Chapter 71 กุดหัวคนพาล.
จงซานที่รู้สึกดีใจที่เห็นกลุ่มคนของสำนักไคหยาง.
"ไป พวกเขาไปยังพื้นที่ตรงโน้นกัน."จงซานกล่าว.
"อืม."หญิงสาวทั้งสองพยักหน้ารับพร้อมกับลงจากโขดหินยักษ์ ก่อนที่จะมุ่งตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่มีคนของสำนักไคหยางยืนอยู่.
ในป่าแห่งหนึ่งไม่ไกลออกไปนัก สายตาของคนสี่คนจับจ้องเขม็ง มองมายังจงซาน.
หากจงซานเห็นพวกเขาแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าจะต้องจำได้ในทันที สองคนในกลุ่มนั้นเป็นคนที่ได้รับคัดเลือกเข้าสำนักเซียนจากตระกูลจ้าวและอีกสองคนนั้นก็คือคนที่ได้รับคัดเลือกเข้าสำนักเซียนของตระกูลเฉียนครั้งล่าสุด.
พวกเขาต่างก็เป็นผู้เยาว์รุ่นใหม่ และยังมีพรสวรรค์มากกว่าจงซานอีกด้วย.
"นั่นมันจงซานอย่างงั้นรึ? ทำไมรูปร่างของเขาดูหนุ่มยิ่งกว่าก่อนที่ข้าเคยเห็นที่ชุมนุมประตูมังกรล่ะ เขาดูหนุ่มมากหนำซ้ำยังผ่านมาแค่ปีเดียวเอง. "
"บรรพชนตระกูลและประมุขตระกูลไม่ได้สังหารเขาอย่างงั้นรึ?"
"บางทีคงเพราะว่าเขาเดินทางมาที่นี่เลยคลาดกับจงซานเป็นแน่."
"อืม ถูกแล้วดูเหมือนว่าจะโชคดีเกินไปหน่อยนะ."
"แล้วพวกเราจะทำอย่างไรตอนนี้? พวกเราควรจะสังหารเขาหรือไม่?"
"เขามีพรสวรรค์ที่ต่ำเตี้ย ทว่าสำหรับโลกปุถุชนแล้ว เขาเป็นคนที่มีเชาว์ปัญญาที่ยอดเยี่ยมมาก หากว่าพวกเราไม่กำจัดเขา เขาจะต้องเป็นหนามทิ่มแทงตระกูลของพวกเราในภายหลังแน่ ในเมื่อบรรพชนและประมุขยังไม่เจอเขา เช่นนั้นเราก็ควรจะสังหารเขาแทนประมุขตระกูล คิดว่าตอบแทนบุญคุณต่อตระกูลในโลกปุถุชนก็แล้วกัน."
"อืม จงซานก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนเมื่อปีที่แล้ว เขาจะต้องยังไม่มีวิชาที่พิเศษใด ๆ แน่นอน แม้ว่าเขาจะพัฒนาฝีมือขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังไม่ใช่คู่มือของเรา แต่ว่าพวกเราไม่รู้ว่าผู้หญิงสองคนด้านหลังเขานั้นเป็นใคร."
"อย่าได้เป็นกังวลกับคนทั้งสอง หากพวกเขาวิ่งตามจงซาน ก็แสดงว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา หรือไม่ก็มีฝีมือด้อยกว่า พวกเรามีกันอยู่ด้วยกันสี่คน เจ้าคิดว่าพวกเราจะสังหารเขาไม่ได้อย่างงั้นรึ?"
"ถูกแล้ว."คนทั้งสามต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย.
เมื่อตัดสินใจได้แล้วคนทั้งสี่ก็ออกจากป่ามุ่งตรงออกไปเพื่อสังหารจงซานทันที.
คนทั้งสี่ปรากฏตัวออกมาอย่างรวดเร็วและหยุดอยู่ด้านหน้าขวางทางจงซานเอาไว้.
ขณะที่จงซานจ้องมองไปยังคนทั้งสี่ สายตาที่หรี่เล็กลงพร้อมกับชักดาบออกมา เขารู้ว่าคนเหล่านี้มาจากตระกูลจ้าวและตระกูลเฉียน ทว่าเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะพบพวกเขาที่นี่.
จงซานที่เพิ่งสังหารคนที่อยู่ในระดับแกนทองเมื่อไม่นานมานี้ แน่นอนว่าเขาไม่คิดว่าคนทั้งสี่เหล่านี้ จะยังเป็นคู่มือของเขาได้
อย่างไรก็ตาม พวกเขามีกันถึงสี่คน ไม่สามารถที่จะประมาทได้เช่นกัน จงซานก็ต้องระมัดระวังด้วยเช่นกัน.
"หลิงเอ๋อ เจ้าปกป้องหยิงหลาน ข้าจะจัดการคนทั้งสี่เอง."จงซานที่กระซิบบอกนาง.
"เหล่าเยว่จื่อจง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ."หนึ่งในสี่คนนั้นเผยยิ้มออกมาพร้อมกับกุมกระบี่ในมือ.
"ทำไมพวกเจ้าถึงได้มาหยุดข้าเอาไว้ตรงนี้ล่ะ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"ชิ... เจ้าเองก็ชักดาบออกมาแล้ว ยังไม่รู้ตัวอีกรึไง?"อีกคนหนึ่งที่แค่นเสียง.
"พวกเจ้าที่ชักกระบี่เข้ามา ข้าก็ต้องชักดาบออกมาเตรียมตัวอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าคิดว่ามีกันสี่คนจะสามารถทำอะไรข้าได้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวต่อ.
"สังหารเจ้า ทำไมต้องใช้คนสี่คน? แค่ข้า........."หนึ่งในสี่ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน.
เพียงแค่กล่าวออกมาได้ครึ่งประโยค จงซานก็พุ่งเข้าหา พร้อมกับดาบใหญ่ในมือโจมตีออกไป.
กระบวนท่า ทลายภูเขาสวรรค์!
จงซานที่ไม่พูดพร่ำทำเพลง โจมตีออกไปอย่างหนักหน่วง ทำให้คนทั้งสี่นั้นตื่นตะหนกตกใจขึ้นมาทันที แม้ว่าคนทั้งสี่จะก้าวไปถึงระดับ 3 และ4 เซี่ยนเทียนแล้ว ทว่าขิงแก่ก็ยังเผ็ด คนทั้งสี่ที่ยังหนุ่มแน่น แม้ว่าจะมีพลังฝึกตนสูงแต่ก็ไร้ซึ่งประสบการณ์ แม้แต่ประมุขของพวกเขาที่ชั่วร้าย ยังไม่สามารถเทียบกับจงซานได้ ด้วยการหลอกล่อด้วยคำพูดให้พวกเขาชะงัก เมื่อคนทั้งสี่ประมาท จงซานก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว โจมตีออกไป ไร้ซึ่งคำว่าปราณี.
พลังโจมตีที่อาบไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรง ทำให้ชายคนดังกล่าวผวาเร่งรีบยกกระบี่ขึ้นขวางกันทันที.
ส่วนอีกสามคนเองก็เร่งรีบช่วยชายคนดังกล่าวป้องกันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พลังฟันของจงซานนั้นทรงพลังมาก หนำซ้ำยังโจมตีลงไปยังจุดอ่อนของกระบี่เขา.
"ตูมมมมมมม!"
"ฉับบ!"
เพียงแค่กระบวนท่าเดียว ดาบของเขาก็สับ ชายคนดังกล่าวแยกออกเป็นสองท่อน.
จงซานสังหารเขาไปอย่างเด็ดขาด ไร้ซึ่งปราณี.
ก่อนที่โลหิตจะสาดกระจาย จงซานก็หลบกระบี่ของคนทั้งสามที่พุ่งมาอย่างรวดเร็ว.
สองสาวที่อยู่ห่างออกมา แม้ว่าพวกนางจะมั่นใจในตัวจงซาน ทว่าก็ยังรู้สึกเป็นกังวลอยู่เหมือนกัน.
หลังจากที่หลบกระบี่ของคนเหล่านั้นได้แล้ว ดาบของจงซานก็พุ่งไปยังอีกคนหนึ่ง.
"ตูมมมมมมมมมมม!"
เสียงปะทะกันระหว่างดาบและกระบี่ ก่อนที่ทั้งสองจะถอยออกมา.
เมื่อถึงตอนนี้คนทั้งสามที่เหลือรอดตระหนักได้ว่าพวกเขาได้ทำความผิดอย่างใหญ่เข้าแล้ว แม้แต่ประมุขตระกูลทั้งสี่ยังได้ขอความช่วยเหลือจากบรรพชนเพื่อจัดการกับจงซาน นั่นก็เพราะว่าเขานั้นไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาทั้งสี่ กลับกระโดดออกมาหาจงซานโดยที่ไม่คิดให้ถี่ถ้วน.
เหมือนกับโดนถังน้ำเย็นเทลาดลงไปบนศีรษะของพวกเขาหลังจากที่จงซานสะบัดดาบเพียงครั้งเดียวก็สังหารหนึ่งในพวกเขาไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาจะต้องร่วมมือกันเพื่อล้างแค้นให้กับพรรคพวกที่ตายไปก่อนหน้านี้ให้ได้.
รอยยิ้มที่เย็นชาปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของจงซาน เขาที่ยังสะบัดดาบ พุ่งเข้าหาคนทั้งสามเผชิญหน้ากับพวกเขาพร้อม ๆ กัน.
จงซานที่อยู่ตรงกลาง รับมือคนทั้งสามที่กระจายเป็นครึ่งวงกลม ปิดล้อมเขาคนเดียว.
"ตูมม ตูมมม ตูมมมม!"
การเหวี่ยงดาบของเขานั้นแม่นยำขณะรับมือกับกระบี่ของคนทั้งสาม หนำซ้ำยังเต็มไปด้วยพลัง กระแทกเขายังจุดอ่อนกระบี่พวกเขา.
ไม่จำเป็นต้องพยายามมากมายนัก เขาสามารถกดดันคนทั้งสามให้ถอยออกไป ก่อนที่จะตวัดสับในแนวนอน.
กระบวนท่า ฟันทลายสรรพสิ่ง
ดาบของเขาที่เฉือนไปที่หน้าอกของคนผู้หนึ่ง ส่วนอีกคนที่หลบทันไม่เช่นนั้นคงจะเฉือนไปที่ท้องเขาด้วย.
การต่อสู้ของจงซานและคนทั้งสี่สร้างความสนใจกับคนที่อยู่รอบ ๆ เหมือนกัน ทว่าบางคนที่เห็นว่าเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนเท่านั้นก็เลิกสนใจและหันไปจ้องมองการต่อสู้ของเทียนชาต่อ.
อย่างไรก็ตามก็ยังมีคนไม่น้อยเลยที่ยังคงจับจ้องมองมายังทิศทางของจงซาน และส่วนมากแล้วจะเป็นคนที่อยู่ในระดับเซียนเทียนเช่นกัน แน่นอนว่าพวกเขาสามารถจะเรียนรู้การต่อสู้ในระดับเดียวกันได้ หนึ่งต่อสาม? ไม่ ดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งต่อสี่ ส่วนอีกคนนั้นได้ตายไปแล้ว?
บนยอดเขาลูกหนึ่ง ฉู่จิวที่ขมวดคิ้วไปมา "กงจื่อ ชายคนนั้นได้มาปรากฏตัวขึ้นที่ตรงนั้นแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะฟื้นคืนจากผลข้างเคียงของวิชาลับแล้วอย่างงั้นรึ? น่าแปลก ผ่านมาแค่เพียงสองวันเท่านั้น."
ชายหนุ่มที่กวาดตามองจงซานพร้อมกับดวงตาเปล่งประกาย"โอ้ว จริง ๆ รึ? นี่เขาฟื้นฟูแล้วอย่างงั้นรึ? อัศจรรย์นัก."
และเช่นกัน ที่ชายขอบของค่ายกลทิศเหนือ กงจูเฉียนโหยวที่เห็นจงซานอีกครั้ง นางก็จดจำได้ในทันที นางขยิบตาไปมา มีประกายแสงแห่งความสงสัยเกิดขึ้นทันที.
"เขายังไม่ตายอยู่อีกรึ?"กงจู่เฉียนโหยวที่อุทานออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
เซียนเซิงสุ่ยจิง คนที่อยู่ถัดจากนาง ซึ่งก็มองไปยังจงซานด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะพยักหน้าและกล่าวออกมาว่า"ดูเหมือนว่าเขาจะมีนามว่า จงซาน ตอนนี้อยู่ในระดับสี่เซียนเทียน ไม่อยากเชื่อเลยว่าเพลงดาบเขาจะร้ายกาจขนาดนี้ หากว่าอยู่ในสนามรบ เขาก็นับว่าเป็นขุนพลแนวหน้าได้เลย."
"เขานี้รึ? เขาอยู่แค่เพียงระดับเซียนเทียนเอง จะไปอยู่ในสนามรบได้ไง?"กู่หลินที่สายหน้าไม่อยากเชื่อ.
เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดเมื่อได้ยินกู่หลิน กล่าวแย้ง เขายังคงโบกสะบัดพัดและเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล กงจู่เฉียนโหยว ที่อยู่ถัดออกไป พยักหน้าให้ราวกับว่านางเองก็เห็นด้วยกับคำพูดของเซียนเซิงสุ่ยจิง.
บนยอดเขาที่มีเทียนชากำลังต่อสู้กัน ทุก ๆ คนเองต่างก็จับจ้องมองไปยังที่เขา อย่างไรก็ตามเสียงที่ดังอยู่ห่างออกมาก็ยังสร้างความสนใจกับคนบางส่วนเช่นกัน ซึ่งรวมถึงเป่ยชิงซือด้วย.
นางที่หันหน้ากลับออกไป จ้องมองดวงตาเบิกกว้างเมื่อนางมองลงไปยังด้านล่าง จงซาน? จงซานมาที่นี่อย่างงั้นรึ?
นอกจากนี้ จงซานยังกำลังต่อสู้กับคนสามคน ทันใดนั้นเป่ยชิงซือก็ขึ้นกระบี่เหินบินไปยังทิศทางของเขาในทันที.
"เครงง!!"
จงซานที่หยุดกระบี่สองเล่มด้วยการฟันออกไปในครั้งเดียว เขาระมัดระวังคนที่มีระดับสี่เซียนเทียนเท่านั้น.
แม้ว่าจงซานนั้นจะมีพรสวรรค์ต่ำและพัฒนาการของเขาเป็นไปอย่างเชื่องชา ทว่าเขาก็ชดเชยมันด้วยความเพียรและเชาว์ปัญญาที่ชาญฉลาดของเขา เขาใช้ความสามารถของเพลงดาบออกมาจนถึงขีดสุด พร้อมกับมีความเข้าใจในการใช้พลังของตัวเองได้อย่างเชี่ยวชาญ.
เขาไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อยที่เขาต้องรับมือกับคนสามคนและในชั่วอึดใจเขาได้สังหารไปอีกหนึ่งคน จงซานไม่ได้รู้สึกลำบากเลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังฝึกฝนเหมือนกับทุก ๆ ครั้งในตอนเช้า.
คนสองคนที่เหลืออยู่ จงซานที่ยกดาบชี้ไปยังพวกเขา จิตสังหารที่พวยพุ่งส่องประกายออกมาจากดวงตา.
ภายใต้การจับจ้องของจงซาน ทำให้สองคนที่เหลือหัวใจรัดแน่น ร่างกายสั่นขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล พวกเขาคิดแต่เพียงว่าต้องหนีให้เร็วที่สุด สี่คนแต่เวลานี้เหลือแต่พวกเขาแล้ว.
คนทั้งสองที่ต้องเชิญหน้ากับความตาย ความต้องการสู้ตอนนี้หดหายไปหมดแล้ว.
ขณะที่เป่ยชิงซือจะบินมาถึง.
"พรึด ๆ !"
อีกหนึ่งกระบวนท่า การฟันออกไปอย่างดุร้าย ได้หั่นไปอีกศพแล้ว.
เหลือคนสุดท้ายตอนนี้เขากลับหลังวิ่งหนี จิตใจที่สูญเสียความกล้า ไม่สามารถที่จะสู้ต่อไปได้อีกแล้ว.
โชคไม่ดีนัก จงซานนั้นไม่มีทางที่จะปล่อยเขาไปง่าย ๆ ดาบของจงซานที่พุ่งลอยออกไปกระแทกเข้าไปยังร่างชายคนสุดท้ายในทันที.
"ฉึบ!!!"
ดาบยักษ์ทะลวงเข้าหัวใจของเขาในทันที!