Chapter 62 หลบหนีจากเงื้อมมือเจียง
ตราประทับหนึ่งดวง เป็นหัวใจที่ใช้ควบคุมพลังปิศาจรึ?
จงซานที่ตัดสินใจที่จะถอยในทันทีที่เห็นทุกอย่างแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องปรกติ มีอันตรายมากมายที่ซ่อนเอาไว้อยู่.
เขาที่วางฝ่ามือไปที่หน้าผากของพวกนางพร้อมกับดันถอยหลังบอกให้ถอยกลับในทันที.
สองสาวต่างก็พยักหน้าและเตรียมถอยในทันทีเช่นกัน.
จงซานที่ยังคงจับจ้องมองไปยังเจียงซือ ขณะที่พวกเขากำลังถอยห่างออกมาเรื่อย ๆ .
ขณะที่พวกเขาถอยห่างออกมาสามก้าว ทันใดนั้นชายชุดดำก็ลืมตาขึ้นมาในทันที จงซานที่เห็นประกายแสงสีเขียวที่จับจ้องมองมายังทิศทางของพวกเขา.
แทบจะในเวลาเดียวกัน 25 เจียงซือที่หันหน้ามายังทิศทางของจงซาน แขนหน้าที่ชี้เด่มาด้านหน้ายังทิศทางของพวกเขาทั้งหมด.
"วิ่ง!!!"
จงซานที่ตะโกนออกมาเสียงดัง และวิ่งออกมาพร้อมกับหยิงหลาน ส่วนเทียนหลิงเอ๋อ นางที่ก้าวขึ้นไปบนผ้าแพรสีแดงและลอยขึ้นไปบนอากาศ.
ชายคนดังกล่าวที่หรี่ตามมองพวกเขาและเจียงซือตนหนึ่งก็กระโดดมายังทิศของพวกเขาทั้งสาม.
แม้ว่าจงซานจะมองเห็นเจียงซือได้ ทว่าระยะทางดังกล่าวนั้นอยู่ไกลเหมือนกัน ทว่าเจียงซือนั้นกลับมีความเร็วที่น่าพรั่นพรึง การกระโดดหนึ่งครั้งนั้นเป็นระยะถึงห้าสิบเมตรและไล่ตามพวกเขามาอย่างรวดเร็ว.
ชายคนดังกล่าวที่ถือหัวใจอยู่ในมือ และปิดตาแน่น หลังจากที่ส่งเจียงซือไล่ล่าพวกเขาแล้ว ราวกับว่าเขาจำเป็นต้องทำพิธีกรรมบางอย่างให้เสร็จสิ้น.
"จงซาน เจียงซือสีเขียวเข้มนั่นเป็นเจียงซือทองแดง มีตนหนึ่งที่กำลังไล่ตามพวกเรามา เตี่ยของข้าเคยบอกว่ามันมีพลังเทียบเท่าระดับแกนทองตอนต้น ทว่าร่างกายของมันนั้นมีพิษที่รุนแรงมาก หากว่าสัมผัสจะต้องตายในทันที พวกเราควรจะทำอย่างไรดี?"เทียนหลิงเอ๋อที่ตะโกนออกมาบนอากาศ.
เทียบเท่ากับคนที่มีระดับแกนทองอย่างงั้นรึ?
หัวใจของจงซานที่เต้นแรง ก่อนหน้านี้เขาวางใจว่าชายชุดดำและเจียงซือทั้งหมดนั่นไม่ได้ไล่ตามพวกเขามา ทว่าเพียงแค่เจียงซือตนเดียวกับทรงพลังเป็นอย่างมาก.
หยิงหลานต้องขอบคุณจงซานที่ให้รองเท้าขับวายุกับนาง ทว่าก็ยังด้อยกว่าความเร็วของเจียงซือ พวกเขายังคงวิ่งหนีเต็มกำลัง นำซ้ำพวกเขากำลังถูกไล่จี้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว.
พวกเขาวิ่งผ่านภูเขาลูกใหญ่ เจียงซือก็ยังตามมาใกล้ทุกที ๆ แล้ว ต้องทำอย่างไร?
"หยิงหลาน แยกออกไป หลิงเอ๋อแยกไปอีกทางด้วย."จงซานที่ตะโกนสั่งการออกไปในทันที.
ทุกคนที่เข้าใจความคิดของจงซาน หยิงหลานที่แยกออกไปอีกเส้นทางในทันที.
เทียนหลิงเอ๋อที่อยู่บนอากาศเจียงซือไม่สามารถตามขึ้นไปได้แน่.
หลังจากที่พวกเขาแยกกันไปคนละเส้นทาง เป็นไปตามคาด เจียงซือที่หยุดนิ่งลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะไล่ตามหยิงหลานไป.
เมื่อจงซานและหยิงหลานวิ่งผ่านมายังภูเขาลูกที่สอง เจียงซือที่อยู่หากจากหยิงหลานไม่ไกลเกินหนึ่งร้อยเมตรแล้ว มันกำลังจะไล่หยิงหลานทันแล้ว.
"หลิงเอ๋อ โจมตีมันด้วยผ้าแพรไหมแดงเลย."จงซานตะโกนเสียงดัง.
"ตูมมมมมมม"
ด้วยการโจมตีด้วยผ้าไหมแดงไปยังเจียงซือทำให้มันช้าลง จงซานที่ขว้างศิลาขนาดใหญ่ออกไปจากระยะไกล.
"ตูมมมมมมมมม"
ศิลาไม่ได้ทรงพลังเทียบกับผ้าแพรไหมของเทียนหลิงเอ๋อแน่นอน ทว่าแม้ว่าจะไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ แต่ก็สามารถสร้างความสนใจต่อเจียงซือได้ หยิงหลานที่เพิ่มความเร็ววิ่งห่างออกไป และเจียงซือเวลานี้ก็มุ่งหน้าตรงมายังจงซาน.
จงซานที่กลับหลังหันและวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ภายในใจของเขานั้นดูดีใจเจียงซือไล่ตามมา แม้ว่าเจียงซือทองแดงตนนี้จะทรงพลัง เป็นเจียงซือพิษที่ร้ายกาจมาก ๆ อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเพียงเจียงซือระดับต้น ไม่ได้มีเชาว์ปัญญาใด ๆ นี่คือจุดอ่อนของมัน ตราบเท่าที่เขารับรู้จุดอ่อนของมันได้ ก็เพียงพอที่จะจัดการได้แล้ว จงซานที่มีแผนการมากมาย เขาย่อมมีวิธีในการจัดการมันได้.
จงซานที่วิ่งตรงไปยังภูเขาใหญ่อีกลูก เจียงซือที่วิ่งตามเขาใกล้เข้ามาทุกที เมื่ออยู่ห่างจากเขาหนึ่งร้อยเมตร พวกเขาก็ใช้แผนเดิม เทียนหลิงเอ๋อที่ใช้ผ้าไหมแดงโจมตี หยิงหลานขว้างศิลาลูกใหญ่ใส่มัน เจียงซือก็หันกลับมาวิ่งไล่ตามหยิงหลานไป.
"จงซาน ให้ข้าใช้หยกอักขระหรือไม่?"เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.
บิดาของนางนั้นได้มอบหยกอักขระเพื่อไว้ให้นางป้องกันตัว นางที่ใช้จัดการกลุ่มของจงตี้ครั้งหนึ่งและใช้ในการป้องกันคฤหาสน์จงอีกครั้ง ตอนนี้เหลือเพียงแค่สองชิ้น แน่นอนว่าจงซานนั้นไม่ต้องการให้นางใช้ไปอย่างเสียเปล่าในที่แห่งนี้.
"ไม่ต้องใช้ที่นี่ ข้ามีวิธีที่จะจัดการมันอยู่."จงซานที่ตอบกลับขณะวิ่ง.
จัดการเจียงซือทองแดงตนนี้รึ?เทียนหลิงเอ๋อที่เต็มไปด้วยความสงสัย แม้แต่นางยังไม่สามารถต่อกรกับเจียงซือตนนี้ได้เลย แล้วจงซานมีวิธีใดที่จะจัดการล่ะ? จงซานที่มีดาบยักษ์ ทว่าดาบยักษ์ของเขานั้นไร้ประโยชน์เมื่อใช้ต่อกรกับเจียงซือ ทั้งผิวหนังทั่วร่างและลึกเข้าไปในกระดูกของพวกมันได้กลายเป็นทองแดง ไม่มีทางที่ดาบยักษ์จะสามารถตัดผ่านร่างของมันได้แน่.
อย่างไรก็ตาม เทียนหลิงเอ๋อก็เชื่อในจงซาน หากเขาบอกว่ามีวิธี เช่นนั้นก็จ้องต้องมีแน่.
ทั้งสามที่ยังคงใช้แผนการเดิม เปลี่ยนสลับให้เจียงซือไล่ล่า จนตอนนี้มาถึงยอดเขาที่สองแล้ว เทียนหลิงเอ๋อที่พยายามล่อเจียงซือมายังนาง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยฉลาด แต่ดูเหมือนว่ามันจะรู้ว่าไม่สามารถที่จะไล่ตามจับเทียนหลิงเอ๋อที่อยู่บนอากาศได้ ทำให้มันยังคงมุ่งตามไปยังทิศทางของหยิงหลาน.
หลังจากที่มาถึงภูเขาลูกที่สองนั้น พวกเขาที่กำลัง จะวิ่งเขาไปเจอกับหน้าผาสูงแล้ว.
เทียนหลิงเอ๋อที่ตื่นตระหนกนางที่มองเห็นหุบเขาลึก นางที่นำหยกอักขระออกมา เตรียมที่จะใช้มันหากพบกับสถานการณ์ย่ำแย่.
ส่วนจงซานนั้นกลับดูท่าทางดีใจที่เห็นหน้าผา เขาร้องตะโกนออกไปว่า "หยิงหลาน มานี่."
เจียงซือที่อยู่ห่างเพียงแค่สองร้อยเมตรขณะไล่หลังหยิงหลานมา สร้างความตื่นตระหนก น่าหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก ทว่านางยังคงเชื่อใจจงซาน และเชื่อว่านางจะไม่มีอันตรายใดตราบเท่าที่มีเขาอยู่ที่นี่.
หยิงหลายที่ยังคงวิ่งไร้ซึ่งลังเล เจียงซือที่ตามนางเข้ามาเรื่อย ๆ หยิงหลานสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนทุกครั้งที่เจียงซือกระโดด.
"จงซาน!!!"เทียนหลิงเอ๋อที่ร้องเรียกด้วยความกระวนกระวายอยู่บนอากาศ.
"ไม่เป็นไร."จงซานที่จับจ้องมองไปยังเจียงซือ รอยยิ้มเป็นนัยปรากฏขึ้นที่บนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาชักดาบยักษ์ฝันร้ายขึ้นมา.
นางที่เฝ้ามองจงซาน เทียนหลิงเอ๋อที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย ดาบยักษ์นั่นทรงพลังพอที่จะสังหารเจียงซือย่างงั้นรึ?
"โจมตีไปที่หน้าของมัน."จงซานที่ตะโกนออกไปในทันที.
"ปัง"ผ้าแพรไหมสีแดงกระแทกหน้าของเจียงซือซึ่งทำให้มันหยุดอยู่ชั่วขณะก่อนที่หยิงหลานจะมาถึงด้านข้างของจงซาน.
จงซานที่เผยยิ้มออกมา เขาที่ใช้มือซ้ายหน่วงร่างของหยิงหลานเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างยังคงกุมดาบชี้ไปยังเจียงซือ.
เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เทียนหลิงเอ๋อที่ยังคงหวาดหวั่น ทว่าหยิงหลานในเวลานี้ นางที่อยู่ข้างกายจงซาน นางที่มั่นใจว่านางปลอดภัยแล้ว นางไม่รู้ว่าจงซานมีพลังฝึกตนมากขนาดใหน เพียงแต่นางเชื่อมั่นในตัวจงซานเท่านั้น.
เจียงซือ ที่ไม่สนใจผ้าไหมแดงที่โจมตีมาเลย เพราะว่าเจียงซือที่จ้องมองเห็นดาบยักษ์ที่ชี้มายังมันอยู่ มันก็กระโดดพุ่งตรงไปยังจงซาน พวกเขาอยู่ห่างกันเพียงแค่สามก้าวเท่านั้น.
จงซาน ที่ใช้ดาบชี้ไปด้านหน้า พร้อมกับดวงตาที่จับจ้องมองไปยังเจียงซือไม่วางตา.
จงซานไม่ขยับขณะที่มันกระโดดก้าวแรกเข้ามา และก้าวที่สอง เขาที่ขยับขณะที่เจียงซือกระโดดก้าวที่สอง เจียงซือที่เห็นร่างของจงซานขยับ มันก็รีบเร่งกระโดดออกไปก้าวที่สามในทันที.
ขณะที่เจียงซือเร่งรีบตามจงซานไปนั้น จงซานที่กระโดดกลับหลังเล็กน้อยและลงไปยังหน้าผาด้านหลังด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า.
"พรึด ๆ "
จงซานที่มีหยิงหลานในอ้อมกอดหายไปทันที เทียนหลิงเอ๋อถึงกับหวาดผวา เขากระโดดลงไปที่หน้าผาอย่างงั้นรึ?
"จงซานนนนนน"เทียนหลิงเอ๋อที่ลอยตรงไปพร้อมที่จะสู้.
เจียงซือที่ลังเลเมื่ออยู่บนอากาศ ทว่ามันไม่สามารถหยุดได้แล้ว จากนั้นมันก็ล่วงหล่นลงไปยังเหวลูกที่จงซานได้กระโดดลงไปก่อนหน้านี้.
ขณะที่เทียนหลิงเอ๋อลอยตรงไปยังที่ขอบหน้าผานั้น นางที่รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นจงซานและกอดหยิงหลานไว้ กำลังเกาะอยู่ของหน้าผาโหยใช้ดาบยักษ์ปักไว้บนกำแพงหน้ายึดร่างเอาไว้.
เทียนหลิงเอ๋อที่แทบร้องออกมาแทบบ้าน้ำตาไหลพรากเมื่อเห็นจงซานกระโดดลงไป นางทีรู้สึกราวกับว่าท้องฟ้าเต็มไปด้วยความมืด ทว่าตอนนี้เขากลับยังสบายดี จงซานยังไม่เป็นไร.
จงซานที่จ้องมองขึ้นไปเห็นท่าทางของเทียนหลิงเอ๋อ เขาเผยยิ้มอย่างอบอุ่นให้.
"ตูมมมมมมมมมมม"
ไม่นานหลังจากนั้นเสียงดังสนั่นก้องกังวานดังลั่นมาจากก้นเหว.
คนทั้งสามที่จ้องมองตามไป ก้นเหวที่ลึกมาก มืด มีหมอกเต็มไปหมด พวกเขาไม่สามารถมองเห็นผลลัพธ์ได้เลย.
"หลิงเอ๋อ ดึงพวกเราขึ้นไป."จงซานกล่าว.
"อืม."เทียนหลิงเอ๋อที่ดีใจก่อนที่จะร่อนลงไปที่ขอบหน้าผ้าและเริ่มใช้ผ้าแพรไหมของนางดึงพวกเขาทั้งคู่ขึ้นมา.
"หยิงหลาน รีบขึ้นไปเร็วเข้า."จงซานที่บอกหยิงหลาน.
"ไม่ บรรยากาศตรงนี้ก็ดีเหมือนกัน อยู่ต่ออีกหน่อยน่าจะดี."หยิงหลานที่แสดงท่าทางราวกับเด็กเอาแต่ใจ.
จงซานถึงกับไร้ซึ่งคำพูด ก่อนที่จะกล่าวว่า "เร็วเข้า!ดาบของข้าจะเกาะผนังหน้าผาไม่อยู่แล้ว."
"อืม."หยิงหลานที่อยู่ในอ้อมกอดจงซานและนางจับผ้าแพรไหมสีแดงเพื่อให้เทียนหลิงเอ๋อดึงนางขึ้นไป.
และเป็นจงซานในลำดับถัดมา.
เมือคนทั้งสามขึ้นมายืนอยู่บนพื้นเรียบร้อยแล้ว เทียนหลิงเอ๋อรู้สึกราวกับว่าภัยพิบัติได้ถูกพัดผ่านไปแล้ว จงซานและหยิงหลานปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด.
"กู่เหยี่ยเยี่ย พวกเราจะไปทางใหนดี?"หยิงหลานที่จ้องมองไปรอบ ๆ และสอบถาม.
"ไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ "ไม่ใช่ว่ามีภูเขาและแม่น้ำอยู่ด้านหน้าพวกเราหรอกรึ?หากไม่มีเทียนหลิงเอ่อมองเห็นสภาพภูมิประเทศเมื่ออยู่บนฟ้าแล้วล่ะก็ ผลที่ได้คงจะไม่ออกมาเป็นเช่นนี้."จงซานที่กล่าวหลังจากคิดอยู่ชั่วขณะ.
ด้วยจงซานที่กล่าวชมนาง ทำให้เทียนหลิงเอ๋อเผยยิ้มออกมาอย่างเฉิดฉาย.