Chapter 79 หยกล้ำค่าที่ใจกลางเหมือง.
สองวันที่แล้ว จงซานได้เรียนรู้เกี่ยวกับเจียงซือจากเป่ยชิงซือ เจียงซือนั้นถูกสร้างจากคนที่มีชีพจรหยินและถูกนำไปฝังในสถานที่อุดมไปด้วยพลังหยิน หลายร้อยปีถัดมาเมื่อร่างนั้นดูดซับปราณหยินจนเพียงพอ จะทำให้กลายเป็นอมตะไม่ตาย เป็นเจียงซือ ซึ่งในขั้นแรกนั้นจะกลายเป็นเจียงซือทองแดง.
ขั้นถัดไปก็จะเป็นเจียงซือเงิน ซึ่งสองระดับนี้จะไม่มีเชาว์ปัญญาแต่จะถูกควบคุมด้วยคนเชิด ขั้นถัดมาเจียงซือทอง สามารถบินได้และยังดำดินได้อีกด้วย เป็นความสามารถที่น่าทึ่งมาก.
แต่ทว่านับว่าค่อนข้างหายากทีเดียวที่จะเห็นเจียงซือเงิน ยิ่งเป็นเจียงซือทองด้วยแล้ว แทบจะถูกนับได้ว่าเป็นระดับตำนาน ส่วนระดับที่เหนือกว่าเจียงซือทอง ไม่มีใครรู้ว่ามีอยู่หรือไม่?
ร่างแยกเงาของจงซานที่ตามเจียงซือทองไป มันได้ดำดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ .
เจียงซือทองดูเหมือนว่าจะรู้ตำแหน่งของวิเศษแล้ว มันได้เลี้ยวไปมาไม่หยุด ร่างเงาจงซานที่ตามหลังไปติด ๆ ซึ่งลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ในชั้นดินมีศิลาที่เป็นเหมือนค่ายกลเป็นจำนวนมากกระจายอยู่เต็มไปหมดยากที่จะผ่านไปได้ทำให้การเคลื่อนที่ค่อยข้างช้าเหมือนกัน.
หลังจากผ่านไปชั่วขณะ ร่างแยกเงาจงซานก็เห็นเจียงซือทองหยุด.
ที่ด้านหน้าของมันนั้นมีปราณพลังวิญญาณที่หนาแน่นปรากฏขึ้นมา เป็นพื้นที่อัดแน่นไปด้วยปราณพลังวิญญาณ เทียบได้กับหุบเขาผลไม้สวรรค์ของสำนักไคหยางได้เลย ที่แห่งนี้มีสมบัติวิเศษอยู่อย่างงั้นรึ?
ร่างแยกเงาจงซานที่เข้าไปใกล้เรื่อย ๆ ทันใดนั้น ก็พบกับแสงสว่างมากมายที่ส่องประกายออกมา.
สีแดงและสีครามส่องแสงสว่างจ้าอยู่ใต้ดิน.
มีศิลาวิญญาณมากมาย ทั้งศิลาหยินและศิลาหยาง อัดกันหน้าแน่นเต็มไปหมด และยังยืดยาวลึกเข้าไปถึงด้านใน นี่คือเหมืองศิลาวิญญาณ?
ถึงจะเป็นเหมืองก็ตาม ศิลาวิญญาณทุกก้อนกลับถูกสกัดกลั่นออกมาจนบริสุทธิ์แล้ว และไม่ใช่แค่นิดเดียวด้วยแต่เป็นทั้งหมด.
เจียงซือทองที่หยุดอยู่ด้านหน้าเหมืองศิลาวิญญาณ ร่างแยกเงารู้ว่าลึกเข้าไปข้างในยิ่งมีพลังวิญญาณหนาแน่นเป็นอย่างมาก.
สถานที่แห่งนี้จะต้องมีจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์อย่างแน่นอน โดยทั่วไปเกี่ยวกับเหมือนศิลาวิญญาณ จงซานเคยถามเป่ยชิงซือมาก่อนแล้ว โดยทั่วไปนั้นจะมีเหมืองเพียงศิลาวิญญาณหยิน หรือศิลาวิญญาณยางแยกกันอยู่ ไม่เคยมีเหมืองใดที่มีศิลาวิญญาณทั้งสองอย่างอยู่ด้วยกัน.
เช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องสงสัยแล้วที่แห่งนี้คือตำแหน่งของจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ ตามเนื้อหาของ"แปลนศาลสวรรค์นั้น"ได้เอ่ยถึงเมื่อทำการติดตั้งจี้หยกมังกรสวรรค์แล้ว จะต้องสร้างพลังจิตวิญญาณเพื่อรองรับโชคลาภที่จะมารวมตัวกันอยู่รอบ ๆ สถานที่แห่งนี้ และเพื่อป้องกันไม่ให้พลังของจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์กระจัดกระจายออกไป.
ศิลาวิญญาณมากมายปกคลุมเป็นวงกว้างโดยมีจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์เป็นศูนย์กลาง ที่นี่จะต้องเป็นที่ตั้งอย่างแน่นอน และอยู่ลึกเข้าไปตรงกลางเหมืองศิลาจิตวิญญาณเหล่านี้.
ทว่า ทำไมเจียงซือทองถึงได้หยุดล่ะ?
ขณะที่ร่างแยกเงาจงซานกำลังสงสัยในความเป็นจริง.
"ตูมมมมม!"
เจียงซือทองยืดแขนขวาของมันออกไป ลำแสงสีทองถูกยิงกระแทกเข้าไปยังใจกลางศิลาวิญญาณ.
ผืนปฐพีที่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เสียงดังสนั่นอยู่ใต้ดิน ลำแสงที่พุ่งออกไปนั้น เป็นช่องตรงลึกเข้าไปด้านใน.
เจียงซือทองที่เคลื่อนที่ไปด้านหน้า ลำแสงสีทองที่ถูกยิงออกไปเป็นระยะ เจียงซือทองที่เคลื่อนที่เข้าไปในเหมือง.
เจียงซือทองที่สามารถดำดินได้อย่างเชี่ยวชาญ ทว่าในเหมืองศิลาวิญญาณนั้น กลับไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ดั่งใจอย่างงั้นรึ?
ดวงตาของร่างแยกเงาจงซานที่เห็นแล้วรู้สึกดีใจขึ้นมาทันที ยอดเยี่ยม เป็นเรื่องยอดเยี่ยมที่สุด!
ร่างของเจียงซือทองนั้นไม่สามารถเคลื่อนที่เข้าไปในเหมืองได้หากไม่เปิดช่องให้พอตัว ส่วนร่างแยกเงาจงซานนั้นสามารถเคลื่อนที่เข้าไปในได้เพียงแค่ผ่านช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างศิลาเท่านั้น และยังเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย.
ในเวลานั้นเพียงแค่อึดใจเดียว ร่างแยกเงาก็พุ่งออกไปราวกับภูติผีพุ่งผ่านเจียงซือทอง.
ไม่นานหลังจากนั้น รางแยกเงาก็มาถึงใจกลางของเหมือง.
ในเวลาเดียวกันนั้น ที่บนพื้นดิน เซียนเซิงซือ กำหัวใจโลหิตอยู่ ทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้นมาด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.
"เซียนเซิงซือ พบอะไรเข้าอย่างงั้นรึ?"หวงตี้สอบถามออกไปทันที.
เซียนเซิงซือที่จ้องมองไปยังหวงตี้ ทว่าก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา เขายังคงหลับตาและทำการควบคุมเจียงซือทองต่อ.
คนอื่น ๆ รู้สึกขุ่นข้องใจเป็นอย่างมากกับท่าทางกักขฬะของเขาที่กระทำต่อหน้าหวงตี้ ทว่าหวงตี้กลับไม่ได้รู้สึกอะไรและยังคงรอคอยอย่างอดทน.
เจียงซือทองยังคงมุ่งหน้าผ่านเข้าไปในเหมือง อย่างไรก็ตามความเร็วของร่างแยกเงาจงซานนั้นมีมากกว่าสิบเท่าหรือร้อยเท่าเลยก็ว่าได้ เขาเคลื่อนสิบลี้เพียงแค่อึดใจเดียว.
ยิ่งมีพลังจิตวิญญาณมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เขาเคลื่อนที่ได้รวดเร็วเท่านั้น และไม่นาน ร่างแยกเงาของจงซานก็หยุดลง.
เขาได้พบเข้ากับสิ่งที่เขาต้องการที่สุดแล้ว.
ในเวลานี้เขาได้มาหยุดที่กลางเหมืองแล้ว.สถานที่แห่งนี้ไม่มีศิลาวิญญาณอีกต่อไป ด้านในนั้นเป็นเหมือนกับลูกโป่งทรงกลมที่มีรัศมีสามเมตร พลังจิตวิญญาณที่หนาแน่นถูกอัดเข้าไปจนกลายเป็นของเหลว นี่คือพลังจิตวิญญาณที่ถูกอัดแน่น หรือเรียกว่าของเหลวจิตวิญญาณ มันกำลังห่อหุ้มวัตถุชิ้นหนึ่งอยู่.
ที่ตรงกลางนั่นเป็นจี้หยกที่มีขนาดเท่ากับศีรษะมนุษย์ มีหลากสี มีรูปมังกรเก้าสีสลักเอาไว้รอบ ๆ เก้ามังกรเก้าสี แต่ละตนมีสีที่แตกต่างกันไปเก้าตนนั่นเอง.
มังกรเก้าตนที่ถูกสลักล้อมรอบจี้หยกเอาไว้ ราวกับว่าพวกมันกำลังจะโบยบิน นี่ไม่ใช่จี้หยกธรรมดาอย่างแน่นอน ดูน่าเกรงขามทรงพลัง จนทำให้จงซานรู้สึกราวกับว่ามังกรดังกล่าวนี้มีชีวิตอยู่จริง ๆ .
นี่คือจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์สินะ!
ร่างแยกเงาจงซานที่เต็มไปด้วยความยินดีอย่างที่สุด.
ตูมมม ตูมมม ตูมมม!
เสียงระเบิดดังก้องไล่หลังเขามาแล้ว.
เป็นเจียงซือทองนั่นเอง มันใกล้เข้ามาแล้ว ร่างแยกเงาจงซานทันใดนั้นก็ยืนมือออกไปยังจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ที่อยู่ด้านใน.
จิตวิญญาณที่เป็นของเหลวนั่นจงซานไม่กล้าที่จะดูดซับมันเข้ามาภายในร่างเลย.
ดวงตาของเขาที่เบิกกว้าง ดูเหมือนว่าความหนาแน่นของมันนั้นเพียงพอที่จะระเบิดร่างของเขาออกมาได้เลย.
เขาที่สะบัดมือนำจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์หายเข้าไปในกำไลเก็บของตัวเองทันที.
แทบจะในทันทีเช่นกัน ของเหลวจิตวิญญาณที่ราวกับว่าไม่สามารถรวมตัวกันได้อีกต่อไป มันได้กลายเป็นก๊าซ และกระจายออกไปรอบ ๆ แผ่ซ่านกระจายออกไปทั่วทุกสารทิศรอบ ๆ เหมือง.
ทั่วทั้งเหมืองเวลานี้กำลังสั่นสะเทือนด้วยคลื่นกระแทก.
เจียงซือทองที่หยุดชั่วขณะ เซียนเซิงซือที่บนพื้นดินใบหน้าเปลี่ยนไปในทันที แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยวและกระวนกระวาย จี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ที่เขาต้องการนั้นถูกใครบางคนฉกไป เป็นเงาสีดำ ร่างเงาสีดำอย่างงั้นรึ?
เซียนเซิงซือที่เร่งรีบสั่งการให้เจียงซือทองพุ่งตรงไปยังใจกลางเหมืองอย่างเร่งรีบ เขาที่ได้ให้คำมั่นกับหวงตี้ว่าจะนำหยกดังกล่าวมาให้ได้.
อย่างไรก็ตาม ร่างแยกเงานั้นไม่มีทางรอคอยให้เจียงซือนั่นมาถึงเขาอย่างแน่นอน.
หลังจากที่ได้จี้หยกแล้ว จงซานก็ไม่สนใจศิลาวิญญาณรอบตัวเขาแม้แต่น้อย เร่งรีบหนีไปก่อนที่เจียงซือทองจะมาถึง.
เขาที่กลายเป็นร่างเงา ย่อขนาดพร้อมกับหนีหายไปอย่างรวดเร็ว.
ร่างแยกเงานั้นมีทักษะเชื่อมต่อที่พิเศษมาก สามารถที่จะบอกตำแหน่งของร่างต้นได้ เขาสามารถพุ่งตรงไปยังตำแหน่งที่ร่างต้นอยู่ได้โดยสัญชาติญาณ.
เมื่อเจียงซือทองมาถึงใจกลาง ก็พบว่าจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ไม่อยู่ที่นี่แล้ว และไม่สามารถพบเห็นใครอยู่ที่นี่ได้เช่นกัน พื้นที่รอบ ๆ เองก็ไม่เสียหายหรือถูกทำลายเพื่อเปิดช่องทางหนีด้วย คนผู้นี้เข้ามายังที่นี่ได้อย่างไร เป็นเพียงร่างเงาอย่างงั้นรึ? สามารถทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?
นี่นับเป็นครั้งแรกที่เซียนเซิงซือรู้สึกพ่ายแพ้ เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลยแม้แต่เผชิญหน้าคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาก็ตาม เซียนเซิงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ใครบางคนที่ลอบเขามาที่แม้แต่เขาเองยังไม่สามารถตรวจจับได้เลยแม้แต่น้อย.
เซียนเซิงซือที่ถอนหายใจ ก่อนที่จะสั่งการให้เจียงซือทองถอยกลับคืนมา เขาที่ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ บนใบหน้าและประกายแสงในดวงไร้ซึ่งคำพูดที่จะเอ่ย.
"เซียนเซิงซือ เกิดสิ่งใดขึ้นอย่างงั้นรึ?"หวงตี้ที่สอบถามออกไป.
"องค์เหนือหัว ข้าได้พบกับใครบางคนทีทรงพลังกว่าข้า ทำให้ข้าไม่สามารถนำจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์กลับมาได้ ขอให้ท่านโปรดอภัยด้วย."เซียนเซิงซือขมวดคิ้วและถอนหายใจ.
"อะไรกัน?เจ้าที่มีเจียงซือทองที่สามารถดำดินได้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่มีคนไปถึงก่อนเจ้ากัน? เขาแข็งแกร่งกว่าเจียงซือทองอย่างงั้นรึ?"ใครบางคนที่อยู่ข้าง ๆ หวงตี้ตะโกนออกมาทันที จ้องมองไปที่เขาด้วยความโกรธเกรี้ยว.
"หุบปาก."หวงตี้ที่ตำหนิออกมาทันที.
เหล่าผู้ติดตามที่เปลี่ยนเป็นเงียบงันจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยท่าทางรังเกียจ.
"หากเซียนเซิงซือกล่าวว่ามีคนที่ทรงพลังกว่า เช่นนั้นเขาจะต้องเป็นคนที่น่าเกรงขามกว่า ข้าเชื่อว่าเซียนเซิงซือนั้นไม่มีทางนำจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ไปใช้เอง อีกอย่างข้ายังมี ตราหยกห้ามังกร ยังสามารถสร้างราชวงศ์หยินเยว่แม้จะไม่มีจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ก็ตาม ทว่าหากพวกเจ้ายังไม่แสดงท่าทางเคารพเซียนเซิงซืออีกล่ะก็ ข้าจะกุดหัวพวกเจ้าซะ!"หวงตี้ที่กล่าวออกมาอย่างขึงขัง.
เซียนเซิงซือที่จ้องมองไปยังคนอื่น ๆ ที่แสดงท่าทางไม่พอใจเขา เขาที่มีพลังฝึกตนต่ำกว่าคนอื่น แน่นอนว่าคนเหล่านี้ย่อมดูแคลนเขา น้ำเสียงของหวงตี้เองก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าต้องการซื้อความภัคดีจากเขา เซียนเซิงซือที่เป็นคนอหังการคนหนึ่ง เขาจึงไม่เคยที่จะปฏิญาณภัคดีกับหวงตี้คนใหน จวบจนถึงตอนนี้.
"องค์เหนือหัว โปรดวางใจ แม้ครั้งนี้จะไม่ได้รับจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ ทว่าข้าจะต้องหาสมบัติอื่นที่ล้ำค่ามาแทนให้จงได้."เซียนเซิงซือกล่าวอย่างมั่นใจ.
"ลำบากเซียนเซิงซือแล้ว."หวงตี้กล่าว.
"อืม."เซียนเซิงซือพยักหน้า เขาไม่สนใจคนรอบ ๆ แม้แต่น้อย เขาได้เรียกเจียงซือทองกลับมา ก่อนที่จะเก็บมันกลับไป.