Chapter 51 ราชวงศ์สวรรค์
แปลนศาลสวรรค์.
เป็นชื่อของคัมภีร์ม้วนนี้ ซึ่งแตกต่างจากวิชาดาบสวรรค์กายสุริยันหรือวิชากายาเทพอสูร ไม่ใช่วิชาในการฝึกฝนบำเพ็ญตน ที่จริงอาจจะเรียกว่าของวิเศษที่เหนือกว่าวิชาทั้งมวล.
เซียนมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ อย่างไรก็ตาม ภายใต้สวรรค์แห่งนี้ใครที่จะสามารถเป็นนิรันดร์ได้? วิชาบำเพ็ญนั้นมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ทว่าภายในโลกใบนี้ ใครที่จะสามารถมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ได้จริง ความจริงแล้วมีน้อยมาก ๆ ในประวัติศาสตร์นั้นแทบจะนับได้เลยทีเดียว.
การเป็นเซียนนั้นมีความยากลำบาก ทว่าการเป็นอมตะลำบากยิ่งกว่า ในชั่วชีวิตของแต่ละคนมีอายุขัยมากมายแตกต่างกันไป.
ในอายุขัยของใครคนหนึ่ง การจะกลายเป็นอมตะนั้นมีความยากมาก ๆ ไม่เพียงแต่ต้องมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมยังต้องมีเชาว์ปัญญาที่เหนือล้ำกว่าคนอื่น ๆ อีกด้วย อายุของมนุษย์ทั่วไป หากสามารถก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนก็จะมีอายุได้สองร้อยปี และก้าวไปถึงระดับแกนทอง ก็จะมีอายุสี่ร้อยไป และหากไม่สามารถทะลวงผ่านระดับ ก้าวไปยังระดับก่อตั้งวิญญาณภายในสี่ร้อยปี ทุกคนก็จะสิ้นอายุขัย.
ด้วยพรสวรรค์ทางร่างกายที่ต่ำเตี้ยเช่นจงซาน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องตายก่อนแน่.
แต่ละคนจะมีกรรมแตกต่างกัน ทำให้มีพรสวรรค์การฝึกฝนที่ต่ำเตี้ย หรือมีความรู้แจ้งต่างกัน ตลอดจนมีภารกิจอันยุ่งเหยิงจากพันธกิจทางโลก กรรมที่มีมากมายหลากหลาย ทำให้ยากที่จะก้าวข้ามระดับไปได้ ยิ่งมีกรรมมากมายเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องพยายามมากขึ้นเป็นสองเท่าหรือสามเท่า หรือแม้แต่ห้าเท่า เพื่อใช้ในการพิชิตกรรมที่ตัวเองมี เพื่อจะก้าวข้ามและสำเร็จในการฝึกฝนในแต่ละขั้น.
ด้วยพรสวรรค์ทางร่างกายของจงซาน แน่นอนว่าเขาจะต้องพยายามมากยิ่งกว่าคนอื่น ตลอดจนมีกำแพงใหญ่ที่ขวางกั้นการฝึกของเขาเอาไว้อยู่ มันเป็นกำแพงที่สูงและยากกว่าคนอื่น ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ในการที่จะข้ามผ่านระดับเซียนเทียนทำให้เขาต้องพึ่งเม็ดยาโพวจวินนั่นเอง.
พรสวรรค์ของจงซานนั้นต่ำเตี้ยเป็นอย่างมาก.
นั่นก็เป็นเพราะกรรมของเขาที่เป็นเหตุให้ยากที่จะแสวงหาความเป็นอมตะ.
คัมภีร์ แปลนศาลสวรรค์นั้น เป็นหนึ่งในตำราที่บอกเกี่ยวกับวิธีในการต่อต้านกรรมของตัวเอง เมื่อสามารถลดกรรมลงได้ ซึ่งจะทำให้เขาง่ายที่จะทะลวงผ่านระดับขั้นไปได้.
การสะสมโชควาสนา เพื่อที่จะใช้ในการล้างกรรมออกไป เป็นวิธีในการทำลายกรรม ด้วยการอวยพรจากสวรรค์เพื่อเพิ่มความเร็วในการฝึกฝน.
เมื่อสามารถสะสมบุญบารมีได้มากเพียงพอ ก็จะสามารถที่จะสร้างตำแหน่งที่แน่นอนในการสื่อสารสวรรค์กับปฐพี.
คัมภีร์ม้วนนี้บอกมรรคาสามระดับจากต่ำไปสูง มรรคที่นุ่มนวล มรรคระดับกลางและมรรคระดับสูง.
ผู้ฝึกตนบำเพ็ญเพียรนั้นอาจจะเรียกตนเองอีกอย่างหนึ่งว่ามรรคเป็นผล.
มรรคาที่นุ่มนวลเรียกว่านิพพานมรรคา.
มรรคาระดับกลางเรียกโพธิญาณมรรคา.
มรรคาระดับสูงเรียกว่าอรหันมรรคา.
ความเร็วของมรรคาในระดับต่าง ๆ นั้นแตกต่างกันไป มรรคาที่นุ่มนวลสามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกสามเท่าจากเดิม มรรคาระดับกลางสามารถช่วยการฝึกได้สิบเท่าและมรรคาสูงสุดนั้นสามารถฝึกฝนได้รวดเร็วกว่าเดิมร้อยเท่า.
สามารถเพิ่มระดับการฝึกได้นับร้อยเท่าเลยรึ? นับว่าเป็นความเร็วที่น่าพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก ถ้าเป็นเช่นนั้น จงซานยังต้องกังวลเกี่ยวกับพรสวรรค์ที่ต่ำเตี้ยอีกรึ?หากว่าสามารถฝึกฝนได้รวดเร็วได้นับร้อยเท่า ในระดับเซียนเทียนที่มีอายุขัย 200 ปี ก็เทียบได้กับอายุขัย 20,000 ปีในการบำเพ็ญเลย ด้วยความเร็วขนาดนั้น ถึงจะเป็นคนโง่ก็สามารถก้าวไปถึงระดับแกนทองได้ เช่นนั้นยังจะมีอะไรมาฉุดรั้งจงซานอีกรึ?
จงซานที่รู้สึกดีใจเป็นที่สุด เขาจะต้องก้าวไปยังระดับมรรคาในระดับต่าง ๆ ให้ได้.
อย่างไรก็ตามจงซานรู้ดีว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะรวบรวมโชควาสนามากมายขนาดนั้นได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ จงซานที่โหยหาความเป็นอมตะและไม่หวาดกลัวที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งใด ไม่ว่าจะมีปัญหาใดเกิดขึ้นก็ตาม จงซานก็ยังคงมั่นใจว่าจะต้องทำได้.
อีกอย่างจงซานมีร่างสองร่าง ร่างหนึ่งสามารถใช้บำเพ็ญเพียร ขณะที่ที่อีกร่างนั้นสามารถทำตามคำแนะนำของคัมภีร์"แปลนศาลสวรรค์"ได้.
เนื้อหาของ แปลนศาลสวรรค์นั้น จะต้องสร้างประเทศ อาจจะเรียกว่าอาณาจักร หรือราชวงศ์แห่งวาสนา ด้วยการรวบรวมวาสนาจากสวรรค์ วาสนาจากแผ่นดิน วาสนาจากฟ้าและวาสนาจากปฐพี สร้างมันขึ้นมา เมื่อสร้างประเทศแล้วก็ขยายมันออกไป ก่อตั้งราชวงศ์หลัก และจะทำให้เขาอยู่ในระดับมรรคาที่อ่อนนุ่ม และเมื่อประเทศขยายออกไปอีกจนกลายเป็นราชวงศ์สูงก็จะทำให้เขาก้าวไปถึงมรรคาระดับกลาง และเมื่อสามารถสร้างราชวงศ์สวรรค์ขึ้นมาได้ เขาก็จะก้าวไปถึงระดับมรรคาระดับสูง ซึ่งจะทำให้พัฒนาการของเขาเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า.
แต่ถึงกระนั้นการจะก้าวไปถึงมรรคาอ่อนนุ่มนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างมากแล้ว.
ทว่าเพื่อความเป็นนิรันดร์ จงซานก็ตัดสินใจที่จะก้าวไปอย่างไม่ลังเล.
นอกจากนี้ วาสนาของประเทศ จักรพรรดินั้นไม่เพียงแต่ได้โชคลาภวาสนาเพียงคนเดียว เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่น ๆ ยังได้รับตำแหน่งหรือมรรคาที่จะก้าวตามด้วย ยิ่งหากเป็นจักรพรรดิของราชวงศ์สวรรค์ที่มีมรรคาระดับสูง เหล่าราชนิกูลยังได้มรรคาระดับกลาง ลดหลั่นไปตามลำดับขั้น ดังนั้นนับว่ามีผลประโยชน์มากมายหากว่าสามารถสร้างประเทศขึ้นมาได้.
จงซานที่ตัดสินใจหนักแน่นเขาจะให้ร่างแยกเงาของเขาทำงานในการสร้างราชวงศ์วาสนาขึ้น.
เขาที่ทำการศึกษาเนื้อหาที่อยู่ภายในจนมั่นใจและจดจำได้ทุกอย่าง ก่อนที่จะนำมันใส่ลงไปในกล่องไม้และเก็บในกำไลเก็บของ.
ก่อตั้งราชวงศ์วาสนาอย่างงั้นรึ?
ทันใดนั้น จงซานก็นึกถึงคน ๆ หนึ่งได้ ไท่จื่อเหล่ยเทียน เขาคือคนที่สังหารภรรยาของเขา กุยเอ๋อ.
ไท่จื่อเหล่ยเทียนอย่างงั้นรึ? เขาที่เพียงแค่รู้จักชื่อคนผู้นี้เท่านั้น ตอนนี้ดูเหมือนว่า เขาก็เป็นไท่จื่อของราชวงศ์วาสนา บอกไม่ได้ว่า ราชวงศ์วาสนาของเขานั้น เป็นราชวงศ์หลัก หรือราชวงสูง หรือเป็นราชวงศ์สวรรค์กัน?
ไม่ว่าอย่างไร จงซานก็จะต้องชำระแค้นครั้งนี้แน่ แม้ว่าตอนนี้ยังอยู่ห่างจากเป้าหมายมาก ทว่าในเวลานี้เขาก็เริ่มมีทางที่จะให้ก้าวไปด้านหน้าได้บ้างแล้ว.
ก่อตั้งราชวงศ์วาสนา.
สำหรับจงซานแล้ว ยังยากที่จะไปถึงได้ เขาจำเป็นต้องวางแผนสักระยะและใช้เวลาอยู่ไม่น้อย.
ในคืนนั้น จงซานที่ทำการวางแผนต่าง ๆ ที่จะต้องทำในอนาคต จนแทบไม่ได้นอนเลย.
เช้าวันถัดมา เทียนหลิงเอ๋อที่กลับมากระปรี้กระเปร่าออกมา ขอให้จงซานพานางไปซื้อของ ส่วนเป่ยชิงซือนั้น นางที่อยู่แต่ในห้อง บางทีคงจะยังคงอักอ่วนที่จะเจอหน้าจงซานก็ได้.
จงซานเองก็รู้ว่าตัวเองก็ควรจะผ่อนคลายสักหน่อยหลังจากที่เขาทำการวางแผนทั้งคืน จึงได้ออกไปกับเทียนหลิงเอ๋อ.
หลังจากที่ออกไปทั้งวัน ทั้งคู่ก็กลับมาด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน เทียนหลิงเอ๋อกลับห้องพักผ่อน ส่วนจงซานก็กลับห้องอาบน้ำเพื่อทำให้ตัวเองสดชื่น.
เขาที่ออกมาด้านนอกนั่งอยู่ศาลาในสวน ครั้งหนึ่งเขาเคยออกมาดื่มสุราชมจันทร์กับภรรยาของเขาทั้งสองคนทั้งกุยเอ๋อและเป่าเอ๋อ.
ทั้งที่ผ่านมานานหลายปีแล้ว ทว่าจงซานไม่เคยลืมเรื่องเหล่านี้เลย.
เขาที่หยิบแก้วสุราขึ้นมาจิบและจ้องมองไปยังดวงจันทร์เต็มดวง จงซานที่ถอนหายใจเล็กน้อย.
จงซานที่จ้องมองและกำลังจะนั่งลงก็ต้องรั้งกายเอาไว้ก่อน ที่บนหลังคาห่างออกไปนั้น มีร่าง ๆ หนึ่งที่กำลังจ้องมองดวงจันทร์เช่นกัน ท่าทางเบื่อหน่ายและเหงาหงอยเป็นอย่างมาก.
เป่ยชิงซือ?
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือที่อยู่บนหลังคา ดูเหมือนว่าจะนึกถึงเรื่องบางอย่างได้.
จงซานที่หยิบอาหารบนโต๊ะพร้อมกับขวดสุราและแก้วสองใบ ก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปบนหลังคาที่เป่ยชิงซือนั่งอยู่ หลังจากนั้นไม่นาน จงซานก็มาถึงบนหลังคา.
บางทีเป่ยชิงซือที่ไม่ได้สนใจหรือว่าบางทีนางก็รู้อยู่แล้ว นางที่ไม่หันมามองเขาแม้แต่น้อย ยังคงจ้องมองไปยังพระจันทร์ต่อ.
จงซานที่เดินไปอยู่ไม่ไกลจากเป่ยชิงซือ ก่อนที่จะนั่งลงพร้อมกับอาหารและสุรา ก่อนที่จะจ้องมองไปยังนางเงียบ ๆ เขาพบว่าที่ใบหน้าของนางนั้นมีคาบน้ำตาด้วย.
จงซานที่รอคอยอย่างเงียบ ๆ .
ท้ายที่สุด หลังจากนั้นชั่วขณะ เป่ยชิงซือก็ขมิบตาและเช็ดน้ำตาของนางออกไป ก่อนที่จะหันหน้ากลับมามองจงซาน.
"เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าไม่สังหารเจ้าในวันนั้น?"เป่ยชิงซือที่เอ่ยปากออกมาช้า ๆ .
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา เขารู้ว่านางหมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ่อน้ำร้อน เขาเองก็สงสัยอยู่เช่นกัน.
"ข้าเองก็อยากรู้."จงซานที่จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือ.
เป่ยชิงซือที่จ้องมองไปยังจงซาน ดูเหมือนว่านางจะอดคิดถึงเรื่องในวันนั้นไม่ได้เลยเมื่อเห็นเขา ทำให้ใบหน้าของนางแดงระเรื่อ ทว่าสายตาของจงซานนั้นดูบริสุทธิ์จริงจัง ทำให้ภายในใจของนางนั้นสามารถค่อย ๆ ระงับมันเอาไว้ได้.
"ไม่เคยมีชายใดเคยเห็นร่างของข้ามาก่อน ข้าจะสังหารมันทุกคน แม้ว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุก็ตาม ทว่าเจ้า จงซาน คงยากที่ข้าจะสังหารเจ้าได้."เป่ยชิงซือที่เผยยิ้มดูแคลนตัวเอง.
"เพราะชิ้นส่วนหยกอย่างงั้นรึ?"จงซานถาม.
"ถูกแล้ว เพราะว่าชิ้นส่วนหยกนั่น."เป่ยชิงซือตอบ.
"มีสิ่งใดในชิ้นส่วนหยก? ข้าสามารถรู้ได้หรือไม่?"จงซานสอบถามต่อ.
"หึ หึ บางทีถึงข้าบอกไป เจ้าก็ยากที่จะเข้าใจได้ "เป่ยชิงซือที่เผยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้.
"ในเมื่อข้าไม่เข้าใจ เช่นนั้นไม่บอกข้าล่ะ ไม่ว่าอย่างไร มันอาจจะทำให้ท่านดีขึ้นก็ได้หากว่าได้บอกกับคนอื่น."จงซานซึ่งบอกเป็นนัยว่าเป่ยชิงซือนั้นเต็มไปด้วยความเศร้า.
ราวกับว่าคำเชิญชวนของจงซานนั้น จะทำให้เป่ยชิงซือเริ่มกล่าวออกมาอย่างเศร้า ๆ ."ภายใต้สวรรค์นี้ มีราชวงศ์สวรรค์ที่ยิ่งใหญ่สามแห่ง บิดาของข้านั้นเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นสูงระดับสามของหนึ่งในราชวงศ์ดังกล่าวนั้น ทำให้เขาที่ได้รับมรรคาที่อ่อนนุ่มมาด้วย ซึ่งในอนาคตนั้นนับว่ารุ่งโรจน์ไร้ขีดจำกัดทีเดียว.
จงซานที่ฟังอย่างเงียบ ๆ ในโลกใบนี้มีสามราชวงศ์สวรรค์อย่างงั้นรึ?นี่เป็นข้อมูลที่สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับเขา.
"บิดาของข้านั้นนับว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียง แม้ว่าจะไม่นับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ตาม ทว่าด้วยชื่อเสียงนั่นก็ก่อเกิดศัตรู ตระกูลของข้า 312 ชีวิตถูกสังหาร รอดเพียงข้าและชายอีกคนที่ได้ส่งมอบหยกให้กับเจ้า ตระกูลของข้าถูกสังหารไปทั้งหมด."เป่ยชิงซือที่เต็มไปด้วยความเศร้า น้ำตาของนางที่ไหลอาบแก้มอีกครั้ง.
จงซานที่ฟังอย่างตั้งใจและขมวดคิ้วไปมา.
"คนที่มอบชิ้นส่วนหยกให้เจ้านั้นเป็นบ่าวรับใช้ของตระกูลข้าเอง บิดาของข้านั้นมีความเกี่ยวพันธ์กับสำนักไคหยางดังนั้นเขาจึงทำให้ข้าได้เข้ามาฝึกฝนที่นี่ ข้าอยู่ที่นี่ตั้งแต่ยังเด็กแล้ว นานมาแล้วเหมือนกัน บิดาของข้ามีลางสังหรณ์เกี่ยวกับผู้ทรยศ ดังนั้นเขาจึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานและทำการแบ่งมันออกไปยังสถานที่สามแห่ง เขาไม่เคยบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยจวบจนกระทั่งที่พวกเราได้รับหยกชิ้นนั้นจากบ่าวรับใช้คนดังกล่าว ภายในนั้นบอกที่ซ่อนที่เก็บหลักฐานเกี่ยวกับการทรยศของคนเหล่านั้นสามแห่ง และข้อมูลที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพ่อข้าที่คนเหล่านั้นใส่ร้ายเพื่อกำจัดตระกูลเรา ไม่ว่าข้าจะอยู่รอดหรือไม่ แต่ข้าจะต้องแก้แค้นให้กับตระกูลและทวงความยุติธรรมให้กับบิดาและล้างข้อกล่าวหาทั้งหมด เพราะว่าเจ้า บิดาของข้าถึงมีโอกาสที่จะได้กู้คืนชื่อเสียง ดังนั้นข้าไม่สังหารเจ้าถึงแม้ว่าสิ่งที่เจ้าจะเห็นบางสิ่งบางอย่างจะไม่สมควรก็ตาม."เป่ยชิงซือกล่าวออกมาด้วยความเศร้า.