Chapter 64 เจตนาร้ายของจงซาน
เมียวเซียนเหรินนั้นจ้องมองจงซานด้วยความสงสัย เนื่องจากว่าเขาได้รับใช้มารเฒ่ามาก่อนตลอดจนขโมยคัมภีร์ของมารเฒ่าหงหลวนมา.
หลังจากที่เขาขโมยมันพร้อมกับคัดลอกเอาไว้ เขาที่ซ่อนมันเอาไว้เพื่อฝึกฝน เมื่อเขาฝึกฝนมาถึงระดับหนึ่งแล้ว เขาสังเกตเห็นว่ามีบางส่วนในคัมภีร์ที่เขาขโมยมานั้นได้หายไป ดูเหมือนว่ามีบางบทที่มารเฒ่าไม่ได้เขียนเอาไว้ในคัมภีร์ เมียวเซียนเหรินจึงคิดว่ามารเฒ่าเองคงจะรู้แค่เพียงหกขั้นแรกเท่านั้น ไม่คิดเลยว่ามารเฒ่านั้นจะสอนวิชาทั้งหมดให้กับชายคนนี้.
จากคำพุดของชายผู้นี้เมียวเซียนเหรินลองคาดเดาได้เลยว่ามารเฒ่านั้นคงไม่ได้เขียนทุกอย่างไว้ในคัมภีร์ ดูเหมือนว่าชายผู้นี้จะมีคัมภีร์ที่สมบูรณ์อยู่อย่างงั้นรึ? ดังนั้นเมียวเซียนเหรินจึงได้วางแผนทันที ตัดสินใจที่จะหลอกล่อเอาเคล็ดวิชาทั้งหมดมา.
เมียวเซียนเหรินที่กลืนน้ำลายและจ้องมองไปยังจงซานดวงตาเปล่งประกาย.
จงซานที่ลองหยั่งข้อมูลของชายคนนี้จากท่าทางของเมียวเซียนเหรินแล้ว ทำให้จงซานได้รับข้อมูลหลายอย่างมาเลยทีเดียว.
จากท่าทางของเมียวเซียนเหรินแล้ว เขาสามารถบอกได้เลยว่าชายคนนี้ต้องการสิ่งใด.
เมียวเซียนเหรินแม้ว่าจะมีอายุมากกว่าจงซาน ทว่าจงซานนั้นสามารถที่จะอ่านใจ คาดเดาท่าทางของคนได้ แปดสิบปีมานี้เขาเป็นพ่อค้าที่พบกับคนมากมายหลากหลายและพยายามเรียนรู้พวกเขา กล่าวอีกอย่างหนึ่ง เขานับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเลยก็ว่าได้ เมียวเซียนเหรินที่มีอายุมากกว่าแต่ใช้เวลามากมายในการฝึกตน อยู่ท่ามกลางหุบเขาและป่าไม้อันเขียวขจี เขาย่อมขาดความรู้เกี่ยวกับนิสัยและธรรมชาติของมนุษย์.
"เช่นนั้น เจ้าคงจะเป็นศิษย์ของอาจารย์เฒ่าสินะ บังเอิญจริง ๆ ที่พบเจ้าที่นี่ คาดไม่ถึง ๆ ."เมียวเซียนเหรินที่แสร้งแสดงท่าทางประหลาดใจ.
อย่างไรก็ตามจงซานสามารถมองเห็นร่องรอยจิตสังหารในดวงตาของเมียวเซียนเหรินได้.
ดังนั้นหากว่าเขาบอกว่าเขาปิดบังแสดงท่าทางอิดออดที่จะมอบเคล็ดวิชาหงหลวนทั้งหมด? เมียวเซียนเหรินจะไม่ทรมานเขาเพื่อแย่งชิงเอามาทั้งหมดหรอกรึ? แน่นอนว่าจงซานนั้นไม่สามารถที่จะเอาชีวิตของตัวเองเข้าไปเสียงขนาดนั้นอย่างแน่นอน.
จงซานที่หัวเราะออกมาเสียงดังในทันที"ฮ่าฮ่า ความเป็นจริงแล้ว มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลยจริง ๆ เมื่ออาจารย์สอนเคล็ดวิชาให้กับข้าแล้ว เขายังไม่อธิบายเคล็ดวิชาทั้งหมดที่มีให้กับเข้าเลย วันนี้ได้พบกับศิษย์พี่ แน่นอนว่าข้าจึงต้องการที่จะขอคำแนะสักหน่อย ข้าหวังว่าศิษย์พี่จะช่วยสอนอธิบายเคล็ดวิชาทั้งหมดให้กับข้าได้."
จงซานที่หวังว่าเมียวเซียนเหรินนั้นจะตกหลุมพลางของเขา.
ที่จริงเมียวเซียนเหรินที่ได้ยินคำพูดดังกล่าวออกมาจากปากของจงซาน มันทำให้เขาคาดหวังเช่นนั้นเลยทีเดียว ดูเหมือนว่า ศิษย์น้องคนนี้จะน่าสนใจทีเดียว.
"ใด้ ได้ แน่นอน ทว่า สาวงามสองคนข้าง ๆ เจ้าล่ะ..."ขณะที่เมียวเซียนเหรินที่กำลังตื่นเต้นอยู่นั้น เขาหันหน้าไปจ้องมองไปยังสองสาวอีกครั้ง.
เมื่อเห็นท่าทางของเมียวเซียนเหรินที่ดูจะสนอกสนใจหญิงสาวทั้งสอง ดวงตาของจงซานที่หรี่เล็กก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า "ทั้งสองคนนี้ ข้าลืมแนะนำพวกนางเลย นี่คือเทียนหลิงเอ๋อเป็นบุตรสาวของประมุขนิกายไคหยาง นางเป็นคู่บำเพ็ญของข้าเอง"
"โอ้ว?บุตรสาวของเทียนซวินจื่ออย่างงั้นรึ?"เมียวเซียนเหรินที่ถอนสายตากลับมา ทว่าหลังจากที่ได้รับข้อมูล ดูเหมือนว่าในสายตาของเขานั้นจะยิ่งดูสนใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม.
"ส่วนคนนี้เป็นหลานสาวของข้าเอง ข้าหวังว่าศิษย์พี่จะเอ็นดูนางเหมือนกัน."จงซานกล่าว.
เมียวเซียนเหรินที่จ้องมองไปยังหญิงสาว จากนั้นก็หันหน้ามามองจงซานและหรี่ตาเล็กลง"เอ็นดู แน่นอน แน่นอนข้าจะต้องเอ็นดูนางแน่."
"ศิษย์พี่ ข้าได้ยินมาว่ามีเรื่องน่าสนใจที่เกิดขึ้นที่ภูเขาป้าเหมิน พวกเราเองกำลังเดินทางไปดู ท่านต้องการไปกับพวกเราหรือไม่?"จงซานสอบถาม.
หากว่าพวกเขาสามารถเดินทางไปยังภูเขาป้าเหมินได้แล้วล่ะก็ พวกเขาย่อมสามารถขอความช่วยเหลือจากคนของสำนักไคหยางได้.
"ภูเขาป้าเหมินอย่างงั้นรึ?มีอะไรที่นั่นกัน? นี่เป็นโอกาสหายากที่พวกเขาจะเจอกันเช่นนี้ มา ๆ มาที่วิหารของข้าเซียนเหรินดีกว่า พวกเรามาฉลองกันดีกว่า ด้วยความเร็วของพวกเจ้าแล้วสองวันก็เดินทางไปถึงแล้ว ไม่เห็นต้องรีบเลย."เมียวเซียนเหรินที่กล่าวแย้งทันที ภายในดวงตาของเขานั้นมีประกายสีเขียวขึ้นมา.
เทียนหลิงเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าชายคนนี้เป็นคนที่น่าเกียจเป็นอย่างมาก หากไม่เพราะว่าจงซานแล้วล่ะก็ นางคงไม่ทนอย่างแน่นอน ส่วนหยิงหลานนั้น นางเข้าใจจงซานดี ดังนั้นจึงรู้ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ ว่านางควรที่จะวางตัวเช่นไร.
จงซานไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าเมียวเซียนเหรินนั้นกำลังคิดอะไรในใจ ดังนั้นทางที่ดีควรที่จะทำตามคำพูดของเขาไปก่อน.
"เฮ้ เช่นนั้นพวกเราขอไปเที่ยวยังวิหารของท่านก็แล้วกัน."จงซานที่หัวเราะออกมา.
เมียวเซียนเหรินที่พึงพอใจกับท่าทางของจงซาน ในใจของเขานั้นแค่นเสียงดูแคลนกับความไร้เดียงสาของจงซาน แน่นอน หลังจากที่เขาได้เคล็ดวิชาหงหลวนทั้งหมดมาเมื่อไหร่ เมื่อนั้นจงซานจะต้องตายแน่นอน ส่วนคู่บำเพ็ญและหลานสาวของเขาก็จะกลายมาเป็นสมบัติของเมียวเซียนเหริน.
เมียวเซียนเหรินนั้นพึงพอใจกับหญิงสาวทั้งสองคนมาก ท่าทางทั้งหมดนั้นจงซานรับรู้ได้เป็นอย่างดี เขาจึงจำเป็นต้องเล่นบทไร้เดียงสา เพื่อที่จะให้เขาวางใจเท่านั่นเอง.
หลังจากที่พวกเขาขึ้นมาบนยอดเขาแห่งหนึ่ง พวกเขาก็พบกับบ้านที่สวยงามอยู่ข้าง ๆ น้ำตก ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเมียวเซียนเหรินถึงมองเห็นการมาของพวกเขาได้ง่าย ๆ .
เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของหญิงสาวดังออกมาจากภายในบ้าน เมื่อเปิดประตูออกมาก็เห็นหญิงสาวสองคนที่มีโซ่ล่ามลำคอพวกนางเอาไว้.
หยิงหลานถึงกับเข้ามากอดแขนจงซานแน่น เทียนหลิงเอ๋อก็ไม่ต่างกัน พวกนางที่นึกถึงคำพูดของเมียวเซียนเหรินก่อนหน้านี้ได้.
หญิงสาวทั้งสองคนที่ดูราวกับสับสนตัวสั่นงันงกและค่อย ๆ คลานออกมาหาเมียวเซียนเหริน.
จงซานที่เดินตามเมียวเซียนเหรินไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ เมียวเซียนเหริน ที่ดีดนิ้วออกไป กลายเป็นปราณกระบี่สองสายพุ่งออกไปตัดคอหอยหญิงสาวทั้งสอง.
หญิงสาวทั้งสองคนตายไปในทันที โลหิตที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว.
"อ๊ากกก ๆ "
เทียนหลิงเอ๋อที่เห็นภาพสยดสยองถึงกับตัวสั่นราวกับว่านางไม่เคยเห็นใครที่ชั่วร้ายเท่ากับเมียวเซียนเหรินมาก่อนเลย.
"ตี้เม่ย กลัวอย่างงั้นรึ? ข้าจะโยนพวกนางออกไปเดี๋ยวนี้."เมียวเซียนเหรินที่เผยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย.
弟妹 [dìmèi ตี้เม่ย] น้องสะใภ้
ด้วยการสะบัดมือครั้งหนึ่ง โซ่ตรวนก็หลุดออก ก่อนที่จะพัดพาร่างของหญิงสาวทั้งสองลอยออกไปยังบ่อน้ำใต้น้ำตก.
ทันทีที่ร่างของหญิงสาวทั้งสองหล่นลงไป โลหิตกระจายไปทั่วบ่อ พร้อมทั้งปรากฏปลามากมายผุดขึ้นมา พวกมันโผล่ขึ้นมาแทะเนื้อไปทั่วร่างจนน้ำในบ่อกลายเป็นสีแดงฉาน เพียงแค่ไม่นานเท่านั้นร่างทั้งสองก็เหลือแต่กระดูก.
"อ๋า!!!"เทียนหลิงเอ๋อถึงกับหวีดร้องออกมาด้วยความสยดสยอง.
"ฮ่าฮ่าฮ่า อย่าได้กลัวไป ตี้เม่ย พวกนางตายไปแล้ว กลายเป็นเหยื่อปลานะดีแล้วจะได้ไม่เสียเปล่า."เมียวเซียนเหรินที่สะบัดพัดไปมาเผยยิ้มอย่างน่ากลัว.
"ทำไมต้องสังหารพวกนางด้วย?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวเสียงสั่น
ดวงตาของเทียนหลงเอ๋อที่แดงซาน หากเป็นศัตรูย่อมควรที่จะสังหาร อย่างไรก็ตามนางทั้งสองดูแล้วไม่ใช่ศัตรูของเขาเลย ทำไมต้องสังหารพวกนางด้วย?เทียนหลิงเอ๋อไม่เข้าใจแม้แต่น้อย.
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาไม่ค่อยพอใจเหมือนกัน.
"ศิษย์พี่ พวกนางเป็นใครอย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสร้งสอบถามออกมาด้วยความสงสัย.
เห็นท่าทางไร้เดียงสาของจงซานแล้ว เมียวเซียนเหรินที่เผยยิ้มออกมา "เป็นแค่เพียงของเล่น ข้าเบื่อพวกนางแล้ว ดังนั้นก็เลยทำลายทิ้งก็เท่านั้น."
ขณะที่เขาพูด เมียวเซียนเหรินที่ยังคงมองหญิงสาวทั้งสองข้างจงซาน ราวกับว่าตอนนี้เขาได้พบสิ่งของที่ดีกว่าแล้ว แน่นอนว่าเขาไม่ลังเลใจเลยที่จะกำจัดของเก่าไป.
หยิงหลานรู้ดีว่าท่าทางของจงซานเวลานี้เป็นเพียงแค่การแสดงเพื่อหลีกเลี่ยงการจับพิรุธของเมียวเซียนเหริน ซึ่งท่าทางเช่นนี้ดูเหมือนว่าจะสร้างความพอใจกับเมียวเซียนเหรินเป็นอย่างมากทีเดียว.
"เจ้า หลานสาวของศิษย์น้อง เจ้าก็เหมือนกับหลานสาวของข้า อย่าได้หวาดกลัว ดูเหมือนว่าจะยังไปไม่ถึงระดับเซียนเทียนอย่างงั้นรึ?"เมียวเซียนเหรินที่เผยยิ้มให้กับหยิงหลาน.
"ใช่แล้ว อาจารย์ก่อนหน้านี้เร่งรีบออกไป ทำให้ข้าลืมขอมุกคงหลิงจากเขา หากว่าศิษย์พี่มีแล้วล่ะก็ จะช่วยมอบมันให้นางได้หรือไม่?."จงซานที่ลอบกล่าวทดสอบเขาในทันที.
ดวงตาของเมียวเซียนเหรินทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเขาก็กับมาปรกติและเผยยิ้มออกมา "แน่นอน ข้าเองก็มีอยู่ชิ้นหนึ่งเช่นกัน."
เขาที่สะบัดมือหนึ่งครั้งก่อนที่จะปรากฏมุกคงหลิงพร้อมกับยื่นมันออกไปให้หยิงหลาน สายตาที่จับจ้องมองนางราวกับว่าจะกลืนนางเข้าไปทั้งตัว.
มีประกายแสงที่เย็นชาในสายตาของจงซาน เขาทีที่คิดใช้เคล็ดวิชาหงหลวนล่อเมียวเซียนเหรินเพื่อควบคุมเขาไว้ ทว่าตอนนี้เขาพบว่าชายคนนี้ก็กำลังเสแสร้งเล่นไปตามบทด้วยพร้อมกับมีเจตนาร้ายซ่อนเอาไว้มากกว่าเขาอีก จงซานไม่สามารถรอได้อีกต่อไปแล้ว.
จงซานที่รับมุกคงหลิงนั่นและยื่นให้กับหยิงหลาน.
"เอาล่ะ ขอบคุณต้าเหยี่ยเยี่ยด้วย."จงซานที่กล่าวต่อหยิงหลาน.
เมียวเซียนเหรินที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นักทว่าก็เก็บมันเอาไว้อย่างรวดเร็ว.
ทั้งจงซานและเมียวเซียนเหรินต่างก็แสดงละครทั้งคู่ พวกเขาต่างก็ลับขวานของตัวเองเอาไว้.(รอสับหัวอีกฝ่าย)
"ขอบคุณ ต้าเหยี่ยเยี่ยเมียว."หยิงหลานที่เผยยิ้มอย่างเฉิดฉายให้กับเขาขณะที่หยิบมุกกงหลิงมา.
ทันใดนั้นนางก็สร้างกำไลเก็บของสีดำขึ้นตามที่จงซานเคยสอนนาง.
"ต้าเหยี่ยเยี่ยเมียว ท่านพอจะมีศิลามิติหรือไม่?"หยิงหลานที่เงยหน้าจ้องมองไปยังเมียวเซียนเหริน.
"ได้ ๆ ข้าจะมอบศิลามิติให้กับเจ้า."สายตาของเมียวเซียนเหรินที่หรี่ตามอง ดวงตาที่หยาบคายเป็นประกาย.
"ขอบคุณ ต้าเหยี่ยเยี่ยเหมียว."หยิงหลานเผยยิ้มพร้อมกับนำศิลามิติมาจากเมียวเซียนเหริน นางที่ทำการสร้างกำไลเก็บของสีดำ.
จากการมองไปที่ศิลามิติ จงซานสามารถคาดเดาได้ว่าพื้นที่ข้างในนั้นคงจะใหญ่มาก ดวงตาของเขาที่เปล่งประกายจ้องมองไปยังเมียวเซียนเหริน ทว่าในเวลานั้นเมียวเซียนเหรินเบนสายตา จ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อที่กำลังหวาดผวาอยู่.
ดวงตาของจงซานที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา.
"ศิษย์พีใหญ่ข้ามีอะไรจะบอก ก่อนหน้านี้ที่ข้าเดินทางผ่านมา น่าจะไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ข้าได้เห็นของวิเศษด้วย."จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
"ของวิเศษอย่างงั้นรึ?"เมียวเซียนเหรินที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ใช่แล้ว มันมีเจียงซือคอยปกป้องอยู่ ทว่าพวกเราไม่แข็งแกร่งพอเลยไม่สามารถคว้ามันมาได้."จงซานกล่าว.
เมียวเซียนเหรินที่จับจ้องมองมายังจงซานราวกับจะทดสอบว่าเขากำลังพูดความจริงหรือไม่?
"เป็นความจริงอย่างงั้นรึ?"เมียวเซียนเหรินกล่าว.
"เป็นความจริง ที่จริงมันอยู่ไม่ห่างจากที่นี่ อันที่จริงสมบัตินี้อาจจะถูกเคลื่อนย้ายไปที่อื่น ๆ ในเร็วนี้ หากว่าท่านสนใจ พวกเราไม่ลองไปดูล่ะ บางทีอาจจะยังพอมีเวลา หากว่าพวกเราร่วมมือกัน รับรองว่าจะต้องได้มันมาแน่."จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
เมียวเซียนเหรินที่จ้องมองไปยังจงซานเพื่อตรวจสอบพิรุธ หลังจากนั้นเขาก็กล่าวออกมา "ก็ได้ ๆ หากว่าเจ้าพูดเช่นนั้น ข้าเองก็ต้องการจะดูเหมือนกันว่ามีของวิเศษอะไรที่อยู่ใกล้ ๆ นี้แล้วข้าไม่สามารถพบมันได้."
"อืม เช่นนั้นพวกเราไปกันเถอะ หลิงเอ๋อ หยิงหลาน พวกเจ้าทั้งสองอยู่ที่นี่แล้วกัน."จงซานที่กล่าวพร้อมกับดวงตาเป็นประกาย.
เมียวเซียนเหรินที่จ้องมองไปยังสองสาวในสายตามีประกายความชั่วร้ายซ่อนอยู่ "สถานที่แห่งนี้อยู่ในป่าลึก มันน่าเป็นห่วงหากว่าพวกเจ้าไปพบเข้ากับอันตราย ข้าจะใช้จิตวิญญาณติดตามเกาะไว้กับพวกเจ้า หากว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น ข้าจะสามารถหาพวกเจ้าเจอได้อย่างรวดเร็ว."
ไม่รอให้จงซานขยับตัวด้วยซ้ำ เขาที่ยิงควันสีแดงออกไปทันทีที่กล่าวจบ ควันสีแดงนั้นสัมผัสพวกนางและก็หายไปในทันที.
จงซานขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจิตวิญญาณติดตามนั้นคือสิ่งใด ทว่าเขาก็สามารถบอกได้ว่ามันจะต้องเป็นสัญลักษณ์บางอย่างที่ใช้ติดตามเพื่อป้องกันหญิงสาวทั้งสองหนีไป.
จงซานไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกมาทางสีหน้า ทว่าจิตสังหารที่เขามีมันยิ่งเข้มข้นมากว่าเดิม.
สองสาวก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใด.
"ไปกันเถอะ."เมียวเซียนเหรินที่พาเขาออกมานอกประตูก่อนที่จะนำกระบี่เหินพร้อมกับพาจงซานลอยออกไป.
จงซานที่ชำเลืองมองไปยังสองสาว จากนั้นก็จ้องมองไปยังหยิงหลาน เขาที่แตะไปที่กำไลเก็บของ ซึ่งหยิงหลานสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่ามีบางสิ่งนั้นได้ส่งเข้าไปในกำไลเก็บของของหยิงหลาน จงซานที่ให้สัญญาณว่าให้นางเปิดออกดู.
หญิงหลานเพียงแค่มองก็สามารถเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที.
"ไปกันเถอะ ศิษย์พี่."จงซานที่หันหน้ามาหาเมียวเซียนเหริน.
ที่จริงเมียวเซียนเหรินที่สังเกตเห็นท่าทางของหยิงหลานและจงซานได้ทำให้เขาขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"ต้าเหยี่ยเยี่ยเมียว ท่านต้องรีบกลับมานะ."หยิงหลานที่กล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว.
ริมฝีปากของเมียวเซียนเหรินที่กระตุก ดวงตาที่เปล่งประกายเฉิดฉายและกล่าวออกมาว่า"แน่นอน ข้าจะต้องรีบมาแน่."
จงซานที่นำทาง เมียวเซียนเหรินที่หันหน้ามามองสองสาวอีกครั้ง ก่อนที่จะพาจงซานเหินไปยังทิศทางที่เจียงซืออยู่.
หลังจากที่พวกเขาจากไป รอยยิ้มของหยิงหลานก็หายไปทันที พร้อมกับมีความรังเกียจปรากฏขึ้น.
"หยิงหลาน จงซานพาเจ้าคนเลวนั่นไปยังหุบเขาที่มีเจียงซืออย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อถาม.
"ใช่แล้ว กู่เหยี่ยเยี่ยกำลังพาหมาป่าไปให้เสือกิน."หยิงหลานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเบา ๆ .
"พาหมาป่าไปให้เสือกิน?"เทียนหลิงเอ๋อขมวดคิ้ว.
"ถูกแล้ว ไปเถอะ พวกเราต้องรีบไปจากที่นี่ พวกเราจำเป็นต้องสร้างพื้นที่รอคอยให้กู่เหยี่ยเยี่ยล่อหมาป่าบาดเจ็บกลับมา."หยิงหลานกล่าวด้วยเสียงที่เย็นชา.
"เจ้าหมายความว่าเจ้าคนเลวนั้นและเจียงซือจะต่อสู้กันอย่างงั้นรึ?แล้วพวกเขาจะสู้กันจริง ๆ รึ?"เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.
"พวกเขาคงไม่ต่อสู้กันแน่ ทว่าหากมีกู่เหยี่ยเยี่ยแล้ว พวกเขาจะต้องต่อสู้กัน."หยิงหลานกล่าวอย่างมั่นใจ.