ตอนที่แล้วChapter 84 เหตุการณ์ที่กลับตาลปัตร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 86 พบกับเซียนเซิงซืออีกครั้ง.

Chapter 85 กระแสรับสั่งของเซิ่งซ่าง.


“หวงซ่าง” (皇上) และ “เซิ่งซ่าง” (圣上) หมายความว่าพระเจ้าอยู่หัว

เพราะกงจูเฉียนกำลังอารมณ์ไม่ดี นางโกรธเกรี้ยวถึงกับตำหนิเขาด้วยคำว่า"แม้แต่บิดาของเจ้าก็ไม่สามารถปกป้องเจ้าได้"มันดังก้องในหูของกู่หลิน

เขาเองก็เคยได้ยินประวัติของสำนักไคหยางมาตั้งแต่ยังเด็กเช่นกัน เมื่อนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ แล้วทำให้หัวใจของเขาเย็นยะเยือบเลยทีเดียว.

กงจูเฉียนโหยวที่จับจ้องมองไปยังทิศทางของสำนักไคหยาง ดวงตาที่หรี่เล็กลง ดูเหมือนว่านางคงต้องจดจำจงซานไปอีกนาน.

"ควี๊ก ๆ  ๆ "

ในเวลานั้น เสียงแหลมเล็กที่หวีดร้องดังลั่นฉีกอากาศจากบนท้องฟ้าภายใต้แสงจันทร์ ทุกคนจ้องมองออกไปก็เห็นกระเรียนยักษ์กำลังพุ่งตรงมายังกลุ่มของพวกเขา.

บนร่างของกระเรียน มีหญิงสาวในชุดขาว นางกำลังมองหากงจูเฉียนโหยว ก่อนที่จะเหินลงมายังกลุ่มของนาง.

เมื่อนกกระเรียนร่อนลง หญิงสาวคนดังกล่าวก็ลงจากกระเรียนพร้อมกับโค้งคำนับให้กับกงจูเฉียนโหยว.

"เซิ่งซ่างมีกระแสรับสั่ง ขอให้กงจูเฉียนโหยวกลับไปเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้."หญิงสาวกล่าวพร้อมกับมอบราชโองการในมือของนางให้กับกงจูเฉียนโหยว.

กงจูเฉียนโหยวที่รับมาพร้อมกับคลี่อ่าน.

หลังจากนั้นก็เก็บราชโองการไป.

"เอาล่ะ กลับได้."กงจู่เฉียนโหยวที่กล่าวต่อผู้ติดตามของนาง.

"รับทราบ."ทุกคนพยักหน้าตอบรับ.

หญิงสาวคนดังกล่าวกระโดดขึ้นควบคุมกระเรียนยักษ์พร้อมกับนำคนทั้งหมดขึ้นไปบนด้านหลัง.

กงจูเฉียนโหยวยังคงหงุดหงิดกับการกระทำของจงซานอยู่ นางอดจ้องมองไปยังพายุทรายและป่ารอบ ๆ  จากนั้นกระเรียนยักษ์ก็พาคนทั้งกลุ่มตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว.

หลังจากที่กงจูเฉียนโหยวจากไปแล้ว จงซานและสามสาวก็เดินออกมาจากป่าแห่งหนึ่งที่ไกลออกไป.

"พวกเราควรที่จะอยู่ห่างจากคนกลุ่มนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้.”

"อืม."เทียนหลิงเอ๋อและเป่ยชิงซือพยักหน้าตอบรับ.

จงซานที่ยังอุ้มหยิงหลานขณะที่พวกเขาเดินทางมากว่าสี่ชั่วโมงแล้ว ท้ายที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่หุบเขาแห่งหนึ่ง.

หยิงหลานเองรู้สึกตัวแล้ว ทว่ายังแสร้งหลับเพื่อให้จงซานอุ้มนางต่อ.

"เจ้าจะเดินทางไปหาหลักฐานชิ้นที่สองเลยอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

"ใช่แล้ว ตามข้อมูลที่ได้จากต้าโป๋ ข้าต้องการเดินทางไปยังที่นั่นเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้."เป่ยชิงซือกล่าว.

แม้นางจะบอกว่าไม่สามารถล่าช้าได้ ทว่านางก็ยังเดินทางมากับกลุ่มของจงซานกว่าสี่ชั่วโมงราวกับว่ากำลังปกป้องพวกเขา.

"เช่นนั้น ข้ามีเรื่องรบกวนเจ้าสักอย่างได้หรือไม่?"จงซานกล่าว.

"พูดมาสิ."เป่ยชิงซือกล่าว.

"เจ้าจะช่วยข้าพาหยิงหลานกลับไปยังคฤหาสน์จงที่เมืองเสวียน รัฐต้าคุนได้หรือไม่?"จงซานจ้องมองไปยังนางด้วยสายตาที่วิงวอน.

เป่ยชิงซือเม้มริมฝีปากแน่น หลักฐานชิ้นที่สองเองก็ถือว่าสำคัญมาก ทว่านางก็ยังพยักหน้าตอบรับคำขอของจงซาน.

"หยิงหลาน เจ้าฟื้นแล้ว กลับไปยังที่พักก่อนแล้วกัน."จงซานกล่าวออกมา เขารับรู้ว่านางนั้นฟื้นขึ้นมาแล้ว.

"ข้ายังไม่ต้องการที่จะกลับ ข้าต้องการกลับไปพร้อมกับกู่เหยี่ยเยี่ย."หยิงหลานที่ตอบกลับออกมาทันที

จงซานที่จ้องมองไปยังหยิงหลานพลางขมวดคิ้วแน่น "ไม่ ข้าไม่ต้องการไปพบใครอีกคน ที่เหมือนกับเมียวเซียนเหริน เจ้ากลับไปก่อน ข้าจะตามเจ้ากลับไปในไม่ช้า."

"แต่ว่า...."หยิงหลานที่ไม่ยินดีเท่าใดนัก.

"ทำไมเจ้าไม่กลับไปพร้อมกันเลยล่ะ?"เป่ยชิงซือกล่าว ไม่ใช่ปัญหานักที่จะนำคนสองคนไปกับนาง.

"ไม่ เทียนหลิงเอ๋อและข้านั้นกำลังจะไปเก็บสิ่งของบางอย่าง ต้องรบกวนเจ้าแล้ว."จงซานที่ตอบกลับ.

"อืม ได้."เป่ยชิงซือพยักหน้า.

แม้ว่าหยิงหลานจะไม่ยินดี นางก็ไม่สามารถที่จะขัดจงซานได้.

จงซานกระซิบบอกกับนางออกไป "ข้าจะกลับบ้านภายในสามวันหลังจากนั้น.

ด้วยคำมั่นของจงซาน ทำให้นางพยักหน้าด้วยความดีใจ.

นางที่ก้าวขึ้นกระบี่เหินของเป่ยชิงซือ ก่อนที่จะโบกมือลาจงซาน จากนั้นก็หายไปลับตา

เทียนหลิงเอ๋อที่ลอบหายใจเบา ๆ หลังจากทีเห็นหยิงหลานจากไป.

ระหว่างนั้น มีคนเป็นจำนวนมากที่กำลังวิ่งหนีออกมาจากค่ายกลแปดประตูกุญแจทองด้วยท่าทางตื่นตระหนก.

พายุทรายตอนนี้กำลังคลั่งยิ่งกว่าเดิมมันพุ่งทะยานสูงขึ้น เกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้นภายในค่ายกล ด้วยแสงจันทร์ที่สว่างจ้า จงซานและเทียนหลิงเอ๋อที่อยู่ไกลออกมา ได้เดินทางออกห่างมาแล้ว ทว่าก็ยังสามารถมองเห็นพายุทรายได้ มันมีขนาดใหญ่ขึ้นกลายเป็นรูปครึ่งวงกลมที่พัดอย่างหนักหน่วงกว่าตอนแรกอีกหลายเท่า.

"ตูมมมมมมมมมมมม!"

เมื่อพายุที่กระหน่ำพัดแรงไปจนถึงขีดสุดก็ระเบิดออกมาเสียงดังสนั่น แม้จะอยู่ห่างออกมาจากพื้นที่ดังกล่าวข้ามผ่านภูเขาหลายสิบลูก ทว่าแรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดดังกล่าวนั่นก็ส่งมาถึงที่นี่ ท้องฟ้ากลายเป็นสีดำอย่างรวดเร็ว พายุฝุ่นทรายที่กำลังล่วงหล่นกระจายไปทุกทิศทางปิดแสงจันทร์เอาไว้จนมิด.

"จงซาน ไท่ซูจื่อตายแล้วอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองจากที่ไกลออกไปพลางถอนหายใจ.

"อืม."จงซานพยักหน้า ก่อนหน้านี้ระหว่างบทสนทนาของไท่ซือจื่อกับเป่ยชิงซือ เขาอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว.

"เอาล่ะ ปล่อยให้พวกเขาต่อสู้แย่งชิงศิลาวิญญาณกันไป พวกเราเร่งรีบไปเก็บบุพผาอสนีกันเถอะ จากนั้นพวกเราจะกลับไปยังบ้านของข้าที่เมืองเสวียนกัน."จงซานกล่าว.

"อืม ตามข้ามาเลย."เทียนหลิงเอ๋อที่นำทาง.

หลังจากนั้นหนึ่งวัน เป่ยชิงซือก็นำหยิงหลานกลับมาถึงคฤหาสน์จงเมืองเสวียน.

เป่ยชิงซือที่ชำเลืองมองคฤหาสน์จงอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็ขึ้นกระบี่เหินของนางพร้อมกับบินออกไปเพื่อหาหลักฐานชิ้นที่สองต่อ.

หยิงหลานที่กลับเข้ามายังคฤหาสน์จง.

"ท่านหญิง ท่านกลับมาแล้ว."พ่อบ้านที่ออกมาทักทายนาง.

"อืม."หยิงหลานที่ตอบรับพร้อมกับตรงไปยังที่พักของนาง.

แม้ว่านางจะได้รับจิตวิญญาณค่ายกลมาก็ตาม ก็ไม่ได้ทำให้นางดีใจเท่ากับการที่กู่เหยียเยี่ย บอกว่าจะรีบกลับมา.

"หยิงหลาน ส่งกล่องไม้มาให้กับข้า."ที่มุมหนึ่งของลานบ้าน ปรากฏเสียงที่คุ้นเคยอย่างคาดไม่ถึง.

หยิงหลานถึงกับตื่นตะลึงที่ได้ยินเสียงดังกล่าว นางที่ส่ายหน้าไปมา สงสัยนางจะคิดเรื่องดังกล่าวมากไปจนทำให้หูแว่วอย่างงั้นรึ? ทว่าขณะที่นางหันหน้าจ้องมองไปยังทิศทางของเสียง นางก็เห็นกู่เหยียเยี่ยที่นางรอคอย เขากลับมาแล้วอย่างงั้นรึ?

"กู่เหยี่ยเหยี่ย!"หยิงหลานที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมากวิ่งตรงไปหาจงซานและคล้องแขนเขาเอาไว้.

"โอ๊ะ!"ที่มุมปากของจงซานถึงกับกระตุก.

และทันใดนั้นหยิงหลานก็พบว่าที่ไหล่ของจงซานนั้นมีบาดแผลถูกแทง.

"กู่เหยี่ยเยี่ย ท่านได้รับบาดเจ็บอย่างงั้นรึ?เกิดอะไรขึ้นกัน?"หยิงหลานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"ไม่เป็นไร แค่แผลเล็กน้อย ข้าจำเป็นต้องปิดตัวรักษาชั่วขณะ อย่าไห้ใครมารบกวนข้า."จงซานกล่าว.

"อืม."หยิงหลานพยักหน้า.

"ส่งกล่องไม้มาให้กับข้า."จงซานกล่าว.

"ทราบแล้ว."หยิงหลานที่นำกล่องไม้ที่ด้านหลังของนางส่งให้กับจงซานในทันที.

ภายในกล่องไม้ดังกล่าวนั่น มีไหมมังกรเก้าสีที่พวกเขาพบในที่พำนักของเมียวเซียนเหรินนั่นเอง.

จงซานเผยยิ้มอย่างนุ่มนวลขณะที่เขารับกล่องไม้มา.

"ระหว่างข้ารักษาตัว ห้ามให้ใครมารบกวนข้าเด็ดขาด."จงซานกล่าว.

"อืม."หยิงหลานที่พยักหน้าตอบรับ แม้ว่านางจะค่อนข้างเป็นกังวล ทว่ากู่เหยี่ยเยี่ยกลับมาก็ดีแล้ว.

จงซานก็กลับเข้าไปในที่พักส่วนตัวของเขา เข้าไปในห้องลับ และหลังจากนั้นก็เริ่มบำเพ็ญโคจรลมหายใจในทันที.

แน่นอนว่าในห้องลับ จงซานที่นั่งสมาธิ รักษาบาดแผลอยู่นั่น ก็คือร่างแยกเงาที่กลับมาพร้อมหยิงหลานนั่นเอง โดยการซ่อนอยู่ในเสื้อคลุมสีดำของหยิงหลาน.

แม้ว่าร่างแยกเงานั้นจะได้รับบาดเจ็บจากกระบี่ของเจี้ยนอ้าวทะลวงเข้ามายังไหล่ของเขา ทว่าด้วยการโคจรลมหายใจบำเพ็ญพลัง ก็จะหายดีอย่างรวดเร็ว.

พ่อบ้านคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว.

"ท่านหญิง เหล่าเยว่กลับมาแล้วอย่างงั้นรึ?"พ่อบ้านที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ.

"อืม กู่เหยี่ยเยี่ยได้รับบาดเจ็บ เขากำลังรักษาตัวไม่ให้ใครรบกวนเขา."หยิงหลานที่กล่าวออกมาในทันที.

"เช่นนั้น พวกเราควรที่จะทำอย่างไรดี?"พ่อบ้านที่กล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว.

"เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?"หยิงหลานสอบถาม.

"พวกเราได้รับข่าวมาว่าตระกูลราชวงศ์ต้าคุนเคลื่อนกองกำลังทหาร บางทีคงจะนำมาโจมตีคฤหาสน์จงของพวกเรา."พ่อบ้านกล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.

"ไม่ใช่ว่าพวกเขากำลังเคลื่อนที่ไปยังชายแดนหรอกรึ?"หยิงหลานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เอิ่ม แม้ว่าข้าจะไม่อยากเชื่อเท่าใดนัก ทว่าจากหลักฐานมากมายที่พวกเรารวบรวมมาได้ พวกเขากำลังมุ่งหน้ามาทางเรา ดูเหมือนว่าหวงตี้ต้องการที่จะบดขยี้พวกเราด้วยกองกำลังทหารแล้ว เพียงแต่พวกเขาพยายามปิดข่าวเอาไว้ ไม่เปิดเผยอย่างโจ่งแจ้ง."พ่อบ้านกล่าวออกมาอย่างรีบเร่ง.

หยิงหลานที่คิดใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่ ตระกูลราชวงศ์คงจะพบว่าได้ว่าเกิดเหตุบางอย่างกับประมุขตระกูลทั้งสี่และบรรพชนตระกูลใหญ่เหล่านั้น จึงคิดว่าตระกูลจงต้องการจะต่อต้านอาณาจักรเป็นแน่.

"อืม เจ้าทำได้ดีแล้ว อย่างไรก็ตาม กู่เหยี่ยเยี่ยเก็บตัวไม่ต้องการให้ใครรบกวน ภายในสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมา หากว่าได้ข้อมูลใดให้มารายงานข้า นอกจากนี้จงรวบรวมเกี่ยวกับกำลังรบทั้งหมดของตระกูลจง ส่งให้ข้าในทันที "หยิงหลานที่ออกคำสั่งในทันที ด้วยนางเองก็มีประสบการณ์ในการรบ นางย่อมสามารถที่จะสงบใจและจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้.

"ครับ."พ่อบ้านพยักหน้ารับและจากไปในทันที.

พ่อบ้านย่อมรู้ดี ภายในคฤหาสน์จงแล้วนอกจากเหล่าเย่ว ท่านหญิงถือว่าได้ว่ามีอำนาจมากที่สุด ซ้ำยังเหนือกว่าบุตรบุญธรรมเกือบทุกคนอีกด้วย.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด