ตอนที่แล้วChapter 6 เคล็ดวิชาสวรรค์หงหลวนเทียน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 8 อีกาเหมันต์โจมตี.

Chapter 7 สัตว์อสูร.


เหล่าเยว่จื่อจงที่จ้องมองอย่างใคร่ครวญไปยังหยกพร้อมกับถอนหายใจยาว ดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ.

ด้วยการสะบัดมือหนึ่งครั้ง ร่างเงาสีดำก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าเหล่าเยว่จื่อจงในทันที ร่างเงานี้มีความสูงเท่ากับเขา ก่อนที่ร่างเงานั้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนรูปร่าง กลายเป็นเหล่าเยว่จื่อจงอีกคนที่มีระดับเซียนเทียน เพียงแค่การสะบัดมือของเขาเพียงเล็กน้อย ก็ปรากฏร่างที่เหมือนกับเข้าขึ้นมา.

เขาเวลานี้ที่ดูเหมือนกับมีอายุสี่สิบปี เหล่าเยว่จื่อจงก่อนหน้านี้มีอายุ 40 ค่อนห้าสิบปี ทว่าไม่รู้ว่าทำไม หลังจากที่เขาร่วมเตียงกับเทพธิดาจื่อซวินหนึ่งคืนก็ทำให้เขาดูหนุ่มแน่นขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ดูเหมือนมีอายุ 40 ปี

เขาจ้องมองไปยังร่างที่เหมือนกับเขาเป็นอย่างมาก เหล่าเย่วจื่อจงที่ถอนหายใจยาว.

"ร่างจำแลงเงา? ดูเหมือนข้าจริงๆ ข้ามีสองคน ข้ามีสองร่างกาย."เหล่าเยว่จื่อจงเผยยิ้มออกมาอย่างพอใจ.

นี่คือวิชาพิเศษที่เหล่าเยว่จื่อจงได้รับมาขณะที่เข้าเดินทางมายังโลกใบนี้ คนเดียวสามารถควบคุมสองร่างได้ ร่างแยกเงานั้นมีความสามารถที่จะเปลี่ยนร่างเป็นเงาเคลื่อนที่ผ่านช่องว่างแคบ ๆ หรือว่าซ่อนตัวอยู่ในซอกประตูได้ ราวกับว่าเป็นเรื่องลึกลับ.

แน่นอนว่า นี่คือทักษะที่พิเศษมากมาย ตราบเท่าที่มีแสง เหล่าเยว่จื่อจงก็สามารถสร้างร่างแยกเงาออกมาได้ตลอด.

เหมือนกับร่างหลายร่างที่มาจุติบนโลกนี้หลายสิบปีก่อน ดวงจิตเทวะในตำนาน เป็นเหมือนกับอาคมพิเศษล้ำค่าในตำนาน ทว่า ทักษะนี้ดูเหมือนว่าจะลึกลับยิ่งกว่านั้นซะอีก.

ในเวลานี้ เหล่าเยว่จื่อจงมีสองร่างแล้ว หนึ่งคือร่างต้นและอีกหนึ่งคือ ร่างแยกเงา.

"เช่นนั้น ร่างแยกเงารับหน้าที่นั่งอยู่คฤหาสน์ตระกูลจง มันคงไม่ดีแน่หากว่าเจ้าถูกพบที่สำนักไคหยาง ร่างเงาเองก็ไม่สามารถฝึกฝนวิชาหงหลวนเทียนได้ ดังนั้นพวกเราค่อยพบกันใหม่ภายหลังเมื่อข้าหาวิชาฝึกสำเร็จได้แล้ว ทว่าตราบเท่าที่ร่างต้นนั้นไม่ตาย ร่างเงาก็จะไม่สลายเช่นกัน มุกสีแดง เจ้าต้องรักษามันเอาไว้ให้ดี ส่วนข้าร่างต้นจะเดินทางไปสำนักไคหยางเอง."เหล่าเยว่จื่อจงทั้งสองที่พูดคุยตกลงกัน.

ร่างทั้งสองที่กอดกันและกัน ร่างต้นที่กระทืบไปบนพื้น พร้อมกับปรากฏช่องทางเดินขึ้นมาที่ด้านล่าง เขาที่สวมชุด พร้อมกับนำหยกเข้าไปในกระเป๋า หลังจากนั้นก็เข้าไปในอุโมงค์ด้านล่างและปิดทางเข้า.

ร่างแยกเงายังคงนั่งบำเพ็ญอยู่บนเตียง ทั้งร่างต้นและร่างเงาต่างก็ไปถึงระดับเซียนเทียนแล้ว เมื่อไปถึงระดับเซียนเทียน เวลาในคงรูปร่างเงาก็จะไม่มีจำกัดอีกต่อไป.

ร่างต้นเหล่าเยว่จื่อจงที่เดินลึกลงมาใต้ดิน พร้อมกับขึ้นไปบนรถไฟไอน้ำ.

กระรอกมีโพรงสามโพรง ความลับที่เหล่าเย่วจื่อจงมีนั้นมีอยู่มากมาย?ความลับเหล่านี้เหล่าบุตรบุญธรรมของเขาแทบจะไม่มีใครรู้เลย.

สิบวันหลังจากโดยสารรถไฟ เขาก็เดินทางไปถึงอีกหมู่บ้านแห่งหนึ่ง.

ซึ่งสถานที่แห่งนี้เองก็เป็นอีกหนึ่งทรัพย์สินของเหล่าเยว่จื่อจง หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในแนวเขาขนาดมหึมา ซึ่งลึกเข้าไปนั้นเป็นสถานที่ตั้งของสำนักไคหยาง ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ว่าเหล่าเยว่จื่อจงไม่อยากขุดอุโมงค์รถไฟลึกเข้าไป ทว่าแม้จะใช้เวลาร้อยปีก็ยากที่จะผ่านลึกเข้าไปข้างในได้.ด้วยความหนาของชั้นหินนั่นเอง.

เขาพักผ่อนอยู่สองวันสั่งการทุกอย่าง หลังจากได้สั่งให้แม่บ้านจัดเตรียมทุกอย่าง เหล่าเยว่จื่อจงก็สะพายเป้ด้านหลัง พร้อมกับดาบสั้นเล่มหนึ่ง เดินลึกเข้าไปในภูเขา.

นับจากตำแหน่งนี้ ลึกเข้าไปในภูเขาขนาดมหึมา มีคนน้อยมากที่จะเข้ามาได้ กล่าวอีกอย่างหนึ่งพื้นที่แห่งนี้มีหญ้าพิษและแมลงพิษมากมาย และยังมียุงพิษ สัตว์ร้ายที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก แม้แต่สัตว์อสูรอยู่ด้วย เหล่าเยว่จื่อจงหากว่าเขาไม่ก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนย่อมไม่มีทางกล้าเดินทางเข้ามาอย่างแน่นอน.

ภูเขาลูกนี้มีความสูงมาก เป็นภูเขาหลายลูกที่มีความสูงหลายพันเมตรกระจายตัวกันลึกเข้าไป มีความสูงหลายพันเมตร ที่สูงขึ้นไปนั้นมีเมฆสีขาวกระจายอยู่รอบๆ เหล่าเยว่จื่อจงจำเป็นต้องปีนภูเขาลูกนี้เพื่อเดินทางไปยังสำนักไคหยางที่อยู่ลึกเข้าไปด้านใน.

เขามีความคล่องตัวสูงมากหลังจากที่ก้าวไปถึงระดับเซียนเทียน เขาก้าวกระโดดหลายครั้งเพื่อข้ามสันเขาหลายแห่งเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงแมลงพิษตลอดจนหญ้าพิษที่พบได้ตลอดทาง.

ทว่าที่ตั้งของสำนักไคหยางนั้นอยู่ไกลเกินไป เขาเองก็ยากที่จะหาพื้นที่เหมาะที่จะใช้พักในเวลาค่ำคืนเช่นกัน.

ในเย็นวันนั้น เหล่าเยว่จื่อจงที่พบกับหุบเขาที่ดูค่อนข้างโล่ง ไม่มีพุ่มไม้ ไม่มีแมลงพิษหรือหญ้าพิษเลย ไม่มียุงพิษหรือสัตว์ขนาดใหญ่เลย.

และที่หุบเขานั้นมีถ้ำพอที่จะเป็นที่พักพึงได้ แต่มีขนาดแค่เพียงพอให้คนอาศัยอยู่ได้คนเดียว เขาที่ทำความสะอาดพร้อมกับโรยสมุนไพรพิเศษไว้ด้านนอก พร้อมกับเข้าไปนั่งบำเพ็ญอยู่ด้านใน.

จุดไฟรึ? เหล่าเยว่จื่อจงไม่กล้าอย่างแน่นอน การจุดไฟนั้นจะเป็นการเผยตำแหน่งของเขาออกมา เหล่าสัตว์ร้ายร่อนเร่แม้ว่าจะกลัวไฟ แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่สัตว์ป่า แต่มันมีสัตว์อสูรอยู่ด้วย มีเหรอที่มันจะกลัวไฟ?

เหล่าเยว่จื่อจงนั่งรอคอยให้ตะวันขึ้น.

เขานั่งไปถึงเทียงคืน.

"โบว๋"

เสียงเห่าหอนที่แหลมสูงดังลึกเข้าไปทั่วป่ายามค่ำคืน.

เหล่าเยว่จื่อจงที่ขมวดคิ้ว ลืมตาพลางกับจ้องมองออกไปด้านนอก.

ในเวลานั้น ด้วยแสงจันทราที่ส่องประกายคลุมไปทั่วหุบเขา ที่เนินเขาห่างออกไปนั้น เหล่าเยว่จื่อจงมองเห็นบางอย่าง.

หมาป่าสีเงินขนาดมหึมา สูงสามเมตรเห็นจะได้ ตนหนึ่ง.

หมาป่าสีเงินที่เห่าหอนนั้นกำลังยกหัวขึ้น พร้อมกับเห่าหอนอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ขนสีเงินของมันที่ส่องประกายเป็นพิเศษ เป็นไปได้ว่ามันเป็นสัตว์ร้ายที่ได้ออกมาอาบแสงจันทร์ หรือว่ามันดูดซับแสงจันทร์ได้อย่างงั้นรึ?

เป็นสัตว์อสูรรึอย่างไร?

ดวงตาของเหล่าเยว่จื่อจงที่หดเล็กลงเมื่อเห็นเหตุการณ์ เขารับรู้ได้ว่านี่คือสัตว์อสูร แม้นจะเห็นแค่ครั้งแรก.

เมื่อตระหนักได้ เหล่าเยว่จื่อจงก็ตื่นตกใจทันที เขาเร่งรีบขยับลึกเข้าไปในถ้ำพร้อมกับเริ่มใช้ทักษะลมหายใจเต่าทันที หวังว่าหมาป่ายักษ์นั้นจะไม่สังเกตเห็นเขา.

เหล่าเยว่จื่อจงนั้นรู้ว่า สิ่งที่เรียกว่าสัตว์อสูรนั้นเป็นเพราะว่ามันเหนือล้ำกว่าสัตว์ธรรมดามาก แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์อสูรระดับต้นก็ตาม ถึงเขาจะก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนได้แล้วก็ตาม ระดับเซียนเทียน?

ที่จริงเขาเพิ่งก้าวเข้าไปในระดับเซียนเทียน ตอนนี้นับว่าอ่อนแอที่สุดในระดับเซียนเทียน นอกจากนี้เขายังไม่มีวิชาโจมตีในระดับเซียนเทียนเลย มีเพียงวิชาในระดับโหวเทียนเท่านั้น หากเขารู้ว่าวิชาในระดับเซียนเทียนแล้วล่ะก็ บางทีเขาอาจจะเลือกสู้ก็ได้ ทว่าตอนนี้ เห็นได้ชัดเจน เขาทำได้แค่ซ่อนตัว หวังว่าหมาป่านั้นจะมองไม่เห็นเขา.

เหล่าเยว่จื่อจงที่ใช้ทักษะลมหายใจเต่า ทว่าหมาป่านั้นตรวจสอบเหยื่อด้วยลมหายใจอย่างงั้นรึ? ที่จริงจมูกของหมาป่านั้นแหลมคมเป็นอย่างมาก หลังจากที่มันเห่าหอนและดูดซับแสงจันทร์แล้ว ก็ชำเลืองมองมายังทิศทางของเขา สายตาที่เย็นยะเยือบส่องประกายวับวาว.

สถานที่แห่งนี้หมาป่าสีเงินผ่านอยู่เป็นประจำ แน่นอนว่ามันย่อมสัมผัสได้ถึงกลิ่นที่แปลกไป นอกจากนี้ ยังมีกลิ่นยาที่ถูกโรยกันเหล่าแมลงพิษที่เหล่าเยว่จื่อจงได้โรยเอาไว้ มันได้ฟุ้งกระจายไปทั่วดึงดูดความสนใจของหมาป่าตั้งแต่แรก

ด้วยการกระโดดไม่กี่ครั้งก็พุ่งมาถึงหุบเขาที่เหล่าเยว่จื่อจงอยู่ พร้อมกับเพ่งพิศไปยังเหล่าเยว่จื่อจงในถ้ำ.

เหล่าเยว่จื่อจงที่รับรู้ได้ถึงอันตราย ขณะที่เขาเห็นหมาป่ากระโดดมาแต่ไกลพร้อมกับเล็งมายังตำแหน่งของเขา เขาไม่สามารถที่จะซ่อนตัวได้แล้ว ตอนนี้ถูกพบตัวเข้าแล้ว.

เหล่าเยว่จื่อจงที่ตื่นตระหนกถอยเข้าไปชิดผนังถ้ำด้านใน.

ในสายตาของหมาป่าแล้ว ท่าทางของเหล่าเยว่จื่อจงนั้นช่างน่าขันนัก มันไม่เคยกินเนื้อมนุษย์มานานมากแล้ว.

ไร้ซึ่งสัญญาณใด ๆ เพียงพริบตาเดียวมันก็พุ่งเขาหาเหล่าเยว่จื่อจงในทันที.

เหล่าเยว่จื่อจงไม่มีทางเลือกนอกจากชักดาบสั้นออกมาป้องกันตัวเอง.

"ปังงงงง"

หมาป่าเงินพยายามที่จะฉีกกระชากเหล่าเยว่จื่อจงที่อยู่ในถ้ำ ถ้ำแห่งนี้มีขนาดเล็กแค่พอร่างของเหล่าเยว่จื่อจงเข้าไป ร่างของหมาป่าเงินที่มีขนาดใหญ่ ทำให้มันไม่สามารถเข้าไปได้.

กงเล็บของมันที่พยายามที่จะยื่นเข้าไป หัวของหมาป่าเงินนั้นมีขนาดใหญ่ ทำให้ติดหนึบอยู่ปากถ้ำ ดูเหมือนว่ามันพยายามที่จะกัดเหล่าเยว่จื่อจงให้ได้.

สถานการณ์เวลานี้นับว่าย่ำแย่ที่เดียว พื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยศิลาขนาดใหญ่ ศิลาเวลานี้กำลังเริ่มขยับ อีกไม่นานหัวของหมาป่าต้องยื่นเข้ามาภายในถ้ำพร้อมกัดเขาได้อย่างแน่นอน.

เหล่าเยว่จื่อจงที่ปล่อยปราณแท้อาบไปทั่วดาบสั้น และยกขึ้นกระแทกหมาป่าเงินกลับไป.

"ซี่ ๆๆๆๆ"

สามารถที่จะเฉือนไปยังหนังของมันได้.

"โฮกกกกกกกก"

หมาป่าเงินที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บพร้อมกับเหวี่ยงกงเล็บกระแทกไปยังดาบสั้น.

"เคล้งงง!"

ดาบสั้นของเหล่าเยว่จื่อจงที่หลุดออกจากมือไป ไม่มีอาวุธอีกต่อไปแล้ว.

ด้วยบาดแผลที่ได้จากดาบสั้นทำให้หมาป่าเงินโกรธเกรี้ยวดวงตาทั้งสองข้างเปลี่ยนเป็นสีแดง กำลังพยายามตะเกียกตะกายเข้ามาในถ้ำให้ได้ หินมากมายที่ร่วงหล่นลงมา ดูเหมือนว่าว่าเหล่าเย่จื่อจงคงจะไม่รอดพ้นเป็นอาหารของหมาป่าเงินแล้ว.

ร่างที่เคลื่อนไปชิดกำแพงด้านหลัง เขาที่ได้กลิ่นคาวจากปากของหมาป่าเงินแล้ว ปากของมันตอนนี้กำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้เขาทุกทีแล้ว.

ความตายที่ใกล้เข้ามา เหล่าเยว่จื่อจงสัมผัสได้ถึงปากเหวแห่งความตาย

หากทางเข้ากว้างกว่านี้แล้วล่ะก็ เขาคงตายไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ทำอย่างไรดี? ต้องทำอะไร? มีด? เขายังมีมีดแกะสลักอีกหนึ่งอัน แต่จะทำอะไรได้ มีดขนาดเล็กในกระเป๋า จะสามารถสังหารหมาป่าได้อย่างไร.

หากมีดสั้นไม่สามารถทำได้ ปราณที่แท้จริง....ทักษะหงหลวนอย่างงั้นรึ?

ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน.ต้องเสี่ยงดูแล้ว.

เขาที่ปล่อยปราณออกมาพร้อมกับใช้พลังจิตเข้าผสม.

ที่ฝ่ามือของเขา ปรากฏหมอกสีชมพูที่พุ่งออกไปทันที ด้วยกระบวนท่าดังกล่าวของเหล่าเยว่จื่อจง ผงกำหนัดหงหลวนแพร่กระจายไปทั่วถ้ำขนาดเล็กในทันที.

หมาป่าเงินที่พยายามทะลวงปากถ้ำ ทว่าก็เริ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นที่แปลกประหลาดขณะที่มันหายใจเข้ามา.

ดวงตาสีแดงฉานเวลานี้กลายเป็นสีแดงเข้ม พร้อมกับความรู้สึกนึกคิดของมันเปลี่ยนไป.

ในเวลานี้ ภาพของหมาป่าตัวเมียกำลังวนเวียนอยู่ในสมองของมัน เกิดสิ่งใดขึ้น? ความอยากกินเนื้อมนุษย์ได้หายไปและตอนนี้มันเกิดความต้องการ คิดถึงแต่หมาป่าตัวเมียอย่างงั้นรึ?

หมาป่าเงินไม่สามารถทนความต้องการของมันได้อีกต่อไป.

ดวงตาสีแดงเข้ม ตัวสั่นสะท้าน วิ่งหนีออกไปในทันที กระโดดลึกเข้าไปในภูเขาด้านใน.

วิกฤติในครั้งนี้คลี่คลายแล้ว.

"ฟู"

เหล่าเยว่จื่อจงถอนหายใจยาว ดวงตาเป็นประกาย.

เขาที่เดินเข้าไปเก็บดาบสั้น ก่อนที่จะสะพายกระเป๋า และเร่งรีบจากไปในทันที ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้จะไม่เหมาะที่จะค้างคืน คงจะดีหากเขาจากที่นี่ไปให้เร็วที่สุด.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด