Chapter 48 ภายในท้องของอสรพิษ
มังกรเขายังไม่ขยับออกจากภูเขา เห่าซานที่ยืนนิ่งจ้องมองไปยังพื้นที่รอบ ๆ ขันทีในชุดคลุมสีดำเหล่าเหว่ยที่กุมแส้หางม้า ยืนอยู่ข้างร่างของมังกรเขาด้วย.
เห่าซานที่เฝ้ามองไปทุกทิศ ราวกับว่าเขากำลังรอบางอย่างอยู่ เขาที่เห็นเหล่าอสรพิษที่พุ่งออกไปสามทางไปไกลจนลับตาแล้ว ดังนั้นเขาจึงได้เตรียมตัวที่จะหลบหนีและดึงดูดความสนใจต่อเหล่าผู้ฝึกตนในทันที.
กงจู่เฉียนโหยวที่รู้สึกผิดปรกติ สายตาของนางที่จับจ้องไปยังกลุ่มอสรพิษยักษ์ ซึ่งได้แยกออกไปสามทิศทางหนำซ้ำยังเคลื่อนที่เร็วมาก ทว่ามีเพียงทิศเหนือที่ดูผิดปรกติ มีอสรพิษตนหนึ่งที่แยกออกมา ทว่ามันมองหาอาหาร มันต้องการเพียงแค่กินคนสองคนนั่นเองรึ?
อสรพิษยักษ์สีแดงชาดที่อ้าปาก เข้าโจมตีจงซานและเทียนหลิงเอ๋อ อย่างรวดเร็ว เป็นความเร็วที่เหนือกว่าเป่ยชิงซือและเทียนชาจะก้าวไปถึงคนทั้งสอง.
เป่ยชิงซือและเทียนชานั้นแสดงท่าทางกังวลไม่น้อย พวกเขาที่เร่งความเร็วมากยิ่งขึ้น! คนทั้งสองที่เหินลงจากยอดเขารวดเร็วเป็นอย่างมาก ทว่าก็ยังช้ากว่าอสรพิษสีแดงนั่น ปากของมันตอนนี้ได้อ้ารับคนทั้งสองแล้ว.
ชั่วขณะนั้นจงซานและเทียนหลิงเอ๋อที่ลอยตัวอยู่บนอากาศนั้น เขาได้ยินเสียงดังสนั่น หัวของอสรพิษยักษ์สีแดงที่อ้าพุ่งตรงมายังเขาและเทียนหลิงเอ๋อ แน่นอนว่ามันจะต้องกินพวกเขาทั้งคู่แน่.
เห็นเหตุการณ์ที่เลวร้าย สมองของจงซานที่คิดไปมาอย่างรวดเร็ว ทำอย่างไร?ทำอย่างไรดี?
แม้เหตุการณ์จะวิกฤติ ทว่าจงซานก็ยังสุขุม เขาที่เห็นปากของอสรพิษพุ่งเข้ามา เขาก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว.
ทันใดนั้น จงซานที่ยืนมือของเขาคว้าไปยังบั้นท้ายของเทียนหลิงเอ๋อ พร้อมกับใช้แรงผลักดันที่มีพลังทั้งหมดกระแทกผลักดันนางให้ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำให้ความเร็วของเทียนหลิงเอ๋อลอยออกไปเป็นสองเท่าจากความเร็วเดิม ส่วนจงซานก็ถูกผลักให้ลอยลงด้านล่าง อย่างรวดเร็วเช่นกัน.
นี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะสามารถหลบเลี่ยงจากปากยักษ์ของอสรพิษสีแดง เพื่อถ่วงเวลาสักนิดให้เป่ยชิงซือและเทียนชามาถึง เวลาชั่วพริบตาเดียวนั้น หากว่าต้องการรอดจึงเป็นทางเลือกเดียวที่ทำได้.
เทียนหลิงเอ๋อที่ลอยโด่งออกไปส่วนจงซานก็หล่นลงมาด้านล่าง เป็นไปตามคาด ปากยักษ์ของอสรพิษสีแดงที่พลาดกลางอากาศ การถ่วงเวลาเล็ก ๆ ถือว่าประสบผล.
อย่างไรก็ตาม อสรพิษยักษ์นั่นดูไม่ชะงักเลยแม้แต่น้อย ความเร็วของมันแทบไม่อยากเชื่อเลย แม้ว่าครั้งแรกมันจะพลาดเป้า ทว่ามันกับตวัดหัวของมันพุ่งตรงลงมายังด้านล่างที่จงซานล่วงหล่นลงมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับอ้าปากกลืนเขาไปในทันที.
จงซานที่เฝ้ามองด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ เขาไม่คาดคิดเลยว่าความเร็วของอสรพิษตนนี้จะมากมายขนาดนี้ และเป้าหมายของมันก็คือเขาซึ่งตอนนี้ไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลย.
มันเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่มีใครสามารถที่จะทำอะไรได้ นอกจากนี้ เมื่อคนทั้งสองแยกออกจากกัน โชคไม่ดีนักที่อสรพิษนั่นเลือกเขา จงซานไม่ยินดีและเต็มไปด้วยความหดหู่ ทำได้แค่เพียงอย่างเดียวคือยอมรับชะตากรรมให้อสรพิษกลืนเขาเข้าไปในท้อง.
หลังจากที่ทั้งคู่กระเด็นออกมาจากศิลายักษ์ เทียนหลิงเอ๋อไม่รู้เลยว่ามีอสรพิษสีแดงที่พุ่งไล่หลังนางมา นางรู้เพียงว่าจะต้องพุ่งตัวตรงไปหาศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่สามให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้น.
ในเวลาเดียวกัน ในเวลานั้น เทียนหลิงเอ๋อสัมผัสได้ว่ามีมือสองมือที่ผลักนางจากด้านหลังสัมผัสมาที่บั้นท้ายของนาง จงซานรึ? เทียนหลิงเอ๋อที่ดวงตาเบิกกว้างตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก นี่เขากำลังทำบ้าอะไร? ในตอนนี้?
ทว่าเทียนหลิงเอ๋อก็รู้สึกเขินอายเกินกว่าจะพูดออกมาได้ แขนทั้งสองข้างนั้นกระแทกมาแรงมาก จนทำให้บั้นท้ายของนางระบมไปหมด ราวกับว่ามันจะแตกออกมาด้วยแรงผลักที่รุนแรง มันเป็นความเจ็บปวดที่มาพร้อมกับความตื่นตะลึง เป็นความเจ็บที่ทำให้ น้ำตาของนางแทบจะไหลริน.
จงซานทำอะไร?เทียนหลิงเอ๋อไม่รู้เลยว่าจะร้องออกมาด้วยความเจ็บดังกล่าวนี้เลยหรือไม่?
แต่ถึงกระนั้น ในช่วงระยะเวลาต่อมา นางที่บอกได้ว่าจงซานถูกผลักดันล่วงหล่นลงด้านล่าง.
"วูซซซซซซซ"
ส่วนเทียนหลิงเอ๋อที่ถูกผลักให้ขึ้นไปด้านบน.
"อ๋า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ "
เสียงดังสนั่นของอสรพิษยักษ์ที่เลื้อยอยู่ด้านหลังนาง แทบจะในทันที ท้ายที่สุดเทียนหลิงเอ๋อก็เข้าใจได้ถึงจุดประสงค์ของจงซาน เขาที่ผลักนางออกไปให้พ้นจากปากของอสรพิษยักษ์.
นางที่เหินขึ้นไปบนฟ้า ก่อนที่จะถูกเป่ยชิงซือจับตัวเอาไว้ เป่ยชิงซือที่ยืดมือของนางคว้าไปที่ไหล่ของเทียนหลิงเอ๋อ.
จากนั้น เทียนหลิงเอ๋อที่ได้โอกาสหันหน้ากลับมามองด้านล่าง ก่อนที่จะเห็นอสรพิษยักษ์สีแดงฉานที่อ้าปากงับจงซานไปทั้งตัว.
"จงซานนนนนนนนนนนนนน!"
เสียงหวีดร้องดังสนั่นก้องไปทั่วบริเวณ จงซานสละชีวิตของเขาอย่างงั้นรึ?เขาช่วยนางอย่างงั้นรึ?เขาตายเพื่อช่วยนางอย่างงั้นรึ? เทียนหลิงเอ๋อที่เห็นจงซานถูกอสรพิษยักษ์สีแดงฉานกลืนกินไปกับตาตัวเอง ถึงกับทำให้นางรู้สึกราวกับหัวใจแตกสลาย ไม่อยากเชื่อ ไม่ยินดี หวาดกลัวและไม่อยากยอมรับ ความรู้สึกมากมายที่ประเดประดังเข้ามา จนทำให้นางหวีดร้องแทบขาดใจ น้ำตาที่ไหลรินออกมาเป็นสาย มันไหลออกมาราวกับน้ำพุ.
เทียนชาที่พุ่งตรงไปยังอสรพิษดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ตามอสรพิษสีแดงนั่นเป็นดั่งผู้เชี่ยวชาญในการดำดิน หลังจากที่มันกลืนจงซานเข้าไปแล้ว มันก็พุ่งลงดิน มุดหายไปอย่างรวดเร็ว เพียงแค่พริบตาเดียว ก็ไม่เห็นแม้แต่ร่องรอย เหล่าอสรพิษอื่น ๆ ต่างก็ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ทำให้เทียนชาไม่มีโอกาสเข้าโจมตีเลย ทำได้แค่ลอยขึ้นมาเท่านั้น.
เป่ยชิงซือที่จับร่างของเทียนหลิงเอ๋อไว้แน่น จ้องมองจงซานที่ถูกอสรพิษกลืนกินไปแล้ว ทำให้นางบังเกิดความรู้สึกซับซ้อนที่เห็นจงซานถูกกลืนเข้าไปเช่นกัน ตอนนี้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดมันก็ได้กลายเป็นว่างเปล่าไปแล้ว อย่างไรก็ตาม นางก็ยังจับตัวของเทียนหลิงเอ๋อเอาไว้ก่อนที่จะลอยขึ้นมาด้านบน.
ในเวลาเดียวกันนี้ ร่างของเทียนหลิงเอ๋อที่ตะเกียกตะกาย ราวกับว่านางต้องการลงไปช่วยจงซาน นางที่ดูเหมือนกับไร้สติไปแล้ว นางตะโกนชื่อจงซานไม่หยุด ดิ้นรนไปมาให้หลุดพ้น แม้แต่ทำให้เสื้อผ้าของเป่ยชิงซือเป็นรูและเสียหายไปไม่น้อย.
"พวกเราช่วยเขาไม่ได้แล้ว ถอยก่อน."เทียนชาที่เหินเข้ามาใกล้ ๆ .
"ไม่ จงซานยังไม่ตาย ช่วยเข้า ได้โปรดช่วยเขาด้วย."เทียนหลิงเอ๋อร้องไห้ จ้องมองไปยังรูขนาดใหญ่บนพื้น.
จากที่ไกลออกมานั้น กงจู่เฉียนโหยวที่เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น เห็นจงซานที่ผลักเทียนหลิงเอ๋อลอยขึ้นไป เขาสงสัยว่าการกระทำทั้งหมดนี้เป็นความต้องการของเห่าซานหรือไม่ ความรู้สึกที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นในใจนาง ก่อนที่จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นอิจฉาหญิงสาวนางนั้น.
"จงซาน? หากว่าข้าไปยืนอยู่ประตูแห่งความตาย จะมีใครยอมสละชีวิตตัวเองให้ข้าหรือไม่?"กงจู่เฉียนโหยวที่ถอนหายใจยาว.
เมื่อเห็นท่าทางของกงจูเฉียนโหยวเช่นนั้น เซียนเซิงสุ่ยจิงที่โบกสะบัดพัดขนนกไปมา เฝ้ามองกงจูเฉียนโหยว ในสายตาของเขานั้นปรากฏประกายแสงความรักอยู่เหมือนกัน.
"เฉียนโหยว หากว่าเป็นข้านะ แน่นอนว่าข้าจะต้องทำเหมือนชายคนนั้นแน่."กู่หลินเร่งรีบเสนอตัวในทันที.
ได้ยินคำพูดของกู่เหลิน กงจูเฉียนโหยวที่เหลือกตามอง มีประกายแสงแห่งความเหยียดหยันปรากฏอยู่ ก่อนที่นางจะหันมาจ้องมองและครุ่นคิดการกระทำของเห่าซานต่อไป.
การที่จงซานสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเทียนหลิงเอ๋อนั้นอยู่ในสายตาคนมากมาย อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเพียงแค่ฉาก ๆ หนึ่งเท่านั้น.
ที่ใจกลางหุบเขา เห่าซานที่ยืนอยู่บนหัวของมังกรเขา เฝ้ามองต้าหงที่กลืนกินจงซานเข้าไป ก่อนที่จะมุดลงพื้นหนีหายไป ปรากฏประกายแสงความเศร้าสร้อยอยู่ในดวงตาของเขา.
"เป็นเพราะว่าเจ้าเห็นว่าข้ากำลังจะตาย เลยเกิดความเศร้าภายในใจอย่างงั้นรึ?"เห่าซานที่พึมพำไปมา เขาที่กำลังคิดหาเหตุผลกับการกระทำของต้าหงที่ดูแปลกประหลาดไป.
"ไปกันเถอะ พาข้าไปยังทิศตะวันตก พาข้าไปเที่ยวชมฉากสุดท้ายก่อนที่ข้าจะตายไป."เห่าซานที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
"ครืนนนนนนนนน"
มังกรเขาที่คำรามพร้อมกับทะยานขึ้นฟ้า หางของมันที่ฟาดลงบนพื้น เกิดเป็นแอ่งลึกห้าเมตร พร้อมกับเลื้อยตรงไปยังทิศตะวันตก โดยมีขันทีเหล่าเหว่ยตามมาด้านหลัง.
เพียงแค่พริบตาเดียว มังกรเขาก็ออกมาจากหุบเขาดังกล่าว ความเร็วของมันนั้นมากกว่าเหล่าอสรพิษนับสิบเท่า เลื้อยผ่านทุกสิ่งกีดขวางพังทลายไปตาม ๆ กัน เกิดเป็นฝุ่นคลุ้งไปทั่ว ผ่านลึกเข้าไปในพื้นที่ภูเขาทางทิศตะวันตก.
"วูซซซซซซ"
จากยอดเขาทางด้านตะวันตก เกิดประกายแสงสีน้ำเงินที่ถูกยิงออกมาเป็นเหมือนกับเปลวเพลิง ที่พุ่งตรงมายังมังกรเขา ไม่ ดูเหมือนว่าจะเป็นขันทีเหล่าเหว่ยที่อยู่ข้าง ๆ มังกรเขาต่างหาก.
ลูกศรดังกล่าวนั้น ทรงพลังเป็นอย่างมาก เห็นเพียงแค่เหล่าเหว่ยที่ตวัดแส้หางม้าเข้าปะทะการโจมตีดังกล่าว.
"ตูมมมมมมมมมมมม"
เกิดระเบิดดังสนั่น เหล่าเหว่ยลอยออกกระเด็นออกมาด้านหลัง.
"เหล่าเหว่ย!"เห่าซานที่กล่าวออกมาเสียงดัง ขณะที่เขายังคงยืนอยู่บนหัวของมังกรเขา.
"ข้ามาที่นี่เพื่อเจ้า เรื่องของเขาไม่ใช่ปัญหาของข้า."มังกรเขากล่าวต่อเห่าซาน ก่อนที่จะพาเห่าซานเลื้อยออกไปอย่างรวดเร็ว.
เห็นเห่าซานที่พยายามจะหนี เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เร่งรีบตามไป.
"เฉียนโหยว พวกเราตามไปเร็วเข้า."กู่หลินที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
"หุบปาก."กงจู่เฉียนโหยวที่เหนื่อยหน่ายเกินไปกับคนผู้นี้แล้ว นางไม่ใส่ใจกับกู่หลิงโดยสมบูรณ์ ซึ่งตอนนี้นางและสุยจิงที่จ้องมองไปยังเหล่าเหว่ยที่ถูกโจมตี.
"ตูมมมม...."
แส้หางม้าของเหล่าเหว่ยที่พังออกเป็นเสี่ยง ๆ คลื่นระเบิดดังกล่าวนั่นทรงพลังเป็นอย่างมาก ทำให้เขาพ่นโลหิตออกมาคำโต และเผยยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่ถูกกระแทกลอยออกมาจากด้านหลัง.
จากทิศตะวันตกนั่น ซึ่งเป็นคนปล่อยลูกศรออกมา ก่อนที่จะมีคนหลายสิบคนที่ลอยออกไปในทันที พร้อมกับพุ่งตรงไปยังเหล่าเหว่ย.
"จับตัวชายชราคนนั้นเอาไว้."กงจูเฉียนโหยวที่ออกคำสั่งในทันที.
เมื่อนางออกคำสั่ง กลุ่มคนด้านหลังนางที่พุ่งออกไปยังขันทีเหล่าเหว่ยทันที แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่เพียงพวกเขา ยังมีกลุ่มผู้ฝึกตนจากทางทิศใต้อีกกลุ่มที่พุ่งตรงไปยังเหล่าเหว่ย.
เหล่าเหว่ยที่ลอยออกมาจากแรงระเบิดดังกล่าวนั่น สัมผัสได้ถึงคนสามกลุ่มที่ทรงพลังมุ่งตรงมาหาเขา ท่าทางที่หดหู่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า พร้อมกับสะบัดมือหนึ่งครั้งก็ปรากฏลูกบอลขนาดใหญ่สีดำอยู่ในมือของเขา.
"ฮ่าฮ่าฮ่า"
ในเวลานี้ขันทีเหล่าเหว่ยที่หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ลูกบอลสีดำทมิฬที่กำลังเปล่งปรากายแสงสายฟ้าแปบ ๆ กระจายไปทั่ว.
ตูมมมมมมม.
ทันทีที่บอลสีดำระเบิดออกมา ร่างของเหล่าเหว่ยก็แหลกเป็นเสี่ยง ๆ ไปในทันที กลายเป็นกองเศษเนื้อและโลหิตกระจายไปทั่วบริเวณ.
คลื่นพลังระเบิดดังกล่าวนั้น ม้วนกวาดออกมารอบ ๆ อย่างรวดเร็ว.
กงจูเฉียนโหยวเมื่อเห็นชายชรานำบอลสีดำออกมา นางก็อุทานออกมา "บัดซบที่สุด."
ขันทีเฒ่าที่ตายไปทำให้กงจูเฉียนโหยวรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เท้าที่เรียวงามของนางกระทืบลงไปบนพื้น.
"ตามเห่าซานไป."กงจูเฉียนโหยวที่ออกคำสั่งด้วยความโกรธเกรี้ยว.
จากนั้น ทุกคนรวมทั้งกงจู่เฉียนโหยวก็ไล่ตามมังกรเขาไป.
เหล่าผู้ฝึกตนจากทุกทิศทุกทางเองก็ไล่ตามไปเช่นกัน.
เป่ยชิงซือที่กำลังจับตัวของเทียนหลิงเอ๋อเอาไว้ ขณะที่ทุกคนเคลื่อนไหว เทียนชาที่เห็นเห่าซานหนีไป เขาก็สั่งการในทันที."ตามไป."
เหล่าศิษย์จากสำนักไคหยางเร่งรีบตามเทียนชาไปในทันที พวกเขามุ่งตรงไปยังทิศทางของมังกรเขา ขณะที่เหาะออกไปนั้น เทียนชาจ้องมองมายังเป่ยชิงซือที่ไม่ได้ตามมาด้วย เขาหันกลับมาจ้องมองว่านางทำอะไรอยู่.
เป่ยชิงซือที่พยายามจะลากเทียนหลิงเอ๋อไปยังทิศของมังกรเขา ทว่าเทียนหลิงเอ๋อในเวลานี้กำลังดิ้นไปมาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้นางขมวดคิ้วไปมา.
"พวกเจ้าไปก่อนเลย."เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
เห็นเป่ยชิงซือไม่ตามมา เทียนชาที่ขมวดคิ้วไปมาจากนั้นก็กล่าวออกมาว่า"หยุนเฉียน เจ้าอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเป่ยชิงซือ อีกห้าวันนับจากนี้ ไปรวมตัวกันที่ภูเขาซุยหยุน."