Chapter 58 ความร้ายกาจของจงซาน
"พรึด ๆ ฮึบบบ คริ ๆ ๆ "
เทียนหลิงเอ๋อที่กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่กับคำพูดของจงซาน จ้าวโส่วเซียงไม่หัวเราะทว่าบนใบหน้าของเขาก็กระตุกไปมา อดกลั้นเอาไว้เช่นกัน.
บรรพชนทั้งสี่ เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ทว่ายังคงอดกลั้นเอาไว้ จ้องมองไปยังอีกสองคนที่อยู่ข้าง ๆ จงซาน.
พวกเขาไม่รู้จักผู้หญิงในชุดแดงนั่น ทว่าพวกเขารับรู้เพียงว่าจงซานพาหญิงสาวกลับมาด้วย นางเป็นภรรยาใหม่ของจงซานรึ? ก่อนที่ทุกคนจะจ้องมองไปยังคนอีกคน.
พวกเขาได้ยินว่าเมื่อตอนกลางวันนั้นมีแขกมา บางทีอาจจะเป็นคนที่จงซานขอให้มาช่วย ทว่าพวกเขาคาดไม่ถึงเลยว่าผู้มาช่วยในครั้งนี้กลับเป็นจ้าวโส่วเซียง?
ประมุขทั้งสี่ย่อมไม่รู้จักจ้าวโส่วเซียงของรัฐต้าซ่ง ทว่าบรรพชนทั้งสี่นั้นได้ยินกิตติศัพท์เขาดี บรรพชนตระกูลจ้าวรู้จักจ้าวโส่วเซียง เนื่องเจ้าเขามีสกุลจ้าวเหมือนกัน.
"จ้าวตานเฉิน คงจะได้พบกับเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วสินะ?"จ้าวโส่วเซียงที่ชี้ทวนไปยังด้านหน้า ชำเลืองมองจ้าวตานเฉินด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา.
"สำหนักทวนเหล็ก จ้าวโส่วเซียง?"บรรพชนตระกูลจ้าวที่ชำเลืองมองออกไปด้วยท่าทางตื่นตะลึง ความจริง จงซานไม่ใช่คนธรรมดาจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งเข้าสำนักเซียนเมื่อปีที่แล้วหรอกเหรอ ทว่ากลับมีสหายเช่นนี้ได้อย่างไร.
"เจ้ายังจำข้าได้อย่างงั้นรึ?ดีเช่นนั้น เจ้าสังหารอาสองไปในสนามรบเมื่อนานมาแล้ว วันนี้ข้าจะได้ล้างแค้นแทนอาของข้าซักที."จ้าวโส่วเซียงแค่นเสียงเย็นชา.
"จ้าวโส่วเซียง วันนี้พวกเราต้องการเพียงแค่ชีวิตของจงซาน ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเจ้า ไสหัวกับไปซะ แล้วพวกเราจะปล่อยเจ้าไป."จ้าวตานเฉินที่กล่าวออกมาอย่างเกรี้ยวโกรธ.
"ปล่อยเจ้าไป?ฮ่าอ่าฮ่า พวกเจ้านี้พูดอะไรให้ขำ เจ้าเข้ามาในเขตแดนของข้ามีสิทธิอันใดที่จะปล่อยใครไปอย่างงั้นรึ?"จงซานที่หัวเราะออกมาเสียงดังในทันที.
"บรรพชนจ้าว ไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรไร้สาระ สังหารจงซาน และรีบจากไปก็พอแล้ว."บรรพชนตระกูลเฉียนกล่าว.
"ได้."จ้าวตานเฉินตอบกลับ.
จงซานเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล มีประกายแสงที่ปรากฏขึ้นที่ในดวงตา เขารอคอยให้ศัตรูเป็นคนเริ่มโจมตีก่อน เพราะว่าทุกอย่างได้เตรียมการไว้หมดแล้ว.
เห็นท่าทางบนใบหน้าของจงซานแล้ว จ้าวตานเฉินที่ขมวดคิ้วไปมาและรู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งที่ผิดปรกติ ทว่านอกจากคนทั้งสามที่อยู่บนเจดีย์แล้ว เขาไม่เห็นคนอื่น ๆ เลย ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่ามีการซุ่มโจมตี อย่างไรก็ตามพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าฝั่งของจงซานมาก ตราบเท่าที่สามารถขวางจ้าวโส่วเซียงเอาไว้ได้ ก็ไม่ยากแล้วที่จะสังหารจงซาน.
"ลงมือ!"จ้าวตานเฉินที่ตะโกนเสียงดังพร้อมกับกระโดดตรงไปยังเจดีย์ที่พวกเขายืนอยู่.
พวกเขาที่กุมกระบี่ยาว กระโดดพุ่งขึ้นไปด้านบน แค่เพียงสองครั้งก็น่าจะไปถึงจงซานแล้ว.
แต่ถึงกระนั้น ในเวลานั้น ที่มุมปากของจงซานที่ยกขึ้นมาเผยความเจ้าเล่ห์ออกมา.
"ฟิ้ว!!!"
ทันใดนั้น เสียงแหลมเล็กฉีกอากาศจากระยะไกล หลายเสียงที่พุ่งมาจากลานบ้าน.
เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงดังกล่าวนั้น ทั้งแปดที่ลอยอยู่บนอากาศก็เกิดปัญหาแล้ว.
เป็นเสียงที่ดังสนั่นก้องไปทั่วบริเวณ
"พรึด ๆ ๆ "
เสียงของลูกศรที่พุ่งมาแต่ไกล ลูกศรรึ? นี่คือการซุ่มโจมตีรึ?
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าลูกศรดังกล่าวนั้นจะพุ่งมาไกล ข้ามผ่านลานบ้านหลายแห่ง จากต้นทาง พลังของมันควรที่จะอ่อนลงไม่น้อย แต่ถึงกระนั้น พลังที่เหลืออยู่ ก็สามารถที่จะสร้างความยุ่งยากให้กับประมุขทั้งสี่ เว้นแต่เหล่าบรรพชนเท่านั้น ที่ไม่ส่งผลต่อพวกเขา.
ทว่า การที่พวกเขากำลังลอยอยู่บนอากาศนั้น มีสิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องหวาดผวาไปด้วย ในห่าธนูนั้นมีบางลูกที่ดูไม่ธรรมดาทำให้พวกเขารู้สึกไม่ค่อยดีนัก.
ในหมู่ลูกศรเหล่านี้ มีบางส่วนที่ไม่ใช่ลูกศรธรรมดาแน่นอน มันถูกปล่อยจากหน้าไม้ขนาดใหญ่ เป็นลูกศรทำลายป้อม หน้าไม้แปดแรงวัว.
ที่เรียกว่าหน้าไม้แปดแรงวัวนั้นเพราะว่าต้องใช้วัวแปดตัวในการง้างหน้าไม้ หรือใช้คนสามสิบคนนั่นเอง อาวุธดังกล่าวนี้ใช้ในการทะลวงป้อมและทำลายประตูเมือง นับว่าเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่ใช้ในการเจาะกำแพงเพื่อตีเมือง
ลูกธนูเหล่านี้ถูกพุ่งมาจากลานบ้านหลาย ๆ แห่ง ดูเหมือนว่าพลังของมันนั้นแทบจะไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย.
สี่สิบหอกยักษ์ที่พุ่งมาเหมือนกับลูกธนูพุ่งตรงมายังผู้บุกรุกทั้งแปด.
หากว่าพวกเขายืนอยู่บนพื้น พวกเขาอาจสามารถที่จะหลบการโจมตีนี้ได้แน่ ทว่าตอนนี้ลอยอยู่บนอากาศ โอกาสจะหลบได้นั้นมีอยู่น้อยมาก.
"ตูมมมม ตูมมมมม!........"
หลังจากเสียงดังสนั่นผ่านไปไม่กี่ครั้ง โลหิตก็อาบไปทั่วท้องฟ้า เป็นภาพที่สยดสยองเป็นอย่างมาก ประมุขหลีที่ลอยอยู่บนอากาศ หัวของเขาถูกหอกธนูกระแทกเข้าศีรษะ ระเบิดออกมาต่อหน้า ไม่ต่างจากผลไม้สุกที่ถูกทะลวง.
ประมุขของตระกูลใหญ่ทั้งสี่ สามคนตายในทันที เหลือเพียงประมุขตระกูลซุนที่สามารถหลบเลี่ยงรอดไปได้ หอกยักที่ทะลวงเข้าไปยังอกของประมุขตระกูลจ้าวและตระกูลเฉียน พวกเขาไม่คาดเลยแม้แต่น้อยว่าจะต้องมาตายด้วยน้ำมือของจงซาน.
บรรพชนทั้งสี่นั้นรวดเร็วมาก ทว่ามีเพียงแค่สามคนที่สามารถหลบหอกธนูได้ มีบรรพชนตระกูลซุนโชคไม่ดีนัก เขาที่ป้องกันหอกธนูเอาไว้ด้วยกระบี่ได้สองเล่ม ส่วนเล่มที่สามนั้น ปักเขาติดกับผนัง อาการร่อแร่ ก่อนที่เขาตายไปในที่สุด.
จ้าวตานเฉินและบรรพชนอีกสองคนแม้ว่าจะหลบได้อย่างรวดเร็วและใช้ปราณแท้สร้างโล่ป้องกันร่างกายเอาไว้ ทำให้หวิดรอดจากหอกธนูปักเอาไว้ได้ ทว่าบรรพชนตระกูลเฉียน โชคไม่ดีเหมือนกัน มีรอยข่วนขนาดใหญ่ โลหิตไหลซึมออกมาจากแขนซ้ายเป็นระยะ ๆ .
พวกเขาตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เหล่าผู้รอดชีวิตที่เหินลงบนพื้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยือบหลั่งไปทั่วใบหน้า.
จงซาน จ้าวโส่วเซียง เทียนหลิงเอ๋อที่กระโดดลงมาจากเจดีย์ยักษ์ ขวางทางไม่ให้พวกเขาหนีไปในทันที.
"เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้อย่างไรที่มีหน้าไม้แปดแรงวัว เป็นไปได้อย่างไร? สี่สิบคันเลยรึ? หากว่ามีมากมายขนาดนั้น?เป็นไปได้อย่างไรที่ข้าไม่เคยได้ยิน."ประมุขตระกูลซุนที่ตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่บรรพชนตระกูลของเขายังถูกหอกปัก เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?
"ไม่เคยได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่นนั้นคงไม่สามารถปล่อยพวกเจ้ารอดไปแล้วสินะ ฮึ ๆ ข้าบอกพวกเจ้าแล้วว่าไม่สามารถมีชีวิตกลับไปจากที่นี่ได้."คำพูดของจงซานที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.
"เจ้าสังหารบรรพชนของพวกเรา เจ้าสังหารบรรพชนของข้า หากบรรพชนขั้นแกนทองรู้เข้า เจ้าจะต้องตายไร้ที่ฝัง"ประมุขตระกูลซุนที่ตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง.
จงซานจ้องมองไปยังประมุขตระกูลซุนและกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างนุ่มนวล "เป็นเจ้าที่เข้ามาในบ้านของข้าเอง คิดว่าข้าต้องให้ความเคารพกับพวกเจ้าด้วยรึไง ระดับแกนทองรึ?แล้วไง?หากว่ากล้ามาที่นี่ ข้าก็ไม่มีทางปล่อยให้พวกมันได้หายใจแน่."
สำหรับจงซาน ไม่ว่าอย่างไร เขาต้องสร้างประเทศขึ้นมา ศัตรูในวันข้างหน้ามีแต่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่มีความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ อาจจะมีถึงระดับก่อตั้งวิญญาณที่เขาต้องเผชิญในอนาคต เช่นนั้นเขาจำเป็นต้องหวาดกลัวเพียงแค่ระดับแกนทองด้วยอย่างงั้นรึ?
"มียาพิษอาบที่ลูกศร."บรรพชนตระกูลเฉียนร้องออกมาด้วยความหวาดผวา เขาที่ได้รับบาดแผลที่แขน พร้อมกับนำเม็ดยาออกมาพร้อมกับกลืนลงไปในทันที.
"บรรพชนเฉียน ท่านไม่เป็นไรนะ."ประมุขตระกูลซุนที่สอบถามออกไปด้วยความหวาดกลัว.
"ข้าไม่เป็นไร หากว่าได้บำเพ็ญพลังล่ะก็ ข้าก็สามารถขับพิษออกมาได้ เป็นพิษนี้รุนแรงมาก เพียงแค่เม็ดยาต้านพิษไม่สามารถที่จะขับมันออกมาได้."บรรพชนตระกูลเฉียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางหวั่นเกรง.
ประมุขตระกูลซุนที่เห็นใบหน้าของบรรพชนเฉียนที่ค่อย ๆ กลายเป็นสีม่วง เขาหันหน้าไปมองจงซานด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อและกล่าวออกมาว่า"จงซาน เจ้าชั่วร้ายนัก."
"ชั่วร้าย? เจ้าคิดว่าข้าต้องปราณีกับคนที่กำลังมาสังหารข้าด้วยรึ? หึ!"จงซานแค่นเสียงเบะปากให้.
"หนี!"จ้าวตานเฉินที่ร้องออกมา.
"เจ้าจะไปใหนกัน?"จ้าวโส่วเซียงที่ยกหอกและพุ่งเข้าไปขวางจ้าวตานเฉิน.
เทียนหลิงเอ๋อที่ปล่อยผ้าไหมแดงออกไป แม้ว่าจะยังไม่ฟื้นฟูโดยสมบูรณ์ ทว่าก็ทรงพลังพอที่จะขวางบรรพชนตระกูลหลี่.
จงซานยกดาบยักษ์ของเขาเข้าขวางบรรพชนตระกูลเฉียน.
ประมุขตระกูลซุน เขาหนีไปในทันที เขารับรู้ถึงความร้ายกาจของจงซานดี เขาที่ชำเลืองมองบรรพชนตระกูลซุนที่ยังคงถูกตรึงอยู่บนกำแพง เขาเร่งรีบหนีอย่างไร้ยางอาย จงซานน่ากลัวเกินไปแล้ว หากเขาไม่หนีตอนนี้ เขาไม่มีทางหนีแน่.
"โจมตี..............."
จงซานคำรามลั่น ดาบยักษ์ ฝันร้ายของเขา ที่ฟันไปยังบรรพชนเฉียน ร่างของจงซานที่ขยายใหญ่ขึ้นในทันที.
กายาเทพอสูรขั้นแรก!
ทลายภูเขาสวรรค์!
"ตูมมมมมมมมมมมม!"
ดาบของจงซานที่กระแทกลงไปยังกระบี่ยาวของบรรพชนตระกูลเฉียน.
เท้าทั้งสองข้างของบรรพชนเฉียน ราวกับว่าปราณแท้กำลังแผ่ออกมาเป็นระรอก เศษดินเศษหินแตกกระจายออกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยพลังโจมตี ร่างของบรรพชนเฉียนที่ได้รับพิษร้าย พลังของเขาลดลงเป็นอย่างมาก ทว่า การต่อสู้กับจงซานในระดับสี่เซียนเทียน เขายังคงสามารถป้องกันได้ ทว่านั่นคือระดับสี่เซียนเทียนจริง ๆรึ? หลังจากที่รับการโจมตีอย่างรุนแรงของจงซานได้แล้ว เขาก็เตรียมการหนีในทันที.
แน่นอนว่าจงซานไม่มีทางปล่อยเขาหนี ดาบฝันร้ายของเขาไล่ตามบรรพชนเฉียนไปไม่ห่าง.
อีกด้านหนึ่ง จ้าวโส่วเซียงที่ปล่อยเพลงทวนที่เห็นพุ่งออกมานับสิบ โจมตีไปยังจ้าวตานเฉิน เต็มไปด้วยความเร็วเป็นอย่างมาก แก่นแท้ที่ทรงพลังโคจรอย่างรวดเร็ว ประกายแสงการโจมตีของเพลิงทวนเห็นเป็นเพียงแค่เงา เข้าปะทะกับเพลงกระบี่ของจ้าวตานเฉินที่กวัดแกว่งกระบี่เข้าต้าน ประกายแสงทวนและกระบี่กระแทกกันไปมา จ้าวตานเฉินปล่อยปราณกระบี่ไปยังจ้าวโส่วเซียง ร่างกายของจ้าวโส่วเซียงที่พริ้วไหวหลบเหลี่ยงพร้อมกับ ปล่อยเพลงทวนทะลวงไปด้านหน้าไม่หยุดเช่นกัน.
ส่วนฝั่งของเทียนหลิงเอ๋อผ้าแพรสีแพงถึงแม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ แต่ก็ยังใช้เป็นอาวุธได้ จงซานไม่จำเป็นต้องห่วงความปลอดภัยของนางแน่นอนอีกทั้งนางยังมีของวิเศษที่ได้รับมาจากเทียนซวินจื่อไว้ค่อยช่วยต่อสู้ตั้งแต่ที่ออกมาจากสำนัก ตลอดจน นางได้ก้าวไปถึงระดับสูงสุดของขั้นเซียนเทียนแล้ว.
ประมุขตระกูลซุนที่วิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว เขาที่คิดว่าเป็นงานง่ายมากที่จะสังหารจงซานด้วยผู้ฝึกตนเซียนเทียนถึงแปดคน ถึงแม้ว่าจะสังหารหวงตี้ยังง่ายมากสำหรับพวกเขา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ผิดพลาดได้อย่างไร? ประมุขตระกูลซุนที่รู้อยู่แล้วว่าจงซานนั้นน่าหวั่นเกรงมาตั้งแต่ก่อนหน้าแล้ว ทว่าตอนนี้เขาก็ยังพบว่าเขาได้ประเมินจงซานต่ำไปเหมือนเดิม.
จงซานได้เตรียมการเอาไว้แล้ว เขาที่วางกับดักไว้รอพวกเขา ประมุขตระกูลซุนเวลานี้กำลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตเพื่อหลบไปจากคฤหาสน์จง รู้สึกสับสนเช่นกันว่าไม่มีใครไล่ตามเขามา? ก่อนหน้านี้จงซานเพียงแค่คุยโวอย่างงั้นรึ?"
"สว๊วฟฟฟฟ"
ในขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้น เสียงฉีกอากาศ กระบี่สีม่วงที่ทะลวงเข้ามาหน้าอกด้านหลังของเขา.
ดวงตาที่เบิกกว้างไม่อยากเชื่อ มีใครบางคนกำลังซุ่มโจมตีอยู่แล้วอย่างงั้นรึ?และก่อนที่เขาจะรู้ตัว หัวใจของเขาก็ถูกทะลวงไปซะแล้ว.
จงซานได้วางแผนทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว จงซาน เจ้าเป็นคนที่น่าหวาดกลัวนัก!
ก่อนที่เขาจะล้มลง ประมุขตระกูลซุนที่จ้องมองตามกระบี่สีม่วงที่ทะลวงหน้าอกของเขาเข้ามา."อันเย่ตัง อันหวงรึ?"