Chapter 59 ไม่มีใครรอด.
*** วิชาดาบสวรรค์กายเทพสุริยัน.
กระบวนท่า ทลายภูเขาสวรรค์! ==>ฟันตรงลงมาจากบนด้านล่าง
กระบวนท่า ฟันทลายสรรพสิ่ง! ==>เหวี่ยงฟันจากด้านข้าง
ใบหน้าของบรรพชนเฉียนที่กลายเป็นสีม่วงยิ่งขึ้นกว่าเดิม และพิษได้กระจายไปทั่วร่างของเขาแล้ว เขาที่ต้องใช้ปราณแท้เพื่อยับยั้งพิษไว้ ทว่าก็ทำได้แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เขาพร้อมจะล้มได้ทุกเมื่อหากไม่รีบขจัดพิษออกจากร่างกาย พลังของเขาเวลานี้ก็ลดลงเรื่อย ๆ แม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับสูงสุดของระดับเซียนเทียน ทว่าเมื่อไม่สามารถโคจรแกนแท้ได้อย่างต่อเนื่อง ก็ยากที่จะทำอะไรจงซานได้.
จงซาน ถึงแม้ว่าจะเพิ่มพลังเป็นสองเท่าด้วยทักษะกายาเทพอสูร ก็ยังไม่สามารถจัดการบรรพชนเฉียน.
"ซี ๆ ๆ "
บรรพชนเฉียนที่ตัดเสื้อผ้าของจงซานออก จงซานถึงกับดวงตาเบิกกว้าง พวกเขาต่อสู้มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ไม่สามารถที่จะปล่อยเวลาให้นานกว่านี้ได้อีกแล้ว.
วิชากายาเทพอสูรระดับสอง.
พลังจงซานเพิ่มเป็นสามเท่า จงซานใช้ดาบยักษ์ฟันออกไป.
กระบวนท่า ฟันทลายสรรพสิ่ง!
พลังที่เปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร หนักหน่วงพุ่งออกไป.
"ตูมมมมมมมมม!"
พลังเหวี่ยงที่ทรงพลังกระแทกบรรพชนเฉียน กระเด็นออกไปด้านหลัง เส้นผมที่ร่วงหล่นเนื่องจากพลาดจากศีรษะของเขาเพียงนิดเดียว.
บรรพชนเฉียนที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ ทำไมจงซานถึงสามารถเพิ่มพลังได้ในพริบตาอย่างงั้นรึ?เป็นไปไม่ได้?ทำไมเขาถึงได้มีพลังเช่นนี้?ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งก้าวผ่านระดับเซียนเทียนเมื่อปีที่แล้วหรอกรึ? ประมุขเฉียนได้กล่าวเอาไว้ว่าพรสวรรค์ของจงซานนั้นต่ำเตี้ย พัฒนาการช้ายิ่งกว่าคนอื่น นี่เรียกว่าช้าอย่างงั้นรึ?
"ย๊าก ๆ ๆ ๆ "
กระบวนท่า ทลายภูเขาสวรรค์!
ดาบยักษ์ที่ตวัดฟันจากบนลงล่าง บรรพชนเฉียนที่ใช้กระบี่ของเขาขวางเอาไว้ อย่างไรก็ตามพลังทำลายนั้นเกินกว่าที่เขาคาดการณ์มาก.
พลังทำลายที่กระแทกให้บรรพชนเฉียนถึงกับต้องคุกเข่า ใบหน้าที่กลายเป็นสีม่วงเข็มขึ้นยิ่งกว่าเดิม.
กระบวนท่า ฟันทลายสรรพสิ่ง!
"ซี่ ๆ ๆ ๆ "
"อ๊าก ๆ ๆ ๆ ."
บรรพชนเฉียนร้องโอดโอย โลหิตพุ่งกระฉูด แขนซ้ายที่ขาดออกด้วยดาบของจงซาน.
"ตูมมมมมม"
จงซานกระแทกกระบี่บรรพชนเฉียนลอยออกไปอย่างแรง.
การต่อสู้ได้ปิดฉากแล้ว.
จงซานยกดาบขึ้น เตรียมปลิดชีวิตของบรรพชนเฉียน.
"ช้าก่อน รอก่อน!"บรรพชนเฉียนที่ร้องออกมาด้วยความกลัว ความตายได้มาเยือนเข้าแล้ว เขาเวลานี้ได้อยู่ปากเหวแห่งความตายแล้ว.
ตาย? เขากำลังจะตาย? บรรพชนเฉียนยิ่งมีอายุมาก ก็ยิ่งหวาดกลัวความตาย ชีวิตที่แขวนบนเส้นด้ายกำลังจะขาดแล้ว จงซานไม่คิดจะฟังเขาเลยอย่างงั้นรึ?
"วิ้ง ๆ ๆ ๆ !"
ชั่วระยะเวลาสุดท้าย จงซานที่ยั้งดาบฝันร้ายอยู่ด้านหน้าของบรรพชนเฉียน.
เขาจ้องมองไปยังบรรพชนเฉียน ชายที่ได้ก้าวไปถึงจุดสูงสุดของระดับเซียนเทียน เขาถูกพิษ เสียแขนและไร้ซึ่งอาวุธ.
จงซานไม่ได้สังหารเขาในทันที เขาชำเลืองมองไปยังบรรพชนเฉียนที่ไร้การป้องกัน สำหรับจงซานแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นอุจาระมันก็ยังมีประโยชน์.
"อย่าสังหารข้า ได้โปรดอย่าสังหารข้า."บรรพชนเฉียนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่สั่นเทา.
"เจ้าคงไม่พยายามที่จะเกลี้ยกล่อมข้าเพราะว่าเจ้าเป็นบรรพชนหรอกนะ ในเมื่อเจ้าเลือกที่จะเป็นศัตรูของข้า เช่นนั้นเจ้ามีแต่ต้องตายเท่านั้น มีสิ่งใดที่จะกล่าวเป็นคำสุดท้ายอย่างงั้นรึ?"จงซานชำเลืองมองไปยังเขา.
บรรพชนเฉียนที่รู้สึกเบาใจที่จงซานยั้งดาบไว้ จงซานไม่สังหารเขา เช่นนั้นคงจะพอต่อรองได้.
"ข้ามีมุกคงหลิง ข้าขอใช้มุกคงหลิงแลกกับชีวิตข้า."บรรพชนเฉียนกล่าวออกมาทันที.
"โอ้ว?"จงซานที่เพ่งพิศไปยังบรรพชนเฉียน.
"ซี่ ๆ ๆ "
ที่ไกลออกไปนั้น ทวนของจ้าวโส่วเซี่ยงทะลวงไปยังอกด้านขวาของจ้าวตานเฉิน ทะลวงเข้าปอดของเขา จ้าวตานเฉินก็พ่ายแพ้ไปในทันที.
"พรึด ๆ ๆ ๆ "
จ้าวโส่วเซียงที่ดึงทวนของเขาออกมา พร้อมกับเล็งไปยังคอหอยของเจ้าตานเฉิน.
"อย่าสังหารข้า ได้โปรดอย่าสังหารข้า."
จ้าวตานเฉินที่หวีดร้องด้วยความหวาดกลัว เขาไม่คาดคิดเลยว่าเพลงทวนของจ้าวโส่วเซียงนั้นจะร้ายกาจขนาดนั้น เขาไม่สามารถต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย.
"ครืนนนนนน"
อีกฟากหนึ่งของสวน เกิดเสียงดังสนั่น คลื่นความร้อนที่รุนแรงที่พัดผ่านออกไปรอบ ๆ ทุกคนที่จ้องมองออกไปก็เห็นเทียนหลิงเอ๋อที่ใช้หยกอักขระ เผาทุกอย่าง กระแทกไปยังบรรพชนตระกูลหลีที่ดำเกรียมไปทั่วร่างทว่าเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ เทียนหลิงเอ๋อที่ใช้ผ้าแพรไหมสีแดงพันร่างบรรพชนหลีเอาไว้ รัดแน่นจนเขาไม่สามารถขยับร่างได้เลย.
"ฮึ."เทียนหลิงเอ๋อแค่นเสียง แสดงท่าทางดีใจ.
ผู้บุกรุกทั้งสามพ่ายแพ้และถูกจับเอาไว้.
"ข้ามีมุกคงหลิง ข้าขอแลกกับชีวิตของข้า."บรรพชนเฉียนที่กล่าวย้ำอีกครั้ง.
จงซานจะยอมรับอย่างงั้นรึ? แม้แต่เจ้าตานเฉินและบรรพชนหลีเองก็ไม่อยากเชื่อเช่นกัน ที่เขาจะยอมรับ.
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ประหลาดมาก จงซานพยักหน้า.
บรรพชนหลีและเจ้าตานเฉินจ้องมองดูอย่างเย็นชา พวกเขาคาดการณ์ว่าจงซานได้มุกคงหลิงแล้ว เขาจะต้องกลับมาสังหารบรรพชนเฉียนอย่างแน่นอน.
เพียงแค่สะบัดมือหนึ่งครั้ง บรรพชนเฉียนก็นำมุกคงหลิงออกมา ก่อนที่จะโยนไปยังจงซาน สำหรับบรรพชนเฉียนแล้ว นี่คือโอกาสที่เหลืออยู่.
เป็นเรื่องที่เกินกว่าจะเข้าใจได้ คนอื่น ๆ ที่กำลังจงมอง จงซานที่รับมุกคงหลิงและชักดาบกลับมา พร้อมทั้งถอยออกมาด้วย.
สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก จงซานปล่อยบรรพชนเฉียนไปอย่างงั้นรึ?แม้แต่บรรพชนเฉียนเองก็ไม่อยากเชื่อเช่นกัน เขาที่เข้าไปเก็บแขนที่ขาดออกบนพื้น ชำเลืองมองจงซานอีกครั้ง ก่อนที่จะกระโดดขึ้นหลังคา เขาจ้องมองลงมาด้านล่างอีกครั้งราวกับไม่อยากเชื่อว่าจะถูกปล่อยตัวไป เขาจ้องมองไปยังจงซาน มีสายตาที่โกรธเกลียดมากมาย จากนั้นก็หันหน้ากลับและวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว.
บรรพชนตระกูลหลีที่ตะโกนออกไปทันทีหลังจากที่เขาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.
"ข้ามีมุกคงหลงด้วยเหมือนกัน ข้าขอแลกกับชีวิตของข้า."บรรพชนหลีตะโกน.
ท่าทางไม่แยแสก่อนหน้านี้ดูราวกับว่ามีความหวัง เมื่อเห็นบรรพชนเฉียนถูกปล่อยตัว เขาเองก็ต้องการจะแลกกับอิสระเช่นกัน.
"หลิงเอ๋อ."จงซานที่กล่าวกับนาง.
"อืม."เทียนหลิงเอ๋อที่คลายผ้าแพรแดงของนางออกไป.
บรรพชนหลีที่นำมุกคงหลิงออกมาก่อนที่จะเร่งรีบโยนมันออกไปให้จงซาน เขากระโดดขึ้นหลังคา ร่างกายของเขาที่ได้บาดเจ็บไม่น้อยและเร่งรีบวิ่งหนีเพื่ออกจากคฤหาสน์จงให้เร็วที่สุด.
หลังจากที่ได้มุกคงหลิงมาสองอันแล้ว จงซานที่หันมายังจ้าวตานเฉินที่ยังคงเหลืออยู่.
จ้าวโส่วเซียงจ้องมองมายังจงซานด้วยความสงสัย ทำไมจงซานปล่อยศัตรูไปเพียงแค่มุกคงหลิงอย่างงั้นรึ?นี่ไม่เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่าหรอกรึ?
"ข้ามีมุกคงหลิงด้วย ปล่อยข้าไป."เห็นสองคนที่เป็นอิสระ จ้าวตานเฉินก็กระทำตามเช่นกัน.
ด้วยการสะบัดมือ จ้าวตานเฉินก็โยนมุกคงหลิงไปให้จงซาน ด้วยหวังว่าตัวเองจะปลอดภัย อย่างไรก็ตามทวนของจ้าวโส่วเซียงก็ยังชี้ไปที่คอของเขา.
"ข้าตกลงที่จะปล่อยเจ้า ทว่าเขาไม่."จงซานที่รับมุกคงหลิงลูกที่สามมาและเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.
จ้าวตานเฉินถึงกับผวา นี่เขาเร่งรีบมอบมุกคงหลิงออกไปอย่างงั้นรึ?
"ข้ายังมีสิ่งอื่น สมบัติวิเศษ ตราบเท่าที่เจ้าปล่อยข้า พวกมันเป็นของเจ้า "จ้าวตานเฉินที่ยังคงกล่าวออกมาพร้อมกับกุมหน้าอกตัวเองด้วยความเจ็บปวด.
"เจ้าสังหารอาสองของข้า ความแค้นในครั้งนี้ไม่สามารถนำสมบัติวิเศษใด ๆ มาแทนได้."จ้าวโส่วเซียงหรี่ตามอง แค่นเสียงอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดเจนว่าเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังจ้าวตานเฉินไม่สามารถที่จะยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ .
"ไม่ ไม่ ข้ายังมีข้อมูลสำคัญ มันเพียงพอที่จะแลกกับชีวิตของข้าได้."จ้าวตานเฉินที่กล่าวออมมาในทันที.
จ้าวโส่วเซียงเผยยิ้มอย่างเย็นชา."ข้อมูล? ก็ได้ ลองบอกมา ดูซิว่ามันจะล้ำค่าเพียงพอที่จะซื้อความเกลียดชังของข้าได้รึไม่?"
"ได้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ประมุขของเจ้าได้เดินทางออกมาจากสำนักทวนเหล็กใช่หรือไม่?"จ้าวตานเฉินกล่าวออกมาในทันที.
จ้าวโส่วเซียงที่ขมวดคิ้วไปมา เพ่งพิศไปยังจ้าวตานเฉิน ด้วยรังสีฆ่าฟันที่รุนแรง.
"ในวันข้างหน้านั้น หมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์ สำนักหมื่นอสูร และสำนักหุบเขาเทียนโหยว พวกเขากำลังจะร่วมมือกันบุกสำนักทวนเหล็กเพื่อที่จะปล้นเหมืองศิลาวิญญาณ."จ้าวตานเฉินกล่าวออกมาอย่างรีบเร่ง.
"หืม หมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์เป็นพันธมิตรกับพวกเรา ทำไมพวกเขาต้องร่วมมือกับฝั่งมารด้วย?"จ้าวโส่วเซียงที่จ้องมองด้วยความโกรธไปยังเขา.
"ทุก ๆ คนพูดของข้าเป็นความจริง ข้ามาจากสำนักหมื่นอสูรและนี่คือความลับที่อาจารย์ของข้าบอกข้ามา เขาบอกข้าว่าจะทำการบุกสำนักทวนเหล็กภายในยี่สิบวันนี้."จ้าวตานเฉินที่เร่งรีบโยนกระดาษคำสั่งสีทองไปให้กับจ้าวโส่วเซียง.
จ้าวโส่วเซียงที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก่อนที่จะนำกระดาษสีทองนั้นมาอ่านอย่างระเอียด เป็นความจริงเหมือนดังจ้าวตานเฉินกล่าว.
จ้าวโส่วเซียงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ว่าอย่างไร มันแลกกับชีวิตข้าได้หรือไม่?"จ้าวตานเฉินกล่าวออกมา.
จ้าวโส่วเซียงขมวดคิ้วไปมาก่อนที่จะชักทวนของเขากลับมา.
จ้าวตานเฉินลุกขึ้น จ้องมองไปยังจงซาน จ้าวโส่วเซียงและเทียนหลิงเอ๋ออีกครั้ง ตอนนี้เขาไม่รอช้า ขณะที่เขากระโดดขึ้นไปบนหลังค้านั้น.
"ฟิ้ว!"
เสียงแหลมเล็กที่ฉีกอากาศดังออกมาจากสวนที่ไกลออกไป.
ได้ยินเสียงดังกล่าวแล้ว แม้ว่าจะไม่ดังมากแต่ก็ทำให้ขนทั่วร่างของจ้าวตานเฉินลุกชันทั่วร่าง ราวกับว่าความตายกำลังมาเยือนเขาแล้ว.
"ปัง ปัง....."
หอกธนูสี่สิบคันที่พุ่งออกมา แปดคันที่ทะลวงมายังร่างจ้าวตานเฉิน.
แม้แต่บรรพชนตระกูลซุนขณะมีพลังเต็มเปี่ยมยังถูกปักติดกำแพง จ้าวตานเฉินเวลานี้ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย ไม่สามารถที่จะหลีกหนีจากชะตากรรมนี้ได้เลย.
"ปังงงงง!"
จ้าวตานเฉินถูกยิงปักกำแพงไปอีกคน.
ส่วนสองคนที่หนีไปก่อนหน้านี้ บรรพชนหลี ถูกเผาไปทั่วร่างด้วยหยกอักขระของเทียนหลิงเอ๋อ เพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้นกระบี่สีม่วงก็พุ่งมา เขาไม่สามารถสังเกตเห็นได้เลย ด้วยอาการบาดเจ็บหนักและกำลังดีใจจนประมาทที่ถูกปล่อยตัวมา.
กว่าจะตระหนักได้ แขนของเขาก็ถูกตัดขาดไปข้างหนึ่งแล้ว เขาที่หันหน้าจ้องมองเห็นชายในชุดดำ ถือกระบี่สีม่วง.
บรรพชนหลีนับว่าเป็นคนที่ร้ายกาจมาก เขาที่ได้รับบาดเจ็บทว่ายังสามารถรอดได้จากการลอบโจมตีของอันหวง ทว่าการโจมตีดังกล่าวนั้นได้ถูกดึงดูดจากป้อมปราการไม่ไกลจากคฤหาสน์จง.
ภายใต้การสั่งการจากใครบางคนที่คฤหาสน์จง เหล่าผู้คุ้มกันก็ยิงหน้าไม้ออกมาในทันที.
"ปัง ปัง ปัง....."
อันหวงที่ขวางเส้นทางการหลบหนีของบรรพชนหลี ทำให้เขากลายเป็นเป้าถูกยิงไปทั่วร่าง ตายไปในทันที.
อันหวงเองก็หายไปในความมืดทันทีเช่นกัน.
ส่วนอีกสถานที่หนึ่ง บรรพชนเฉียนที่วิ่งไปจนถึงกำแพงเมือง เขาที่หายใจหอบ ๆ อย่างเบาใจซึ่งเขาไม่ได้ตรวจสอบเลยว่ามีใครตามมาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังพักหายใจอยู่นั้น ชั่วระยะเวลานั้นกระบี่ยาวก็พุ่งตรงมา ซึ่งมันปรากฏออกมาจากเงาของเขา
"พรึด ๆ ๆ !"
กระบี่ที่น่าหวาดกลัวนั่นทะลวงเข้าไปยังหัวใจของบรรพชนเฉียน ก่อนที่เขาจะตาย เขาคิดแต่เพียงว่าเขาได้วิ่งเข้ามาพบเจอกับปิศาจตนหนึ่ง.
เงาสีดำที่ทะลวงร่างของบรรพชนเฉียน ก่อนที่จะฉกกำไลเก็บของและเคลื่อนที่หายไป ยังคฤหาสน์จงราวกับภูติผี.