Chapter 83 ชักกระบี่
ร่างแยกเงาจงซานที่เตรียมจะถอยออกไปยังประตูอีกข้าง ทว่าชายวัยกลางคนก็เข้ามาขวางทางเขาเอาไว้ในทันที ความเร็วของเขานั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก พริบตาเดียวก็มาอยู่ด้านหน้าจงซานแล้ว.
ร่างแยกเงาจงซานที่หรี่ตามอง เผยสายตาที่จริงจังออกมา.
ก่อนที่จะหันหน้าไปจ้องมองชายหนุ่มที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเจ้านายของชายคนดังกล่าวนี้.
"ข้ามีนามว่าจงซาน ข้าต้องการรู้เหตุผลว่าทำไมถึงได้มาขวางทางข้าเช่นนี้?"ร่างแยกเงาที่สอบถามจ้องมองไปยังชายหนุ่ม เขาไม่รู้จักคนทั้งสองเลยแม้แต่น้อย.
"ชักกระบี่."ชายหนุ่มที่เอ่ยออกมาเท่านั้น.
ระหว่างผู้ฝึกฝนศาสตร์การต่อสู้ คำพูดดังกล่าวนั้นหมายความว่าขอท้าประลองกับฝ่ายตรงข้าม.
ชายวัยกลางคนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแข็งแกร่งกว่าร่างแยกเงามาก หากเขาต้องการลงมือคงยากที่จะรับมือ ทว่าชายหนุ่มที่ท้าประลองมา เป็นเพราะเขาต้องการประลองแค่นั้นอย่างงั้นรึ?ทำไม?
"ข้าขอรู้เหตุผลได้หรือไม่?"ร่างแยกเงาสอบถาม.
ชายหนุ่มที่ชักกระบี่ออกมาจากด้านหลังก่อนที่จะมองไปยังร่างแยกเงา "หากว่าเจ้ามีชีวิตรอด ข้าจะบอกเจ้าก็ได้."
กระบี่สีดำของเขาที่ชี้ไปยังด้านหน้าร่างแยกเงาจงซานอยู่.
ร่างแยกเงาไม่ขยับ เขาต้องการรู้ให้ชัดเจนก่อนที่เขาจะทำอะไรต่อไป.
"ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเข้าใจอะไรผิดหรือไม่ ทำไมถึงได้เลือกข้า?หรือว่าข้าเคยล่วงเกินเจ้าที่ใหนมาก่อนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"พวกเราก็แค่คนจร ทว่าข้าได้เห็นว่าเจ้าสามารถสังหารคนที่อยู่ในระดับแกนทองได้."ชายหนุ่มที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
ระดับแกนทอง?เมียวเซียนเหรินอย่างงั้นรึ?เช่นนั้นเขาต้องการประลองกับเขาหลังจากที่เห็นเขาสังหารเมียวเซียนเหรินหรือไม่?
"นำอาวุธออกมา."ชายหนุ่มที่ยังคงกล่าวต่อ.
ขณะที่เขาชำเลืองมองไปยังชายวัยกลางคน ร่างแยกเงาก็ชักกระบี่นิรันดร์ออกมา.
"เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลกับฉู่จิว เขาจะไม่เข้ามายุ่ง เจ้าต่อสู้ให้สุดความสามารถ ไม่จำเป็นต้องกังวลใด ๆ ข้าและเจ้า มีระดับสี่เซียนเทียนเท่านั้น "ชายหนุ่มที่เอ่ยบอก.
ร่างแยกเงาจงซานที่ได้ยินค่อนข้างเบาใจอยู่เล็กน้อย แม้ว่าเขาจะพบเข้ากับภัยพิบัติที่คาดไม่ถึง อย่างน้อยชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่ใช่คนชั่วร้ายหน้าไม่อายแต่อย่างใด.
ชายหนุ่มที่ขมวดคิ้วไปมาเมื่อเห็นร่างแยกเงาชักกระบี่ออกมาแทนที่จะเป็นดาบยักษ์ ทว่าเขาก็ไม่จำเป็นต้องถามอะไร นั่นคือชีวิตของเขาย่อมมีสิทธิ์ที่จะเลือก หากเขาต้องการใช้กระบี่ เช่นนั้นเขาย่อมตัดสินใจดีแล้ว!
ชายหนุ่มที่จ้องมองไปด้านหน้า กระบี่ในมือของเขาที่สะบัดเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วพุ่งตรงไปยังร่างแยกเงา เป็นความเร็วที่ยากที่คนระดับสี่เซียนเทียนทั่วไปจะตามทัน ปลายกระบี่ที่พลังที่มองไม่เป็นราวกับปราณกระบี่ที่พุ่งออกไป.
รัศมีกระบี่ที่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ร่างแยกเงาจงซานเอี้ยวตัวหลบไปด้วยข้างอย่างรวดเร็ว กระบี่ยาวของเขาเองก็พุ่งตรงไปยังชายหนุ่มเช่นกัน.
"เครง! เครง! เครง!""
กระบี่สองเล่มที่เข้าปะทะกันอย่างรวดเร็ว ร่างแยกเงาถึงกับตื่นตะลึงกับทักษะกระบี่ของฝ่ายตรงข้ามมาก ทรงพลังเป็นอย่างมาก คาดไม่ถึงทุกครั้งที่เข้าปะทะแทบจะทำให้เขาลอยออกไป.
จงซานร่างหลักที่ฝึกฝนเพลงดาบ ส่วนร่างแยกเงาฝึกฝนเพลงกระบี่ เพลงดาบที่เน้นพลังโจมตี ส่วนเพลงกระบี่เน้นความรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นร่างหลักหรือร่างแยกเงา ทั้งเพลงกระบี่หรือเพลงดาบก็ไม่มีทักษะที่อ่อนด้อยกว่ากันอย่างแน่นอน.
ร่างแยกเงายังคงรับเพลงกระบี่ของฝ่ายตรงข้ามได้และทะลวงไปด้านหน้า ชายหนุ่มที่ดูมีความสุขไร้ซึ่งความหวาดกลัว กระบี่ยาวของเขาที่พุ่งตรงมายังร่างแยกเงาเช่นกัน.
รอยฟันเพียงแค่ผิวเผิน และรอยทะลวงที่ยังตื้นจนเกินไป เหมือนว่าความเร็วในการเคลื่อนที่ของร่างแยกเงานั้นจะเร็วเป็นอย่างมาก เขาสามารถที่จะขยับถอยได้อย่างรวดเร็วทำให้กระบี่ของชายหนุ่มทะลวงมายังร่างของเขาได้เพียงเล็กน้อย.
หากเป็นเช่นปรกติ เพียงแค่นี้ก็มีผลอย่างแน่นอน ทว่าเขากับพบว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวนั่นกับกลายเป็นตื่นเต้นแทน กระบี่ยาวของเขายังคงขยับอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหลบกระบี่ของจงซานไปมาอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งสามารถสร้างรอยขีดข่วนมายังร่างแยกเงาได้อีกด้วย.
กระบี่ของทั้งคู่ที่เขาปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างแยกเงาที่ไม่ถอยยังคงโจมตีอย่างรุนแรง ด้วยลักษณะพิเศษส่วนตัวของจงซานแล้วเขาไม่ถอยอย่างแน่นอน กระบี่ของเขาเคลื่อนที่ได้รวดเร็วกว่าฝ่ายตรงข้ามและยังมีความแม่นยำเป็นอย่างมาก เขาเริ่มสะกดข่มฝายตรงข้ามได้บ้างแล้ว.
กระบี่ของร่างแยกเงานั้นร้ายกาจมาก ไม่เพียงแต่มีความรวดเร็วเท่านั้น ยังควบคุมได้อย่างแม่นยำโจมตีไปยังจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย.
ชายหนุ่มเองก็มีทักษะที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นเป็นอย่างมาก แม้ว่ากระบี่ของจงซานจะรวดเร็วและพุ่งตรงมายังช่องว่าง ทว่าเขาก็ยังสามารถโต้กลับและปัดป้องได้อย่างแม่นยำเช่นกัน เขาในเวลานี้ราวกับว่าตื่นเต้นมากขึ้นและก็มากขึ้น ราวกับว่าเขาได้เจอกับคู่ปรับที่เหมาะสมแล้ว.
แม้ว่าร่างแยกเงาจะโจมตีออกไปด้วยความเร็วเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่มีผลอะไรต่อเขาเลย ทว่าการประลองครั้งนี้กับทำให้ชายหนุ่มกลับคิดว่า มันจะส่งผลดีต่อเขาเป็นอย่างมาก สามารถใช้ฝึกฝนเพลงกระบี่ไปในตัวอีกด้วย.
เป็นไปอย่างช้า ๆ ร่างแยกเงาเองก็รู้สึกยินดีกับการต่อสู้นี้ด้วยเช่นกัน การต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามที่มีทักษะที่ยอดเยี่ยมสามารถช่วยพัฒนาฝึกฝนมือของเขาได้ด้วย ในเวลานี้ต่างฝ่ายต่างก็ไม่สนใจว่าจะได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ไม่มีใครที่ยั้งฝีมือเอาไว้ ทั้งคู่ต่างก็พยายามใช้ทักษะทุกอย่างออกมา บีบเร้นศักยภาพที่มีทั้งหมดออกมา ราวกับว่ามันทำให้สามารถยกระดับกันและกันได้.
ในเวลาเดียวกันนั้น มีใครคนหนึ่งที่เข้ามาภายในประตู พวกเขาต่างต้องตื่นตะลึงกับการต่อสู้ด้านในเลยทีเดียว ทว่าพวกเขาก็ถูกฉู่จิวกระแทก เตะออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน.
ชายคนดังกล่าวที่ลอยออกไป กองอยู่บนพื้นด้วยความงงงวยก่อนที่จะตัดสินใจไปยังประตูอื่นต่อ
คนที่เข้ามานั้นต่างก็อยู่ในระดับแกนทองทั้งนั้น ทว่าพวกเขายังไม่รู้เลยว่ามีอะไรด้านในล้วนแต่ถูกเตะออกมาด้านนอกแล้ว เห็นได้อย่างชัดเจนว่าฉู่จิวนั้นทรงพลังมาก ทว่าพวกเขาเองก็ตระหนักได้ว่าด้านหลังประตูนั่นไม่มีจิตวิญญาณค่ายกลเช่นกัน ดังนั้นจึงไปสำรวจประตูอื่นอย่างรวดเร็ว.
อย่างไรก็ตาม คนที่ลอยออกมาจากด้านในนั้น ก็สร้างความสนใจกับคนจำนวนมากไม่น้อย เห็นได้ชัดจนว่าหลายคนที่ต้องการเข้าไปในประตู ต่างก็ถูกเหวี่ยงออกมา หลายคนที่มีโลหิตไหลซึมอยู่ที่มุมปาก หรือบางคนก็ไถลกวาดไปกับพื้นหญ้า หลาย ๆ คนต่างก็วิ่งหนีออกมา.
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ดูไม่สมเหตุสมผลนัก.
ทำให้มีคนไม่น้อยที่สงสัยจนต้องเข้ามาตรวจสอบ หลาย ๆ คน ก่อนที่พวกเขาจะรับรู้อะไรเกิดขึ้นก็ลอยโด่งออกมาจากประตูแล้ว ดูเหมือนว่ากับเหตุการณ์แปลก ๆ นี้จะสร้างความสนใจให้กับคนอื่น ๆ ไม่น้อย หลายคนที่เข้ามา ทุกคนต่างก็จากไปด้วยท่าทางประหลาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีหลายคนพยายามจะเข้าไปตรวจสอบอยู่เรื่อย ๆ .
ฉู่จิวนั้นเ ขาต้องการเตรียมพื้นที่แห่งนี้ให้เหมาะสมกับการประลองของทั้งคู่อย่างดีที่สุด.
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง เพลงกระบี่ของชายหนุ่มราวกับว่ามันทรงพลังร้ายกาจขึ้นเรื่อย ๆ .
ร่างแยกเงาจงซานเองก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มผู้นี้ทรงพลังขนาดนี้เลยรึ?
ขณะที่การโจมตีต่อเนื่องของร่างแยกเงาถูกปล่อยออกไป กระบวนท่าต่อมานั้นกำลังจะถอยออกมา ทันใดนั้นกระบี่ของชายหนุ่มก็หายไปก่อนที่จะมาปรากฏขึ้นขวางวิถีกระบวนท่าถอยของเขา.
ชายหนุ่มคนดังกล่าวนั้นร้ายกาจมาก แม้ว่ากระบวนท่าดังกล่าวจะไม่ได้ทรงพลังมากนัก ทว่าภายในใจของร่างแยกเงาจงซานก็ตื่นตระหนกเช่นกัน เขากำลังจะแพ้แล้ว ร่างแยกเงาจงซานที่กัดฟันแน่น ก่อนที่จะหยุดร่างกาย เป็นการหยุดที่แปลกประหลาด แม้แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามและฉู่จิวเองยังแสดงท่าทางไม่อยากเชื่อออกมา.
มันจะเป็นไปได้อย่างไร? หยุดกลางอากาศอย่างงั้นรึ? ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของใดก็ตามหากหล่นลงมาจากท้องฟ้าแล้วไม่เคยมีสิ่งใหนหยุดกลางอากาศก่อนแล้วค่อนหล่นลงมา กระบวนท่าการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ก็ด้วยเช่นกัน การเคลื่อนไหวนี้มันไม่เป็นไปตามหลักการสามัญสำนึกทั่วไปเลยแม้แต่น้อย.
ร่างแยกเงาที่หลบวิถีกระบี่ของฝ่ายตรงข้ามทันที หลังจากที่เขาหยุดกลางอากาศ เขาก็เคลื่อนไหวตรงไปยังด้านหน้าของฝ่ายตรงข้าม เหมือนกับภูติผี เป็นทักษะที่มีเพียงร่างแยกเงาเท่านั้นที่ใช้ได้ การเคลื่อนไหวที่อ่อนช้อย หยุดและเคลื่อนที่ตามใจนึก เป็นกระบวนท่าที่ฝืนกฎสวรรค์และกฎของการขยับร่างกายที่ไม่เคยมีใครทำได้.
"เครง เครง เครง!"
ในเวลานี้ชายหนุ่มที่โจมตีออกไปอย่างรวดเร็วราวกับพายุ กระบี่ของชายหนุ่มนั้นเคลื่อนที่รวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากที่ต่อสู้จนมาถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโจมตีออกมารวดเร็วขนาดนี้ แม้แต่การมองของร่างแยกเงา ยังไม่สามารถมองเห็นมันได้ทั้งหมด.
ราวกับห่าฝนที่พุ่งออกมา จงซานไม่อยากเชื่อเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะทำได้ บอกไม่ได้เลยว่าเขาโจมตีออกมากี่ครั้ง ตอนนี้เต็มไปด้วยอันตรายที่ไร้ที่สิ้นสุด ในโลกใบนี้คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนเช่นนี้?เขาอยู่ในระดับเซียนเทียนอย่างงั้นรึ? นี่คือระดับสี่เซียนเทียนจริง ๆ รึ?
เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!
ร่างแยกเงาแม้ว่าจะไม่มีวิชากายาเทพอสูร ทว่าร่างแยกเงาเองก็มีทักษะพิเศษที่แข็งแกร่งที่ร่างต้นทำไม่ได้เช่นกัน.
การต่อสู้ในครั้งนี้สร้างความประหลาดใจให้กับทั้งสองฝ่ายแทบจะไม่ต่างกัน อีกฝ่ายต่างก็คิดว่าจงซานคือมนุษย์จริง ๆ รึ? เป็นไปได้อย่างไรที่มนุษย์จะขยับเคลื่อนไหวเช่นนี้ได้?เขาที่สามารถบิดข้อมือเหวี่ยงกระบี่ได้เกินกว่ากล้ามเนื้อของสิ่งมีชีวิตจะทำได้ การเหวี่ยงข้อมือแต่ละครั้งนั้นราวกับว่าไร้ซึ่งกระดูกผูกมัด ราวกับว่าข้อมือของเขามันหักไปแล้ว อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงเหวี่ยงกระบี่ได้อีก?
จงซานที่ยังสามารถหลีกหนีจากอันตรายได้นั้น เพราะว่า นี่คือร่างแยกเงา ทว่าชายหนุ่มฝ่ายตรงข้ามเขาก็โจมตีทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน.
ร่างแยกเงาที่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถรับมือได้อีกแล้ว เขารู้ว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังเรียนรู้และฝึกฝนเคล็ดวิชาดังกล่าวเพื่อพัฒนาเพลงกระบี่ของเขา เช่นนั้นเขาควรจะทำอย่างไรดี?
เขากำลังจะแพ้อย่างงั้นรึ? ร่างแยกเงาทันใดนั้นก็ปรากฏความคิดบางอย่างได้.
พ่ายแพ้อย่างงั้นรึ? นี่ไม่ใช่แค่การประลองฝีมือเท่านั้น ทว่าการประลองกันในครั้งนี้ การพ่ายแพ้ หมายถึงความตาย!
ร่างแยกเงาเองก็ไม่ต้องการจะตาย จงซานมีวิธีที่จะหนีได้ เพียงแค่เขาเปลี่ยนร่างเป็นเงาก็จะเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ทว่าจงซานยังไม่คิดจะใช้วิธีดังกล่าวนั้น เพราะว่าที่นี่ยังมีฉู่จิวอยู่อีก.
ทางที่ดีที่สุดคือทำให้ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บหนักจนไม่สามารถที่จะประลองต่อไปได้.
ดวงตาของจงซานมีประกายแสงความมุ่งมั่น แม้ว่าเขาจะไม่มีวิชาที่ทรงพลังเหมือนฝ่ายตรงข้าม ทว่าเขาก็มีทักษะพิเศษบางอย่างที่ฝ่ายตรงข้ามไม่มีเช่นกัน.
ดวงตาของร่างแยกเงาที่เบิกกว้าง กระบวนท่าต่อไปของเขาจะไม่หลบต้องปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีเข้ามา.
"ฉึบบ!"
เป็นไปตามคาดขณะที่กระบี่ของชายหนุ่มทะลวงมายังไหล่ของร่างแยกเงา โลหิตที่ไหลซึม กระบี่ที่ทะลวงผ่านเข้าไปในร่างของร่างแยกเงา ทว่าไม่สามารถที่จะดึงออกมาได้ในทันที.
ชายหนุ่มถึงกับตื่นตะลึงด้วยความประหลาดใจ เพราะว่ากระบี่ของเขาในเวลานี้ถูกจงซานหนีบเอาไว้ ทว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถดึงออกมาได้.
"ฉึบบ!"
แทบจะในทันทีเช่นกันกระบี่นิรันดร์ของจงซานก็ทะลวงไปยังไหล่ซ้ายของชายหนุ่ม เตรียมที่จะตายไปด้วยกันอย่างงั้นรึ?
โลหิตที่ไหลออกมาจากบาดแผล ชายหนุ่มคาดไม่ถึงเลยว่าจงซานจะใช้กลยุทธ์เช่นนี้.
กระบวนท่าถัดมา ตราบเท่าที่ทั้งคู่สะบัดกระบี่ออกมาล่ะก็ ไหล่ของทั้งคู่จะต้องขาดออกเป็นเสี่ยง ๆ แน่.