ตอนที่แล้วChapter 67 การถ่วงเวลาของจงซาน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 69 หนอนไหมมังกรเก้าสี.

Chapter 68 พลิกกลับ.


จงซานที่กระโดดลงจากกระบี่เหินทันทีหลังจากที่ตัดแขนของเมียวเซียนเหริน.

ด้วยบาดแผลที่เมียวเซียนเหรินได้รับ ทว่าเขาก็ตอบสนองในทันทีมือขวาของเขาที่ฝืนยืนออกมาจับมือซ้ายที่กำลังล่วงหล่นและเท้าของเขาเตะไปยังร่างของจงซานก่อนที่จะกระโดดลงไป.

ร่างของจงซานที่ลอยออกไปล่วงหล่นลงไปในหุบเขาอย่างรวดเร็ว.

"ตูมมมม"

ร่างของจงซานที่กระแทกเข้ากับศิลาขนาดใหญ่ เกิดเป็นฝุ่นและควันกลุ่มใหญ่ฟุ้งไปทั่วอากาศ.

ด้วยเจียงซือเงินที่ตามมาอย่างรวดเร็ว เมียวเซียนเหรินที่กำมือซ้ายอย่างยากลำบาก ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีเขียว เขาเร่งรีบจากไปหลังจากที่ชำเลืองมองไปยังชายชุดดำและจงซาน เขาที่หายไปลับสายตาจากชายชุดดำแทบจะในทันที.

ชายชุดดำที่จ้องมองการต่อสู้ของจงซานและเมียวเซียนเหรินด้วยความสับสน ส่วนเจียงซือตนอื่น ๆ ที่มุ่งตรงไปยังพื้นที่ที่จงซานหล่นลงมา ทว่ากลับไม่สามารถพบเขาแล้ว.

เมียวเซียนเหรินที่หนีไปและจงซานก็หายไปอีกคน ชายชุดดำที่ถอนหายใจยาวก่อนที่จะเรียกเจียงซือทั้งหมดกลับมาหาเขา.

เขาโบกสะบัดมือเรียกโลงศพเปล่า 28 โลงออกมา..

24 เจียงซือทองแดง  3 เจียงซือเงิน และหนึ่งเจียงซือทอง หลังจากที่ชายชุดดำบริกรรมคาถาบางอย่าง เจียงซือทั้งหมดก็นอนลงไปในโลกศพ ก่อนที่ฝาโลงจะปิดลง นับเป็นฉากที่น่าขนลุกทีเดียว.

ชายชุดดำที่สะบัดมือนำตะปูออกมา ก่อนที่จะโยนออกไป พร้อมกับถูกตอกลงไปบนโลงศพทุกโลก ยึดฝามันเอาไว้แน่น ก่อนที่เขาจะนำยันต์อักขระอีก 28 ใบ ประทับไว้บนโลงปิดผนึกอีกชั้น.

ท้ายที่สุด ด้วยการสะบัดมือครั้งสุดท้าย โลงศพทั้งหมดก็หายไป ถูกเก็บเข้ามาในอุปกรณ์เก็บของต่างมิติ.

หลังจากที่เก็บกวาดทุกอย่างแล้ว ชายชุดดำที่ทำการตรวจสอบพื้นดิน อักษรรูนมากมายที่กระจายอยู่บนพื้น ในเวลานี้มันเริ่มจางลงเรื่อย ๆ และหายไปในที่สุด.

"วู๊ซซ วู๊ซซ วู๊ซซซ..."

ทันใดนั้น คนแปดคนก็ปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้า ในกลุ่มพวกเขานั้นไม่มีใครใช้ของวิเศษช่วยในการบินเลย พวกเขาเหาะมาด้วยพลังของตัวเอง แน่นอนว่าคนเหล่านั้นอย่างน้อยต้องก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณแล้วเท่านั้น.

ชายผู้หนึ่งที่สวมชุดสีม่วงที่หรูหราเป็นอย่างมาก รูปร่างเหมือนกับปุถุชนวัยกลางคนใบหน้าที่ดูมีสง่าสูงส่งน่าเกรงขาม ดูแตกต่างจากคนทั่วไปมาก ส่วนอีกเจ็ดคนที่เหลือด้านหลัง พวกเขานั้นต่างก็แสดงท่าทางเคารพนอบน้อมอย่างถึงที่สุด.

"เซียนเซิงซือ." ชายชุดม่วงที่กล่าวทักทายชายชุดดำอย่างเคารพ.

ถึงแม้ว่าเขาจะก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณแล้วก็ตาม ชายชุดม่วงก็ยังแสดงท่าทางเคารพต่อเซียนเซิงซือ ทั้งที่เขาอยู่แค่เพียงขั้นแกนทองเท่านั้น.

"องค์เหนือหัว ข้าได้ตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ นี้แล้ว จี้หยกเก้ามังกรสวรรค์นั้นไม่ได้อยู่ที่นี่."ชายชุดดำรายงาน.

"ไม่ได้อยู่ที่นี่รึ? เช่นนั้นก็คงจะมีแค่ภูเขาป้าเหมินแล้ว."ชายชุดสีม่วงขมวดคิ้วไปมา.

"อืม ข้าเองก็ได้ตรวจสอบหลายพื้นที่แล้ว เหลือแค่เพียงภูเขาป้าเหมิน ที่มีเสียงคำรามของมังกรเท่านั้น."เซียนเซิงจื่อพยักหน้า.

"เช่นนั้นคงต้องพึ่งท่านแล้ว."ชายชุดม่วงที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"โปรดวางใจ เมื่อข้ารับปากแล้ว ขอแค่เพียงมีจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ ข้าจะต้องทำงานอย่างเต็มที่เพื่อนำมามอบให้ท่านแน่."เซียนเซิงซือ พยักหน้า.

"เช่นนั้น พวกเราเดินทางกันเถอะ."ชายชุดม่วงกล่าว.

"อืม."เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.

เซียนเซิงซือที่นำกระบี่ไม้ออกมาพร้อมกับโยนขึ้นไปบนอากาศเป็นกระบี่เหิน พร้อมกับขึ้นไปบนกระบี่เหินลอยตามคนทั้งแปดมุ่งไปยังทิศตะวันออก.

หลังจากคนเหล่านั้นจากแล้ว บริเวณที่จงซานล่วงหล่นลงมานั้น เขาก็ผุดออกมาจากซอกหิน กลายร่างเป็นเงาดำ ก่อนที่เงาดำนั้นจะกลายเป็นรูปลักษณ์ของจงซานอย่างช้า ๆ .

จงซาน นี่คือจงซานอีกร่าง.

ที่มุมปากของเขานั้นมีโลหิตซึมออกมา เขาที่กุมไปยังหน้าอก ดูเหมือนว่าการที่ถูกเมียวเซียนเหรินเตะในครั้งนั้นทำให้เขาได้รับอาการบาดเจ็บเหมือนกัน.

จงซานที่ไม่ได้สนใจบาดแผลเท่าใดนัก เขายังคงจ้องมองไปยังทิศทางของเซียนเซิงซือและพรรคพวกจากไป.

"จี้หยกเก้ามังกรสวรรค์? อยู่ที่ภูเขาป้าเหมิน."จงซานที่พึมพำไปมา.

เห็นชัดเจนว่ามันสายเกินไปแล้วที่จะไล่ตามพวกเขา ตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการกลับไปรวมกับจงซานร่างหลักและสังหารเมียวเซียนเหรินซะ.

แทบจะในพริบตาเดียว ร่างของจงซานที่เปลี่ยนเป็นเงาอีกครั้ง ก่อนที่จะเคลื่อนที่ราวกับภูตผี หายไปจากตำแหน่งที่เขายืนอยู่ในทันที เป็นเงาสลัว ๆ เคลื่อนที่ผ่านซอกหลืบผ่านป่าไม้เคลื่อนที่ผ่านเงาต่าง ๆ ไปด้วยความรวดเร็วที่น่าอัศจรรย์

อีกด้านหนึ่ง เมียวเซียนเหรินที่ได้รับบาดเจ็บหนักอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน.

เขาที่จ้องมองไปยังแขนซ้ายที่เขากำลังกำมันเอาไว้อยู่ ภายในใจเต็มไปด้วยความโกรธจนถึงที่สุด หากว่าเวลานั้นเขาไม่ต้องการหนี เขาจะต้องสับจงซานออกเป็นชิ้น ๆ ด้วยตัวเขาเอง เขาประมาทเกินไป เขาไม่ทันสังเกต จนทำให้เขานั้นถูกตัดแขนออกมา.

เมียวเซียนเหรินต้องการกลับไปขจัดพิษออกจากร่างของเขาให้เร็วที่สุด พร้อมกับรักษาบาดแผล ต่อแขนของเขากลับคืน หากเขาไม่รีบล่ะก็ อาจจะทำให้เขาตายไปก็ได้.

เมียวเซียนเหรินนั้นไม่ใช่คนโง่ หากเป็นเหมือนดังในอดีต เขาจะไม่กลับไปยังที่พักเขาแน่นอน เขาจะต้องค้นหาสถานที่เพื่อรักษาบาดแผลก่อน ทว่าตอนนี้ในที่พำนักของเขานั้นมีสมบัติมากมายที่ซ่อนอยู่.

อาการบาดเจ็บของเขาที่ชะลอลงเล็กน้อย ทว่าเขาก็ยังเดินทางไปถึงที่พำนักของเขาในเวลาต่อมา.

หลอดเลือดสีเขียวที่บวมปูดขึ้นที่ศีรษะ เมียวเซียนเหรินที่กัดฟันแน่นอดทนต่อความเจ็บปวดเดินตรงไปที่ประตู เขาจำได้ว่าที่นี่มีเทียนหลิงเอ๋อและหยิงหลานอยู่.

สายตามที่หรี่ตาจ้องมองไปรอบ ๆ กวาดไปทุกทิศทาง.

"ชิ ดูเหมือนว่าจะเป็นแผนการหลอกข้าตั้งแต่แรกแล้ว พวกเจ้าทั้งสองหาญกล้ามาก คิดว่าจะหนีพ้นอย่างงั้นรึ?ด้วยจิตวิญญาณติดตามอย่างน้อยต้องใช้เวลาสามวันถึงจะสลาย ในเมื่อพวกเจ้ายังอยู่ เช่นนั้นก็จงชดใช้แทนจงซานซะ ข้าจะให้พวกเจ้าทั้งสองเป็นฐานเตาปรุงยารักษาแผลของข้า เพื่อชดเชยที่จงซานบังอาจทำกับข้า มันช่างน่าเสียใจกับความงามของพวกเจ้าจริง ๆ ."ใบหน้าสายตาที่ชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ก่อนที่เขาจะมุ่งตรงไปยังอีกหุบเขา พุ่งตรงไปยังทิศทางของเทียนหลิงเอ๋อ.

เมียวเซียนเหรินมั่นใจว่าด้วยวิชาหงหลวนของเขาก็เพียงพอที่จะจัดการหญิงสาวทั้งสองคนแล้ว.

กลับมายังหุบเขามีสองสาวยืนอยู่ และชายอีกคน นั่นก็คือจงซานนั่นเอง เป็นจงซานร่างหลัก เขากำลังจ้องมองไปยังหญิงสาวทั้งสองด้วยท่าทางจริงจัง.

"พวกเจ้าจำสิ่งที่ข้าได้กล่าวออกไปก่อนหน้านี้ได้หรือไม่?"จงซานกล่าว.

"อย่าได้กังวล."เทียนหลิงเอ๋อพยักหน้าในทันที.

"หยิงหลาน เจ้าคือหัวใจของแผนการพวกเรา อย่าได้พลาดกับหน้าไม้แปดแรงวัวโดยเด็ดขาด."จงซานที่จ้องอมงไปยังหยิงหลาน.

"อืม."หยิงหลานพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง.

จงซานที่พยักหน้า เขาที่เพิ่งกลับมาถึง และได้บอกแผนการให้กับหญิงสาวทั้งสอง ตอนนี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ไม่สามารถที่จะผิดพลาดได้เลย

ขณะที่พวกเขาพูด จงซานก็เห็นประกายแสงบางอย่างพุ่งตรงมาจากหุบเขาด้านข้าง เมียวเซียนเหรินกลับมาแล้ว.

เตรียมพร้อม!

จงซานและหยิงหลานที่แอบซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้ โดยมีเทียนหลิงเอ๋อที่ยืนอยู่กลางลานด้านหน้า โครม! ศิลาขนาดยักษ์ที่แตกระเอียดเมื่อเมียวเซียนเหริ่นยั้งเท้าลงบนพื้นปรากฏตัวอยู่ไม่ห่างจากเทียนหลิงเอ๋อ.

เขาที่เก็บแขนที่ขาดเอาไว้ ยืนอยู่โดยมีแขนข้างเดียว ใบหน้าเขียวช้ำ จ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อที่กุมผ้าแพรไหมแน่น ด้วยจิตวิญญาณติดตามเขาสามารถบอกได้ว่าหยิงหลานซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง.

เขาที่จ้องมองไปยังทิศทางที่หยิงหลานซ่อนตัวอยู่ สายตาที่หรี่เล็กลง พร้อมกับปล่อยหมอกหงหลวนออกมาจากร่างกาย ก่อนที่จะพวยพุ่งไปยังทิศทางของพวกนางทั้งสอง.

ในเวลาเดียวกันนั้น เทียนหลิงเอ๋อก็นำหยกอักขระออกมา หยกอักขระที่ส่องประกายแสงวับวาว ก่อนที่นาจะบดมันไปทันที หลังจากที่นางบดขยี้หยกทั้งสองแล้ว มันก็ฉายลำแสงพุ่งออกมา หนึ่งสีแดงเพลิงที่ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง ส่วนอีกหนึ่งก็ปะทุประกายแสงสีขาวที่บริสุทธิ์ออกมาเช่นกัน วิหคเพลิงและวิหคเหมันต์ ร่างพลังงานของวิหกทั้งสอง ดูราวกับว่ามีชีวิตที่เหมือนจริงมาก เทียนหลิงเอ๋อผู้บดหยกอักขระทั้งสองทำให้นางคือผู้ควบคุมพวกมัน ก่อนที่นางจะบังคับให้พวกมันพุ่งตรงไปยังเมียวเซียนเหริน.

"อักขระจ้าววิหก?"เมียวเซียนเหรินที่ดวงตาเบิกตากว้างไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.

วิหคเพลิงและวิหคเหมันต์นั้นมีพลังที่ไม่ธรรมดาเลย มันสามารถที่จะจัดการผู้ฝึกตนแกนทองระดับต้นได้เลย แม้ว่าเมียวเซียนเหรินจะได้รับบาดเจ็บ ทว่ามันก็ยังไม่เพียงที่จะคุกคามเขาได้.

เมียวเซียนเหรินที่เหลือเพียงแขนขวาข้างเดียว ทว่าเขายังสามารถควบคุมกระบี่เหินได้ดั่งใจนึก ตลอดจนกระบี่เหินอาบพลังสีชมพูพุ่งตรงไปยังวิหคเหมันต์.

แม้ว่าเมียวเซียนเหรินนั้นจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว ทว่าก็ยังไม่เท่ากับสายตาของเทียนหลิงเอ๋อ ตราบเท่าที่นางมองเห็นเขา วิหคทั้งสองก็สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าเมียวเซียนเหริน.

กระบี่เหินที่กระแทกเข้ากับวิหคเหมันต์ขณะที่อีกตนวิหคเพลิงเมียวเซียนเหรินที่ยกเท้าขวาเตะไปที่วิหคเพลิง ด้วยม่านเกราะป้องกันร่างกายที่ขาของเขากระแทกออกไปทำให้มันแตกออกเป็นเสี่ยง เมื่อมันปะทะเข้ากับวิหกเพลิงอย่างรุนแรง.

"ตูมมมมมมม"

เวลานี้เขาอยู่ในสภาพอ่อนแอ แรงเตะแม้ว่าจะยังทรงพลังเพียงพอที่จะทำให้วิหคเพลิงสลายหายไป ทว่าก็ทำได้แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น วิหคเพลิงนั้นไม่ได้พังทลายง่ายดายเพียงนั้น ด้วยการควบคุมของเทียนหลิงเอ๋อนั้น ทำให้วิหคเพลิงทะลวงผ่านเข้าไปในเกราะปราณป้องกันของเมียวเซียนเหริน เผาไหม้ขากางเกงของเขา จนสามารถมองเห็นหัวเข่าเขาได้เลย.

ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น กระบี่เหินของเขาที่กระแทกเข้ากับวิหคเหมันต์ ภายใต้การควบคุมของเทียนหลิงเอ๋อ วิหคเหมันต์ที่ผลักดันกระบี่เหินไปมาอยู่ชั่วขณะ.

เมียวเซียนเหรินที่เพ่งสมาธิไปที่กระบี่เหินของเขา ก่อนที่มันจะปลดปล่อยลำแสงกระแทกไปยังวิหคเหมันต์แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ในชั่วพริบตา.

ขณะที่กระบี่เหินปลดปล่อยพลังออกไปนั้น ในชั่วเวลาแค่อึดใจนั้นเมียวเซียนเหรินก็ได้ยินเสียงที่น่าขนลุกดังขึ้นมา.

"ปังงง!"

ลูกศรยักษ์ บางทีควรจะเรียกว่าทวนยักษ์ซะมากกว่า พุ่งตรงมายังขาของเมียวเซียนเหรินที่ถูกเผาไหม้ด้วยวิหคเพลิงก่อนหน้า.

พลังโจมตีมหาศาลกระแทกเข้าไปยังขาของเขาที่ไร้ม่านปราณเกราะป้องกัน โลหิตสาดกระจาย ขาของเขาก็ขาดออกไปในทันที.

เมียวเซียนเหรินที่สุญเสียแขนไปแล้วตอนนี้ยังเสียขาไปอีกข้าง.

ใบหน้าของเขาถึงกับกระตุกจ้องมองออกไปยังทิศทางที่ลูกศรยักษ์พุ่งมา มันมาจากทิศทางของหยิงหลานนั่นเอง ทำไม ทำไมนางไม่ได้รับพิษจากหมอกหงหลวนอย่างงั้นรึ?

อีกฝั่งหนึ่งไปไม่ไกลออกไปนั้น เทียนหลิงเอ๋อก็ถอยออกมาในทันที นางที่หลบจากหมอกหงหลวอย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้ผ้าแพรไหมของนางลอยห่างออกมา ด้วยความเร็วสูง และทำการล่อกระบี่เหินของเมียวเซินเหรินที่บินไล่ตามมาด้วย.

"อ๊าก ๆ  ๆ  ๆ  ๆ  ๆ "

เมียวเซียนเหรินที่หวีดร้องราวกับคนบ้า เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะต้องติดกับดักของสองสาว แม้ว่าเขาจะต้องการใช้พวกนางเป็นของเล่นก็ตาม ทว่าตอนนี้ดวงตาของเมียวเซียนเหรินกับเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด.

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น สายตาของเขาก็เห็นร่าง ๆ หนึ่ง ที่ได้ทำให้ความโกรธเกรี้ยวของเขาได้กลายเป็นท่าทางหวาดผวา นี่คือร่างที่เขาถีบหล่นลงไปบนหุบเขาก่อนหน้านี้.

จงซาน นี่คือจงซาน มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? เขาคือจงซานอย่างงั้นรึ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด