Chapter 5 เทพธิดาจื่อซวิน
"ยินดีด้วย ท่านจง."เสียงที่ดังห่างออกไปไม่ไกลเป็นประมุขเจานั่นเอง.
"ยินดีกับท่านจงด้วย."อีกคนที่เหล่าเยว่จื่อจงจำได้.
เป็นประมุขเฉียน หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่นั่นเอง.
"เช่นกัน เช่นกัน."เหล่าเยว่จื่อจงที่ยกมือขึ้นคารวะ.
ต้องไม่ลืมว่า ประมุขเจาที่ไปถึงระดับเซียนเทียนนานแล้วและสมาชิกในตระกูลเองก็ได้รับเลือกจากสำนักเซียนหลายคน.
"เจ้าเพิ่งฉลองครบรอบวันเกิดได้ไม่นาน รู้สึกประหลาดใจจริง ๆ ที่เจ้าเดินทางมาถึงที่นี่ได้ด้วยเวลาไม่กี่วัน."ประมุขเฉวียนที่จ้องมองไปยังจงซานขณะพูด.
"ก็ลำบากอยู่เหมือนกัน แต่ก็มาถึงที่นี่ทันเวลาพอดี แล้วพวกท่านล่ะจะกลับบ้านตอนนี้เลยไหม?"จงซานที่เปลี่ยนเรื่องแสร้งทำเป็นโง่งม.
"ยัง พวกเรายังต้องเดินทางไปเยี่ยมเยือนสหายก่อน เอาเป็นว่าไว้พูดคุยกันวันอื่นก็แล้วกัน."ประมุขเจากล่าว.
"เช่นนี้ เอาไว้พวกเราค่อนพูดคุยกันที่อื่นก็แล้วกัน "เหล่าเยว่จื่อจงเผยยิ้ม.
ทุก ๆ คนต่างก็กล่าวลาพร้อมจากไป.
ไม่มีเวลามากนัก ทุก ๆ คนต้องรีบออกกจากหุบเขามังกรโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าเยว่จื่อจงที่นำร่างของบุตรทั้งสี่ออกไปด้วย.
เข้าจ้องมองไปยังร่างที่ไร้วิญญาณ เหล่าเยว่จื่อจงได้แต่ทอดถอนใจ นี่คือเส้นทางที่พวกเขาได้เลือกแล้ว มันเป็นโชคชะตา ทว่า หากพวกเขาได้รับคัดเลือก พวกเขาจะเป็นเหมืองจงซีจิวหรือจงเทียนกัน?
หลังจากครุ่นคิดถอนหายใจ เหล่าเยว่จื่อจงก็ขุดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นที่ด้านนอกของหุบเขาประตูมังกร เพื่อฝังศพบุตรชายทั้งสี่.
เหล่าเยว่จื่อจงได้พักผ่อนอยู่ที่หุบเขาประตูมังกรในคืนนั้น การต่อสู้ในวันนี้เขายังคงจดจำขึ้นใจ ทว่าก็ไม่ได้รู้สึกกลัวใด ๆ ที่ต้องค้างคืนอยู่ท่ามกลางร่างของคนตาย.
ยังมีเรื่องอะไรที่เขายังไม่เคยเห็นตลอดแปดสิบปีนี้?ความจริง ที่นี่คือสถานที่ปลอดภัยที่สุด มีคนมากมายที่ทรงพลังที่พบได้ในการแข่งขันในครั้งนี้ หลังจากที่พวกเขาเร่งรีบจากไปก็ถูกเหล่าปิศาจไล่ล่าสังหารไปเกือบหมด.
เช้าวันใหม่ หลังจากกินอาหารแห้งที่เตรียมมา เขาก็เริ่มเดินกุมไม้เท้ามังกรออกไป.
ดูจะแตกต่างจากเดิมหลังจากที่ก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนแล้ว เขาสามารถที่จะเดินไปได้เร็วกว่าเดิม ก่อนนี้เมื่อเดินทางมา พวกเขามีด้วยกันเก้าคน และตอนนี้เหลือเพียงแค่คนเดียว เหล่าเยว่จื่อจงไม่ได้เศร้าอะไรนัก บางที เขาแทบจะมีความสุขด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดเขาก็ได้ก้าวไปถึงระดับเซียนแล้ว.
ระหว่างบุตรชายทั้งสี่คน สามคนหักหลังเขาและมีเพียงจงเทียนที่เขา จะจดจำว่าเคยเป็นบุตรชายของเขาในใจ ส่วนความเศร้าเสียใจที่เกิดขึ้นเรื่องอื่น ๆ นั้นเขาจะฝังมันไว้ที่ด้านล่างสุดของหัวใจ.
เหล่าเยว่จื่อจงที่ระมัดระวังเป็นอย่างมากเกี่ยวกับแมลงพิษ ยุงพิษขณะที่เขาเดินผ่านช่องเขา เมื่อเข้าสู่พลบค่ำ เหล่าเยว่จื่อจงที่อยู่ในป่าได้ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ต้นหนึ่ง เขาผูกเปลนอนที่เขานำมา บนต้นไม้สูง พร้อมกับทำการโรยสมุนไพรต่าง ๆ ไว้รอบ ๆ กิ่งไม้เพื่อกันงูพิษหรือแมลงที่จะปีนขึ้นมาหาเขา.
ถึงแม้ว่าเหล่าเยว่จื่อจงไม่จำเป็นต้องหลับนอนเป็นเวลานานนับตั้งแต่ที่เขาก้าวไปถึงระดับเซียนเทียน ทว่าเขาก็ไม่กล้าที่จะเดินทางในเวลาค่ำคืนที่เต็มไปด้วยอันตรายในเทือกเขาลึกแห่งนี้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่นอนหลับตาอยู่บนแปลนอนบนต้นไม้เฝ้าระวังเอาไว้.
ราว ๆ เที่ยงคืนเห็นจะได้ ก็ปรากฏริ้วแสงสองสายพุ่งตรงมาจากท้องฟ้าพุ่งลงมากลางป่า ทำให้เหล่าเยว่จื่อจงสะดุ้งขึ้นมาทันที พร้อมทั้งจ้องมองออกไปยังแสงดังกล่าว.
"ฮี่ ๆ เทพธิดาจื่อซวิน มาเป็นคู่บำเพ็ญของข้าดีกว่า เจ้าคิดว่าจะขาดทุนหรืออย่างไร?"เสียง ๆ หนึ่งที่แว่วเข้ามาในหูของจงซาน.
"เจ้าฝันไปเถอะ มารเฒ่าหงหลวน เจ้าคิดว่าสำนักไคหยางเช่นข้าจะยอมเป็นคู่บำเพ็ญของเจ้าอย่างงั้นรึ? สำนักหงหลวนนับตั้งแต่อดีตมีแต่พวกมารทั้งนั้น."เสียงที่สดใสก้องกังวานดังเข้ามาในหูของเหล่าเยว่จื่อจงเช่นกัน.
สำนักไคหยาง?สำนักไคหยาง? ดวงตาของเหล่าเยว่จื่อจงเบิกกว้าง เพราะว่าเขาเคยได้ยินชื่อของสำนักดังกล่าวนี้มาก่อน ทว่าจงซานไม่โง่ที่จะเร่งรีบออกไป เพื่อปกปิดการหายใจของเขา เขาได้ใช้วิชาลมหายใจเต่า ในทันที ซึ่งทำให้เขานั้นดูเหมือนกับคนตาย นอนนิ่งอยู่ในเปล ปกปิดกลิ่นอายทุกอย่างเอาไว้.
"สำนักหงหลวน? ฮี่ ฮี่ ฮี่ หากว่าเจ้าไม่สนใจเกี่ยวกับสำนักในอดีตล่ะก็ เจ้าคงจะไม่ต้องการดาบสั้นในมือของข้าที่เป็นของตกทอดจากอาจารย์ของข้าไม่ใช่รึ? เพียงแค่เจ้าเป็นของข้า ข้าจะมอบมันให้เป็นของขวัญเจ้าก็ได้."มารเฒ่าหงหลวนหัวเราะ.
"พรึด ฮือๆ เกิดอะไรขึ้น? เจ้าวางยาพิษข้า?"หญิงสาวที่อุทานเสียงดัง.
"ผงกำหนัดหงหลวน เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง? นี่เป็นยาที่ในโลกนี้มีเพียงข้าคนเดียว ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะรอดพ้นเงื้อมมือข้าไป หากเจ้าหนีไปได้ล่ะก็ อย่าได้ตำหนิข้า ก่อนหน้านี้ศิษย์ของเจ้าก่อนตาย นางกล่าวว่าเจ้าเป็นร่างสถิตเจิ้นติง เป็นร่างสถิตที่เหมาะที่จะฝึกฝนวิชาที่สุด โชคดีเป็นของข้าแล้ว หากข้าได้ความบริสุทธิ์ของเจ้าแล้วล่ะก็ ฮี่ฮี่ อย่าได้โทษข้า มามะ! มา ข้าจะสร้างความทรงจำที่ดีที่สุดให้กับเจ้า ให้เจ้าได้เพลิดเพลินจนลืมไม่ลงเลย."มารเฒ่าหงหลวนหัวเราะอย่างหื่นกระหาย
"เจ้าสังหารฉิงเอ๋อ?"ใบหน้าของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความห่อเหี่ยว.
"ข้าไม่ได้บอกเลยว่าข้าสังหารนาง บางทีนางคงจะมีความสุขก็ได้ในเวลานั้น แต่ข้าบอกเจ้าก็ได้ ก่อนที่นางจะตายด้วยอาคมของข้า นางได้บอกความลับบางอย่างของเจ้ามา ฮี ฮี ฮี ท้ายที่สุดข้าก็จะกลายเป็นคนโชคดี เจินติง ฮี่ๆ เทพธิดาจื่อซวิน ไม่สงสัยเหรอว่าพลังนั่นทรงพลังขนาดใหน.
หากไม่เพราะว่าข้ารู้ก่อนหน้านางคงจะไม่กลายเป็นคนรับบาปแทน บางที ข้าคงจะตรงมาหาเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว ฮี่ ฮี่ ฮี่."มารเฒ่าหงหลวนหัวเราะ.
"ข้าขอตายดีกว่าเป็นของเจ้า."เทพธิดาจื่อซวินตะโกนออกมาด้วยความโกรธ.
"มันสายไปแล้ว เจ้าไม่รู้สึกหรืออย่างไรว่าร่างกายกำลังรุ่มร้อนอยู่? ฮี่ ฮี่ ผงกำหนัดหงหลวนนั้นได้กระจายไปทั่วป่าแล้ว ถึงเจ้าอยากตายก็ตายไม่ได้ ฮี ฮี่ ฮี่ นี่เป็นครั้งแรกที่พบร่างสถิตที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ เร็วเข้า ให้ข้าได้ลิ้มลองมัน ฮี ฮี่ ฮี่."มารเฒ่าหงหลวนหัวเราะอย่างพอใจ.
"ไปตายซะ!....."เทพธิดาจื่อซวินคำรามลั่น.
"ตูมมมมมมม"
หลังจากเกิดระเบิดดังลั่น ก็ดูเหมือนว่าจะเงียบลงไปซักพัก.
"หอบ ๆ หอบ."...
ห่างออกมาเท่าไหร่ และนางไม่รู้เลยว่าตอนนี้อยู่ที่ใหน เพราะว่าตอนนี้นางกำลังอ่อนล้า และผงกำหนัดหงหลวนก็เริ่มออกฤทธิ์.
“……………..”
เกิดเสียงที่แปลกประหลาดขึ้นอีกหลายครั้ง.
"ฮี่ ฮี่ ฮี่ หนีไปใหน? มุกเทียนเหล่ย คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นมุกเทียนเหล่ย หากเจ้าใช้มันตั้งแต่แรกนั้น เจ้าคงมีโอกาสสังหารข้าได้ ทว่า ฮี่ฮี่ ตอนนี้เจ้าขยับไม่ได้แล้ว? เจ้าจึงได้ทิ้งโอกาสนี้แล้ว และอีกไม่นาน เมื่ออาการคุ้มคลั่งจากผงกำหนัดหงหลวนออกฤทธิ์ ตอนนั้น จะเป็นทีของข้า.ฮี่ ฮี่ "มารเฒ่าหงหลวนหัวเราะ.
"เจ้ายังไม่ออกมาอีกเหรอ หอบ...หอบ" เทพธิดาจื่อซวินกล่าว.
ได้ยินเสียงของนาง เหล่าเยว่จื่อจงก็รู้ว่านางหมายถึงเขา เขาไม่มีทางเลือกต้องลุกออกมา ดูเหมือนว่าทักษะของเทพธิดาจื่อซวินนั้นจะเหนือกว่ามารเฒ่าหงหลวนมาก ไม่เช่นนั้นนางคงไม่รับรู้ถึงตัวตนของเขาได้ หนีรึ? เมื่อเขาเริ่มหายใจ มารเฒ่าก็ย่อมเห็นเขา และเขาไม่มีทางที่จะหนีได้อยู่แล้ว.
เป็นความจริง ขณะที่เหล่าเยว่จื่อจงออกมาจากเปลนอน มารเฒ่าหงหลวนก็พบเขาได้ในทันที.
"มีอีกคนอย่างงั้นรึ?."มารเฒ่าหงหลวนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือบ.
เหล่าเยว่จื่อจงที่ถือไม้เท้ามังกรและเดินลึกเข้ามาในป่า เพียงแค่ไม่นาน ท้ายที่สุด เขาก็พบคนทั้งสองที่อยู่คนล่ะจุดมีแสงสว่างส่องประกายออกมา.
เทพธิดาจื่อซวิน? เอ๊ะ นางไม่ใช่คนที่อยู่บนระเบียงชั้นสูงในการแข่งขันประตูมังกรหรอกรึ? เป็นสำนักไคหยางหรอกรึ?
มีประกายแสงสีม่วงส่องประกายออกมาจากฝ่ามือของเทพธิดาจื่อซวินและประกายแสงดังกล่าวนั้นถูกส่งออกไปกลายเป็นเพลิงสีม่วงหมุนวน และยังมีประกายสายฟ้าแป๊บๆรอบๆเพลิงนั้นด้วย มันได้ปลดปล่อยสะเก็ดกักขังชายชราที่น่าเกียจ ในชุดสีดำ ที่เขาได้ยินเสียงก่อนหน้านี้.
ชายชราพยายามที่จะออกมาจากสะเก็ดสายฟ้าสีม่วง สายตาที่สรวลรื่นเริงก่อนหน้านี้ เมื่อเห็นเหล่าเยว่จื่อจงมาถึง ตอนนี้กลายเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความดุร้าย.
ที่ด้านหน้าของชายชรานั้นเป็นดาบสั้นสีแดงที่แตกออกเป็นสองส่วน นี่น่าจะเป็นอาวุธตกทอดของนิกายเขา ดูเหมือนว่ามันจะถูกหักด้วยเพลิงสีม่วง.
"นำร่างของข้าไปด้านหน้า ข้าสามารถควบคุมเปลวเพลิงเทียนเหล่ย ให้เผาเขาให้ตายได้. หอบๆ หอบ."คิ้วที่ขมวดไปมา ดวงตาที่ปรือเห็นแสงรำไรพยายามปลุกตัวเอง.
หลังจากที่มองเห็นมารเฒ่าหงหลวน เหล่าเยว่จื่อจง ก็พยุงร่างของเทพธิดาจื่อซวิน ไปด้านหน้า เพลิงเทียนเหล่ยในมือของนางที่เคลื่อนที่เข้าใกล้มารเฒ่าหงหลวนเรื่อย ๆ.
"ไม่...."มารเฒ่าหงหลวนที่หวีดร้องด้วยความทรมาน.
"หอบ หอบ!"
ไร้ซึ่งเสียงระเบิด เปลวเพลิงเทียนเหล่ย พริบตาเดียวเท่านั้น ก็ปกคลุมไปทั่วร่างมารเฒ่าหงหลวน เพียงแค่สองอึดใจ ร่างของมารเฒ่าหงหลวนก็กลายเป็นขี้เถ้า.
"ดีมาก หอบ....หอบ...."เทพธิดาจื่อซวินเผยยิ้ม เปลวเพลิงสายฟ้าแทบจะในทันทีก็กลับมาอยู่ในมือของนางและหายไป.
ในเวลานั้น เทพธิดาจื่อซวินที่ผ่อนคลายหลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จ ทว่าหลังจากนั้นนางกลับอยู่ในภาวะทุลักทุเล.
ร่างที่อ่อนนุ่มของนางเมื่ออยู่ในอ้อมแขนของเหล่าเยว่จื่อจง.
"ฮือ....ฮือ...."ดวงตาของเหล่าเยว่จื่อจงที่กลายเป็นสีแดง ความปรารถนาที่รุนแรงปกคลุมไปทั่วร่าง วิ่งพล่านเข้าไปในหัวใจของนาง.
เหล่าเยว่จื่อจงตกใจเป็นอย่างมาก เกิดสิ่งใดขึ้น? เกิดอะไรขึ้นกับข้า? แม้เทพธิดาจื่อซวินจะงดงาม ข้าเคยเห็นสาวงามมาก่อนมากมาย เป่าเอ๋อ ข้ามีเป่าเอ๋อที่งดงามยิ่งกว่านาง ข้าตอนนี้ก็แก่แล้ว ทำไมข้าไม่สามารถควบคุมร่างกายได้?
ผงกำหนัดหงหลวน ใช่แล้ว มารเฒ่าหงหลวนได้กล่าวว่าผงนี้ได้กระจายไปทั่วทั้งป่าแล้ว เช่นนั้นข้าก็ถูกพิษดังกล่าวด้วยรึ?
เหล่าเยว่จื่อจงพยายามที่จะปลุกตัวเองให้มีสติอย่างต่อเนื่อง ทว่าตอนนี้อ้อมแขนของสาวงามที่กำลังรัดเขาแน่นพร้อมกันนี้ยังพยายามถอดเสื้อผ้าและจูบเขาอย่างดูดดื่ม.
ทันใดนั้นความรู้สึกของเหล่าเย่วจื่อจงได้สูญเสียการควบคุมอย่างสมบูรณ์.
ร่างเขาที่เป็นชายแก่ อายุ 80 ปี เกิดสิ่งใดขึ้นกัน? ชายแก่กำลังเอาเปรียบหญิงสาวอย่างงั้นรึ? ไม่ๆ ไม่น่าจะใช่ เทพธิดาจื่อซวินนางที่เป็นผู้ฝึกตนเซียน บางทีนางอาจจะมีอายุมากกว่าข้าอีก บางทีเป็นนางต่างหากที่กำลังข่มเหงข้าอยู่.
ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น สติสุดท้ายที่เหล่าเยว่จื่อจงคงเหลือได้หายไปจนหมดสิ้น.