ตอนที่แล้วChapter 71 กุดหัวคนพาล.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 73 จงใจใช่ไหม?

Chapter 72 ความหงุดหงิดของยอดฝีมือ.


เมื่อเป่ยชิงซือมาถึง นางก็เห็นจงซานเก็บดาบของเขาแล้ว.

นางสามารถบอกได้ว่าด้วยพลังของฝ่ายตรงข้ามขณะเหวี่ยงกระบี่แล้วน่าจะอยู่ในระดับสี่เซียนเทียน ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับจงซาน ทว่าจงซานกับสังหารพวกเขาไปหมดโดยไร้ซึ่งรอยขีดข่วน พวกเขาไม่สามารถทำอะไรจงซานได้เลยรึ?

เป่ยชิงซือที่ชำเลืองมองตาโต แสดงท่าทางงงงวย ประหลาดใจเป็นอย่างมาก แม้แต่คนที่อยู่รอบ ๆ เองก็ประหลาดใจไปด้วยเช่นกัน ต้องไม่ลืมว่า ฝ่ายตรงข้ามมีสี่คน คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะได้รับชัยชนะแบบเบ็ดเสร็จ เพลงดาบของเขาทรงพลังและร้ายกาจมาก.

"ศิษย์ที่สาม."เทียนหลิงเอ๋อที่ร้องตะโกนออกไป ปลุกนางที่กำลังงงงวยจากฝีมือของจงซาน.

จงซานที่หันหน้ากลับไป ซึ่งพบว่าเป่ยชิงซือได้ปรากฎขึ้นลอยอยู่บนอากาศแล้ว.

"หลิงเอ๋อรึ?"เป่ยชิงซือที่นำกระบี่ร่อนลงมาบนพื้นที่ด้านหน้าเทียนหลิงเอ๋อจ้องมองนางด้วยท่าทางสงสัย.

เทียนหลิงเอ๋อที่นำฮูดลง ก่อนที่จะเผยยิ้มอย่างเฉิดฉาย.

"ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่ล่ะ?"เป่ยชิงซือที่มองเทียนหลิงเอ๋อ ก่อนที่จะมองไปยังจงซานและมองไปยังด้านข้างซึ่งมีอีกคนในชุดดำด้วยท่าทางสงสัย.

"กู่เหยี่ยเหยี่ย นางเป็นใครอย่างงั้นรึ?"หยิงหลานที่สอบถามออกไป ทว่ายังค่อนซ่อนอยู่ในเสื้อคลุมดำ.

ทำไมจะไม่รู้ เมื่อเห็นเป่ยชิงซือบินมา นางราวกับว่าสัมผัสได้ถึงความกังวลใจที่เกิดขึ้น เป่ยชิงซือเป็นคนที่งดงามสมบูรณ์แบบ เส้นผมที่ขาวบริสุทธิ์ รูปร่างที่สมส่วน มีสง่า ไร้ที่ติเลย? กับคนที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ หยิงหลานราวกับว่ารู้สึกเป็นปฏิปักษ์อย่างช่วยไม่ได้.

กู่เหยี่ยเยี่ยอย่างงั้นรึ?

เป่ยชิงซือที่รู้สึกประหลาดใจที่เห็นหญิงสาวในชุดดำนั้นเรียกจงซานว่ากู่เหยี่ยเยี่ย.

กู่เหยี่ยเยี่ย? นางเรียกจงซานว่ากู่เหยี่ยเยี่ยอย่างงั้นรึ?

"นางเป็นสหายของข้า"จงซานกล่าวต่อหยิงหลาน.

ทว่าเขาก็ไม่ได้แนะนำหยิงหลานต่อเป่ยชิงซือ เพราะเขาไม่อยากให้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น.

"ศิษย์พี่สาม ทำไมศิษย์พี่ใหญ่ต้องต่อสู้กับชายคนนั้นด้วยล่ะ?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

"ชายคนนั้นคือประมุขของสำนักกระบี่โลหิต เสี๋ยชา หลายวันก่อน พวกเราได้เข้าไปในค่ายกล และศิษย์น้องสองคนถูกสังหารด้วยน้ำมือของศิษย์สำนักกระบี่โลหิต ศิษย์พี่ใหญ่จึงได้สังหารศิษย์ของสำนักกระบี่โลหิตแก้แค้นให้พวกเขา หลังจากนั้นเสี๋ยชาก็ทราบข่าว เขาจึงได้เดินทางมาประลองเป็นตายกับศิษย์พี่ใหญ่ในตอนนี้."เป่ยชิงซืออธิบาย.

"ดูเหมือนชายคนนั้นจะอ่อนแอกว่าศิษย์พี่ใหญ่แน่นอน "เทียนหลิงเอ๋อที่เฝ้ามองจากที่ไกลออกไปก่อนที่จะกล่าวออกมา.

"ไม่ ๆ  ศิษย์พี่ใหญ่นั้นอยู่ในระดับเก้าแกนทอง ส่วนเสี๋ยชานั้นอยู่ในระดับสิบแกนทองแล้ว."เป่ยชิงซือขมวดคิ้วไปมา.

"อ๋า?เช่นนั้นทำไมพวกเราไม่เข้าไปช่วยเขาสู้ล่ะ?"เทียนหลิงเอ๋อสอบถาม หลังจากที่นางเดินทางกับจงซานมาจนถึงตอนนี้ นางตระหนักได้ถึงอันตรายได้ดี ทางที่ดีที่สุดควรจะช่วยกันต่อสู้ เหมือนกับพวกนางที่ช่วยกันสู้กับ เมียวเซียนเหรินเมื่อสองวันที่แล้ว.

"ศิษย์พี่ใหญ่กล่าวว่าเขาจะจัดการด้วยตัวเอง เขาต้องการให้พวกเราคอยดูอยู่ห่าง ๆ"เป่ยชิงซือที่จ้องมองไปยังเทียนชาที่อยู่ไกลออกไป ที่จริงนางคิดว่าเทียนชานั้นแตกต่างจากคนอื่น เขามีพลังเพียงพอที่จะต่อกรกับคนที่มีพลังฝึกตนเหนือกว่าเขาได้.

จงซานไม่มีข้อคิดเห็นใด ๆ  หากว่าเป็นก่อนหน้าที่เขาจะเข้าสำนักไคหยางเขาอาจจะหัวเราะการตัดสินใจของเทียนชา ทว่าเวลานี้เขากับได้รู้ว่าในชั่วระยะเวลาเป็นตายนั้น มันกลับเป็นอีกหนึ่งในวิธีที่เขารับรู้ได้เมื่อเข้าสำนักเซียน ว่ามันสามารถผลักดันตัวเองไปจนถึงขีดสุดสามารถดึงศักยภาพที่มีทั้งหมดของร่างกายออกมาได้และทำให้เลื่อนความสามารถไปอีกขั้นด้วย.

การเผชิญหน้ากันระหว่างเทียนชาและเสี๋ยชานั้นกินเวลาหกชั่วโมงแล้ว ระหว่างเวลาที่พวกเขาประลองกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใหนก็ตามที่ขยับ ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเขตแดนรอบ ๆ พวกเขานั้นเป็นเขตแห่งความตาย.

ขณะที่คนทั้งสองรวบรวมพลังภายในร่างกายตัวเอง พวกเขาจะยืนนิ่งเหมือนกับรูปปั้น ทว่าเมื่อพวกเขาขยับล่ะก็ จะเกิดพายุหมุนบดทำลายขึ้นมาในทันที....

ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามหากอยู่ในระดับเซียนเทียนไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขาได้เลย แม้แต่ระดับแกนทองยังรับรู้ได้ถึงอันตราย ความกดดัน ความหนาแน่นของพลังยากที่จะมีใครสามารถแบกรับได้หากว่าอยู่ใกล้ ๆ .

หนึ่งคือประมุขของสำนักกระบี่โลหิต ส่วนอีกคนคือศิษย์ลำดับหนึ่งขั้นสองของสำนักไคหยางและมีโอกาสได้เป็นประมุขสำนักไคหยางในวันข้างหน้าด้วย.

ทั้งคู่ต่างก็ใช้กำลังเพื่อห้ำหั่นสังหารอีกฝ่ายให้ได้.

หกชั่วโมง เวลาที่ผ่านไปหกชั่วโมงพวกเขาก็ยังไม่สามารถตัดสินได้ ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างรออีกฝ่ายเปิดช่องว่าง ทั้งคู่ต่างก็รวบรวมพลัง รอที่จะปิดฉากในกระบวนท่าต่อไปอย่างแน่นอน.

เสี๋ยชานั้นคาดไม่ถึงเลยว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นจะแข็งแกร่งขนาดนี้ เขาเหลืออีกแค่ก้าวเดียวก็จะไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณแล้ว ฝ่ายตรงข้ามที่มีแกนแท้ไม่ได้มากมายเท่ากับเขาอย่างชัดเจน ทว่าคาดไม่ถึงเลยว่าพลังกดดันที่เขามีนั้นกับไม่สามารถข่มอีกฝ่ายได้เลย เป็นไปได้อย่างไร? นี่คือสำนักไคหยางอย่างงั้นรึ? สำนักไคหยางแข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ?

ขณะที่เสี๋ยชาเริ่มเสียสมาธิ ดวงตาของเทียนชาเปล่งประกายในทันที โอกาสมาถึงแล้ว.

"ฟิ้ว ย๊าก ๆ !!!"

เทียนชาวาดกระบี่ออกไป.

แทบจะในทันทีที่เทียนชาเหวี่ยงกระบี่ออกไป เสี๋ยชาเองก็ตวัดกระบี่ดื่มโลหิตของเขาออกมาด้วยเช่นกัน.

จงซานจับจ้องพวกเขาแทบไม่วางตาทีเดียว ในช่วงระยะเวลาสุดท้ายนั่น เทียนชารวดเร็วจนเขาแทบมองไม่เห็นได้อย่างชัดเจนนัก เขาที่จำเป็นต้องเพ่งาสมาธิอย่างตั้งใจ.

กระบี่สุดท้ายของเทียนชาที่ปล่อยออกมา จงซานที่เห็นประกายแสงที่ระเบิดออกมาจากกระบี่ ราวกับว่าความมืดที่มีทั้งหมดถูกแสงกระบี่ของเขากลบไปในทันที จงซานรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก.

บางทีเพราะว่าเขาอยู่ไกลออกมาจึงเห็นเหมือนกับเป็นแสงกระพริบ.

เพียงพริบตาเดียว กระบี่ก็พุ่งออกจากฝักแล้ว เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นมันเร็วจนเกินไป เขาแทบไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวทั้งหมดได้เลย.

ฝ่ายตรงข้ามเองขณะที่เขาชักกระบี่ออกมาก็เกิดเป็นหมอกสีแดงมากมาย เหมือนกับทะเลโลหิต เพียงแค่เสี้ยวนาที จงซานรับรู้ได้ว่าหมอกเหล่านั้นปรากฏออกมารอบ ๆ ร่างของเสี๋ยชาเป็นเหมือนประกายแสงสีแดงที่เกิดขึ้นในทันที เหมือนกับเมฆยักษ์รวมตัวกันขึ้นมา ทว่าพริบตาเดียวที่กระบี่เทียนชากระพริบ ลำแสงก็ถูกยิงทะลวงก้อนเมฆเหล่านั่นไป.

จงซานที่รู้สึกประหลาดใจกับประกายแสงที่ออกมาจากกระบี่ของเทียนชาราวกับว่าประกายแสงนั่นมันถูกยิงมาจากบนท้องฟ้าและทะลวงก้อนเมฆโลหิตไปพร้อม ๆ กัน เขาไม่สามารถเห็นได้ชัดเจนนัก ดูเหมือนลำแสงนั่นจะไม่ได้มีแค่ลำแสงเดียว แต่เป็นสองลำแสงที่พุ่งมารวมยังจุดเดียวกัน.

"ครืน ๆ  พรึด ๆ !"

หลังจากเสียงดังสนั่น ประกายแสงที่หายไป จงซานก็เห็นหมอกโลหิตค่อย ๆ หายไปช้า ๆ .

มันรวดเร็ว และทรงพลังมาก จงซานไม่อาจรับรู้ถึงวิถีกระบี่ได้ทั้งหมด.

ก่อนที่เสียงกังวานจะหายไป การต่อสู้ทั้งหมดก็จบแล้ว เทียนชาเก็บกระบี่เข้าฝัก ทว่าฝ่ายตรงข้าม กระบี่ดื่มโลหิตของเสี๋ยชาขาดเป็นสองท่อน ส่วนหนึ่งกำลังกุมอยู่ อีกส่วนหนึ่งหล่นลงบนพื้น เสี๋ยชาไม่สามารถโจมตีออกไปได้ เขาไม่สามารถโจมตีได้แล้ว.

มีรอยแยกเกิดขึ้นที่ศีรษะของเขา มันค่อย ๆ แยกออกจากกันถูกผ่าเป็นสองซีก โลหิตพุ่งกระฉูดดันทั้งสองฝั่งผลักแยกออกจากกัน

กระบี่ของเทียนชาได้สังหารเขาในกระบี่เดียว.

โลหิตที่พุ่งกระฉูดเป็นสาย ก่อนที่ร่างของเสี๋ยชาจะล้มลงบนพื้น ศีรษะของเขาเองก็ถูกแยกออกเป็นสองส่วน ประมุขของสำนักเซียนอีกแห่งหนึ่งจางหายไปในประวัติศาสตร์แล้ว.

ทุกคนที่จ้องมองการประลองต่างก็รู้สึกตะลึงกับฝีมือของเทียนชา สำนักไคหยาง? นี่คือพลังของสำนักซ่างเซียนอย่างงั้นรึ?

"ฉู่จิว กระบวนท่าเมื่อครู่นี้เป็นอย่างไร?"ชายหนุ่มที่สอบถามชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลัง.

"ชายคนนี้มีการตระหนักรู้ที่ยอดเยี่ยมมาก เขาสามารถเข้าใจได้ถึงจิตกระบี่ระดับต้นแล้ว หากว่ามีพลังฝึกตนเท่ากัน เขามีคุณสมบัติพอที่จะประลองกับกงจื่อได้เลย."ฉู่จิวที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเบา ๆ

"ต้องได้เจอกันแน่ เพลงกระบี่ตัดสวรรค์กลืนนภาสำนักไคหยางอย่างงั้นรึ?"ชายหนุ่มที่หรี่ตามองจับจ้องไปยังทิศทางไกลออกไป แสดงท่าทางตื่นเต้นต้องการต่อสู้เป็นอย่างมาก.

ที่ชายขอบค่ายกลทิศเหนือ เฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา "เพลงกระบี่ตัดสวรรค์กลืนนภา สมชื่อแล้ว "

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัด ปรบไปยังมือของเขา."ชายผู้นี้ยอดเยี่ยมมาก เขาสามารถที่จะต่อกรกับคนที่กำลังจะก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณได้ด้วย."

จงซาน ที่กำหมัดแน่น เขาสงสัยว่าไท่จื่อเหล่ยเทียนนั้นมีพลังมากหรือน้อยกว่าระดับนี้กัน?

"ศิษย์พี่ใหญ่ร้ายกาจมาก ๆ เลย."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมา ทว่าดูเหมือนว่ามันจะไม่ตื่นเต้นเหมือนเช่นเคย หลังจากที่เห็นจงซานเอาชนะเมียวเซียนเหรินที่มีระดับสูงกว่าตัวเองมาก ๆ ในการฟันร่างของเขาเพียงครั้งเดียว ชัยชนะครั้งนี้ จึงไม่ได้น่าประหลาดใจมากมายนัก.

หยิงหลานที่เงียบอยู่ตลอดเวลา นางมีพลังฝึกตนต่ำที่สุดไม่มีความเห็นใด ๆ ได้เลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนางเห็นเพียงประกายแสงที่สว่างวูบวาบเท่านั้น.

"พวกเราไปยังเนินเขาด้านบนกันเถอะ."เป่ยชิงซือกล่าว.

“อืม.”จงซานพยักหน้า.

จงซานที่พาหยิงหลานขึ้นไปบนเนินเขาที่เทียนชาอยู่ เป่ยชิงซือและเทียนหลิงเอ๋อลอยบนอากาศ ทว่าก็ชะลอความเร็วคอยจงซานไปด้วยเช่นกัน.

หลังจากที่เทียนชาจัดการเสี๋ยชาได้ เหงื่อเม็ดใหญ่ก็หลั่งออกมาทั่วหน้าของเทียนชาเหมือนกัน ทว่าเขาก็ซ่อนมันไว้ตลอดจนทำให้มันระเหยไปในทันที.

เทียนชาต้องการประลองกับเสี๋ยชานั้น เหตุผลหนึ่งเขาต้องการผลักดันประสิทธิภาพของเขาให้ก้าวไปถึงขีดสุด อีกเหตุผลหนึ่งนั้น ก็เพื่อเป่ยชิงซือ เขาต้องการให้นางประทับใจในความแข็งแกร่งของเขา ด้วยหวังว่านางจะชื่นชมเขาบ้าง.

ซึ่งคนส่วนมากนั้นต่างก็ประทับใจในความแข็งแกร่งของเขาทั้งนั้น.

เทียนชาที่หันหน้ากลับไป คาดหวังว่านางจะจ้องมองมาที่เขาเหมือนกับคนอื่น ๆ  ทว่านางไม่อยู่อย่างงั้นรึ?

นางไปใหนกัน?เทียนชาที่กวาดตามองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะเห็นนางกำลังคุยกับผู้ชายอีกคน.

ชายอีกคน? สายตาของเทียนชาที่ลุกวาวจ้องมองไปยังคนดังกล่าวซึ่งเขาก็พบว่าเป็นจงซานนั่นเอง.

ปรกติเทียนชานั้นไม่ได้กังวลอะไรมากนักกับศิษย์ขั้นสาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จงซาน อาจารย์บอกกับเขาว่าจงซานนั้นมีพรสวรรค์ที่ต่ำ ในสายตาของเทียนชา จงซานก็ไม่ได้ต่างจากแมลงตัวหนึ่ง อย่างไรก็ตาม แมลงตัวนี้กับมีความสามารถที่จะนำเป่ยชิงซือออกไปจากชีวิตเขาอย่างงั้นรึ? ในสายตาของเป่ยชิงซือ เขาให้ความสำคัญ ถึงกับออกไปต้อนรับจงซานเลยรึอย่างไร?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด