของพวกเขา กำลังจะสังหารผู้มีพระคุณอย่างงั้นรึ? แม้ว่าทหารจะต้องรับคำสั่งของผู้นำ ทว่าพวกเขาก็หาใช่สัตว์ ที่จะไร้ซึ่งจิตใจต้องการที่จะสังหารจงซาน.

ซูเหลียนเซียนที่หันหน้ากลับไป สามารถเห็นความวุ่นวายในกองทัพ เขาไม่รู้เลยว่าจะเลวร้ายขนาดนี้.

ขวัญกำลังใจที่ถูกละลายหายไปหมด ราวกับเป็นพายุลูกใหญ่ที่พัดผ่านมา? อย่างไรก็ตาม เพราะคำพูดของจงซานนั้นมันได้ทำให้ขวัญกำลังใจของเหล่าทหารหดหายไปในทันที ทุกคนต่างก็รู้สึกกระวนกระวายใจ ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ พวกเขาเดิมทีก็คือประชาชนคนหนึ่ง ตอนนี้กลายเป็นขลาดวิตก ไร้ซึ่งจิตใจไปแล้ว.

บุกในวันนี้รึ? ไม่สามารถทำได้แน่ แม้ว่าจะมีกองกำลังที่ทรงพลัง แต่หากไร้ซึ่งขวัญกำลังใจก็ไม่สามารถที่จะได้รับชัยได้.

"ชิ จงซาน เจ้าคนเสียสติ เป็นเจ้าที่ทรยศเห็นอย่างเห็นได้ชัดเจน ตราบเท่าที่เจ้ายอมมอบตัว ข้าจะยกเว้นความผิดร้ายแรงนี้ หากไม่แล้ว เจ้าจะต้องได้รับโทษหนักที่สุด."ซูเหลียนเซียนที่ตะโกนออกไปอีกครั้ง.

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ไม่เพียงแต่ทหารคุ้มเมือง เหล่าประชาชนทั่วไป ที่ได้ยินคำพูดของจงซานต่างก็ร้อนรุ่มขึ้นมาเป็นอย่างมาก ต้องไม่ลืมว่า ประชาชนเมืองเสวียนนั้น ทุกคนต่างก็ได้รับการช่วยเหลือจากจงซานมากยิ่งกว่าที่อื่น ๆ .

"ครืน ๆ  ๆ ."

เสียงกลองรบที่ดังขึ้นเป็นสัญญาณในการถอย หวงตี้ซูเจิ้งเต๋อได้สั่งการถอนกำลังแล้วนั่นเอง.

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่าฝั่งตัวเองมีกองกำลังมากกว่าก็ตาม แต่ขวัญกำลังใจทหารก็เป็นสิ่งสำคัญ ตอนนี้ควรที่จะกลับไปตั้งหลักบำรุงขวัญทหารก่อน.

ซูเหลียนเซียนที่แค่นเสียงฮึม ๆ จ้องมองไปยังจงซาน พร้อมกับนำกำลังกลับคืนไปพร้อมทั้งผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนทั้งหมดด้วย พวกเขาจำต้องกลับไปยังค่ายที่มั่นของพวกเขาอีกครั้ง.

"กู่เหยี่ยเยี่ย ท่านร้ายกาจมากเลย เพียงแค่คำพูด ก็ทำให้กองทัพ 200,000 ถอนกำลังได้."หยิงหลานดวงตาลุกวาวด้วยความชื่นชม.

หยิงหลานที่เคยเป็นผู้บัญชาการทหารมาหลายครั้งแล้ว ทว่ากู่เหยี่ยเยี่ยของนางที่อาศัยเพียงคำพูด ก็ทำให้กองกำลังทหารกว่า 200,000 ถอนกำลังได้.เป็นเรื่องที่นางไม่เคยเห็นมาก่อนเลย.

"ถอยอย่างงั้นรึ?แค่ชั่วคราว ทว่า ด้วยเวลาที่มีนี้ ก็เพียงพอที่พวกเราจะวางแผนตอบโต้ได้."จงซานที่ส่ายหน้าพร้อมกับเผยยิ้มออกมา.

หลังจากนั้น จงซานก็กลับจากป้อมปราการประตูเมือง จากนั้นก็เริ่มวางแผนในการรบทันที.

"เจิ้งเต๋อ ทำไมเจ้าส่งสัญญาณให้ถอนกำลังกัน?พวกเรามีทหารกว่า 200,000 คน เหนือกว่าเมืองเสวียนหลายเท่า แม้ว่าจะยากลำบาก ทว่า ตราบเท่าที่สังหารจงซานได้ ทุกอย่างมันก็คุ้มค่า."ซูเหลียนเซียนที่สอบถามบุตรชายด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์.

"ท่านพ่อ ท่านก็เห็นขวัญกำลังใจฝั่งเรา หากโจมตีทั้งอย่างงั้น พวกเรามีโอกาสพ่ายแพ้มากกว่าไม่ใช่รึ?"ซูเจิ้งเต๋อกล่าว.

"พวกเรามีทหารกว่า 80,000 นาย การจะตีเมืองให้แตกและสังหารจงซานมันค่อนข้างจะแน่นอนอยู่แล้ว."ซูเหลียงเซียนที่เอ่ยปากกล่าวออกมา.

"ตอนนี้เมืองเสวียน ประชาชนทั่วไปต่างก็มีศัตรูคู่แค้นร่วมกัน เมื่อถึงเวลานั้น แม้ว่ากองกำลังทหารของพวกเราจะตายไป 120,000 คน  ทว่าประชาชนอาจจะตายไป 150,000 คน ทหารตายไปนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทว่าหากประชาชนตายไป 150,000 คน ตระกูลซูของเรา จะสามารถดำรงอยู่ในอาณาจักรต้าคุนได้อีกรึ?"ซูเจิ้งเต๋อที่กล่าวออกมา.

"ใช่แล้ว หากว่ากระทำการตามไท่ซ่างหวง แม้ว่าพวกเราจะสามารถสังหารจงซานได้ก็ตาม แต่ก็เหมือนว่าตระกูลราชวงศ์ได้ตะบัดสัตย์ต่อต้านสวรรค์ ความโศกเศร้าและเสียใจของประชาชนจะกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ เมื่อประชาชนทั่วไปไม่สนับสนุนตระกูลราชวงศ์แล้ว ก็จะเกิดกบฏขึ้นทุกพื้นที่ อีกอย่างอาณาจักรรอบ ๆ เองก็กำลังจับตาดูอาณาจักรต้าคุนอยู่ด้วย หากการปกครองภายในของเราอ่อนแอพวกเขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน."ขันทีเหว่ยก็เอ่ยปากออกมาด้วยเช่นกัน.

เหล่าผู้เชี่ยวชาญเซียนทุกคนต่างก็เห็นด้วย การกระทำของซูเจิ้งเต๋อในครั้งนี้ แม้แต่บรรพชนซูเองก็พยักหน้าให้.

"เมืองเสวียนจะมีอาหารมากมายเท่าไหร่กัน? พวกเราควรจะรออย่างอดทน ไม่ใช่ว่านี้คือแผนการของท่านพ่อหรอกรึ?"ซูเจิ้งเต๋อที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

เห็นท่าทางของซูเจิ้งเต๋อ ซูเหลียนเซียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ."เจ้ายังไม่รู้ความน่ากลัวของจงซาน ก่อนหน้านี้ข้าเห็นว่าเขากำลังปิดตัวรักษาตัวเองอยู่เลยใช้แผนการโง่ ๆ เช่นนั้นออกไป ทว่าตอนนี้ข้ารู้แล้วว่ามันเป็นแผนการที่น่าหัวร่อ ยิ่งเห็นเขาในคราวนี้ ข้ายิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กับความแข็งแกร่งของเขา เขาดูทรงพลังมากกว่าที่ผ่านมาซะอีก ตราบเท่าที่เขามีเวลา เขาสามารถที่จะพลิกผืนปฐพีได้เลย พวกเราจะล่าช้าไม่ได้ ไม่สามารถให้เวลาเขาได้ ตราบเท่าที่เขามีเวลาแล้วล่ะก็ เขาจะทำเรื่องที่พวกเราคาดไม่ถึง ในอดีตนั้น หากข้าไม่ได้ทำข้อตกลงกับเขาเอาไว้แล้วล่ะก็ จะเป็นตระกูลจงต่างหากที่จะกลายเป็นผู้ปกครองอาณาจักรต้าคุนแทนราชวงศ์ซูของพวกเรา."

"เอาล่ะ!"บรรพชนตระกูลซูที่กล่าวขัด.

เพียงแค่คำพูดของเขากล่าวออกมา ทุกคนก็ต้องเงียบไปในทันที.

"ในเมื่อต้องป้องกันความระส่ำของอาณาจักร พวกเราก็ควรจะกระทำการอย่างระมัดระวัง การล้อมรอบเมืองแห่งนี้เอาไว้ พวกเขาจะทนได้จริง ๆ รึ? พวกเขาจะมีอาหารและเชื้อเพลิงในการดำรงชีพได้นานเท่าไหร่กัน?ขอเพียงแค่เหล่าประชาชนเกิดความโกลาหล เมืองเสวียนย่อมพังทลาย ชื่อเสียงของจงซานก็จะสูญสิ้นไปด้วย จะใช้เวลาสักกี่วันกันเชียว รอคอยดูสถานการณ์ไปก่อนไม่ดีกว่ารึ? ดูสิว่าจงซานจะทำอะไร."บรรพชนตระกูลซูที่เอ่ยตำหนิออกมา.

"ครับ."ซูเหลียนเซียนได้แต่พยักหน้า ทว่าใบหน้าของเขายังเต็มไปด้วยความกังวล ทว่าคนอื่น ๆ ต่างก็เห็นด้วย ต้องไม่ลืมว่ากลยุทธ์ดังกล่าวถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดในตอนนี้แล้ว.

สามวันหลังจากนั้น.

เมืองเสวียน คฤหาสน์จง จงซานที่หลับตานั่งอยู่บนบัลลังก์ พร้อมกับเคาะนิ้วมือไปมาบนพนักพิงเบา ๆ  ที่ด้านหน้านั้นมีจงเทียน จงเจิ้งและหยิงหลาน กำลังรอจงซานอยู่.

ทันใดนั้น จงซานก็หยุดเคาะ พร้อมกับลืมตาขึ้นมา "เอาล่ะ ข้าได้เตรียมการเอาไว้แล้ว ที่จะต่อสู้ตัดสินกับพวกเขา หากวันนี้ข้าสามารถสังหารผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนได้ทั้งหมด ข้าก็จะสามารถนำกองกำลังทั้งแปดแสนนาย มาไว้ในมือได้ด้วย."

"ครับ."คนทั้งสามตอบรับอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"ไปเตรียมตัวกันได้แล้ว."จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.

"รับทราบ."จงเทียน จงเจิ้งและหยิงหลานที่รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.

เช้าวันหนึ่ง ผู้ฝึกตนเซียนเทียนทั้งสิบสองคนต่างก็มาประชุมกัน โดยมีบรรพชนตระกูลซูนั่งอยู่บนหัวโต๊ะ พร้อมกับยกน้ำชาขึ้นจิบ ขณะขมวดคิ้วไปมา หลังจากที่ได้รับรายงาน.

ซูเหลียนเซียนที่ถูกตำหนิเมื่อสามวันที่แล้วจากบรรพชน เวลานี้เขาพยายามไม่ออกความคิดเห็น แต่ก็ยังคงรับฟังอย่างจริงจัง.

"ผ่านมาสามวันแล้วไม่ใช่รึ?ภายในเมืองไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้นเลยรึ?"บรรพชนตระกูลซูกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

ซูเจิ้งเต๋อยังคงรายงานต่อไป "บรรพชน น่าจะจวนเจียนแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีเสบียงอยู่มาก เชื้อเพลิงของพวกเขาก็น่าจะใกล้หมดแล้ว ตอนนี้อาจจะกำลังใช้เครื่องเรือนและรื้อบ้านออกมาเผาเพื่อดำรงชีพ เมื่อพวกเขาไม่มีบ้าน ประชาชนอาจจะเริ่มหวั่นไหวแล้ว ตราบเท่าที่เรารออีกสักหน่อย ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามแผนพวกเราแน่."

"ชิ เจ้าจะไปรู้เรื่องราวในเมืองได้อย่างไร?"ซูเหลียนเซียนที่กล่าวออกมาในทันที.

"ท่านพ่อ เมืองเสวียนมีประชาชนกว่าหนึ่งล้านคน พวกเขาจะต้องใช้พลังงานมหาศาลในทุก ๆ วันด้วย."ซูเจิ้งเต๋อที่กล่าวอย่างมั่นใจ.

"รายงาน..!"

ที่ด้านนอกกระโจมนั้นก็มีเสียงที่กระวนกระวายปรากฏขึ้นในทันที จากนั้นก็มีคนที่เร่งรีบเข้ามาในกระโจมของพวกเขา.

ท่าทางของเขาดูทุลักทุเล ทั่วร่างอาบไปด้วยโลหิต เส้นผมกระเซอะกระเซิง นอกจากนี้ร่างกายยังได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง.

ทันทีที่เข้ามาถึง ก็คุกเข่าลงในทันที.

"องค์เหนือหัว เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว แม่ทัพหลินเซียวได้นำกองกำลัง 300,000 นาย บุกเข้าโจมตีเมืองหลวงเมื่อวานนี้ พวกเขาสามารถทะลวงกำแพงเมือง พร้อมกับสังหารสายโลหิตราชวงศ์ไปทั้งหมด และก่อนพลบค่ำเมื่อวาน องค์ไท่จื่อก็ถูกสังหารพร้อมกับถูกนำมาแขวนประจานที่ประตูเมืองทิศใต้ วังหลวงในเวลานี้แล้ว พระราชวังได้กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว เหล่าประชาชนทั่วไปต่างก็หนีตายกันจ้าระหวั่น เต็มไปด้วยความวุ่นวาย."

"หลินเซียว."ซูเจิ้งเต๋อถึงกับพ่นน้ำชาคำรามออกมาเสียงดังในทันที.

ผู้ฝึกตนเซียนเทียนทุกคนถึงกับลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ ใบหน้าที่ไม่อยากเชื่อปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา.

หลินเซียว?พวกเขาคือกองกำลังที่แข็งแกร่งของต้าคุน มีกองกำลังในบัญชาเป็นทหารจำนวนมาก ถูกส่งออกไปต่อต้านอาณาจักรต้าซ่งไม่ให้เข้ามารุกราน เกิดอะไรขึ้น พวกเขากลับนำทัพเข้ายึดเมืองหลวงอย่างงั้นรึ?พวกเขาก่อกบฏรึไง?

สายโลหิตตระกูลซู ถูกสังหารหมดเลยอย่างงั้นรึ?

พวกเขาเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง ไม่มีใครอยากเชื่อ คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเกิดขึ้นรวดเร็วขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้นถึงได้เปลี่ยนไปรวดเร็วขนาดนี้?

"ข้าสาบานเลยว่าจะกุดหัวพวกมันเก้าชั่วโคตร"ซูเจิ้งเต๋อคำรามออกมาด้วยความโกรธ.

"รายงาน!!"

หลังจากมีทหารองค์รักษ์ก่อนหน้าได้เข้ามารายงานแผนร้ายของหลินเซียวเสร็จแล้ว ที่ด้านนอกกระโจมก็มีเสียงที่ร้อนรนดังขึ้นอีกครั้งเช่นกัน.

จากนั้น เขาก็เร่งรีบวิ่งเข้ามาในกระโจม ทั่วร่างของเขาที่เต็มไปด้วยรอยไหม้ แม้แต่เส้นผมยังเต็มไปด้วยเขม่า ดูเหมือนว่าเขาจะเพิ่งหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ.

ทันทีที่เข้ามาถึงเขาก็เร่งรีบคุกเข่ารายงานต่อซูเจิ้งเต๋อทันที.

"เหนือหัว เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว หมู่บ้านภูเขาตะวันออกคลังเสบียงและฟาร์มปศุสัตว์ของพวกเรา เมื่อคืนเกิดไฟไหม้อย่างรุนแรง อาหารของพวกเราทั้งหมดถูกเผาไหม้เสียหายไปทั้งหมดแล้ว เพลิงไหม้รุนแรงมากพวกเราไม่สามารถที่จะดับไฟได้ทัน ตอนนี้เสบียงทั้งหมดกลายเป็นขี้เถ้าหมดแล้ว.

ทหารคนดังกล่าวรายงานเสียงสั่นพูดจาตะกุกตะกัก.

"หืม?"

ซูเจิ้งเต๋อแทบหมดสติถึงกับคว่ำโต๊ะไปเลยทีเดียว กับข่าวร้ายที่ได้ยินมายังไม่ทันไร ก็มีข่าวที่ร้ายยิ่งกว่าตามมาอีก เสบียงและฟาร์มปศุสัตว์ถูกไฟไหม้หมดอย่างงั้นรึ?

เสบียงอาหารสนับสนุนกองทัพกว่า 800,000 นาย เมื่อมันถูกทำลายจนหมดสิ้นเช่นนี้ ขวัญกำลังใจทหารย่อมหายไป ตอนนี้ไม่ต่างจากรอความพ่ายแพ้มาเยือนเท่านั้น.

"ขณะที่พวกเรากำลังปิดล้อมเพื่อทำลายเสบียงของจงซาน แต่กลับเป็นจงซานเข้ามาทำลายเสบียงของพวกเราอย่างงั้นรึ?เป็นจงซานแน่ นี่ต้องเป็นฝีมือของจงซาน."ซูเจิ้งเต๋อที่เริ่มตะโกน ออกมาในทันที.

"แผนการทั้งหมดนี้ หลินเซียวไม่ใช่ว่าได้กระทำการมาก่อนแล้วเหรอ การก่อกบฏครั้งนี้ต้องมีการเตรียมการมานานแล้วแน่นอน จะเป็นไปได้อย่างไรที่เมืองหลวงจะถูกยึดได้รวดเร็วขนาดนั้น พวกเขาต้องปิดซ่อนการเคลื่อนทัพเอาไว้แน่ กองกำลังมากมายขนาดนั้นจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะสามารถเดินทางเข้ามาได้ภายในสองสามวัน จะเป็นไปได้อย่างไรที่กองกำลังของเขาที่อยู่ชายแดนจะไม่เคลื่อนที่ผ่านเมืองหน้าด่านใหนเลย หากกองกำลังทั้งแปดแสนตอนนี้ล่มสลาย บัลลังก์ตระกูลซู  ไม่ต้องหายไปแล้วอย่างงั้นรึ?"ซูเหลียนเซียนที่โพลงออกมาในทันที ภายในดวงตานั้นมีประกายแสงที่ไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด