Chapter 86 พบกับเซียนเซิงซืออีกครั้ง.
ลึกเข้าไปในหุบเขาแห่งหนึ่ง เต็มไปด้วยห้วยหนองเป็นจำนวนมาก.
ร่างหลักจงซาน เวลานี้กำลังทาอะไรบางอย่างที่บนใบหน้าของเทียนหลิงเอ๋อ.
"จงซาน มันจะได้ผลอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่นั่งอยู่บนศิลาก้อนใหญ่ โดยมีจงซานใช้แป้งเหนียวทาไปทั่วหน้าของนาง.
จงซานที่ทาอยู่นั้นก็กล่าวมาว่า"อืม ดีแน่นอน ภายในหนึ่งชั่วโมงเจ้าห้ามใช้มือถูหน้าของเจ้า รอจนกว่ามันจะแห้ง."
"อืม."เทียนหลิงเอ๋อที่พยักหน้าด้วยความสงสัย ดวงตาที่บ้องแบ้วไม่รู้ว่าจงซานนั้นกำลังทำอะไรไปบนใบหน้าของนาง.
"เรียบร้อย."จงซานพยักหน้าอย่างพอใจ.
"อืม?"เทียนหลิงเอ๋อที่ดูตื่นเต้น ก่อนที่จะวิ่งออกไปดูเงาตัวเองที่บนลำธาร.
ทันทีที่เห็นใบหน้าของนางที่อยู่บนผิวน้ำ ใบหน้าของเทียนหลิงเอ่อก็เปลี่ยนไปในทันที.
"อ๊า ๆ ๆ ๆ ๆ !"
เทียนหลิงเอ๋อที่หวีดเสียงแหลมเล็ก เสียงของนางที่ราวกับว่าจะทะลวงไปถึงก้อนเมฆ ส่วนจงซานที่อยู่ด้านข้าง เผยยิ้มด้วยความพึงพอใจ.
หลังจากร้องเสร็จ เทียนหลิงเอ๋อที่เตรียมเช็ดหน้าของนางในทันที.
"ห้ามเช็ดออก."จงซานที่กล่าวออกไปในทันที.
"ทำไมล่ะ ข้าขี้เหร่แล้ว เจ้าต้องการทำให้ข้าขี้เหร่อย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่โอดครวญเสียงดัง.
จงซานที่จับแขนสีขาวของเทียนหลิงเอ๋อเอาไว้"ก็เพราะเจ้าดูงดงามเกินไปไม่ใช่รึ? หากว่ามีใครเช่นเมียวเซียนเหรินอีกครั้งล่ะก็ พวกเราอาจจะไม่ได้มีโชคเหมือนครั้งที่แล้วก็ได้."
เทียนหลิงเอ๋อที่ดิ้นรนในคราวแรก เมื่อได้ยินจงซานพูดว่านางงดงามเกินไป ทำให้ร่างของนางสั่นสะท้านเล็กน้อย ดูเหมือนว่านี่เป็นเพราะว่าจงซานเป็นห่วงนางนั่นเอง.
"จริง ๆ รึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่สงบลง พร้อมกับถามให้มั่นใจ ทว่าบนใบหน้าของนางเวลานี้เริ่มมีสีแดงระเรื่อปรากฏขึ้นมาเหมือนกัน.
"แน่นอน เจ้าคงไม่ต้องการเจอกับเมียวเซียนเหรินคนที่สองหรอกนะ."จงซานที่ปล่อยข้อมือของนางขณะพูด.
จงซานที่ปล่อยมือนาง ลึก ๆ ภายในใจของนางก็รู้สึกเบาหวิวอยู่เล็กน้อย.
"ข้าไม่ต้องการ."เทียนหลิงเอ๋อที่ส่ายหน้าไปมา.
"อืม ในใจข้า เทียนหลิงเอ๋อก็ยังงดงามเหมือนเดิม แม้ว่าภายนอกจะดูขี้เหร่ แต่ก็เพียงแค่ตบตาคนนอกเท่านั้น."จงซานที่กล่าวปลอบใจนาง.
"อืม."เทียนหลิงเอ๋อพยักหน้า ไม่ดิ้นรนเช็ดมันออกอีกต่อไป.
สามวันหลังจากนั้น จงซานและเทียนหลิงเอ๋อที่ปลอมตัวเป็นหญิงอัปลักษณ์ก็ปรากฏขึ้นที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง.
ที่ด้านล่างหุบเขานั้น เต็มไปด้วยหมอกสีขาวมากมาย ไม่สามารถมองเห็นพื้นด้านล่างได้เลย.
"เจ้ามั่นใจว่า เป็นที่นี่อย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังทางลาดลงไปด้านล่าง.
"แน่นอน ที่หินก้อนนั้นข้าเคยประทับรอยเท้าเอาไว้แล้ว ตรงนั้นจะต้องมีรอยเท้าข้าอยู่."เทียนหลิงเอ๋อที่ชี้ไปยังศิลาขนาดใหญ่ระหว่างทางลาดลงไป.
ซึ่งเมื่อพวกเขามาถึงศิลาก้อนยักษ์ ก็พบรอยเท้าปรากฏขึ้นอยู่เช่นกัน เป็นไปตามที่นางกล่าว.
"เอาล่ะ พวกเราลงไปด้านล่างกัน."จงซานที่พยักหน้ายืนยัน พร้อมกับนำเทียนหลิงเอ๋อลงไปยังเนินเขาอย่างช้า ๆ ตรงลงไปยังด้านล่างหุบเขาดังกล่าว.
ทางลงไปด้านล่างนั้นนับว่าชันเป็นอย่างมาก ทว่าด้วยการเตรียมการมาอย่างดี จงซานก็สามารถเคลื่อนที่ลงไปยังหุบเขาด้านล่างอย่างรวดเร็ว.
ใต้หุบเขานั้น นับว่าค่อนข้างมืดทีเดียว มีแสงที่ผิดปรกติสองแห่งปรากฏขึ้น.
ทิศใต้อันหนึ่งทิศเหนืออันหนึ่ง ปรากฏเป็นกลุ่มแสงทรงกลมครึ่งซีกรัศมีสองเมตรส่องประกายแสงสีน้ำเงินออกมา เป็นสิ่งของบางอย่างที่แปลกประหลาด ดูเหมือนว่าจะมีอะไรอยู่ด้านใน.
วัตถุดังกล่าวนั้นมีเมือกคลุมอยู่ ดูเหมือนว่ามันกำลังห่อหุ้มบางสิ่งอยู่ภายใน แน่นอนว่านี่คือไข่ยักษ์นั่นเอง มันมีขนาดใหญ่เป็นอย่างมากติดอยู่กับผนัง และเผยออกมาให้เห็นเพียงแค่บางส่วน.
อย่างไรก็ตามระหว่างไข่ยักษ์สองใบนั่น มีดอกไม้ที่ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.
ดอกไม้ดังกล่าวดูประหลาด มีขนาดเท่ากับอ่างล้างหน้า มีใบสองใบสีมรกต ลำต้นแทรกอยู่ใต้ดิน กิ่งก้านและรากของมันแผ่ออกไปทุกทิศทาง ดูเหมือนว่ามันจะชอนไชเข้าไปในไขด้วย ราวกับว่ากำลังดูดซับสารอาหารชั้นดีออกมา.
ที่ใจกลางของดอกไม้นั่น มีเกสรดอกไม้ยื่นออกมา ที่จริงมีประกายไฟฟ้าที่ส่องประกาบแปบ ๆ ออกมาไม่หยุด เห็นเป็นแสงสว่างกระพริบ ๆ ส่งออกมาเป็นพัก ๆ ดูน่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก.
นี่คือบุพผาอสนีอย่างงั้นรึ?
ไม่จำเป็นต้องถามเทียนหลิงเอ๋อ เพียงแค่เห็นเกสรดอกไม้ที่ปลดปล่อยไฟฟ้าออกมาเป็นระยะ ๆ ก็สามารถที่จะคาดเอาได้อย่างแน่นอน ทว่าสิ่งดังกล่าวนี้เกี่ยวข้องกับไข่ยักษ์ด้านข้างหรือไม่ แม้ว่าจงซานจะไม่รู้ว่าไข่ขนาดใหญ่นั้นคือไข่อะไร ทว่าเห็นขนาดของมันที่มีขนาดใหญ่ภายในนั้นจะต้องมีพลังมากพอที่จะหล่อเลี้ยงบุพผาอสนีอย่างแน่นอน เพราะไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าเกสรดอกไม้นั่นจะสามารถปล่อยไฟฟ้าออกมาได้ มันจะต้องดูดซับพลังออกมาจากไข่ยักษ์นั่นเป็นแน่.
"ข้ามาครั้งที่แล้วมันยังไม่บานเลย ตอนนี้มันบานแล้ว พวกเราเก็บมันได้แล้ว "เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น ขณะที่นางเตรียมจะพุ่งออกไป.
"ช้าก่อน."จงซานที่ห้ามเทียนหลิงเอ๋อเอาไว้.
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย จ้องมองพื้นที่รอบ ๆ ดูเหมือนว่ามันจะดูไม่ถูกต้องนัก.
สถานที่ต่าง ๆ เต็มไปด้วยซากปรักหักพังเต็มไปหมด ศิลาขนาดใหญ่แตกพังทลาย ลึกเข้าไปในหุบเขาเองก็มีศิลายักษ์ที่แตกกระจายไปทั่ว ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้จะมีผู้ฝึกตนระดับสูงต่อสู้กันอยู่ ทว่าผนังรอบ ๆ นี้กลับไม่มีรอยขีดข่วนเลย มันแปลกเกินไปแล้ว.
"ทำไมอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ครั้งก่อนที่เจ้าเคยมา มีสภาพเช่นนี้อย่างงั้นรึ?ภายในหุบเขา มีสิ่งอื่น ๆ หรือไม่?"
"ไม่ ข้ามาครั้งก่อนนั้น ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ อยู่ที่นี่เลย.
ทว่าจงซานนั้นไม่สามารถที่จะวางใจได้ เขาได้หยิบศิลาขนาดเล็กขึ้นมาก่อนที่จะขว้างไปยังตำแหน่งของบุพผาอสนีเพื่อตรวจสอบ.
"ตูมม."ก้อนศิลาแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ในทันที.
จงซานที่เห็นเหมือนแส้ที่พุ่งออกมาจากใต้ดินซึ่งเป็นซากปรักหักพังแห่งหนึ่ง แส้ดังกล่าวนี้พุ่งออกมาฟาดเข้ากับศิลาแตกละเอียดกลายเป็นเสี่ยง ๆ .
เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดวงตาของจงซานก็หรี่เล็กจ้องเขม็ง มันคืออะไรกัน?
หลังจากศิลาที่เขาโยนไปถูกทำลาย ดูเหมือนว่าภายในใจของจงซานก็เต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าหลังจากนั้นพื้นดินรอบ ๆ สั่นไหวไปมาในทันที.
"ตูมมมมม"
ผืนปฐพีที่สั่นอย่างอย่างรุนแรง จงซานเร่งรีบถอยออกมา เทียนหลิงเอ๋อก็กระโดดขึ้นไปบนผ้าแพรไหม ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง จ้องมองออกไปยังยังซากปรักหักพัง.
"วีดดด-ตูมมมม..."
มีบางอย่างที่กำลังคืบคลานออกมาจากซากปรักหักพังและทุกอย่างก็พังทลายที่อยู่ด้านหน้าก็ถูกบดขยี้ออกเป็นผุยผง.
แมงป่องมากมาย ต้องบอกอีกด้วยว่าเป็นแมงป่องพิษขนาดมหึมา ร่างกายที่มีสีดำเมี่ยมตลอดทั้งร่าง หางของมันที่มีความหนากว่าหนึ่งเมตร นอกจากนี้ความยาวหางของมันยังมากกว่าสิบเมตรอีกด้วย เป็นแมงป่องยักษ์ที่เคลื่อนที่เร็วมาก มันทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้ามันจนแทบทุกอย่างจะแหลกสลายภายในพริบตา.
และศิลาที่เขาโยนออกไปก่อนหน้านี้พวกมันรับรู้แล้วว่ามันไม่ได้ถูกแส้ฟาดแต่อย่างใด ทว่ามันถูกทำลายด้วยเหล็กไนของแมงป่องยักษ์.
มีแมงป่อง ปกป้องบุพผาอสนีอย่างงั้นรึ?
จ้องมองไปยังแมงป่องสีแดง ภายในใจจงซานกำลังเต้นไปมา.
"มีแมงป่องมากมายขนาดนี้เลยรึ?ข้ามาครั้งก่อนไม่เห็นมีเลย."เทียนหลิงเอ๋อที่ลอยอยู่ พร้อมกับร้องออกมาด้วยท่าทางกระวนกระวาย.
เพราะว่ามีแมงป่องยักษ์มีอยู่มากมาย ตอนนี้มันได้กลายเป็นม่านพลังป้องกันที่แข็งแกร่งขวางกั้นการเก็บบุพผาอสนีไปแล้ว.
"ด้วยกลิ่นอายพลังของทานประมุขที่ปล่อยออกมา คงจะสะกดข่มเหล่าแมงป่องเหล่านี้ไว้ ทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จึงไม่กล้าขยับออกมา "จงซานที่ชักดาบยักษ์ออกมาพร้อมกับเพิ่งพิศไปยังเหล่าแมงป่องเหล่านั้น.
แมงป่องเหล่านี้ซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นดินอย่างงั้นรึ?หากมันอยู่ใต้ดิน ไม่ใช่ว่ามันมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วนเลยรึ?
"ฟิ้ว!"
หางแมงป่องตนหนึ่งที่ยืดตรงพุ่งมายังด้านหน้าจงซาน เป็นเหล็กไนพิษที่ทำการลอบโจมตีจงซานนั่นเอง ดาบยักษ์ของเขาที่ปัดป้องพร้อมกับสับไปยังเหล็กไนดังกล่าวทันที.
"เครง!"
ดาบยักษ์ของจวกซานเมื่อปัดป้องเหล็กไนออกไปแล้ว จากนั้นก็ใช้โอกาสดังกล่าวพุ่งตรงออกไปฟันเข้าที่ตรงกลางศีรษะของแมงป่องดังกล่าว เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ดาบยักษ์ที่ทรงพลัง ถึงกับกระเด้งออกมา.
เปลือกของแมงป่องนี้แข็งแกร่งขนาดนี้เลย.
แม้ว่าจะทุ่มไปสุดแรงแล้วแต่ก็ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย อีกอย่างกล้ามของมันเองก็ตวัดโจมตีมายังเขาทันทีอีกด้วย.
จงซานที่ตวัดดาบยักษ์ปัดป้อง ส่วนเทียนหลิงเอ๋อที่อยู่บนอากาศใช้แพรไหมแดงช่วยจงซานโจมตีอีกระลอกหนึ่ง.
ขณะที่จงซานและเทียนหลิงเอ๋ออยู่ในหุบเขานั้น ทว่าที่ข้างบนยอดเขาปากทางเข้าหุบเขาดังกล่าวนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งมาถึง.
พวกเขาเข้าไปในค่ายกลแปดประตูกุญแจทองเพียงไปนานเท่านั้น เพื่อที่จะค้นหาจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์นั่นเอง
"เหนือหัว หุบเขาแห่งนี้มีบุพผาอสนี ตอนนี้มันน่าจะเติบโตเต็มที่แล้ว ข้าต้องการที่จะนำมันกลับไปเพื่อปรุงยาเพิ่มระดับ."ชายคนหนึ่งในชุดเกราะรบกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"เหล่ยติง เจ้ากระทำดีกับไท่จื่อเช่นนี้ ดูเจ้าจะดูเป็นผู้ปกครองมากกว่าข้านะ."หวงตี้ที่กล่าวล้อเขาเล็กน้อย.
"องค์เหนือหัวกล่าวหนักไปแล้ว ไท่จื่อเรียกข้าว่า จิวเจียว แน่นอนว่าข้าต้องคิดถึงเขาก่อนแน่นอน."ใบหน้าในหมวกเหล็กและชุดเกราะเผยสีหน้าแห่งความภาคภูมิใจ.
舅舅 แปลว่า (jiùjiu)น้า (น้องชายของแม่)
"ฮ่าฮ่า เอาล่ะ ๆ พวกเราคนกันเองอย่าได้กล่าวอะไรอีกเลย ไปเถอะ ไปนำบุพผาอสนีมา."หวงตีเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล แสดงสีหน้าพึงพอใจกับคำพูดของเหล่ยติง.
"รับด้วยเกล้า."เหล่ยติงที่ยกมือคารวะไปด้านหน้า.
เซียนเซิงซือที่ยืนอยู่ด้านหลังพวกเขาจ้องมองพวกเขาพูดคุยกันทว่าก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา หลังจากที่หวงตี้สั่งการ คนกลุ่มนี้ก็เหินลงไปยังด้านล่างหุบเขา.