Chapter 96 เจ้ากล้ามาก
"ตระหนักได้ถึงผลประโยชน์?"หยิงหลานที่จำได้ถึงคำนี้ที่จงซานเคยพูดตั้งแต่นางยังเด็ก.
"ตระหนักได้ในผลประโยชน์? ฮ่าฮ่า นั่นสินะ."จงซานที่หัวเราะออกมา เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทว่าไม่ว่าหยิงหลานจะเคยเป็นแม่ทัพก็ตาม ก็ยังมีเรื่องอีกมากที่นางยังไม่รู้.
ทว่าที่ด้านหลังจงเทียนและจงเจิ้ง ต่างก็เผยยิ้มออกมา.
"เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว พวกเราต้องไปเตรียมตัวทำสงครามระหว่างรัฐขึ้นมาแล้ว."จงซานที่เอ่ยออกมา.
สงครามใหญ่ สงครามระหว่างรัฐอย่างงั้นรึ? ราวกับว่าจงซานมองไปยังสงครามข้างหน้าแล้ว คำพูดของฟูอี้ราวกับว่าพวกเราเป็นรัฐ ๆ หนึ่งไปแล้วรึ? ตอนนี้กำลังต่อกรกับอาณาจักรต้าคุน มันเหมือนว่าฟู่อี้นั้นได้เตรียมการเช่นนี้มาก่อนแล้ว เป็นแผนการที่จะสร้างชาติขึ้นมาจริง ๆ รึ?
เมื่อทุกคนอยู่ในห้องโถงกล้วยไม้แล้ว ทุกคนก็เริ่มหารือกันอีกครั้ง ทุกอย่างราวกับอยู่ในการคาดการณ์ของจงซาน ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามเอง ก็มีปัญหาภายในเช่นกัน ตลอดจนการรุกรานจากรัฐอื่น ตอนนี่จงซานได้วางแผนหลาย ๆ อย่าง ราวกับว่าเขาก็มีแผนการในใจอยู่แล้ว เขาที่ต้องการที่จะใช้เมืองเสวียนแห่งนี้ เผยให้เห็นความแข็งแกร่งของเขา.
"จงเทียน เจ้ากลับมาในครั้งนี้มีอะไรหรือไม่?"จงซานที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ จ้องมองไปยังบุตรบุญธรรมคนโตจงเทียน.
"ความจริงลูกกลับมาในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะกล่าวลาฟู่อี้."จงเทียนที่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวออกมา.
"อย่างงั้นรึ?"จงซานจ้องมองไปยังจงเทียน.
"หลายวันก่อนข้าได้สำเร็จระดับเซียนเทียน อาจารย์บอกกับข้าว่าพรสวรรค์ที่หมื่นปีถึงจะพบสักครั้ง เขาจึงต้องการนำข้าไปยังดินแดนแห่งหนึ่งที่เรียกว่า"ทวีปศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งที่นั่นมีสำนักหลักตั้งอยู่ ข้าต้องการไปฝึกฝนที่นั่นไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่ เช่นนั้นข้าจึงได้ขออาจารย์ กลับมาลาฟู่อี้ที่นี่ก่อน."จงเทียนที่ขมวดคิ้วและกล่าวออกมา.
"ดีแล้ว."จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น.
"แต่ว่า..."จงเทียนที่ต้องการกล่าวอะไรบางอย่างออกมา.
"เจ้าไม่จำเป็นต้องห่วงข้า ในเมื่อข้าเองก็อยู่ในระดับเซียนเทียนแล้ว ก็เหมือนกับปลาที่ว่ายในท้องทะเล เจ้าจงไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์ ฝึกฝนให้ดีเถอะ ด้วยอิทธิพลของข้า ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องก้าวไปถึงทวีปศักดิ์สิทธิ์ได้ เมื่อถึงเวลานั้น เมื่อเจ้าทรงพลังเพียงพอก็สามารถกลับมาช่วยข้าได้."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างหนักแน่น.
"ครับ."จงเทียนที่หายใจยาว ด้วยความวางใจ ในเมื่อฟู่อี้บอกว่าเขาแข็งแกร่งพอ ก็ทำให้เขาวางใจได้.
จงซานที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง"ทวีปศักดิ์สิทธิ์ อาจารย์ของเจ้าบอกว่าจะพาเจ้าเดินทางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์ สถานที่เรียกว่าทวีปศักดิ์สิทธิ์เป็นแบบใหนกัน เช่นนั้นสถานที่พวกเราอยู่นี่ พวกเขาเรียกว่าอะไรอย่างงั้นรึ?"
"อาจารย์ของข้าเองก็ไม่ได้เอ่ยถึงเช่นกัน ทว่าดินแดนที่พวกเราอยู่นี้ ถูกเรียกว่า เกาะหมาป่าสวรรค์."จงเทียนที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
เกาะหมาป่าสวรรค์?เป็นเกาะอย่างงั้นรึ? เป็นเกาะขนาดใหญ่มาก? คาดไม่ถึงเลยว่าที่แห่งนี้เป็นเกาะขนาดใหญ่?
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาก จากนั้นก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องภายในต่อ.
"หยิงหลาน ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้บัญชาการทหารของเมืองเสวียน."จงซานกล่าว
"ค่ะ."หยิงหลานที่พยักหน้าตอบรับด้วยท่าทางตื่นเต้น.
"จงเจิ้ง."จงซานที่จ้องมองไปยังบุตรบุญธรรมของเขา.
"ครับ จงเจิ้งที่เร่งรีบตอบรับคำในทันที.
"บางทีเจ้าอาจจะยังไม่รู้ ทว่าต้องรู้ด้วยว่าฟู่อี้ของเจ้านั้นได้ให้เจ้าศึกษาทักษะในการบริหาร และศึกษาความเป็นไปได้ต่าง ๆ หลายปีมานี้ ข้าให้เจ้ารับผิดชอบเกี่ยวกับการค้า ให้เจ้าเข้าใจเกี่ยวกับสินค้า รู้จักบริหารสินค้าและบริหารคน หลังจากนี้ข้าจะทำการสร้างชาติขึ้นมา และก่อตั้งราชวงศ์ผู้ปกครอง เจ้าเตรียมพร้อมแล้วรึยัง?"จงซานที่จ้องมองไปยังบุตรบุญธรรมพร้อมกับรอยยิ้ม.
บางที ยกเว้นหยิงหลาน จงเทียนและจงเจิ้งอาจจะได้ยินคำตอบที่ชัดเจนจากเขาเป็นครั้งแรก เกี่ยวกับการสร้างชาติ.
"ครับ ตั้งแต่เด็กแล้วข้าก็รอคอยวันนี้มาตลอด."จงเจิ้งกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"ดีเช่นนั้นจะต้องเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของผู้คน หยิงหลานจะรับผิดชอบดูแลกองทัพ ทว่าเจ้าจะต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับประชาชนทั่วไปในเมือง รักษาความสงบดูแลความปลอดภัยของคนในเมือง แผนการขึ้นอยู่กับเจ้า ที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัย สอดส่องดูแลความเป็นไปในเมืองทั้งหมด เจ้าจะต้องเป็นผู้ดูแลกองปราบ ตัดสินและลงโทษพวกเรา."จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.
"ครับ."จงเจิ้งที่รับคำสั่งมา.
"ส่วนเจ้าจงเทียน."จงซานที่จ้องมองไปยังจงเทียน.
"บุตรพร้อมแล้ว."จงเทียนที่กล่าวออกมาทันที.
จงซานที่นำศิลาหยินและศิลาหยางออกมาจากแหวนเก็บของพร้อมกับยื่นให้กับจงเทียนและกล่าวว่า"เจ้าเองเพิ่งก้าวไปถึงระดับเซียนเทียน ในตอนนี้ จงเร่งรีบบำเพ็ญ ให้ก้าวไปอีกระดับให้พร้อมที่จะรับมือกับเหล่าศัตรู."
"ครับ"จงเทียนที่รับมาในทันที แม้เขาค่อนข้างประหลาดใจเป็นอย่างมากที่เขาได้รับศิลาวิญญาณทั้งสองชนิดมา.
"อืม พวกเจ้าออกไปได้แล้ว."จงซานที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.
"รับทราบ."คนทั้งสามรับคำและจากไปในทันที.
ขณะที่ทุกคนจากไปแล้ว จงซานที่เอ่ยออกไปเบา ๆ "อันหวง เข้ามา."
"ขอรับ จู่เหริน."ปรากฏเงามืดขึ้นที่มุม ๆ หนึ่ง ก่อนที่เขาจะก้าวออกมาช้า ๆ ในชุดคลุมสีดำ.
"นั่ง."จงซานที่กล่าวต่ออันหวง.
"ครับ."อันหวงพยักหน้า พร้อมกับนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ถัดมาจากจงซาน.
"หลายวันมานี่ ข้าคิดว่าอันเย่ตังถูกส่งออกมาหมดแล้ว พวกเจ้าคงจะประจำการอยู่นอกเมือง?"จงซานสอบถาม.
"ครับ อันเย่ตังของพวกเราได้รวบรวมนักฆ่าเป็นจำนวนมากผสมรวมเข้ากับกองทัพแล้ว พวกเราได้แฝงตัวอยู่ในกองทัพได้อย่างสมบูรณ์ตราบเท่าที่จูเหรินสั่งการ พวกเราไม่ลังเลเลยถ้าจะเด็ดหัวเหล่าขุนพลของศัตรู ทว่าพวกเขาได้ร่วมมือกับตระกูลใหญ่และตระกูลราชวงศ์ซึ่งมีผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นสูง บางทีอาจจะไม่ใช่งานง่ายนัก."อันหวงที่คิดครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวออกมา.
" 12 ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนอย่างงั้นรึ? นับว่ามีไม่น้อย แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับคนพวกนี้ ผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนเอง ก็ยากที่จะรอดพ้นจากหน้าไม้เพลิงหลายพันได้ ทว่าผู้เชี่ยวชาญเซียนเทียนระดับสูงนั้น จำเป็นต้องใช้หน้าไม้แปดแรงวัวเท่านั้น พวกเขาย่อมไม่กล้าที่จะเข้ามารุกรานเข้ามาโดยไร้ซึ่งแผนการ ส่วนเหล่าขุนพลคนอื่น ๆ ข้าต้องการข้อมูลและรายชื่อพวกเขา ตลอดจนที่ตั้งตำแหน่งต่าง ๆ ของค่าย หากเสร็จแล้วให้ถอนตัวออกมาในทันที."จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ."อันหวงพยักหน้า.
สองวันหลังจากนั้น เมืองเสวียนทิศใต้ ภายในค่ายทหาร 12 ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนประชุมกันอีกครั้ง.
บรรพชนตระกูลซูเป็นคนเอ่ยปากกล่าวออกมาคนแรก "ผ่านมาหกวันแล้ว เหลียนเซียน เจ้าบอกว่าภายในเมืองจะเกิดโกลาหล และเมืองเสวียนจะพังทลายด้วยตัวเอง ตอนนี้ไม่เห็นมีวี่แววจะเกิดขึ้นเลย นอกจากนี้ ที่เหนือกำแพงเมือง คนทั่วไปยังช่วยกันสร้างเครื่องป้องกันมากขึ้นและก็มากขึ้นอีกด้วย."
ไทซ่างหวงตี้ ซูเหลียนเซียนขมวดคิ้วไปมา ภายในดวงตามีความกังวลแฝงอยู่ "บางทีข่าวที่ได้มาจากบุตรบุญธรรมของจงซาน อาจเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด เพื่อรบกวนการตัดสินใจขอพวกเรา."
太上皇Tàishànghuáng หวงตี้ที่สละราชสมบัติ.
"ไม่น่าจะใช่เช่นนั้น ฟู่หวง."หวงตี้ซูเจิ้งเต๋อที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"ทำไมอย่างงั้นรึ?"ทุกคนที่จ้องมองไปยังซูเจิ้งเต๋อ.
"บางที จงซานอาจจะไม่ได้บาดเจ็บหนักจริง ๆ ตอนนี้เหล่าคนทั่วไปเข้ามาช่วยเหลือการป้องกัน อาจจะเป็นเพราะกระทำตามคำสั่งจงซาน เพราะว่า แม้ว่าประชาชนเมืองเสวียนนั้นจะไม่ได้ซาบซึ้งในบุญคุณของรัฐต้าคุน ทว่าก็ไม่กล้าที่จะก่อกบฏ ตอนนี้กลับตัดสินใจที่จะกบฏ มีเพียงแค่เหตุผลเดียว คือจงซานออกมาแล้ว."ซูเจิ้งเต๋อที่เอ่ยปากออกมาทันที.
กับคำพูดของซูเจิ้งเต๋อนั้น ทุกคนต่างก็เห็นด้วย หากว่านี้เป็นการกระทำของจงซาน ก็ดูสมเหตุผล การที่ไม่เกิดจลาจล เนื่องด้วยมีศูนย์รวมจิตใจ หากปรกติทั่วไปประชาชนย่อมไม่กล้าที่จะก่อกบฏแน่นอน.
ท้ายที่สุดทุกคนต่างก็เห็นตรงกัน ไท่ซ่างหวง ซูเหลียนเซียนที่เอ่ยปากออกมา "พรุ่งนี้ ข้าจะนำกองกำลังไปท้าทายประตูทิศใต้ เพื่อดูว่าจงซานออกมาจริงหรือไม่?"
"อืม."ทุกคนต่างก็พยักหน้า.
เช้าวันถัดมา กองกำลัง 200,000 ได้ยกเข้ามาเตรียมเข้าโจมตีที่ประตูทิศใต้ นำมาโดย 12 ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียน ทุกคนต่างนั่งอยู่บนม้าศึก จ้องมองออกไปยังประตูเมืองที่สูงตระหง่าน
เหนือขึ้นไปบนป้อมปราการกำแพงเมือง หยิงหลานที่กุมกระบี่ยืนอยู่ จ้องมองอย่างไม่แยแส พื้นที่รอบ ๆ กำแพงเมืองนั้น ได้มีการติดตั้งเครื่องยิงหน้าไม้เอาไว้หมดแล้ว หยิงหลานที่ไม่ตื่นตกใจเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าที่ด้านนอกกำแพงเองก็เต็มไปด้วยคูน้ำ แม้ว่าจะไม่ได้กว้างขวางนัก ทว่าก็ยากที่กองกำลัง ม้าศึกจะเข้ามาได้ และกองกำลังด้านหน้าตอนนี้ได้ทำการล้อมประตูเมืองทิศใต้อยู่เพียง 200,000 นายไม่ใช่กองกำลังทั้งหมด.
12 ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียน และมีชายอีกหนึ่งคนที่มีอายุราว ๆ 40 ปี ซูเหลียนเซียน ที่นั่งอยู่บนม้าศึกเป็นผู้นำทัพมาในครั้งนี้.
"จงซาน เจ้าอยู่ใหน?"ซูเหลียนเซียนที่ตะโกนคำรามออกไปยังกำแพงเมืองที่อยู่ด้านหน้า.
ด้วยการตะโกนของผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนนั้น สามารถได้ยินกว่าสิบลี้ ไม่ต้องเอ่ยเลยว่า คนทั่วทั้งเมืองต่างก็ได้ยินเสียงคำรามที่ทรงพลังนี้ทั้งหมด.
ในเมืองเสวียน ในเวลาเดียวกัน จงซานก็เคลื่อนไหว เดินทางมายังประตูเมืองทางทิศใต้ด้วยเช่นกัน.
ภายใต้การควบคุมสถานการณ์ภายในเมืองโดยจงเจิ้งโดยเฉพาะ ประชาชนทั่วไปส่วนมากจะอยู่ในบ้าน หรือโรงแรม ไม่ได้มาวุ่นวายอยู่รอบ ๆ ถนน จงซานที่ผ่านถนน มีประชาชนมากมายหลากหลายต่างก็เผยสีหน้าที่ชื่นชม เทิดทูนเขาเป็นอย่างมาก.
ทุกคนรอบทิศทางมีจำนวนไม่น้อย ที่อยู่ตามร้านค้า พ่อค้าและคนงานต่างก็ยืนให้ความเคารพเขาอย่างที่สุด ขณะที่จงซานกำลังเดินทางไปยังหอคอยประตูเมืองทิศใต้.
"เซียนเซิงจง."
"ประมุขจง."
เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญจงซาน ดังก้องไปรอบ ๆ .
สภาพภูมิประเทศของเมืองเสวียนนั้นไม่ธรรมดา คูน้ำรอบ ๆ เมืองเสวียนนั้น ทำให้ที่ด้านในเมืองเป็นคูน้ำสูงขึ้นไปเป็นธรรมดา จงซานที่ก้าวขึ้นไปบนประตูเมือง โดยมีทหารผู้คุ้มกันอยู่รอบ ๆ ด้วย.
เมื่อจงซานเดินทางมาถึงป้อมปราการประตูเมืองทิศใต้ ขณะที่เข้ายืนอยู่บนป้อมปราการก็สามารถที่จะมองเห็นกองกำลังทั้งหมด.
หยิงหลานที่เห็นจงซานเดินทางมา ทันใดนั้นก็กุมกระบี่ประจำการเตรียมพร้อมเอาไว้.
"จงซาน เจ้ายังจำข้าได้อยู่รึ?"ซูเหลียนเซียนที่นั่งอยู่บนม้าศึกจ้องมองขึ้นไปบนป้อมปราการ.
และคนอื่น ๆ ตอนนี้ต่างก็เห็นจงซานก้าวออกมาแล้วเช่นกัน
สายตาที่เย็นชาจ้องมองอย่างเย็นชา กวาดตามองเหล่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียน ก่อนที่สายตาสุดท้ายจะจับจ้องไปที่ซูเหลียนเซียน.
"ซูเหลียนเซียน."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างขึงขัง.
"จงซานเจ้ายังจำข้าได้อยู่รึ?เจ้าไม่รู้สึกละอายใจบ้างรึไงที่ได้กระทำอาชญากรรม ซ่องสุมกองกำลังทหาร และต่อต้านการปกครองของอาณาจักรต้าคุน เวลานี้ข้าและคนอื่น ๆ ได้เตรียมการกำจัดเจ้าที่บังอาจเป็นโจรกบฏแล้ว เจ้ายังมีอะไรจะแก้ตัวอีก."ซูเหลียนเซียนที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.
ซูเหลียนเซียนไม่เพียงตะโกนให้จงซานได้ยินเท่านั้น เขายังจงใจให้เหล่าทหารที่อยู่ด้านหลังได้ยินด้วย แม้ว่าจงซานจะเป็นพ่อค้า ทว่าเขากลับมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในอาณาจักรต้าคุน เขามีเงินมากมายที่สุด และยังกระทำการสนับสนุนการกุศลนับไม่ถ้วน คนทั่วทั้งรัฐหนึ่งในห้าของประชาชนทั่วไป ต่างก็ได้รับการช่วยเหลือจากเขา และแน่นอนว่าภายในกองทัพนั้นก็ยังมีคนไม่น้อยที่ยังคงจงรักภักดีต่อจงซาน การที่เคลื่อนทัพออกมาจัดการจงซานเช่นนี้ แน่นอนว่ามีโอกาสที่จะนำความพินาศและความอับอายมาสู่ตัวเองสูงเช่นกัน.
สายตาของจงซานที่จับจ้องมองไปยังซูเหลียนเซียน.
"ซูเหลียนเซียน เจ้าคือไท่ซางหวงตี้ของอาณาจักรต้าคุน ในอดีตนั้นเจ้าเคยพูดคุยกับข้าที่ห้องโถงกล้วยไม้ เจ้าได้ดื่มสุราสาบานและให้คำมั่นกับข้าว่า ตราบเท่าที่ตระกูลซูไม่เข้าโจมตีข้า, ข้าจงซานก็จะไม่มีวันทรยศอาณาจักรต้าคุน และข้าเองก็ไม่เคยก่อกบฏเลยแม้แต่น้อย ข้าเป็นเพียงตระกูลพ่อค้า ไม่คาดคิดเลยว่าวันนี้เจ้าจะตะบัดสัตย์ นำกองกำลังกว่า 800,000 คนเข้ามาสังหารข้า."จงซานที่กล่าวออกไปเสียงดัง.
กับคำพูดของจงซาน ก่อนที่ซูเหลียนเซียนจะได้กล่าวอะไรออกไป จงซานก็ได้กล่าวว่าซูเหลียนเซียนนั้น ว่าเป็นคนละเมิดสัญญาก่อน แล้วเช่นนี้จะให้เขาทำเช่นไร?
"ในความเห็นของข้า เจ้าเดินทางมาหาข้า คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะส่งมือสังหารมา พร้อมกับสังหารบุตรบุญธรรมของข้าไป เจ้ากล้ามาก!"จงซานที่ตะโกนออกไปเสียงดังชัดเจน.
เจ้ากล้ามาก!
ทุกคนถึงกับหยุดชะงัก กับคำพูด"เจ้ากล้ามาก"คำพูดเช่นนี้เป็นคำพูดที่จงซานนั้นยืนอยู่เหนือหวงตี้ การที่เขากล่าวออกมาเช่นนี้ต่อซูเหลียนเซียน เป็นหนึ่งในอุบายที่จะใช้โค่นบัลลังก์อย่างงั้นรึ?