Chapter 53 ปกป้องบ้านเกิด.
"ศิษย์พี่ใหญ่ ทำไมกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะ?"
จงซานที่ได้ยินเทียนหลิงเอ๋อกล่าวขณะที่เขาเดินออกไปยังนอกห้องโถง.
ที่ด้านนอกห้องโถงนั้น มีเทียนชาที่ยืนอยู่ด้านหน้าเทียนหลิงเอ๋อพร้อม ๆ กับคนอีกแปดคน รวมทั้งหยุนเฉียนด้วย.
เทียนชาที่จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือที่กำลังเดินออกมาพร้อมกับจงซาน.
"เห่าซานตายแล้วพวกเราเลยกลับมา "หนึ่งในศิษย์กล่าวออกมา.
"เห่าซานตายแล้ว?"เป่ยชิงซือสอบถามออกไปขณะที่นางเดินออกมา.
"เขาตายแล้ว เขาสิ้นอายุขัยไปเมื่อตะวันตกดิน ที่เชิงเขาแห่งหนึ่ง."เทียนชาเอ่ยปากกล่าวออกมาตอบเป่ยชิงซือ.
เป่ยชิงซือขมวดคิ้วเล็กน้อยที่เห็นท่าทางใบหน้าของเทียนชา.
"เช่นนั้นร่างของเห่าซานเป็นอย่างไรรึ?ไม่ใช่ว่าบิดาของข้าบอกว่าใครที่นำร่างของเขากลับสำนักจะได้เม็ดยาระดับสี่หรอกรึ?"เทียนหลิงเอ๋อกล่าวถามออกมาทันที.
"เม็ดยาระดับสี่อย่างงั้นรึ?ร่างของเห่าซานมีค่ามากกว่านั้น ในเวลานั้น มีคนห้าคนที่อยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณ."ศิษย์คนหนึ่งที่ด้านหลังกล่าว.
"ระดับก่อตั้งวิญญาณรึ?"เทียนหลิงเอ๋อถึงกับดวงตาเบิกกว้าง มีคนระดับก่อตั้งวิญญาณไล่ล่าแย่งชิงต้องการศพของระดับเซียนเทียนอย่างงั้นรึ?
ในเวลาเดียวกัน มีเพียงจงซานที่รู้ว่าร่างของเห่าซานนั้นมีมูลค่าขนาดใหน เขาที่บำเพ็ญวาสนาด้วยคัมภีร์"แปลนศาลสวรรค์".
"ชิงซือ ท่านอาจารย์ได้ให้ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้าเดินทางไปยังภูเขาป้าเหมิน พวกเราไปกันตอนนี้เลย."เทียนชาที่กล่าวออกมาในทันที.
"ไม่จำเป็น ข้าสามารถเดินทางไปด้วยตัวเองได้ และภูเขาป้าเหมินเองก็ไม่ได้มีอันตรายขนาดนั้น."เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาหลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่.
เทียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา ทว่าเขาก็ยังคงกล่าวอย่างมั่นคง"ท่านอาจารย์นั้นต้องมีเหตุผลของเขาให้ข้าไปกับเจ้า ยังไงพวกเราก็ต้องเดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าวอยู่แล้ว ทางทีดีพวกเราควรที่จะดูแลกันและกันระหว่างเดินทาง."
เป่ยชิงซือที่คิดอยู่ชั่วขณะจากนั้นก็หันหน้าไปมองจงซาน ในสายตาของนางนั้นมีท่าทางกระอักกระอ่วนใจอยู่ ทว่าท้ายที่สุดนางก็พยักหน้า.
ท่าทางที่เปลี่ยนไปของเป่ยชิงซือนั้นเทียนชาสามารถเห็นได้ชัดเจน ทำไมเขาจะต้องหันหน้าไปมองคนผู้นี้ด้วยล่ะ?เทียนชาที่เต็มไปด้วยความสงสัยจ้องมองไปยังจงซาน ศิษย์ใหม่ของสำนักไคหยาง ทำไมเป่ยชิงซือต้องมองไปที่เขาด้วย? ประกายแสงที่เย็นชาลุกโชนซ่อนอยู่ในดวงตาของเขา ก่อนที่เขาจะพยักหน้าให้กับเป่ยชิงซือ.
อย่างไรก็ตามความเย็นชาที่เข้มข้นที่แผ่ออกมานั้น จงซานสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ทว่าใบหน้าของจงซานยังคงสุขุม เขาไม่รู้เลยว่าเทียนชาผู้นี้ภายใต้ใบหน้านั้นมีอะไรที่คลุมเครือซ่อนเอาไว้อยู่.
"ศิษย์พี่ใหญ่."เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยังเทียนชา ต้องการที่จะกล่าวอะไรออกมา.
ในเวลาเดียวกันนั้น เทียนหลิงเอ๋อเองไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หากเป็นเมื่อก่อน แน่นอนว่านางคงต้องคาดหวังที่จะเดินทางไปกับเทียนชาไปยังภูเขาป้าเหมิน เพียงแค่นางเอ่ยออกไปจงซานในครั้งนี้คงจะไม่ห้ามนางแล้ว ทว่านางก็ยังคงลังเล ชำเลืองมองไปยังจงซาน ราวกับว่ากำลังจะถามเขาว่าจะขอให้นางอยู่รึเปล่า ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน นางก็คาดหวังว่าจงซานจะห้ามไม่ให้นางไป.
"หลิงเอ๋อ เจ้าก็ไปกับพวกเราเลยไหม?"หยุนเฉียนที่กล่าวออกมาพร้อมกับร้อยยิ้ม.
ทั้งเทียนหลิงเอ๋อและเทียนชาขมวดคิ้วไปมาพร้อม ๆ กัน.
เทียนชานั้นไม่ต้องการให้นางไปด้วยแน่ เขาไม่ต้องการให้เป่ยชิงซือเห็นท่าทางหลิงเอ่อที่ชื่นชมเขาแต่อย่างใด ส่วนเทียนหลิงเอ๋อนั้น นางที่จ้องมองไปยังจงซาน จากนั้นก็พยักหน้าตอบรับ.
จงซานไม่ห้ามนางอย่างงั้นรึ? เขายังคงนิ่งงัน ทว่าใดนั้นดวงตาของเขาที่หรี่ลงก่อนที่จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว.
"หลิงเอ๋อ เจ้าอยู่ที่นี่ช่วยอะไรข้าบางอย่างได้หรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางสงสัย.
ทุก ๆ คนที่จ้องมองไปยังจงซาน เขากำลังจะใช้ขนมกุ้ยฮวาชักจูงนางให้อยู่อีกรึ?
เทียนชา นับเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นดีเห็นงามกลับจงซาน หลังจากที่ได้ยินแล้วเขาก็กล่าวสนับสนุนทันที "อืม หลิงเอ๋อ เจ้าก็อยู่ช่วยเหลือจงซานไปก็แล้วกัน."
เป่ยชิงซือจ้องมองจงซานด้วยความสงสัย.
"เป็นเรื่องสำคัญอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อสอบถาม.
"อืม เป็นเรื่องที่ข้าไม่สามารถจัดการได้หากว่าไม่มีเจ้าช่วย."จงซานพยักหน้าและกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
นางที่ชำเลืองมองจงซาน ก่อนที่จะพยักหน้า."ตกลง."
ก่อนหน้าที่นางจะพบกับจงซาน นางไม่เคยพลาดโอกาสใหญ่ที่จะอยู่ใกล้กับเทียนชาแม้ว่าจะถูกบิดาของนางดุเอาก็ตาม อย่างไรก็ตามในตอนนี้ นางกับยินดีที่จะอยู่ ราวกับว่านางไม่ได้สนใจเทียนชามากมายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทั้งจงซานและเทียนชาต่างก็ขอให้นางอยู่ นางจึงตกลง.
อีกด้านหนึ่ง เทียนชากลับแสดงท่าทางสงสัยที่เห็นเทียนหลิงเอ๋อ ยอมรับอย่างง่าย ๆ เขาที่ขมวดคิ้วไปมา ราวกับว่าได้สูญเสียบางอย่างไป เขาจ้องมองไปยังจงซาน ทว่าก็ไม่สามารถอธิบายเรื่องทั้งหมดได้.
แม้ว่าเทียนชาจะสงสัย ทว่าเขาก็จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือและกล่าวว่า "เช่นนั้น พวกเราไปกันเถอะ."
"อืม."เป่ยชิงซือพยักหน้า จากนั้นนางก็กล่าวลาเทียนหลิงเอ๋อและจงซานก่อนที่จะเหินไปกับคนอื่น ๆ .
เทียนหลิงเอ๋อรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่เห็นเทียนชาบินจากไป ทว่าก็ไม่ได้มากมายนัก นางที่หันหน้ามามองจงซานและกล่าวว่า.
"จงซาน มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามออกมา.
จงซานที่มีท่าทางสับสนเล็กน้อยทว่าก็ยังสุขุมอยู่ ท่าทางของเทียนหลิงเอ๋อตอนนี้ดูเหมือนจะแตกต่างจากเมื่อก่อน หากเป็นเหมือนครั้งก่อนนางคงจะโอดโอยโหยหวนไปแล้ว
"มีกลุ่มคนระดับสูงหลายคนที่กำลังจะมาโจมตีบ้านเก่าของข้า ข้าไม่สามารถล้มพวกเขาได้ เจ้าจะช่วยจัดการพวกเขาเพื่อข้าเมื่อพวกเขาเข้ามาโจมตีได้หรือไม่?"จงซานกล่าว.
"ไม่มีปัญหา หากว่ามีใครมาหาเรื่องเจ้าล่ะก็ ก็เหมือนกับมาหาเรื่องข้าด้วย ข้าจะจัดการพวกมันเอง."เทียนหลิงเอ๋อกล่าวอย่างมั่นใจ.
จงซานเผยยิ้ม."ดี เช่นนั้น พวกเราเดินทางตอนนี้เลย."
......
ขณะที่กลุ่มเทียนชาออกมานั้น อีกฟากหนึ่งที่คฤหาสน์จง เมืองเสวียน อาณาจักรต้าคุน.
ร่างแยกเงาของจงซานที่กำลังฝึกฝนอยู่ในห้อง ทันใดนั้นก็มีพิราบขาวที่บินตรงลงมาในช่องลับและมีกระดาษข้อความผูกที่ต้นขาของมัน.
ร่างเงาของเขาที่ขมวดคิ้วไปมา เมื่อได้ยินเสียงนกพิราบส่งสาร เขาที่เปิดประตูออกมาพร้อมกับหยิบสารลับที่ผูกอยู่กับขานกพิราบมา.
"บรรพชนของตระกูลจ้าว ตระกูลเฉียน และตระกูลซุน พวกเขาทั้งหมดกำลังจะเดินทางไปเมืองเสวียนแล้ว."
老祖宗 [lǎozǔzōng] บรรพบุรุษ บรรพชน
เขาสามารถบอกได้เลยว่า เรื่องไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้แล้ว ในเมื่อเมืองเสวียนนั้นอยู่ใกล้กับเมืองหลวง โดยปรกตินั้นเป็นเขตอิทธิพลของจงซาน ตระกูลราชวงศ์และตระกูลใหญ่ทั้งสี่นั้นไม่ได้มีอิทธิพลในเมืองแห่งนี้ ทว่าบรรพชนของทั้งสามตระกูลกลับปรากฏขึ้นในที่เดียวกันอย่างงั้นรึ? เป็นไปได้สูงว่าพวกเขาตอนนี้วางแผนที่จะต่อต้านตระกูลจงแล้ว.
ร่างแยกเงาที่แหงนหน้ามองฟ้า มีประกายสายตาที่เหยียดหยันแผ่ออกมา.
ซึ่งแน่นอนว่าร่างทั้งสองนั้นเชื่อมกันอยู่ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าจงซานร่างหลักได้ขอให้เทียนหลิงเอ๋ออยู่ช่วยเขา.
ในตอนเย็น สามวันหลังจากนั้น จงซานพร้อมกับดาบยักษ์ที่สะพายอยู่ด้านหลัง ก็เดินทางมาถึงประตูของคฤหาสน์จง.
เหล่าบ่าวรับใจต่างก็ตื่นตะลึงที่เห็นจงซาน พวกเขาจำได้ว่าเจ้านายอยู่ในเรือนพักไม่ใช่รึ? ทว่าทุกคนก็โค้งคำนับให้จงซาน และเขาก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์.
เทียนหลิงเอ๋อที่ตามจงซานมา นางที่เต็มไปด้วยความอยากรู้มากมาย ที่เห็นเหล่าคนใช้โค้งคำนับให้กับจงซาน.
หลังจากนั้น เทียนหลิงเอ๋อก็เห็นเจดีย์สูงใหญ่ตั้งตระหง่านที่มีความสูงถึงห้าชั้น.
"จงซาน สิ่งก่อสร้างที่สูง ๆ ตรงนั้นนะ? พาข้าไปดูหน่อย."เทียนหลิงเอ๋อถึงกับโพล่งออกมา.
"อืม."จงซานพยักหน้าและก็พานางเดินตรงไปยังเจดีย์ยักษ์.
เหล่าคนใช้ต่างก็ตะลึงงันที่ได้ยินหญิงสาวเรียกชื่อเจ้านายห้วน ๆ ทว่าก็ไม่มีใครกล้ากล่าวสิ่งใด.
จงซานที่โบกมือช้า ๆ ให้เหล่าบ่าวรับใช้ออกไป ขณะที่พวกเขาไปถึงเจดีย์ดังกล่าว.
เทียนหลิงเอ๋อที่ปืนขึ้นไปยังเจดีย์อย่างรวดเร็ว ในอีกมุมหนึ่ง ร่างแยกเงาของเขาที่เข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับรวมเข้ากับร่างต้น ร่างเงาและร่างต้น กลายเป็นหนึ่งเดียวกันในทันที.
จงซานที่เรียกพ่อบ้านที่อยู่ไม่ไกลออกไป "เตรียมที่พักเทียนเซียงให้พร้อม แขกพิเศษของเราจะพักอยู่ที่นี่."
"ขอรับ นายท่าน."พ่อบ้าน ที่อยู่ไม่ไกลตอบรับในทันที.
จากนั้นจงซานก็ตามเทียนหลิงเอ๋อไป นางที่ปีนขึ้นไปจนถึงยอดเจดีย์ซึ่งสามารถมองเห็นถนนและร้านค้าทั่วทั้งเมืองเสวียน เทียนหลิงเอ๋อค่อนข้างมีความสุขทีเดียว.
นางทีกล่าวต่อจงซานทันทีที่เขาเดินเข้ามา "จงซาน ศัตรูของเจ้าอยู่ใหนอย่างงั้นรึ?ข้าจะจัดการพวกมันเอง."
จงซานที่ส่ายหน้าไปมาและเผยยิ้ม "พวกเขาจะมาถึงที่นี่ในอีกไม่กี่วัน คนเหล่านี้ไม่ใช่ธรรมดา นี่จะเป็นการต่อสู้ที่หนักหน่วงเลยทีเดียว."
"อืม."เทียนหลิงเอ๋อพยักหน้า ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะค่อนข้างจะหนักหนาเลยทีเดียว.
ในตอนเย็น เทียนหลิงเอ๋อที่ได้ลิ้มลองอาหารรสเลิศ มันยอดเยี่ยมกว่าที่สำนักไคหยางมาก อาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยของอร่อย ๆ มากมาย นางที่คิดในใจว่าคงจะดีหากว่าสำนักไคหยางตั้งอยู่ที่นี่.
จงซานที่กลับมายังที่พักของตัวเองหลังจากที่ส่งนางไปยังที่พักของนางแล้ว เขาที่ทำการตรวจสอบข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้มาอย่างรวดเร็ว.
มีชายที่แข็งแกร่งสามคน มีความแข็งแกร่งขนาดใหนไม่สามารถบอกได้ ทว่าคนทั้งสามนั้นเข้าสำนักเซียนไป 52 ปีที่แล้ว ถือว่าเป็นคนที่มีระดับสูงทีเดียว.
ทว่าทันในนั้น ที่หน้าประตูของเขาก็มีเสียงเคาะประตูขึ้นหลายครั้ง.
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา จ้องมองไปยังประตู และถามออกไปว่า."ใคร?"
"เหล่าเยว่ มีแขกที่มีป้ายหยกสีทองเดินทางมา."พ่อบ้านที่กล่าวออกมาจากด้านนอกประตู.
老爷 [lǎoye] เจ้านาย คุณตา
ป้ายหยกสีทองอย่างงั้นรึ?จงซานที่ได้มอบป้ายหยกสีทอง สีเงินและสีทองแดงให้กับคนต่าง ๆ และสหายที่แตกต่างกัน ป้ายหยกสีทองอย่างงั้นรึ?นั่นก็หมายความว่าเป็นคนระดับสูง เป็นใครกัน?
จงซานที่เก็บข้อมูลต่าง ก่อนที่จะเดินออกมายังสวนหน้าห้อง ที่ด้านนอกนั้นมีชายในชุดคลุมสีดำ สวมหมวกไม้ไผ่ใบใหญ่ ยืนอยู่ข้าง ๆ พ่อบ้าน.
"เจ้าไปได้แล้ว."จงซานกล่าวต่อพ่อบ้าน.
"ขอรับ."พ่อบ้านรับคำและจากไป.
"อันหวง เข้ามา."จงซานที่กล่าวต่อชายชุดดำ.
"ครับ จู่เหริน."ชายคนดังกล่าวตอบกลับมาในทันที.
主人 Zhǔrén เจ้านาย เจ้าชีวิต.นายท่าน.
จงซานที่ส่ายหน้าไปมา ที่อันหวงยังคงเรียกเขาว่าจู่เหริน ทว่าเขาก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด.
เมือเขาเข้ามาภายในห้อง ชายคนดังกล่าวก็ถอดหมวกออก.
"เป็นเรื่องที่ยากจะเห็นที่เห็นเจ้าเข้ามาด้านหน้าประตูเช่นนี้."จงซานที่ปิดประตูพลางหัวเราะออกมา.
"คฤหาสน์ของจู่เหรินนั้นเต็มไปด้วยกับดักมากมาย ข้าทำได้แค่ผ่านเข้ามาในประตู."อันหวงที่กล่าวตามจริง.
จงซานที่ไม่ได้กล่าวอะไรอีกก่อนที่จะพาเขาไปยังห้องลับ.
"จู่เหริน ข้าได้ข่าวมาว่าตระกูลจ้าว ตระกูลเฉียนและตระกูลซุน กำลังพยายามจะทำร้ายท่าน."อันหวงกล่าวออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา.
"เป็นความจริง หากว่าข้านั้นไม่สามารถก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนได้ พวกเขาก็คงจะปล่อยให้ข้าตายไปด้วยการสิ้นอายุขัย ทว่าตอนนี้ข้าได้ก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนแล้ว อายุของข้าขยายออกไปเป็นสองร้อยปี เหล่าตระกูลใหญ่เหล่านั้นจะต้องรู้สึกหวั่นเกรงอย่างแน่นอน."จงซานที่กล่าวออกไปพร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.
"จู่เหริ่นแข็งแกร่งจริง ๆ ถึงได้ทำให้ตระกูลใหญ่ทั้งสามกระวนกระวายเริ่มเคลื่อนไหว."อันหวงกล่าว.
"สามตระกูลอย่างงั้นรึ? ไม่ มีมากกว่านั้น เวลานี้ ปรากฏออกมาแค่สามเท่านั้น ตระกูลหลี่และตระกูลราชวงศ์ซู ตระกูลซุน แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องส่งคนมาในไม่ช้า."จงซานที่ดวงตาเป็นประกายกล่าวออกมาด้วยเชาว์ปัญญาที่หลักแหลม.
"จู่เหริน พวกเราควรที่จะหลบหนีพวกเขาหรือไม่?"อันหวงถาม.
"หลบหนีทั้งที่ยังไม่เริ่มนะรึ?พวกเรามาดูกันดีกว่า ข้าได้ใช้ความพยายามมากมายในการสร้างคฤหาสน์จงแห่งนี้ขึ้นมา ข้าจะปล่อยให้มันเปล่าประโยชน์ได้อย่างไร มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย."จงซานที่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ล้ำลึก.
"ครับ."อันหวงพยักหน้า.
"ในเมื่อเจ้ามาที่นี่แล้ว พักอยู่ที่นี่สักพักก็แล้วกัน และเทียนหลิงเอ๋อที่อยู่ลานเทียนเซียน เจ้าอยู่ห่างจากนางเอาไว้."จงซานกล่าว.
"ครับ."อันหวงพยักหน้า.
"จู่เหริน พวกเราจะต้องรวมกำลังของอันเย่ตังหรือไม่?"อันหวงถามออกมาอีกครั้ง.
"ดูเหมือนว่าอันเย่ตังจะถึงเวลาต้องแสดงพลังแล้ว อีกไม่กี่วันข้างหน้าข้าจะทำการรวบรวมรายชื่อให้เจ้าจัดการ รอไปก่อน ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา."ดวงตาของจงซานที่มีความเย็นชาส่องประกายออกมา.
"รับทราบ "อันหวงพยักหน้า.