Chapter 60 3 มุกคงหลิง.
"ชุ่น (寸)"= 3.03 ซม
10 ชุ่น = 1 "ฉื่อ" (尺)
10 ฉื่อ = 1 จั้ง (丈)(10 ฟุต หรือ 3.3 เมตร)
ผู้บุกรุกทั้งแปดคนตายทั้งหมด.
ภายในคฤหาสน์จง จ้าวโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมากับกระดาษคำสั่งสีทอง ทันใดนั้นเขาก็กล่าวต่อจงซาน "จงซานข้าคงไม่สามารถเดินทางไปยังภูเขาป้าเหมินได้แล้ว ข้าจะต้องกลับไปยังสำนักทวนเหล็กในทันที."
"เจ้าจะไปตอนนี้เลยอย่างงั้นรึ?"จงซานถาม.
"ถูกแล้ว ข้าต้องไปตอนนี้เลย ดูเหมือนว่าการเดินทางมาเมืองเสวียนครั้งนี้จะนับว่าถูกต้องแล้ว ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่สามารถได้รับรู้อันตรายที่สำนักของข้าจะต้องพบเจอ เทียบกับความเป็นตายของสำนักแล้ว เรื่องของภูเขาป้าเหมินไม่สามารถนำมาเทียบได้ ข้าจะต้องกลับไปเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้."
"แน่นอน พ่อบ้าน เตรียมม้า."จงซานเรียกบ่าวที่อยู่ด้านนอก.
เขาเข้าใจความเร่งด่วนนี้ดี ดังนั้นจึงเร่งรีบสั่งการโดยที่ไม่ไต่ถามเพิ่มอีก.
"ครับ นายท่าน."ใครบางคนที่ด้านนอกตอบรับ.
จงซานที่เดินออกมาพร้อมกับเทียนหลิงเอ๋อมาส่งจ้าวโส่วเซี่ยงที่หน้าประตู พ่อบ้านที่เร่งรีบนำป้ายหยกนำมามอบให้จงซาน ก่อนที่จงซานจะส่งต่อให้จ้าวโส่วเซี่ยง"ในเวลานี้ ประตูเมืองได้ปิดแล้ว แสดงป้ายหยกนี้และพวกเขาจะเปิดประตูเมืองให้กับเจ้า."
"ขอบคุณ."จ้าวโส่วเซี่ยงพยักหน้าขึ้นม้าและเร่งรีบจากไปในทันที.
"จงซาน ทำไมเจ้าปล่อยพวกมันสองคนไปล่ะ?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามจงซานออกไปทันทีหลังจากที่จ้าวโส่วเซี่ยงไปแล้ว.
"ปล่อยพวกมันไปอย่างงั้นรึ? ฮึ ฮึ แค่ปล่อยไปก่อนเท่านั้น ครั้งนี้ ต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยเหลือ."จงซานกล่าวชื่นชมเทียนหลิงเอ๋อด้วยรอยยิ้ม.
"อืม."เทียนหลิงเอ๋อที่ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว.
เหล่าบ่าวไพร่ที่ช่วยกันทำความสะอาดหลังจากการต่อสู้จบ จงซานที่นำเทียนหลิงเอ๋อไปยังอีกลานบ้านอีกแห่ง.
ในเวลาเดียวกันหยิงหลานที่วิ่งเข้ามา นางที่คล้องไปยังแขนของจงซานแน่น "กู่เหยี่ยเยี่ย เป็นอย่างไรบ้าง?ข้าปล่อยลูกศรอย่างแม่นเลย."
ทันใดนั้นเห็นหยิงหลานที่ใกล้ชิดจงซาน ใบหน้าที่ยินดีตื่นเต้นก่อนหน้านี้กลายเป็นบูดเบี้ยวทันที.
"แน่นอน พวกเขาคงไม่รู้ว่าเป็นหยิงหลานของพวกเรา."จงซานตอบพร้อมหัวเราะออกมา.
"กู่เหยี่ยเยี่ย จ้าวโส่วเซี่ยงไปแล้วอย่างงั้นรึ?"หยิงหลานที่สอบถามออกมา.
"อืม สำนักของเขานั้นอยู่ในภาวะวิกฤติ เขาจะต้องกลับไปรายงาน."จงซานพยักหน้า เขาเห็นท่าทางเป็นกังวลในสายตาของจ้าวโส่วเซี่ยง ทว่าเขาก็ไม่สามารถเดินทางไปกับจ้าวโส่วเซี่ยงได้ วันนี้ที่เขาต่อสู้กับบรรพชนเฉียน เขารู้ได้อย่างแจ่มแจ้งว่าด้วยกำลังของเขานั้นไม่เพียงพอที่จะเสนอตัวเข้าไปช่วย.
"ว่าแต่กู่เหยี่ยเยี่ยได้สมบัติอะไรที่พวกเขานำมาแลกชีวิต?"หยิงหลานกล่าวต่อ.
"มุกคงหลิง."จงซานบอกนางและอธิบายวิธีการใช้งาน.
ดวงตาของหยิงหลานที่เปล่งประกาย."กู่เหยี่ยเยี่ย ให้ข้าสักสองชิ้นเถอะ ข้าต้องการกำไลเก็บของและของวิเศษ.
จงซานที่สายหน้าไปมาพร้อมกับลูบไปที่ศีรษะของนาง"เจ้ายังไปไม่ถึงระดับเซียนเทียนเลย อย่างไรก็ตามข้ายังมีเรื่องจำเป็นต้องใช้มุกคงหลิงทั้งสามอยู่ ไว้กู่เหยี่ยเยี่ยจะมอบให้เจ้าในอนาคต."
หยิงหลานพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง."ก็ได้ ทว่ากู่เหยี่ยเยี่ย ท่านจะต้องให้ข้าเร็วที่สุดเลยนะ."
"แน่นอน."จงซานพยักหน้า พอใจที่นางเข้าใจ เขาที่ยังคงลูบศีรษะของหยิงหลานอย่างเอ็นดู.
"อะฮึ่ม."เทียนหลิงเอ๋อแค่นเสียงด้วยความโกรธ นางไม่รู้ทำไมนางต้องทำเช่นนั้น.
"ศัตรูถูกจัดการหมดแล้ว พวกเราไปดื่มฉลองกันเถอะ หลิงเอ๋อ ไปกันเถอะ?"จงซานที่หันหน้าไปพูดกับเทียนหลิงเอ๋อ.
"ไม่ ข้าเหนื่อย ข้าต้องการพักผ่อน."เทียนหลิงเอ๋อที่หันหลังกลับและตรงไปยังที่พักของนาง.
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเงียบอยู่ชั่วครู่.
เทียนหลิงเอ๋อที่วิ่งออกมา ทำไมไม่รู้ หยาดน้ำตาที่ไหลอาบไปบนใบหน้าของนาง นางที่วิ่งกลับห้อง พร้อมกับเข้าไปซุกกับผ้าห่มร้องไห้ น้ำตาที่เปียกโชกไปหมด ก่อนที่นางจะค่อย ๆ รู้สึกดีขึ้นมา.
นางที่ห้องไห้กว่าชั่วโมง ถึงทำให้นางดีขึ้นมา นางที่รู้สึกสับสน นางเป็นอะไรไป? ทำไมนางต้องเสียใจ?นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่แม่ของนางจากไป ทำไมนางต้องเสียใจที่เห็นจงซานใกล้ชิดผู้หญิงอื่นด้วยล่ะ?
หรือนี่คือสิ่งที่แม่ของนางเคยบอกไว้ ว่านางชอบเขาเข้าแล้ว? นางชอบจงซานอย่างงั้นรึ?ไม่ ไม่ นางชอบศิษย์พี่ใหญ่ ไม่ใช่จงซาน ทว่า ทำไมนางจะต้องร้องไห้ด้วยล่ะ? อย่างไรก็ตามหากคิดดูให้ดี เมื่อคิดถึงจงซาน นางไม่สามารถสลัดเรื่องของเขาออกจากสมองของนางได้เลย.
เทียนหลิงเอ๋อที่นำไม้แกะสลักที่จงซานทำให้นาง ก่อนที่จะลูบคลำไปมา พร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่โดยที่นางไม่รู้สึกตัวเลย.
หากว่าเทียนซวินจื่อมาเห็นบุตรสาวของตัวเองที่ร้องไห้และยิ้มไปพร้อมกัน เขาคงดวงตาเบิกกว้างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น มันเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อลงได้.
จงซานที่ส่งหยิงหลานกลับไปพักหนึ่งแล้ว ตอนนี้เขากำลังได้รับผลข้างเคียงของวิชากายาเทพอสูร เขาที่เร่งรีบกลับห้องเพื่อพักผ่อนในทันที.
วันถัดมา ที่กำไลเก็บของของร่างแยกเงาที่ได้สังหารบรรพชนเฉียน และนำมันกลับมาส่งให้จงซานแล้ว ซึ่งได้ทำลายและนำศิลามิติกลับมานั่นเอง.
ร่างแยกเงาของเขาใช้มุกคงหลิงลูกหนึ่งสร้างกำไลเก็บของและใช้ศิลามิติครึ่งหนึ่งไป.
รูปร่างของร่างแยกเงานั้นพิเศษมาก ร่างแยกเงาสามารถเปลี่ยนรูปร่างเป็นเงาได้หรือย่อขนาดเล็กลงจนมีขนาดห้าชุน และสามารถที่จะซ่อนอยู่ภายในเงามืด สามารถปล่อยกระบี่นิรันดร์ออกไปสังหารบรรพชนเฉียนโดยร่างเงานั้นได้ซ่อนอยู่ในเงาของบรรพชนเฉียนตั้งแต่ที่เขาออกไปจากคฤหาสน์จงแล้ว.
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถที่จะเปลี่ยนสิ่งของที่ใหญ่กว่าร่างเข้ามาซ่อนเอาไว้ในร่างเงาได้ อย่างไรก็ตามเวลานี้ด้วยการมีกำไลเก็บของทำให้ร่างเงาของเขาสามารถที่เก็บของที่ใหญ่กว่าร่างได้และย่อเงาลงจนมีขนาดห้าชุนได้อีกครั้ง.
คืนนั้น จงซานเดินเข้าไปยังห้องลับซึ่งที่นั่นมีอันหวงที่นั่งขัดสมาธิอยู่ เขาที่ได้รับบาดเจ็บมีธนูสองลูกที่โจมตีเขา ทว่าก็ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก จำเป็นต้องฟื้นฟูและรักษาแผลของตัวเอง.
"จู่เหริน."อันหวงที่จะลุกขึ้นทันทีเพื่อทักทายจงซาน.
"นั่งลง ขอบใจที่เจ้าช่วยข้าในครั้งนี้."จงซานที่กล่าวต่ออันหวงที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่.
"ไม่เลย เป็นเกียรตินักที่ได้ทำงานเพื่อจู่เหริน."อันหวงตอบกลับออกมา.
จงซานไม่ได้ห้ามที่จะให้อันหวงเรียกเขาเช่นนั้นแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเขาตัดสินใจจะก่อตั้งประเทศขึ้นมา ในอนาคตเขาจะกลายเป็นกว๋อจวิน(เจ้ารัฐ) เขาก็ต้องยอมรับชื่อเรียกขานนี้โดยปริยาย.
"อืม ข้าต้องการให้เจ้าอยู่ในคฤหาสน์จงอีกสักพัก."จงซานกล่าว.
"หืม?"อันหวงที่รู้สึกประหลาดใจ.
"ข้ามีเรื่องที่ต้องไปทำ ที่นี่ไม่มีผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนอยู่ ข้าเกรงว่าจะมีผู้บุกรุกเข้ามาตอนข้าไม่อยู่."จงซานกล่าว.
"จู่เหรินไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าจะต้องปกป้องคฤหาสน์จงเอาไว้ให้ปลอดภัยที่สุด."อันหวงพยักหน้า.
"อืม นี่คือมุกคงหลิงสองลูก หยิงหลานเองก็ต้องการพวกมัน ทว่าข้าไม่ต้องการให้นางในตอนนี้ เจ้านำมันไปใช้เป็นที่เก็บของและอาวุธวิเศษ."จงซานกล่าว.
อันหวงที่ขมวดคิ้วไปมา ภายในดวงตาของเขาค่อนข้างคาดหวังอยู่เหมือนกัน ทว่าได้ยินเช่นนั้นก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า"คงจะดีกว่าถ้าให้ท่านหญิงหยิงหลาน ข้าเองยังไม่จำเป็นต้องใช้ในตอนนี้ หลังจากนี้ค่อยหามาใหม่ก็ยังได้."
"ไร้สาระ ข้าบอกว่ามันเป็นของเจ้า ดังนั้นมันก็เป็นของเจ้า."จงซานที่วางมุกคงหลิงสองลูกใส่ไปในมือของอันหวง.
เห็นมุกคงหลิงในมือ อันหวงที่เงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะพยักหน้ารับ"ขอรับ."
จงซานพยักหน้า จากนั้นก็นำศิลามิติอีกครึ่งที่เหลือมามอบให้อันหวง "ข้าจะบอกวิธีใช้มุกคงหลิง เจ้าอยู่ที่นี่รักษาบาดแผลให้หาย พวกเราจะเดินทางพรุ่งนี้ ข้าคงไม่ได้มาลาเจ้าอีก."
"ครับ."อันหวงที่หยิบศิลามิติและพยักหน้า.
จงซานที่พยักหน้าและจากไป.
ไม่เพียงแต่จงซานที่เดินทางไปยังภูเขาป้าเหมิน ร่างเงาของเขาก็ต้องนำไปด้วย เนื่องจากจงซานอาจต้องเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนที่ทรงพลังที่เกินกว่าที่เขาจะคาดการณ์ได้.
เช้าวันถัดมา จงซานที่ได้เรียกสองสาวมา.
"นี่คือรองเท้าขับวายุที่หลิงเอ๋อให้ข้ามา ข้าในเวลานี้มีพลังฝึกตนที่ก้าวไปถึงระดับสูงแล้ว มีปราณแท้เพียงพอและเหนือกว่ารองเท้านี่ ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์กับข้าแล้ว เจ้ามีพลังฝึกตนต่ำที่สุดในระหว่างพวกเรา ใส่นี่ไปจะช่วยให้เดินทางไปยังภูเขาป้าเหมินได้ง่ายขึ้น."จงซานที่ยื่นรองเท้าให้กับหยิงหลาน.
เทียนหลิงเอ๋อที่รู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากที่เห็นจงซานมอบรองเท้าที่นางให้เขาไปให้หยิงหลาน.
จงซานที่สังเกตเห็นว่าเทียนหลิงเอ๋อนั้นอารมณ์ไม่ดีมาสองวันแล้ว เขาตระหนักได้ว่าหญิงสาวทั้งสองคงจะขุ่นข้องหมองใจกันบางอย่าง ครั้งล่าสุดที่เทียนหลิงเอ๋อควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ทำให้นางตกไปอยู่ในกับดักของจงตี้และทำให้พวกเขาหล่นลงไปในหุบเขา การเดินทางครั้งนี้มีอันตรายอย่างยวดยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พวกเขาสามคนต้องเดินทางร่วมกัน เทียนหลิงเอ๋อเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ตราบเท่าที่หยิงหลานสามารถถอยออกมาสักก้าวความสัมพันธ์ทั้งคู่น่าจะดีขึ้น ดังนั้น จงซานจึงได้พูดคุยกับหยิงหลานก่อนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว.
หยิงหลานเป็นคนที่รู้จักกาลเทศ แม้ว่านางจะไม่ยินดี ทว่านางก็สัญญา ตราบเท่าที่จงซานกล่าวนางย่อมต้องเชื่อฟัง.
"ขอบคุณพี่สาวหลิงเอ๋อ."หยิงหลานที่กล่าวต่อเทียนหลิงเอ๋อ.
เทียนหลิงเอ๋อถึงกับตื่นตะลึงไปเหมือนกัน นางคาดไม่ถึงเลยว่าหยิงหลานจะเรียกนางว่าพี่สาว นี่เป็นครั้งแรกที่มีใครเรียกนางว่าพี่สาว เทียนหลิงเอ๋อนั้นไม่ใช่คนที่เจ้าคิดเจ้าแค้น ถึงแม้ว่านางจะโกรธใครก็เพียงแค่ไม่นาน ความขุ่นข้องใจของนางเหมือนว่ามันจะหายไปในทันที.
"อืม ๆ ไม่เป็นไร."เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.
จงซานที่ได้ให้หยิงหลานพูดยกยอนางโดยใช้คำว่าพี่สาว ซึ่งง่ายที่จะสามารถขจัดความข้องใจของทั้งสองสาวได้ หยิงหลานเองก็เผยยิ้มอย่างเฉิดฉายบนใบหน้าของนางเช่นกัน.
หยิงหลานที่เรียกจงซานว่ากู่เหยี่ยเยี่ย และเรียกเทียนหลิงเอ๋อว่าพี่สาว จงซานที่เป็นเหมือนกับสหายของเทียนหลิงเอ๋อ นางย่อมคิดว่าความสัมพันธ์ของนางนั้นเหนือกว่าเป็นธรรมดา.