ตอนที่แล้วChapter 93 กรอง.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 95 เก็บเกี่ยว แบกรับอาณาจักรต้าคุน?

Chapter 94 จงซานฟื้น.


"จงยี จงเซ่อ จงเจิ้ง ข้าเหลือเพียงพวกเจ้าสามคนเป็นพี่น้อง!"จงเทียนที่กล่าวออกมาด้วยความดีใจ.

"ต้าเกอ พวกเราอยู่ข้างท่าน ข้าและต้าเกอต่างก็เป็นพี่น้องกัน ฟูอี้ที่ดูแลพวกเรามาเป็นอย่างดี มีสุขร่วมเสพมีทุกข์ก็ย่อมร่วมแบ่งปัน ความยากลำบากที่ผ่านมาและความทุกข์ พวกเราก็จะต้องผ่านไปด้วยกัน ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็คือพี่น้องกัน."ชายอ้วนที่กล่าวออกมาในทันที.

"เหมือนที่จงยีกล่าว หากว่าไม่มีฟูอี้แล้ว ก็คงไม่มีข้าจงเซ่อในวันนี้ "ชายวัยกลางคนพยักหน้า.

และสุดท้าย ชายอายุสามสิบ ที่มีอายุน้อยที่สุดจงเจิ้ง กล่าวออกมาอย่างจริงจัง "ในอดีตนั้น เมื่อข้ามีอายุหกปี แม้ว่าจะจำมันได้อย่างเลือนลาง ทว่าข้ารู้ดีวันที่พ่อแท้ ๆ ของข้าตายไป แม่ของข้าถูกจับไปเป็นทาสที่เรือนค้าทาส แม่ที่ไม่ยอมพวกมันถูกลงโทษจนตายไปในโรงค้าทาส และข้าเองก็ถูกจับไปเป็นทาสใช้แรงงานด้วยเช่นกัน เป็นฟูอี้ที่ช่วยข้าไว้ ด้วยความโกรธเกรี้ยวของฟู่อี้ เขาได้ปลดปล่อยทาสทั้งหมดและไล่ล่าสังหารพ่อค้าทาสทุกคน เขาได้ฝังศพพ่อและแม่ของข้าเอาไว้ด้วยกัน ในเวลานั้น ชีวิตของข้าก็เป็นของฟู่อี้แล้ว ข้าคือคนตระกูลจง ตายไปก็เป็นคนตระกูลจง."

ไม่ต้องบอกว่าจงเจิ้งนั้นซาบซึ้งในตัวจงซานขนาดใหน ไม่จำเป็นต้องอธิบายใด ๆ ออกมา จงเทียนที่พยักหน้าให้.

"พวกเจ้ากลับไปพักก่อน ศัตรูยังไม่โจมตีเมืองในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องกังวลไว้ให้ฟูอี้ได้สติเมื่อไหร่ ค่อยหารือกันอีกครั้ง."จงเทียนที่เอ่ยปาก.

"ครับ"คนทั้งสามพยักหน้า ก่อนที่จะเดินออกไป.

พี่น้องทั้งสามคนที่เดินออกไปนั้น สายตาของจงเทียนที่เพ่งพิศ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ฉลาดเท่ากับจงซาน แต่ก็สามารถบอกได้ว่า มีใครบางคนในกลุ่มที่เหลือกำลังโกหก.

เย็นวันหนึ่ง ในเมืองเสวียน มีลูกธนูมากมายที่ถูกยิงเข้ามา และมีข้อความผูกติดมาด้วย ซึ่งกระจายไปทุกทิศทุกทาง.

แม้แต่ในห้องโถงกล้วยไม้ก็มีด้วย มีผ้าที่สลักข้อความถูกปักเอาไว้บนโต๊ะ.

ซึ่งเป็นข้อความเขียนด้วยลายมือว่า"ด้วยความเมตตาของฟ้า คำสั่งหวงตี้ผู้ปกครองต้าคุน จงซาน ที่ปกครองเมืองเสวียน ได้สร้างความเป็นปฏิปักษ์ต่อตระกูลราชวงศ์ สร้างทหารเพื่อสนับสนุนการปกครองด้วยตัวเอง สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นผู้ปกครอง แม้ว่าได้รับการตักเตือนไปแล้วหลายครั้ง ยังปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม แม้จะให้เวลาแล้วก็ตาม ดินแดนแห่งนี้ไม่ใช่ดินแดนในปกครองของของโจรชั่วจงซาน เพื่อให้ทุกพื้นที่อยู่ในระเบียบวินัย ไม่มีโจรร้ายต่อต้าน และเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดี เช่นนั้นข้าจึงได้นำกองกำลัง 800,000 นาย เพื่อเข้ายึดดินแดนในปกครองของจงซาน ขุดรากถอนโคน อาศัยอำนาจของสวรรค์เพื่อพิทักษ์ดินแดน อย่างไรก็ตาม ภายในเมืองเสวียนนั้นมีคนทั่วไป ซึ่งเป็นประชาชนของรัฐต้าคุน ข้าเกรงว่าทุกคนจะได้รับคมดาบจากเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับเคราะห์ พวกเราจะทำการปิดล้อมไม่เข้าโจมตี และอนุญาตให้กับคนทั่วไปออกมาจากด้านในเมืองได้ ทว่าหากยังไม่ยินดียอมแพ้และออกมา กองกำลังทั้ง 800,000 นายจะบุกเข้ายึดเมืองเสวียน โดยจะไม่คำนึงถึงมนุษย์ธรรมอีกต่อไป ทุกชีวิตจะต้องถูกลงโทษ และขอประกาศว่าหากใครก็ตามสามารถนำศีรษะของจงซานออกมาได้ จะได้รับเงินตอบแทนและแต่งตั้งให้เป็นหวังหูโหว และใครก็ตามสนับสนุนจงซาน จะถูกลงโทษในฐานะกบฏ."

หลังจากที่ได้อ่านลูกศรข้อความที่ถูกยิงเข้ามาในเมืองแล้ว จงเทียนแค่นเสียง "ดี ทำได้ดี เขียนได้ดี."

"ต้าโป๋."ที่ด้านนอกห้องโถงนั้น หยิงหลานที่เร่งรีบเข้ามา บนใบหน้าที่แสดงท่าทางกระวนกระวาย ท่าทางไม่ค่อยดีนัก.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงเทียนที่วางลูกศรข้อความในมือของเขาลงและจ้องมองด้วยความสงสัย.

"อืม เหมือนที่พวกเราได้คุยกัน โป๋โป๊ะที่พวกเราได้คาดเดานั้น จะต้องมีใครที่เป็นผู้ทรยศอยู่ในพวกเขาจริง ๆ  ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่จงจินออกไป คนทั้งเมืองก็รับรู้ในทันทีว่ามีเหล่าบุตรบุญธรรมของกู่เหยี่ยเยี่ย จากไปจากคฤหาสน์จง มีคนมากมายที่ต้องการออกนอกเมืองเพื่อยอมแพ้ พวกเขาได้มาอยู่ที่หน้าประตู ข้าขวางทางพวกเขาไว้แล้ว และก่อนหน้านี้ข้าได้ไปสืบข้อมูลมาก่อนแล้วด้วย"หยิงหลานที่แสดงท่าทางตื่นตระหนกอยู่เหมือนกัน.

"ได้ความว่าอย่างไร?"จงเทียนที่ถามออกมาในทันที.

"ตามข้อมูลที่ข้าได้ แน่นอนว่าไม่ผิดแน่ คาดไม่ถึง เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริง ๆ  จงจินนั้นเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉียน ตระกูลเฉียนที่ได้วางแผนตั้งแต่เขายังสี่ขวบ ต้องการที่จะให้เขาเข้ามาสร้างความวุ่นวายในคฤหาสน์จง ดูเหมือนจะเป็นแผนการที่ต้องการโค่นล้มกู่เหยียเยียตั้งนานแล้ว ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะอดทนได้ถึงขนาดนี้."หยิงหลานที่ถอนหายใจ.

ได้ยินคำพูดของหยิงหลานจงเทียนที่พยักหน้า นั่นเป็นเหตุผลที่จงจินโวยวายเสียงดัง กล่าวหาเรื่องจากไป.

"คือ."หยิงหลานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ยังมีอะไรอีกรึ?"จงเทียนที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"เกี่ยวกับข่าวที่ข้าได้มา จงยีนั้นเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเจา ดูเหมือนว่าเขาก็เป็นคนที่แทรกซึมเข้ามาในคฤหาสน์จงเช่นกัน."หยิงหลานกล่าว.

ได้ยินคำพูดของหยิงหลานแล้ว จงเทียนที่ค่อย ๆ ยกชาขึ้นจิบข้า ๆ  เงียบงันอยู่ จนถึงตอนนี้จงยียังคงอดทนรออยู่อย่างงั้นรึ?

"พ่อบ้าน เรียกจงยี จงเซ่อและจงเจิ้ง มา."จงเทียนที่วางถ้วยน้ำชาลง มีความโกรธในน้ำเสียง.

"ครับ."พ่อบ้านที่ตอบรับคำ.

"ช้าก่อน."จงเทียนที่คิดอะไรได้กล่าวหยุดพ่อบ้านในทันที.

เขาที่เดินออกไปช้า ๆ ก่อนที่จะหยุดที่หน้าห้องโถง.

เขาที่ครุ่นคิดไปมา จงเทียนกล่าวต่อว่า "ไม่ต้องแจ้งพวกเขา เจ้าจงไปปล่อยข่าวกับบ่าวรับใช้ของพวกเขา เปิดเผยออกมาว่าหยิงหลานได้ข้อมูลเกี่ยวกับข่าวของจงจิน เปิดเผยให้พวกเขาได้รู้ว่าที่ข้าปล่อยจงจินไปนั้น เพราะได้รับปากกับเขาเพราะเขาได้ให้ข้อมูลสำคัญอะไรบางอย่างออกมาว่ามีคนทรยศอยู่ภายใน บอกว่าตอนนี้ข้ากำลังสืบสวนอย่างเต็มทีและกำลังจะจัดการพวกเขา และจะไม่ปล่อยพวกเขาไปอย่างแน่นอน."

"รับทราบ."พ่อบ้านที่รับคำสั่งในทันที.

"ต้าโป๋ว ท่านต้องการให้คนทรยศเผยหางออกมาเองอย่างงั้นรึ?"หยิงหลายสอบถามออกมา.

"ใช่แล้ว ข้าไม่มีเวลาที่จะหาหลักฐานมาตัดสินพวกเขา ข้าต้องการจะดูว่า พวกเขาจะทำอย่างไรต่อ? ข้าไม่ต้องการให้มีพวกทรยศยังแฝงตัวอยู่."จงเทียนที่ส่ายหน้าไปมาพลางทอดถอนใจ.

พวกเขาทั้งสาม จะต้องมีคนเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน.

ในคืนนั้น จงเทียนและหยิงหลานที่อยู่ปรึกษากันในห้องโถงกล้วยไม้.

ท้ายที่สุด เมื่อถึงตอนเจ้า พ่อบ้านก็เข้ามารายงาน.

"ต้าเส้าเหยียและท่านหญิง กับข่าวจงจินที่ได้ปล่อยออกไปนั้น เมื่อเช้านี้ เส้าเหยียจงยีและเส้าเหยียจงเซ่อ เขาได้ลอบแอบออกนอกเมืองไปแล้ว."พ่อบ้านกล่าวอย่างเคารพ.

จงเทียนที่เงียบไปชั่วครู่ พลางถอนหายใจเบา ๆ  "จำไว้ คนที่ออกไปจากเมืองนั้น ไม่ใช่เส้าเหยียของคฤหาสน์จงอีกต่อไป ในคฤหาสน์จงนับจากนี้ไปมีเพียงข้าและจงเจิ้งเท่านั้น."

"ขอรับ."พ่อบ้านพยักหน้า.

"ไปเรียกจงเจิ้งเข้ามา ปรึกษาเกี่ยวกับเหตุในเมืองและต้านศัตรู."จงเทียนกล่าว.

"ครับ."พ่อบ้านพยักหน้าและเดินออกไป.

.........

เมืองเสวียนทิศใต้ กระโจมค่ายทหาร.

ในเวลานี้ คนของคฤหาสน์จง เหล่าบุตรบุญธรรมของจงซาน ต่างก็อยู่ในกระโจมขนาดใหญ่นี้แล้ว มีด้วยกันทั้งหมด 18 คน และยังมีอีกสี่คน รวมจงจิน จงยีและจงเช่อ พวกเขาที่อยู่ในกระโจมของตระกูลของพวกเขาเอง ต้องไม่ลืมว่าพวกนั้นเป็นคนที่ถูกส่งเข้าไปแทรกซึมโดยตระกูลใหญ่.

พวกเขาอยู่กันครบหน้า ยกเว้นบรรพชนตระกูลซู ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนต่างก็อยู่ด้านในทุกคน.

พวกเขาที่จ้องมองไปยังคนทั้ง 18 ที่ยืนก้มหน้าก้มตา.

"แม้แต่บิดาตัวเองยังทรยศ ไม่ต้องบอกเลยว่าในอนาคต พวกเขาก็จะทรยศพวกเรา? นอกจากนี้ บางทีอาจจะเป็นแผนการของจงซานที่เตรียมมาก็ได้."หวงตี้ซูเจิ้งเต๋อขมวดคิ้วไปมา.

ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย.

"เหนือหัว พวกเราเป็นคนบริสุทธิ์ ทำไมต้องกล่าวถึงเรื่องเมื่อก่อนด้วยล่ะ ตอนนี้พวกเรายินดีที่จะยอมแพ้ เรื่องอดีตพวกเราได้ทิ้งไปแล้ว."

"เหนือหัว โปรดอภัยแก่พวกเรา ตอนนี้พวกเราไม่เกี่ยวข้องกับจงซานอีกต่อไปแล้ว.

"เหนือหัว พวกเราแต่ละคนยังมีความสามารถหลายอย่าง สามารถที่จะรับใช้อาณาจักรต้าคุนได้."

ซูเจิ้งเต๋อที่จ้องมองคนกลุ่มนี้อย่างไม่แยแส ที่มุมปากแสดงท่าทางเหยียดหยันด้วยซ้ำ.

ซูเจิ้งเต๋อที่กำลังจะกล่าวอะไร ขันทีที่อยู่ข้าง ๆ  ก็กล่าวออกมาในทันที."เหนือหัว."

เขาที่หันหน้าไปหาขันที่เฒ่า ซูเจิ้งเต๋อที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย บนใบหน้าที่ไร้อารมณ์."ขันทีเหว่ยมีอะไรอย่างงั้นรึ?"

ขันทีเหว่ยนั้น เดิมทีเขามีนามว่าเหว่ยไท่จง ตอนนี้เป็นผู้ดูแลตำหนักราชวงศ์ทั้งหมด ทว่าที่จริงเขาเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียน นอกจากนี้เขายังเป็นคนดูแลซูเจิ้งเต๋อตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นซูเจิ้งเต๋อค่อนข้างเคารพเขาทีเดียว.

"ข้าเคยเอ่ยกับฝ่าบาทมาก่อนแล้ว ตั้งแต่ที่ข้าเข้ามาในตำหนัก ข้ากับจงซานเป็นศัตรูที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ตอนนี้เมื่อเหล่าบุตรบุญธรรมเขาออกมาเอง หวังว่าฝ่าบาทจะมอบให้ข้าเป็นคนจัดการ "ขันทีเหว่ยที่โค้งคำนับด้วยความเคารพ.

เขาที่จ้องมองไปยังเหว่ยไท่จง ซูเจิ้งเต๋อก็พยักหน้า และมองไปยังคนอื่น ๆ  ซึ่งก็ไม่มีใครค้านด้วยเช่นกัน.

"ดี มอบคนเหล่านี้ให้เจ้า."ซูเจิ้งเต๋อพยักหน้า.

"ขอบพระทัยฝ่าบาท."เหว่ยไท่ส่งที่กล่าวอย่างไร้อารมณ์.

"อืม เอาล่ะ ให้พวกเขาออกไปได้แล้ว พวกเรากำลังจะหารือเกี่ยวกับข่าวที่ได้รับมา."ซูเจิ้งเต๋อกล่าว.

"ดี."ทุกคนที่พยักหน้า กับข่าวล่าสุด ดูเหมือนว่ามันจะช่วยให้พวกเขายึดเมืองเสวียนได้ง่ายขึ้น.

เมื่อทุกคนออกมาได้แล้ว ขันทีเหว่ยไท่จง หรี่ตาจ้องมองไปยังพวกเขา เขาที่โบกมือออกไปในทันที ไม่มีโอกาสให้ได้ร้องออกมาด้วยซ้ำ ทั้ง 18 คนก็ถูกสังหารไปในทันที.

เขาที่นำผ้าเช็ดหน้าออกมา พร้อมกับเช็ดโลหิตที่เปื้อน ใบหน้าท่าทางของเขาที่เปลี่ยนเป็นโหดร้ายเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะทอดถอนหายใจออกมา พร้อมกับคิดอยู่ในใจ "บุตรบุญธรรมของเจ้าอย่างงั้นรึ? ถึงจะออกมาจากคฤหาสน์จงแล้ว ถึงจะไม่ใช่คนตระกูลจง เป็นเพียงแค่พวกทรยศ ทว่าข้าก็ต้องฆ่าพวกคนชั่วพวกนี้ให้หมดไป."

ภายในคฤหาสน์จง ห้องลับที่ร่างแยกเงาฝึกฝนอยู่นั้น ทุกอย่างข้างในนี้เต็มไปด้วยความมืดมิด.

สามวันผ่านมาแล้ว ที่จงซานหมดสติ ร่างแยกเงาก็กลายเป็นเพียงฝุ่นผง เป็นเหมือนกับฝุ่นที่ลอยไปมาในอากาศ ทว่าตอนนี้ร่างเขากำลังรวมตัวกันขึ้นอย่างช้า ๆ  และปรากฏเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอีกครั้ง.

ร่างแยกเงาจงซานที่รวมตัวเป็นรูปเป็นร่างนั้น ก็นั่งสมาธิหลับตา บำเพ็ญโคจรพลังในทันที.

ในเวลาเดียวกันนั้น ที่สำนักไคหยาง ติงสุ่ยเซี่ยที่พักของเขา จงซานที่นอนอยู่บนเตียง.

ร่างหลักจงซานที่ค่อย ๆ ได้สติกลับมา เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ .

ภาพที่ดูเลือน ๆ  ปรากฏคนห้าคน อยู่ภายในห้องของเขา ใบหน้าของเทียนหลิงเอ๋อที่ขาวซีดนั่งอยู่ข้าง ๆ  เทียนซวินจื่อ กู่ซ่างจื่อและยังมีเสวียนซวินจื่อที่อยู่ด้านหลังเทียนหลิงเอ๋อ ทว่ายังมีหญิงสาวที่งดงามอีกคน จงซานไม่เคยเห็น ทว่าท่าทางสายตาของนางดูไม่เป็นมิตรนัก.

"ฟื้นแล้ว เขาฟื้นแล้ว จงซานฟื้นแล้ว."เทียนหลิงเอ๋อที่ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของนางที่บวมปูดเต็มไปด้วยน้ำตา.

จงซานที่จ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อ เห็นใบหน้าที่ซูบผอมของนาง หัวใจที่แห้งแล้งมาหลายปี ถึงกับสั่นสะท้านทีเดียว.

หลังจากที่เทียนหลิงเอ๋อตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นางก็หลับตาและฟุบลงเช่นกัน.

"หลิงเอ๋อ."หญิงสาวชุดดำที่เร่งรีบพุ่งเข้ามา พร้อมกับประคองหลิงเอ๋อไว้ในทันที.

จงซานที่ต้องการจะยกมือรับเทียนหลิงเอ๋อ ทว่าร่างกายของเขากับเจ็บปวดไปทั่วร่าง ไม่สามารถขยับได้เลย ทว่าเทียนหลิงเอ๋อก็มีหญิงสาวในชุดสีดำประคองเอาไว้แล้ว.

"หลิงเอ๋อเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู ข้าจะนำนางกลับไปเอง "เนี่ยชิงชิงกล่าว พร้อมกับเร่งรีบนำนางออกไปในทันที.

จงซานที่เห็นเทียนซวินจื่อไม่ได้ขวางเอาไว้ และยังถอนหายใจเบา ๆ  ในเมื่อเทียนซวินจื่อยังวางใจ เทียนหลิงเอ๋อย่อมไม่มีอันตรายใด ๆ .

เสวียนซวินจื่อและกู่ซ่างจื่อ ดูเหมือนว่าพวกเขาเองก็เป็นห่วงเทียนหลิงเอ๋อ หลังจากที่เนี่ยชิงชิงอุ้มเทียนหลิงเอ๋อออกไป พวกเขาก็ออกจากห้องของจงซานด้วยเช่นกัน ซึ่งเหลือเพียงแค่เทียนซวินจื่อคนเดียวที่ยังอยู่ข้าง ๆ จงซาน.

"ท่านประมุข ศิษย์ทำภารกิจล้มเหลว."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างยากลำบาก.

"ไม่ เทียนหลิงเอ๋อได้บอกข้าทุกอย่างแล้ว เจ้าทำได้ดี ข้าต้องขอบใจเจ้าที่เดินทางไปกับหลิงเอ๋อ หากไม่มีเจ้า หลิงเอ๋อไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร ขอบใจเจ้ามาก."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

สามวันมานี้ เทียนหลิงเอ๋อที่ได้เล่าเรื่องราวทุกอย่างที่นางได้ประสบมา ทั้งเรื่องที่นางได้ไปเจอชายชราที่น่ากลัวในพิษเหมันต์ที่ไม่ตาย และยังมีคนชั่วเมียวเซียนเหริน ผู้ควบคุมศพเซียนเซิงซือ แม่ทัพเหล่ยติง หวงตี้ที่น่าสะพรึงกลัว การผจญภัยในค่ายกลแปดประตูกุญแจทอง ไข่ของแมงป่องอสนี และยังมีอีกหลาย ๆ เรื่อง ไม่คาดคิดว่าจงซานจะผ่านมาได้ เทียนหลิงเอ๋อที่ไม่ได้รับอันตราย ทั้งที่แต่ละเรื่องแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะปลอดภัย อีกอย่างจงซานก็มีพลังฝึกตนที่ไม่สูง เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริง ๆ .

เทียนซวินจื่อต้องขอบคุณจงซานอย่างแท้จริง หากว่าไม่มีจงซานแล้วล่ะก็ ครั้งนี้เทียนหลิงเอ๋ออาจจะไม่ได้กลับมา.

"ศิษย์ล้มเหลว."จงซานที่กล่าวออกมาทันที.

"ไม่ จะบอกตามจริง ครั้งนี้สายฟ้าได้ทำการชำระล้างร่างกายของเจ้า แม้ว่าเจ้าจะได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัส แต่มันก็ทำให้ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งขึ้น แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้พรสวรรค์ของเจ้าเพิ่มขึ้น ทว่ามันก็ไม่ได้เสียเปล่า มันช่วยทำให้เจ้าฝึกฝนได้ดีขึ้น เมื่อไหร่ที่เจ้าฟื้นฟูหายดีแล้ว ข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการ."เทียนซวินจื่อที่กล่าวอย่างจริงจัง.

ได้ยินคำมั่นที่เทียนซวินจื่อให้มา ภายในใจของจงซานรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก เขาตื่นเต้นดีใจ "ขอบคุณท่านประมุข ไม่ ๆ  ขอบคุณท่านอาจารย์."

ได้ยินจงซานกล่าวเทียนซวินจื่อก็พยักหน้าให้.

"เจ้าพักผ่อนเถอะ ข้าจะไปดูหลิงเอ๋อ."เทียนซวินจื่อกล่าว.

"ครับ"จงซานที่กล่าวตอบรับในทันที.

หลังจากที่เทียนซวินจื่อเร่งรีบไปแล้ว เรื่องของหลิงเอ๋อก็ไม่จำเป็นต้องกังวล จงซานที่สูดหายใจเข้าลึก ๆ  ก่อนที่จะตะเกียกตะกายพยายามลุกขึ้นมา พร้อมกับนั่งสมาธิ แม้ว่าร่างกายของเขาจะเจ็บปวดไปทั่วร่าง ทว่าด้วยเคยชินกับผลกระทบของวิชากายาเทพอสูร ทำให้เขาสามารถทนได้.

เขาที่โคจรพลังไปทั่วร่าง ดูเหมือนว่าปราณแท้ของเขาจะเหลืออยู่แค่หนึ่งในสิบเท่านั้น ทว่ามันบริสุทธิ์มาก สภาพของมันที่ดูเหมือนกับหมอกไปเลยทีเดียว.

เซียนเทียนระดับห้ารึ? ทะลวงผ่านระดับ? จงซานที่ค่อนข้างประหลาดใจกับปราณแท้ที่เปลี่ยนไป ระดับห้า และยังเป็นระดับห้าเซียนเทียนขั้นปลายอีกด้วย ด้วยการอดทนความเจ็บปวดมาแปดวัน ปราณแท้ก็ถูกกลั่นด้วยสายฟ้าอย่างไม่คาดคิด.

อีกเพียงแค่หนึ่งขั้น เขาก็จะสามารถสร้างแกนแท้ได้แล้ว เมื่อถึงเวลานั้นพลังของเขาก็จะก้าวกระโดด นอกจากนี้ จงซานสัมผัสได้ ปราณแท้ของเขานั้นมีกลิ่นอายของสายฟ้าปนอยู่ภายในอย่างไม่คาดคิด.

สุขซุกซ่อนโศก โศกพึ่งพิงสุข สุขท่ามกลางความทุกข์ ทุกข์ท่ามกลางความสุข คำกล่าวนี้กล่าวไม่ผิด แม้ว่าเขาจะไม่ได้บุพผาอสนี ทว่าในตอนนี้เขาก็สามารถเก็บเกี่ยว ไม่ได้ด้อยไปกว่าบุพผาอสนีเลย.

ด้วยการรักษาบาดแผลช้า ๆ  ทำให้ปราณแท้ของเขากำลังเพิ่มขึ้น.

เมื่อร่างหลักฟื้น ร่างแยกเงาก็ฟื้นฟูเสร็จสิ้นด้วยเช่นกัน ด้วยปราณแท้ที่บริสุทธิ์คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะสามารถยกระดับเขาได้ หลังจากที่รวบรวมทำให้ปราณแท้มั่นคงก็ทำให้เขานั้นก้าวไปถึงเซียนเทียนระดับห้าขั้นปลายได้.

ร่างแยกเงาเองที่เผยยิ้มออกมาอย่างไร้ทุกข์ ก่อนที่จะยืนขึ้นและเปิดประตู และเดินออกมาช้า ๆ .

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด