ตอนที่แล้วChapter 52 ดื่มเหล้าเคล้าแสงจันทร์.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 54 หยิงหลาน

Chapter 53 ปกป้องบ้านเกิด.


"ศิษย์พี่ใหญ่ ทำไมกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะ?"

จงซานที่ได้ยินเทียนหลิงเอ๋อกล่าวขณะที่เขาเดินออกไปยังนอกห้องโถง.

ที่ด้านนอกห้องโถงนั้น มีเทียนชาที่ยืนอยู่ด้านหน้าเทียนหลิงเอ๋อพร้อม ๆ กับคนอีกแปดคน รวมทั้งหยุนเฉียนด้วย.

เทียนชาที่จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือที่กำลังเดินออกมาพร้อมกับจงซาน.

"เห่าซานตายแล้วพวกเราเลยกลับมา "หนึ่งในศิษย์กล่าวออกมา.

"เห่าซานตายแล้ว?"เป่ยชิงซือสอบถามออกไปขณะที่นางเดินออกมา.

"เขาตายแล้ว เขาสิ้นอายุขัยไปเมื่อตะวันตกดิน ที่เชิงเขาแห่งหนึ่ง."เทียนชาเอ่ยปากกล่าวออกมาตอบเป่ยชิงซือ.

เป่ยชิงซือขมวดคิ้วเล็กน้อยที่เห็นท่าทางใบหน้าของเทียนชา.

"เช่นนั้นร่างของเห่าซานเป็นอย่างไรรึ?ไม่ใช่ว่าบิดาของข้าบอกว่าใครที่นำร่างของเขากลับสำนักจะได้เม็ดยาระดับสี่หรอกรึ?"เทียนหลิงเอ๋อกล่าวถามออกมาทันที.

"เม็ดยาระดับสี่อย่างงั้นรึ?ร่างของเห่าซานมีค่ามากกว่านั้น ในเวลานั้น มีคนห้าคนที่อยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณ."ศิษย์คนหนึ่งที่ด้านหลังกล่าว.

"ระดับก่อตั้งวิญญาณรึ?"เทียนหลิงเอ๋อถึงกับดวงตาเบิกกว้าง มีคนระดับก่อตั้งวิญญาณไล่ล่าแย่งชิงต้องการศพของระดับเซียนเทียนอย่างงั้นรึ?

ในเวลาเดียวกัน มีเพียงจงซานที่รู้ว่าร่างของเห่าซานนั้นมีมูลค่าขนาดใหน เขาที่บำเพ็ญวาสนาด้วยคัมภีร์"แปลนศาลสวรรค์".

"ชิงซือ ท่านอาจารย์ได้ให้ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้าเดินทางไปยังภูเขาป้าเหมิน พวกเราไปกันตอนนี้เลย."เทียนชาที่กล่าวออกมาในทันที.

"ไม่จำเป็น ข้าสามารถเดินทางไปด้วยตัวเองได้ และภูเขาป้าเหมินเองก็ไม่ได้มีอันตรายขนาดนั้น."เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาหลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่.

เทียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา ทว่าเขาก็ยังคงกล่าวอย่างมั่นคง"ท่านอาจารย์นั้นต้องมีเหตุผลของเขาให้ข้าไปกับเจ้า ยังไงพวกเราก็ต้องเดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าวอยู่แล้ว ทางทีดีพวกเราควรที่จะดูแลกันและกันระหว่างเดินทาง."

เป่ยชิงซือที่คิดอยู่ชั่วขณะจากนั้นก็หันหน้าไปมองจงซาน ในสายตาของนางนั้นมีท่าทางกระอักกระอ่วนใจอยู่ ทว่าท้ายที่สุดนางก็พยักหน้า.

ท่าทางที่เปลี่ยนไปของเป่ยชิงซือนั้นเทียนชาสามารถเห็นได้ชัดเจน ทำไมเขาจะต้องหันหน้าไปมองคนผู้นี้ด้วยล่ะ?เทียนชาที่เต็มไปด้วยความสงสัยจ้องมองไปยังจงซาน ศิษย์ใหม่ของสำนักไคหยาง ทำไมเป่ยชิงซือต้องมองไปที่เขาด้วย? ประกายแสงที่เย็นชาลุกโชนซ่อนอยู่ในดวงตาของเขา ก่อนที่เขาจะพยักหน้าให้กับเป่ยชิงซือ.

อย่างไรก็ตามความเย็นชาที่เข้มข้นที่แผ่ออกมานั้น จงซานสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ทว่าใบหน้าของจงซานยังคงสุขุม เขาไม่รู้เลยว่าเทียนชาผู้นี้ภายใต้ใบหน้านั้นมีอะไรที่คลุมเครือซ่อนเอาไว้อยู่.

"ศิษย์พี่ใหญ่."เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยังเทียนชา ต้องการที่จะกล่าวอะไรออกมา.

ในเวลาเดียวกันนั้น เทียนหลิงเอ๋อเองไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หากเป็นเมื่อก่อน แน่นอนว่านางคงต้องคาดหวังที่จะเดินทางไปกับเทียนชาไปยังภูเขาป้าเหมิน เพียงแค่นางเอ่ยออกไปจงซานในครั้งนี้คงจะไม่ห้ามนางแล้ว ทว่านางก็ยังคงลังเล ชำเลืองมองไปยังจงซาน ราวกับว่ากำลังจะถามเขาว่าจะขอให้นางอยู่รึเปล่า ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน นางก็คาดหวังว่าจงซานจะห้ามไม่ให้นางไป.

"หลิงเอ๋อ เจ้าก็ไปกับพวกเราเลยไหม?"หยุนเฉียนที่กล่าวออกมาพร้อมกับร้อยยิ้ม.

ทั้งเทียนหลิงเอ๋อและเทียนชาขมวดคิ้วไปมาพร้อม ๆ กัน.

เทียนชานั้นไม่ต้องการให้นางไปด้วยแน่ เขาไม่ต้องการให้เป่ยชิงซือเห็นท่าทางหลิงเอ่อที่ชื่นชมเขาแต่อย่างใด ส่วนเทียนหลิงเอ๋อนั้น นางที่จ้องมองไปยังจงซาน จากนั้นก็พยักหน้าตอบรับ.

จงซานไม่ห้ามนางอย่างงั้นรึ? เขายังคงนิ่งงัน ทว่าใดนั้นดวงตาของเขาที่หรี่ลงก่อนที่จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว.

"หลิงเอ๋อ เจ้าอยู่ที่นี่ช่วยอะไรข้าบางอย่างได้หรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

"หืม?"เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางสงสัย.

ทุก ๆ คนที่จ้องมองไปยังจงซาน เขากำลังจะใช้ขนมกุ้ยฮวาชักจูงนางให้อยู่อีกรึ?

เทียนชา นับเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นดีเห็นงามกลับจงซาน หลังจากที่ได้ยินแล้วเขาก็กล่าวสนับสนุนทันที "อืม หลิงเอ๋อ เจ้าก็อยู่ช่วยเหลือจงซานไปก็แล้วกัน."

เป่ยชิงซือจ้องมองจงซานด้วยความสงสัย.

"เป็นเรื่องสำคัญอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อสอบถาม.

"อืม เป็นเรื่องที่ข้าไม่สามารถจัดการได้หากว่าไม่มีเจ้าช่วย."จงซานพยักหน้าและกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

นางที่ชำเลืองมองจงซาน ก่อนที่จะพยักหน้า."ตกลง."

ก่อนหน้าที่นางจะพบกับจงซาน นางไม่เคยพลาดโอกาสใหญ่ที่จะอยู่ใกล้กับเทียนชาแม้ว่าจะถูกบิดาของนางดุเอาก็ตาม อย่างไรก็ตามในตอนนี้ นางกับยินดีที่จะอยู่ ราวกับว่านางไม่ได้สนใจเทียนชามากมายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทั้งจงซานและเทียนชาต่างก็ขอให้นางอยู่ นางจึงตกลง.

อีกด้านหนึ่ง เทียนชากลับแสดงท่าทางสงสัยที่เห็นเทียนหลิงเอ๋อ ยอมรับอย่างง่าย ๆ  เขาที่ขมวดคิ้วไปมา ราวกับว่าได้สูญเสียบางอย่างไป เขาจ้องมองไปยังจงซาน ทว่าก็ไม่สามารถอธิบายเรื่องทั้งหมดได้.

แม้ว่าเทียนชาจะสงสัย ทว่าเขาก็จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือและกล่าวว่า "เช่นนั้น พวกเราไปกันเถอะ."

"อืม."เป่ยชิงซือพยักหน้า จากนั้นนางก็กล่าวลาเทียนหลิงเอ๋อและจงซานก่อนที่จะเหินไปกับคนอื่น ๆ .

เทียนหลิงเอ๋อรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่เห็นเทียนชาบินจากไป ทว่าก็ไม่ได้มากมายนัก นางที่หันหน้ามามองจงซานและกล่าวว่า.

"จงซาน มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามออกมา.

จงซานที่มีท่าทางสับสนเล็กน้อยทว่าก็ยังสุขุมอยู่ ท่าทางของเทียนหลิงเอ๋อตอนนี้ดูเหมือนจะแตกต่างจากเมื่อก่อน หากเป็นเหมือนครั้งก่อนนางคงจะโอดโอยโหยหวนไปแล้ว

"มีกลุ่มคนระดับสูงหลายคนที่กำลังจะมาโจมตีบ้านเก่าของข้า ข้าไม่สามารถล้มพวกเขาได้ เจ้าจะช่วยจัดการพวกเขาเพื่อข้าเมื่อพวกเขาเข้ามาโจมตีได้หรือไม่?"จงซานกล่าว.

"ไม่มีปัญหา หากว่ามีใครมาหาเรื่องเจ้าล่ะก็ ก็เหมือนกับมาหาเรื่องข้าด้วย ข้าจะจัดการพวกมันเอง."เทียนหลิงเอ๋อกล่าวอย่างมั่นใจ.

จงซานเผยยิ้ม."ดี เช่นนั้น พวกเราเดินทางตอนนี้เลย."

......

ขณะที่กลุ่มเทียนชาออกมานั้น อีกฟากหนึ่งที่คฤหาสน์จง เมืองเสวียน อาณาจักรต้าคุน.

ร่างแยกเงาของจงซานที่กำลังฝึกฝนอยู่ในห้อง ทันใดนั้นก็มีพิราบขาวที่บินตรงลงมาในช่องลับและมีกระดาษข้อความผูกที่ต้นขาของมัน.

ร่างเงาของเขาที่ขมวดคิ้วไปมา เมื่อได้ยินเสียงนกพิราบส่งสาร เขาที่เปิดประตูออกมาพร้อมกับหยิบสารลับที่ผูกอยู่กับขานกพิราบมา.

"บรรพชนของตระกูลจ้าว ตระกูลเฉียน และตระกูลซุน พวกเขาทั้งหมดกำลังจะเดินทางไปเมืองเสวียนแล้ว."

老祖宗 [lǎozǔzōng] บรรพบุรุษ  บรรพชน

เขาสามารถบอกได้เลยว่า เรื่องไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้แล้ว ในเมื่อเมืองเสวียนนั้นอยู่ใกล้กับเมืองหลวง โดยปรกตินั้นเป็นเขตอิทธิพลของจงซาน ตระกูลราชวงศ์และตระกูลใหญ่ทั้งสี่นั้นไม่ได้มีอิทธิพลในเมืองแห่งนี้ ทว่าบรรพชนของทั้งสามตระกูลกลับปรากฏขึ้นในที่เดียวกันอย่างงั้นรึ? เป็นไปได้สูงว่าพวกเขาตอนนี้วางแผนที่จะต่อต้านตระกูลจงแล้ว.

ร่างแยกเงาที่แหงนหน้ามองฟ้า มีประกายสายตาที่เหยียดหยันแผ่ออกมา.

ซึ่งแน่นอนว่าร่างทั้งสองนั้นเชื่อมกันอยู่ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าจงซานร่างหลักได้ขอให้เทียนหลิงเอ๋ออยู่ช่วยเขา.

ในตอนเย็น สามวันหลังจากนั้น จงซานพร้อมกับดาบยักษ์ที่สะพายอยู่ด้านหลัง ก็เดินทางมาถึงประตูของคฤหาสน์จง.

เหล่าบ่าวรับใจต่างก็ตื่นตะลึงที่เห็นจงซาน พวกเขาจำได้ว่าเจ้านายอยู่ในเรือนพักไม่ใช่รึ? ทว่าทุกคนก็โค้งคำนับให้จงซาน และเขาก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์.

เทียนหลิงเอ๋อที่ตามจงซานมา นางที่เต็มไปด้วยความอยากรู้มากมาย ที่เห็นเหล่าคนใช้โค้งคำนับให้กับจงซาน.

หลังจากนั้น เทียนหลิงเอ๋อก็เห็นเจดีย์สูงใหญ่ตั้งตระหง่านที่มีความสูงถึงห้าชั้น.

"จงซาน สิ่งก่อสร้างที่สูง ๆ ตรงนั้นนะ? พาข้าไปดูหน่อย."เทียนหลิงเอ๋อถึงกับโพล่งออกมา.

"อืม."จงซานพยักหน้าและก็พานางเดินตรงไปยังเจดีย์ยักษ์.

เหล่าคนใช้ต่างก็ตะลึงงันที่ได้ยินหญิงสาวเรียกชื่อเจ้านายห้วน ๆ  ทว่าก็ไม่มีใครกล้ากล่าวสิ่งใด.

จงซานที่โบกมือช้า ๆ ให้เหล่าบ่าวรับใช้ออกไป ขณะที่พวกเขาไปถึงเจดีย์ดังกล่าว.

เทียนหลิงเอ๋อที่ปืนขึ้นไปยังเจดีย์อย่างรวดเร็ว ในอีกมุมหนึ่ง ร่างแยกเงาของเขาที่เข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับรวมเข้ากับร่างต้น ร่างเงาและร่างต้น กลายเป็นหนึ่งเดียวกันในทันที.

จงซานที่เรียกพ่อบ้านที่อยู่ไม่ไกลออกไป "เตรียมที่พักเทียนเซียงให้พร้อม แขกพิเศษของเราจะพักอยู่ที่นี่."

"ขอรับ นายท่าน."พ่อบ้าน ที่อยู่ไม่ไกลตอบรับในทันที.

จากนั้นจงซานก็ตามเทียนหลิงเอ๋อไป นางที่ปีนขึ้นไปจนถึงยอดเจดีย์ซึ่งสามารถมองเห็นถนนและร้านค้าทั่วทั้งเมืองเสวียน เทียนหลิงเอ๋อค่อนข้างมีความสุขทีเดียว.

นางทีกล่าวต่อจงซานทันทีที่เขาเดินเข้ามา "จงซาน ศัตรูของเจ้าอยู่ใหนอย่างงั้นรึ?ข้าจะจัดการพวกมันเอง."

จงซานที่ส่ายหน้าไปมาและเผยยิ้ม "พวกเขาจะมาถึงที่นี่ในอีกไม่กี่วัน คนเหล่านี้ไม่ใช่ธรรมดา นี่จะเป็นการต่อสู้ที่หนักหน่วงเลยทีเดียว."

"อืม."เทียนหลิงเอ๋อพยักหน้า ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะค่อนข้างจะหนักหนาเลยทีเดียว.

ในตอนเย็น เทียนหลิงเอ๋อที่ได้ลิ้มลองอาหารรสเลิศ มันยอดเยี่ยมกว่าที่สำนักไคหยางมาก อาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยของอร่อย ๆ มากมาย นางที่คิดในใจว่าคงจะดีหากว่าสำนักไคหยางตั้งอยู่ที่นี่.

จงซานที่กลับมายังที่พักของตัวเองหลังจากที่ส่งนางไปยังที่พักของนางแล้ว เขาที่ทำการตรวจสอบข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้มาอย่างรวดเร็ว.

มีชายที่แข็งแกร่งสามคน มีความแข็งแกร่งขนาดใหนไม่สามารถบอกได้ ทว่าคนทั้งสามนั้นเข้าสำนักเซียนไป 52 ปีที่แล้ว ถือว่าเป็นคนที่มีระดับสูงทีเดียว.

ทว่าทันในนั้น ที่หน้าประตูของเขาก็มีเสียงเคาะประตูขึ้นหลายครั้ง.

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา จ้องมองไปยังประตู และถามออกไปว่า."ใคร?"

"เหล่าเยว่ มีแขกที่มีป้ายหยกสีทองเดินทางมา."พ่อบ้านที่กล่าวออกมาจากด้านนอกประตู.

老爷 [lǎoye] เจ้านาย  คุณตา

ป้ายหยกสีทองอย่างงั้นรึ?จงซานที่ได้มอบป้ายหยกสีทอง สีเงินและสีทองแดงให้กับคนต่าง ๆ และสหายที่แตกต่างกัน ป้ายหยกสีทองอย่างงั้นรึ?นั่นก็หมายความว่าเป็นคนระดับสูง เป็นใครกัน?

จงซานที่เก็บข้อมูลต่าง ก่อนที่จะเดินออกมายังสวนหน้าห้อง ที่ด้านนอกนั้นมีชายในชุดคลุมสีดำ สวมหมวกไม้ไผ่ใบใหญ่ ยืนอยู่ข้าง ๆ พ่อบ้าน.

"เจ้าไปได้แล้ว."จงซานกล่าวต่อพ่อบ้าน.

"ขอรับ."พ่อบ้านรับคำและจากไป.

"อันหวง เข้ามา."จงซานที่กล่าวต่อชายชุดดำ.

"ครับ จู่เหริน."ชายคนดังกล่าวตอบกลับมาในทันที.

主人 Zhǔrén เจ้านาย เจ้าชีวิต.นายท่าน.

จงซานที่ส่ายหน้าไปมา ที่อันหวงยังคงเรียกเขาว่าจู่เหริน ทว่าเขาก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด.

เมือเขาเข้ามาภายในห้อง ชายคนดังกล่าวก็ถอดหมวกออก.

"เป็นเรื่องที่ยากจะเห็นที่เห็นเจ้าเข้ามาด้านหน้าประตูเช่นนี้."จงซานที่ปิดประตูพลางหัวเราะออกมา.

"คฤหาสน์ของจู่เหรินนั้นเต็มไปด้วยกับดักมากมาย ข้าทำได้แค่ผ่านเข้ามาในประตู."อันหวงที่กล่าวตามจริง.

จงซานที่ไม่ได้กล่าวอะไรอีกก่อนที่จะพาเขาไปยังห้องลับ.

"จู่เหริน ข้าได้ข่าวมาว่าตระกูลจ้าว ตระกูลเฉียนและตระกูลซุน กำลังพยายามจะทำร้ายท่าน."อันหวงกล่าวออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา.

"เป็นความจริง หากว่าข้านั้นไม่สามารถก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนได้ พวกเขาก็คงจะปล่อยให้ข้าตายไปด้วยการสิ้นอายุขัย ทว่าตอนนี้ข้าได้ก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนแล้ว อายุของข้าขยายออกไปเป็นสองร้อยปี เหล่าตระกูลใหญ่เหล่านั้นจะต้องรู้สึกหวั่นเกรงอย่างแน่นอน."จงซานที่กล่าวออกไปพร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.

"จู่เหริ่นแข็งแกร่งจริง ๆ  ถึงได้ทำให้ตระกูลใหญ่ทั้งสามกระวนกระวายเริ่มเคลื่อนไหว."อันหวงกล่าว.

"สามตระกูลอย่างงั้นรึ? ไม่ มีมากกว่านั้น เวลานี้ ปรากฏออกมาแค่สามเท่านั้น ตระกูลหลี่และตระกูลราชวงศ์ซู ตระกูลซุน แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องส่งคนมาในไม่ช้า."จงซานที่ดวงตาเป็นประกายกล่าวออกมาด้วยเชาว์ปัญญาที่หลักแหลม.

"จู่เหริน พวกเราควรที่จะหลบหนีพวกเขาหรือไม่?"อันหวงถาม.

"หลบหนีทั้งที่ยังไม่เริ่มนะรึ?พวกเรามาดูกันดีกว่า ข้าได้ใช้ความพยายามมากมายในการสร้างคฤหาสน์จงแห่งนี้ขึ้นมา ข้าจะปล่อยให้มันเปล่าประโยชน์ได้อย่างไร มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย."จงซานที่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ล้ำลึก.

"ครับ."อันหวงพยักหน้า.

"ในเมื่อเจ้ามาที่นี่แล้ว พักอยู่ที่นี่สักพักก็แล้วกัน และเทียนหลิงเอ๋อที่อยู่ลานเทียนเซียน เจ้าอยู่ห่างจากนางเอาไว้."จงซานกล่าว.

"ครับ."อันหวงพยักหน้า.

"จู่เหริน พวกเราจะต้องรวมกำลังของอันเย่ตังหรือไม่?"อันหวงถามออกมาอีกครั้ง.

"ดูเหมือนว่าอันเย่ตังจะถึงเวลาต้องแสดงพลังแล้ว อีกไม่กี่วันข้างหน้าข้าจะทำการรวบรวมรายชื่อให้เจ้าจัดการ รอไปก่อน ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา."ดวงตาของจงซานที่มีความเย็นชาส่องประกายออกมา.

"รับทราบ "อันหวงพยักหน้า.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด