Chapter 9 วิชากายาเทพอสูร.
มีถ้ำแห่งหนึ่งอย่างงั้นรึ?
ดวงตาของเหล่าเยว่จื่อจงเป็นประกายจ้องมองเข้าไปในถ้ำ ชักมีดพกออกมา ก่อนที่จะค่อย ๆ ย่องเข้าไปในถ้ำ.
ปากถ้ำนั้นเพียงพอที่จะให้คน ๆ หนึ่งเข้าไปได้ และรอบ ๆ นั้นเป็นศิลาที่ซ้อนกันเป็นระเบียบ ด้านนอกนั้นดูเหมือนกับถ้ำธรรมดาทั่วไป ทว่าเหล่าเยว่จื่อจงกับสัมผัสได้ว่าพิษมาลาเลียนั้นไม่สามารถเข้ามาในถ้ำได้.
ยุงพิษไม่สามารถเข้ามาในถ้ำอย่างงั้นรึ?ดูเหมือนว่าจะมีพลังที่มองไม่เห็นได้ขวางกั้นพิษมาลาเลียเอาไว้.
เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ถึงกับทำให้หัวใจของเหล่าเย่จื่อจงบีบรัด นี่เขาควรจะเข้าไปข้างในหรือไม่?
ภายในถ้ำนั้นอาจจะมีสมบัติล้ำค่าอยู่ ทว่าอาจจะมีอันตรายที่น่าหวาดหวั่นอยู่ด้วยเช่นกัน หากว่ามีอันตรายที่หนักหนาซ่อนอยู่ล่ะ เช่นนั้นหากว่าเขาเข้าไป ก็มีแต่ต้องตายอย่างแน่นอน ทว่าหากว่ามันเป็นถ้ำเปล่าละก็ เช่นนั้นก็นับว่าล้ำค่ามาก เขาที่กำลังครุ่นคิดอย่างระมัดระวังทว่าก็ไม่สามารถตระหนักได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตใดในนั้น.
เขาที่เพิ่งก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนได้ไม่นานนับว่าเป็นระดับอ่อนแอที่สุดในระดับเซียนเทียน เช่นนั้นหากว่าเจอสัตว์ร้ายเขาก็จะถูกสังหารทันทีที่เดินเข้าไป เวลานี้กำลังกายของเขาได้ฟื้นคืนกลับมาบางส่วนแล้วทางที่ดีเร่งรีบจากไปดีกว่า.
ขณะที่เหล่าเยว่จื่อจงกำลังคิดใคร่ครวญพร้อมที่จะจากไปอยู่นั้น.
"เซี่ยงเฉิน เจ้ากำลังจะทำอะไร?" ทันใดนั้น เสียงที่โกรธเกรี้ยวคำรามลั่นดังผ่านออกมาจากภายในถ้ำ.
เหล่าเยว่จื่อจงที่รั้งรอ กำมีดสั้นแน่น และใช้วิชาลมหายใจเต่าพร้อมกับหยุดฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างสนใจ.
"ข้าทำอะไรอย่างงั้นรึ? วันนี้พวกเราพบน้ำพุอเวจีและสถานที่ผนึกกระบี่เหยาหลี่ได้ หากว่านำมันออกมาได้ ท้ายที่สุดพวกเราก็รู้ว่ามีเพียงแค่คนเดียวที่สามารถจะใช้มันได้ ที่แห่งนี้มีคนห้าคน แน่นอนว่าจะต้องมีสี่คนต้องตายไป."เสียงที่ดุร้ายดังก้องออกมา.
"ไม่มีพวกเรา ลำพังเจ้าจะสามารถเก็บกระบี่ได้อย่างงั้นรึ? ถึงแม้ว่าพวกเราทั้งห้าก็ใช่ว่าจะนำมันออกมาได้ ไม่เช่นนั้น หากเจ้ากระทำการอะไรผิดพลาด มีแต่จะถูกปราณหยินของน้ำพุอเวจีกลืนกินเท่านั้นและเจ้าก็จะตายกลายเป็นฝุ่นผงไม่สามารถฟื้นฟูกลับได้ เจ้าเองก็ต้องตายไปด้วยกันไม่ใช่รึ?"อีกเสียงที่โต้เถียงออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว.
"ตาย? ฮี ฮ่า ฮ่า เจ้ารู้จักข้าเซียนเฉินน้อยไป เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงมีชื่อนี้? ความตายของพวกเจ้านั้น จะถูกทำให้กลายมาเป็นพลังของข้า ทำให้ข้ามีพลังเพิ่มขึ้นมาอีกห้าเท่า แน่นอนว่าตอนนี้ข้าอาจจะยังอ่อนแอ ทว่ากระบี่เหยาหลีนั้นมันจะต้องเป็นของข้า.ฮ่า ฮ่า."เซี่ยงเฉินหัวเราะ.
"ไม่...."
ชายสามคนที่ร้องออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวและโหยหวนดังออกมา.
"เจ้า ที่อยู่ตรงนั้น ออกมาช่วยข้า ข้าจะมอบทุกอย่างให้เจ้า."อีกคนที่เหลืออยู่ตะโกนออกมาในทันที.
"หือ."เซี่ยงเฉินแค่นเสียงออกมาด้วยความโกรธ ซึ่งจากนั้นข้างในก็เกิดเสียงการต่อสู้กันไม่หยุดหย่อนจนสุดท้ายก็เงียบลง.
เหล่าเยว่จื่อจงจ้องมองไปยังพื้นที่รอบ ๆ พร้อมกับปาดเหงื่อที่เย็นยะเยือบ นี่เขาถูกพบตัวแล้วอย่างงั้นรึ?
หากว่ามีหนึ่งในสี่นั้นรับรู้ตัวตนของเขา เช่นนั้นเซี่ยงเฉินเองก็ต้องรู้การคงอยู่ของเขาแน่ หากว่าเขาหนีไปตอนนี้ ชั่วชีวิตนี้คงหาความสงบสุขไม่ได้.
ชายคนดังกล่าวคงจะตระหนักได้ถึงเหล่าเยว่จื่อจงและแม้แต่ขอให้เขาเข้าไปช่วยข้างในอย่างงั้นรึ? ด้วยความสามารถของเขาแล้วเพียงพอรึอย่างไร? ต้องมีอะไรมากกว่านั้น เซี่ยงเฉิน ทำไมเขาถึงไม่ออกมาจากถ้ำเพื่อจัดการเขาล่ะ?
เหล่าเยว่จื่อจงที่ครุ่นคิดชั่งน้ำหนักถึงเหตุผลที่เกิดขึ้น จะหนี? หรือว่าเข้าไปดี?
เหล่าเยว่จื่อจงเชื่อว่าบุคคลนามเซี่ยงเฉินนั้นเป็นคนที่ทรงพลังอย่างแน่นอน หากว่าเขาหนีไปตอนนี้ แน่นอนว่าคงจะถูกเซี่ยงเฉินจับตัวก่อนที่จะไปถึงสำนักไคหยางเป็นแน่ เหตุผลที่เซี่ยงเฉินไม่ออกมาจากถ้ำเพื่อจัดการเขาตอนนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นด้านใน.
หลังจากที่วิเคราะห์เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น เหล่าเยว่จื่อจงก็กุมมีดเกาะสลักเดินปรี่เข้าไปภายในถ้ำ.
ด้านในนั้นนับว่าเป็นห้องโถงที่กว้างขวางมาก มีไข่มุกขนาดเท่ากำปั้นส่องประกายแสงวับวาวประดับอยู่ทั่วห้อง.
ไม่เห็นร่องรอยของคนทั้งสี่แล้ว มีเพียงแค่ชายในชุดคลุมดำคนเดียว อีกทั้งมือทั้งสองข้างที่ยื่นออกไปด้านหน้า เหมือนกับผีดิบที่ยืนตั้งตรงไม่สามารถเคลื่อนไหวไปใหนได้ ทั่วร่างของเขามีปราณทมิฬหมุนวนอยู่รอบๆ ดูเหมือนว่านี่คือหนึ่งในวิชาบำเพ็ญของเขา.
น้ำพุอเวจี?กระบี่เหยาหลี?อยู่ที่ใหนกัน?ภายในห้องนั้นเรียบเตียนไม่มีอะไรเลย คนอีกสี่คนไปอยู่ที่ใหนกัน? หรือว่าชายชุดคลุมดำนี้จงใจล่อลวงเขาเข้ามาหรือไม่?
เหล่าเยว่จื่อจงที่เปลี่ยนเป็นระมัดระวังตัวยิ่งกว่าเดิม หัวใจที่บีบรัดกุมมีดสั้นแน่นพร้อมกับเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ.
"เสี่ยวจื่อ ไสหัวไปให้พ้น ข้าจะไม่ใส่ใจกับเรื่องของเจ้าอีกต่อไป ไปให้พ้น!"ชายในชุดดำกล่าวออกมา.
小子Xiǎozi เด็กเหลือขอ Boy
เซี่ยงเฉิน คนผู้นี้ก็คือเซี่ยงเฉิน เป็นเขาที่ขู่และต้องการให้เหล่าเยว่จื่อจงออกไป หากว่าเขาไร้ซึ่งประสบการณ์ล่ะก็ บางทีคงจะวิ่งหนีหางจุกตูดเพียงแค่ได้ยินคำขู่แล้ว ทว่าเหล่าเยว่จื่อจงนั้นไม่ได้โง่งมขนาดนั้น เขาจะมองไม่ออก เกี่ยวกับสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร?
เซี่ยงเฉิน เป็นเซี่ยงเฉินแน่นอน เหล่าเยว่จื่อจงมั่นใจว่าคนทั้งสี่คนได้ตายแล้ว ทว่าตายอย่างไร?ศพอยู่ใหน?เขาไม่รู้ สิ่งหนึ่งที่รู้ในตอนนี้คือเซี่ยงเฉินอยู่ในช่วงเวลาวิกฤติเขาไม่สามารถขยับไปใหนได้.
ไปให้พ้นอย่างงั้นรึ? หากว่าเหล่าเยว่จื่อจงหนีไปตอนนี้มีแต่ต้องตายจริงๆ อย่างแน่นอน เมื่อไหร่ก็ตามที่เซี่ยงเฉินคืนความสามารถ เขาจะต้องตามไล่ล่าสังหารเขาไปในทันที.
เซี่ยงเฉินนั้นไม่มีทางปล่อยให้เขาเป็นสุขแน่ มีเหตุอันใดที่จะต้องปล่อยเขาไปด้วยล่ะ?
ความคิดมากมายที่ไหลเข้ามาในสมอง เหล่าเย่จื่อจงตัดสินใจในทันที เขาจะต้องสังหารเซี่ยงเฉินขณะที่ยังอ่อนแอนี้ให้ได้.
มีดสั้นในมือ ของเหล่าเยว่จื่อจงที่กำลังผสานปราณที่แท้จริงลงไป ก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังร่างของเซี่ยงเฉินที่ยืนอยู่ห่างออกไป.
เหล่าเยว่จื่อจงที่ก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนแล้วพลังของเขานั้นไม่ได้อ่อนด้อยแน่นอน นอกจากนี้มีดในมือของเขานั้นยังแหลมคนเป็นอย่างมาก การโจมตีดังกล่าวนี้สามารถที่จะทะลวงเหล็กกล้าได้เลย.
"เคล้ง...."
เสียงกระแทกดังสนั่น มีดสั้นที่โจมตีไปยังลำคอของเซี่ยงเฉิน ทว่าปรากฏแค่เพียงรอยช้ำสีแดง และกระเด้งการโจมตีนั้นกลับออกมา.
เหล่าเยว่จื่อจงที่โจมตีออกไปสุดกำลังแล้ว เกิดเพียงรอยสีแดง เพียงแค่รอยสีแดงแต่ไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้อย่างงั้นรึ? ร่างของคนผู้นี้สร้างจากเหล็กไหลรึอย่างไร? ไม่ ถึงจะสร้างด้วยเหล็กไหล ทว่าผลที่ได้ไม่ควรที่จะออกมาเป็นเช่นนี้.
สายตาของเซี่ยงเฉินจ้องมองอย่างดุร้ายมายังเหล่าเยว่จื่อจง พร้อมกับเผยประกายแสงแห่งความเหยียดหยัน ทว่าเขาก็ยังคงยืนนิ่ง ขยับไปใหนไม่ได้.
เห็นสายตาของเซี่ยงเฉินเช่นนั้น เหล่าเยว่จื่อจงมั่นใจว่า หากเขาไม่สามารถสังหารเซี่ยงเฉินในเวลานี้ได้ล่ะก็ เขาจะต้องตาย.
เซี่ยงเฉินยังขยับไม่ได้อย่างงั้นรึ?
เหล่าเยว่จื่อจงยังคงพยายามอีกครั้ง ครั้งนี้เขาได้เดินไปด้านหลัง พร้อมกับใช้มีดแทงไปยังด้านหลังของเซี่ยงเฉินไม่ยั้ง.
"เคล้ง" "เคล้ง" "เคล้ง"....
ไร้ซึ่งประโยชน์ ไม่มีบาดแผลใดๆเกิดขึ้น เหมือนเดิม ดวงตาของเซี่ยงเฉินเวลานี้แดงกล่ำ เต็มไปด้วยความเย็นชากระหายโลหิต เหงื่อของเขาที่กำลังไหลออกมาเต็มใบหน้า ทว่ายังคงยืนนิ่งเหมือนเดิม.
เหล่าเยว่จื่อจงไม่กล้าที่จะจ้วงแทงจากด้านหน้าด้วยหวั่นเกรงจิตสังหารของเขา ทว่าแม้เขาจะพยายามจ้วงแทงจากด้านหลังอย่างหนักหน่วง แต่ก็ยังไม่สามารถสังหารเซี่ยงเฉินได้ ไร้ซึ่งประโยชน์ใด ๆ ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน หากว่าไม่สามารถสังหารเซี่ยงเฉินได้ล่ะก็ ต้องเป็นเขาเองที่ต้องเจอปัญหา.
"เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าต้องกลายเป็นเนื้อบดแน่."คำพูดที่ดุร้ายของเซี่ยงเฉินที่คำรามออกมา สำหรับเซี่ยงเฉินแล้ว คาดไม่ถึงแม้แต่น้อย เขาที่อยู่ในเส้นทางสายมารนับว่าเปี่ยมไปด้วยชื่อเสียง ไม่เคยมีใครกล้ามาดูแคลนเขาเช่นนี้.
เหล่าเยว่จื่อจงตระหนักได้ว่าร่างกายของเซี่ยงเฉินนั้นราวกับกายเพชรไม่สามารถที่จะทะลวงได้เลย ต้องทำอย่างไร? ปัญหานี้?
ทวารทั้งห้า?
ใช่แล้ว ร่างกายของมนุษย์มีทวารทั้งห้า?ปาก?ตา?หู?จมูก?ทวารหนัก?
เหล่าเยว่จื่อจงที่ครุ่นคิดอย่างระมัดระวังก่อนที่จะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย ทว่า ชีวิตก็ย่อมสำคัญกว่า.
เหล่าเย่วจื่อจงที่จ้องมองไปยังทวารหนัก หนึ่งในทวารทั้งห้าของมนุษย์.
ก่อนที่จะรวบรวมพลัง จ้วงแทง เล็งไปยังทวารหนักของเซี่ยงเฉิน.
"สว๊วฟๆ......"
เสียงระเบิดดังสนั่น ดวงตาของเซี่ยงเฉินที่เบิกกว้าง เหงื่อที่ไหลไปทั่วใบหน้า กล้ามเนื้อทั่วร่างที่สั่นกระตุกอย่างรุนแรง แม้แต่แขนทั้งสองข้างของเขายังพับเข้ามา.
"ตูมมมมมม"
เหล่าเย่วจื่อจงที่เห็นควันสีดำทมิฬปรากฏขึ้นทั่วร่างของเขาก่อนที่จะไหลไปรวมกันที่ฝ่ามือทั้งสองข้างของเซี่ยงเฉิน.
"ไม่....."เซี่ยงเฉินที่ร้องตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง.
ในเวลาเดียวกัน เหล่าเยว่จื่อจงที่เร่งรีบผละออกมา แม้แต่มีดสั้นของเขาก็ยังไม่กล้าดึงออกมา เหล่าเย่วจื่อจงถอยออกมาห่างๆอย่างรวดเร็ว.
"ฟู่ๆๆๆ.."ควันสีดำที่ไหลบ่าออกมาจากร่างกายของเซี่ยงเฉินอย่างรวดเร็ว.
เพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้นเซี่ยงเฉินไม่มีแม้แต่เวลาให้เสียใจ ร่างกายของเขาที่แบนแฟบก่อนที่จะสลายกลายเป็นชิ้นๆและหายไปในทันที.
เหล่าเย่วจื่อจงที่หลบออกมายืนชิดติดกำแพงจ้องมองด้วยสายตาขวัญหนีดีฝ่อ ตายเหรอ?เขาตายไปแล้วรึ? ดูเหมือนว่าคนทั้งสี่เอง ก็คงตายไปเหมือน ๆ กันอย่างงั้นรึ?
เซี่ยงเฉินที่ตายไปแล้ว กลายเป็นควันสีดำ แม้แต่มีดสั้นของเขาก็ยังสลายไป กลายเป็นควันด้วยอย่างงั้นรึ? ตำแหน่งของเซี่ยงเฉินยืนอยู่นั้น เห็นแค่เพียงผ้าคลุมสีดำที่เหลืออยู่หรือไม่?
น้ำพุอเวจี?ปราณหยินที่กลืนกินร่างกาย? เหล่าเย่วจื่อจงที่หวาดผวาเมื่อจ้องมองเรื่องราวที่เกิดขึ้น ช่างน่ากลัวยิ่งนัก หายไปทั้งร่างกาย นี่เป็นผลของการกลืนกินของปราณหยินหรือไม่ พวกเขาที่ตายไป ไม่เหลือแม้แต่ศพ?แม้แต่มีดของเขายังสลายกลายเป็นฝุ่นด้วย?
ภายในถ้ำตอนนี้ดูว่างเปล่า เซี่ยงเฉินที่แข็งแกร่งนั้นคงจะไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่าเรื่องราวจะออกมาเป็นเช่นนี้.
จ้องมองไปยังชุดคลุมสีดำที่กองอยู่บนพื้น เหล่าเย่วจื่อจงที่หลั่งเหงื่ออันเย็นยะเยือบออกมา ไม่มีปราณหยินแล้วใช่ใหม? ทุกคนทั้งหมดตายแล้วอย่างงั้นรึ? กระบี่เหยาหลีไม่ใช่ว่าสลายหายเป็นควันสีดำแล้วนะ ไม่ใช่ว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าหรอกรึ? คาดไม่ถึงว่าจะสลายไปด้วย.
เช่นนั้นเขาก็ไม่สามารถที่จะเก็บเกี่ยวอะไรได้หรือไม่?
เหล่าเยว่จื่อจงที่ค่อยเข้าไปใกล้ พร้อมกับใช้กิ่งไม้ เขี่ยไปมาที่ผ้าคลุมสีดำนั่น เห็นว่าปลอดภัย จึงค่อยๆใช้มือเก็บผ้าคลุมสีดำนั่นมา ซึ่งแน่นอนว่าเขาได้โคจรวิชาหงหลวนเทียนป้องกันอีกชั้นหนึ่ง ก่อนที่จะปรากฏเห็นตัวอักษรสีทองสลักอยู่บนชุดคลุมนั่น.
"วิชากายเทพอสูร."