ตอนที่แล้วChapter 79 หยกล้ำค่าที่ใจกลางเหมือง.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 81 ไท่ซูจื่อ.

Chapter 80 ตามังกร.


ภายในประตูบานที่สองของประตูบาดเจ็บ(伤) กงจูเฉียนโหยว อาต้า อาเอ้อและกู่หลินพร้อมกับผู้ติดตามทั้งแปดคนที่ล้อมรอบพวกเขา หยิงหลานและเทียนหลิงเอ๋อมีจงซานและเป่ยชิงซือปกป้อง.

หยิงหลานและเทียนหลิงเอ๋อดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเหล่าทหารต้นหญ้ารอบ ๆ พวกนางถูกจัดการไปอย่างง่ายดาย พวกนางไม่สามารถบอกได้เลยว่าทำไมถึงแตกต่างกับเหล่าผู้ติดตามทั้งแปดซึ่งพวกเขามีพลังฝึกตนเทียบเท่าเมียวเซียนเหรินเลย ทว่าเหล่าทหารที่จงซานต่อสู้ด้วยกับมีแต่พวกไร้ความสามารถ ถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย.

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง สามในแปดของผู้ติดตามได้รับบาดเจ็บหนักทีเดียว ส่วนจงซานกลับยังดูกระปรี้กระเปร่าเหมือนเขาไม่ต้องพยายามใด ๆ เลย.

"เฉียนโหยว พวกเราจะต้องรออีกนานเท่าไหร่? เป็นไปได้ไหมว่าสุ่ยจิงจะทำภารกิจล้มเหลว?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถามออกไป.

"เซียนเซิงสุ่ยจิงลงมือด้วยตัวเอง ไม่มีทางผิดพลาด รอไปก่อน."เฉียนโหยวขมวดคิ้วขณะพูด.

"สุ่ยจิงไม่เห็นจะร้ายกาจตรงใหนเลย ไม่เช่นนั้นที่ตำหนักของข้า บิดาของข้า ไม่เคยมอบงานสำคัญให้กับเขาเลย "กู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงปนอิจฉา.

"ก่อนหน้านี้ข้าเคยขอเซียนเซิงสุ่ยจิงกับบิดาเจ้าแล้ว ข้าต้องการให้เขามาอยู่กับข้า เช่นนั้นเจ้าช่วยขอบิดาเจ้าให้ข้าสิ?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังกู่หลินด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์.

กู่หลินตอบอย่างขม ๆ  "ข้าขอแล้ว ทว่าเซียนเซิงสุ่ยจิงไม่ยอมจากไปจากตำหนักเราเองและบิดาของข้าเองก็ไม่ยอมด้วย แล้วจะให้ข้าทำไง?ไว้ข้ากลับไปค่อยขออีกทีแล้วกันหรือว่าพวกเรากลับไปขอพร้อมกัน?"

กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมาและถอนหายใจ."เอาล่ะ เอาล่ะ!หากบิดาเจ้าไม่ยินดี เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแล้ว ไม่ว่าพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์."

"ครืน ๆ  ๆ  ๆ  ๆ !"

พื้นที่รอบ ๆ ตอนนี้กำลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แม้แต่พื้นที่กงจูเฉียนโหยวยังสั่นสะเทือนไปด้วย ทั่วทั้งค่ายกลดูเหมือนว่าจะไม่เสถียรแล้ว.

"ฝั่งสุ่ยจิงทำสำเร็จแล้ว."กู่หลินตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.

"ครืน ครืน ครืน..."

ที่ใจกลางของทุ่งหญ้า ผืนปฐพีที่แตกแยกออก ประตูบานใหญ่ที่ลอยขึ้นจากรอยแยก ประตูขนาดมหึมากว่า 300 เมตร ตั้งตระหง่านรอคอยคนเข้าไปด้านใน.

ชั่วระยะเวลาที่เห็นประตูบานใหญ่ ทุก ๆ คนต่างไร้ซึ่งลังเล บุกทะลวงเหล่าทหารต้นหญ้ามุ่งตรงไปยังประตูบานใหญ่ในทันที แน่นอนว่ามีทหารต้นหญ้าขวางอยู่ ทว่าพวกเขาหากผ่านไปได้ก็จะไปถึงเป้าหมาย ดังนั้นเหล่าผู้ฝึกตนทั้งหมดที่มีต่างก็บุกจู่โจมทะลวงเปิดทางเพื่อตรงไปยังประตู.

"องค์รักษ์ทั้งแปด เปิดทาง."กงจูเฉียนโหยวที่สั่งการ.

"รับทราบ"ผู้ติดตามทั้งแปดต่างก็เร่งรีบจัดการทหารต้นหญ้าเพื่อเปิดทางไปยังประตูบานยักษ์.

คนทั้งสี่ที่ถูกคุ้มกันและกลุ่มของจงซานที่มีจงซานและเป่ยชงซือที่คุ้มครองหญิงสาวสองคน เคลื่อนย้ายตรงไปยังประตูบานใหญ่อย่างราบรื่น.

บางคนที่เดินทางไปถึงประตูแล้ว ขณะที่จะก้าวเข้าไป.

"ปัง!"

ดูเหมือนว่าจะมีม่านประตูคริสตัลที่ปรากฏขึ้นมาขวางกั้นประตูบานใหญ่เอาไว้.

คน ๆ แรกที่พุ่งเข้าประตูอย่างรวดเร็วนั้น เกิดเสียงดังสนั่นเมื่อเขากระแทกเข้ากับประตู ศีรษะที่โลหิตไหลเป็นทาง ก่อนที่เขาจะล้มลงและเหล่าทหารต้นหญ้าก็เข้าโจมตีเขาในทันที.

"ฉับ ฉัวะ ฉึบ!"

ชายคนดังกล่าวถูกตัดออกเป็นสิบท่อนตายไปในทันที!

เป็นความโชคร้ายอย่างที่สุด ที่เขาเป็นคนแรกขาดความระมัดระวังเพียงพอ ขณะที่เขามุ่งแต่เข้าประตูแต่ไม่สังเกตเห็นประตูคริสตัลที่ขวางอยู่ หลายคนเวลานี้เริ่มจัดการเหล่าทหารต้นหญ้าให้เบาบางลงก่อนพร้อมกับโจมตีไปที่กำแพงคริสตัลที่ขวางอยู่.

"ตูมมม ตูมมม ตูมมม.........."

เหล่าคนที่อยู่ในขั้นแกนทองได้ใช้ปราณเกราะกระบี่ออกมา เพื่อทำลายม่านคริสตัลนั่น ทว่ากลับไม่สามารถสร้างได้แม้แต่รอยขีดข่วน ดูเหมือนว่ามันจะทรงพลังเกินกว่าขั้นแกนทอง.พวกเขาไม่สามารถเปิดประตูได้อย่างงั้นรึ?

แน่นอนบางทีเพียงแค่ผู้ฝึกตนระดับแกนทองคนเดียวอาจจะไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าหากร่วมมือกันหลายคนอาจจะทำได้ก็ได้ อย่างไรก็ตามด้วยเหล่าทหารต้นหญ้านั้นได้เข้ามารบกวนพวกเขาตลอดเวลา ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสทำเช่นนั้นได้.

ในเวลาเดียวกันนั้น กงจูเฉียนโหยวและกลุ่มของนางตอนนี้ได้เข้าใกล้ประตูแล้ว.

พวกเขาไม่สงสัยในความแข็งแกร่งของกลุ่มกงจูเฉียนโหยวอย่างแน่นอน ทุก ๆ คนต่างก็เห็นว่ากลุ่มของพวกนางบินมายังค่ายกลโดยไม่ใช้ของวิเศษหลายคน หลังจากที่เข้ามายังค่ายกล ทุกคนต่างก็จับจ้องมองมายังกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด.

เมื่อกลุ่มดังกล่าวนี้มาถึง ทุกคนต่างก็เปิดทางโดยพร้อมเพรียง และยังช่วยกันสกัดกั้นเหล่าทหารต้นหญ้าไม่ให้เข้าไปใกล้ประตูคริสตัลอีกด้วย.

ทุกคนรู้ดีว่ากงจูเฉียนโหยวและสององค์รักษ์ด้านหลังนางนั้นอยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณ บางทีอาจจะเทียบเท่ากับประมุขของพวกเขาหรืออาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำ.

กงจูเฉียนโหยวที่เห็นคนเหล่านั้นพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ  แสดงท่าทางดูแคลน พร้อมกับจ้องมองไปยังประตูคริสตัลด้านหน้า.

"อาต้า หมัดมังกรคำราม."กงจูเฉียนโหยวที่ออกคำสั่ง.

"รับทราบ."อาต้าพยักหน้าพร้อมกับเดินไปด้านหน้าทันที พร้อมกับเก็บกระบี่ของตัวเองไว้.

ทุกคนที่ถอยห่างออกจากประตู อาต้าชำเลืองมองดูม่านคริสตัลอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่จะถูมือไปมา.

อาต้าก้าวไปยังด้านหน้าหนึ่งก้าว หายใจลึกเข้าเต็มปอด พร้อมกับโคจรพลังภายใน คลื่นพลังมากมายกำลังส่งออกมาเป็นระลอก.

แทบจะในทันที พลังที่แข็งแกร่งกลายเป็นลำแสงที่ถูกรวบรวมขึ้นที่หมัดของเขา มันส่องประกายสว่างจ้าไปทุกทิศทาง.

"ฮึม ๆ (แฮก ๆ )"

กระแสพลังที่มากมายมหาศาลแผ่เป็นไอจนทำให้อากาศรอบ ๆ บิดเบี้ยว พลังที่รวมรวมตัวกันมากขึ้นและก็มากขึ้น ลำแสงที่สะท้อนม่านคริสตัลสว่างจ้า ก่อนที่หมัดของเขาจะพุ่งออกไป.

พลังมากมายที่หมุนวนรอบ ๆ กำปั้นของเขา พุ่งเป็นสายตรงไปยังม่านประตู.

"ย๊าก ๆ  ๆ "

เสียงคำรามที่ดังออกมาจากหมัดฉีกอากาศ ราวกับเสียงคำรามของพยัคฆ์ร้ายที่กำลังโกรธเกรี้ยว.

ลำแสงสีทองที่ยิงออกไปจากอาต้า กลายเป็นพลังที่มากมายมหาศาลรวมตัวกันกระแทกไปยังม่านคริสตัล พลังที่ถูกกระแทกรวมตัวกันขึ้นมาเป็นรูปร่าง.

เป็นพยัคฆ์ตนหนึ่ง เป็นพยัคฆ์ตัวใหญ่ที่น่าเกรงขาม กำลังโกรธเกรี้ยว เป็นรูปร่างของพลังบริสุทธิ์สีทองที่กำลังผลักดันกระแทกม่านคริสตัลอย่างรุนแรง.

"ฮึม ๆ  ๆ (แฮก ๆ )"

เสียงคำรามลั่น.

เสียงของพยัคฆ์ที่กำลังกระแทกม่านคริสตัลอยู่.

"ตูมมมมมม!"

พยัคฆ์พลังงานขนาดมหึมาที่พังทลายม่านคริสตัลแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ .

"ตูมมม โครม!"

ม่านคริสตัลขนาดใหญ่ที่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แหลกสลายพังทลายลงมา ฟุ้งกระจายล่วงหล่นลงมารอบ ๆ ก่อนที่จะหายไป ราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่.

ม่านคริสตัลพังลงแล้ว.

เพียงแค่คน ๆ เดียวก็สามารถทำลายม่านคริสตัลที่แข็งแกร่งลงได้ ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังอาต้าด้วยท่าทางหวั่นเกรง.

พลังหมัดของอาต้านั้นทรงพลังเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการถึงได้.

แม้แต่จงซานยังหัวใจสั่นสะท้าน ทว่าเขาก็ยังคงสงบใจ ไม่แสดงความขลาดออกมา.

เมื่อม่านคริสตัลถูกทำลาย อาต้าก็กลับมายืนด้านหลังกงจูเฉียนโหยว นางที่ไม่สนใจคนอื่นแม้แต่น้อย นางได้นำพรรคพวกของนาง เดินเข้าประตูบานใหญ่ไป เมื่อพวกของนางจากไปหมดแล้ว กลุ่มอื่น ๆ ถึงค่อย ๆ ก้าวตามไป.

เมื่อเข้ามาด้านใน จงซานถึงกับต้องขยี้ตาอีกครั้ง คิดว่าที่นี่คือดวงตามังกรแล้ว อย่างไรก็ตามที่ด้านในนั้นยังกลายเป็นพื้นที่โล่งอีกเหมือนเดิม.

เอ๊ะ! ที่จริงไม่ใช่พื้นที่เปิดโล่งเสียทีเดียว พื้นที่แห่งนี้มีภูเขาล้อมรอบ เป็นหุบเขาขนาดใหญ่ ที่ด้านล่างนั้น มีประตูขนาดเล็ก ๆ มากมายนับไม่ถ้วน แต่ละบานนั้นมีขนาดความสูงสิบเมตร.

ประตูแต่ละบานนั้นลอยอยู่บนอากาศ ลอยอยู่เหมือนกับประตูบาดเจ็บ(伤) ที่ด้านหน้านั้นมีหมอกปกคลุมอยู่อีกชั้นทำให้ไม่สามารถมองเห็นอะไรด้านในประตูได้เลย.

จงซานที่ทำการกวาดตาจ้องมองประตูทั่วทั้งหุบเขา จากการตรวจสอบแล้วมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด มากกว่า 80,000 ประตู.

"ทำไมที่นี่ มีประตูมากมายขนาดนี้กัน? ไม่ใช่ว่าที่นี่คือดวงตามังกรหรอกรึ?"กู่หลินที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

"ที่นี่คือดวงตามังกร ไทซูจื่ออยู่ด้านหลังประตูบานใดบานหนึ่งในนี้."กงจูเฉียนโหยวที่หรี่ตาจ้องมองไปยังประตูด้านล่างที่มีอยู่มากมาย.

"เช่นนั้นพวกเรา จะต้องค้นไปทุกบานเลยอย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่ตะโกนเสียงดัง จะสามารถเปิดประตูทั้งหมดกว่า 80,000 บานเลยรึไง?

กงจูเฉียนโหยวที่ชำเลืองมองไปยังกู่หลินพลางถอนหายใจ! เห็นได้ชัดเจนว่านางนั้นผิดหวังกับเขาเป็นอย่างมาก.

นางที่หันกลับไปเห็นคนที่ตามกลุ่มพวกนางมาข้างในกว่า 400 คน.

"ทุก ๆ ท่าน ที่ด้านล่างนั้น มีประตูอยู่ด้วยกันทั้งหมด 88,888 ประตู มีศิลาวิญญาณมากมายที่อยู่ด้านหลังประตู หรือแม้แต่จิตวิญญาณค่ายกลที่รอคอยผู้มีวาสนาอยู่ด้านใน ขอให้ทุกคนกระจายตัวออกไป ขึ้นอยู่กับวาสนาของพวกเจ้าแล้ว."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกไปต่อคนที่ติดตามกลุ่มของนางเข้ามา.

"ขอบคุณ อาวุโส."ทุก ๆ คนต่างก็ตอบรับ พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่ากงจูเฉียนโหยวนั้นจะยอมเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เข้าไปหลังประตู แน่นอนว่ามีคนจำนวนหนึ่งที่ค่อนข้างสงสัย ทว่าพวกเขาต่างก็รู้ดีว่า ทุกอย่างก็เป็นเหมือนดั่งเช่นที่นางกล่าว ที่ด้านหลังประตูนั้นมีศิลาวิญญาณมากมาย หรือแม้แต่จิตวิญญาณค่ายกล เพียงแต่คนเพียงไม่กี่คนยากที่จะเปิดประตูทั้งหมดได้ทุกบาน.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด