ตอนที่แล้วChapter 46 มังกรเขา.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 48 ภายในท้องของอสรพิษ

Chapter 47 การเคลื่อนทัพกองกำลังอสรพิษ.


"จงซาน เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าศิษย์พี่ใหญ่อยู่ที่นี่?"เทียนหลิงเอ๋อ สอบถามขณะที่เดินตามไปเรื่อย ๆ .

ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ เทียนหลิงเอ๋อไม่รู้สึกตื่นเต้นดีใจเท่าเมื่อก่อนนัก ระหว่างทางมาที่นี่ เทียนหลิงเอ๋อที่คอยหาเหตุผลโน้มน้าวตัวเองว่านางต้องการเห็นเขาจริง ๆ  นางต้องการเห็นศิษย์พี่ใหญ่นะ เพราะว่านางก้าวไปถึงระดับสิบเซียนเทียนแล้ว กำลังจะก้าวไปถึงระดับแกนทอง เช่นนั้นนางจะสามารถเรียกศิษย์พี่ใหญ่ได้เต็มปากและเป็นศิษย์น้องของเขาจริง ๆ  นางจะไม่ได้เป็นเด็กตัวน้อยในสายตาของศิษย์พี่ใหญ่อีกต่อไปแล้ว.

"พวกเขาไล่ตามเห่าซานมายังพื้นที่ดังกล่าวนี้ มีกลุ่มคนจากสำนักเซียนอื่น ๆ มากมายเข้าล้อมรอบเขา ข้ามั่นใจว่าในกลุ่มคนเหล่านี้จะต้องมีสำนักไคหยาง "จงซานที่คิดชั่วครู่ก่อนที่จะกล่าวออกมา.

"อืม."เทียนหลิงเอ๋อที่พยักหน้าและกำลังครุ่นคิดอยู่ในใจ นางที่ปาก้อนหินไปตามถนนขณะที่พวกเขาก้าวไปด้านหน้า.

จงซานที่ส่ายหน้าไปมาพร้อมรอยยิ้ม ที่เห็นการกระทำของนาง.

ท้ายที่สุด พวกเขาก็ก็มาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง ที่ทางเข้าของหุบเขาแห่งนี้มีม่านหมอกสีขาวอยู่เต็มไปหมด ทว่าหุบเขาแห่งนี้กลับถูกล้อมรอบด้วยภูเขาสูงมากมาย.

มีกลุ่มคนมากมายที่ยืนอยู่แต่ละยอดเขา ทุกคนต่างก็จดจ้องมองไปยังตรงกลางผ่านม่านหมอกด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด.

เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว จงซานที่เริ่มเป็นกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทันที.

"ศิษย์พี่ใหญ่ นั่นศิษย์พี่ใหญ่นี่ มีศิษย์พี่สามด้วย."เทียนหลิงเอ๋อที่ชี้ไปยังยอดเขาทางด้านทิศเหนือด้วยความดีใจ.

มีสิ่งที่เทียนหลิงเอ๋อไม่ได้ตระหนักถึงและสังเกตเห็นศิษย์พี่ใหญ่และเป่ยชิงซือที่อยู่ที่เดียวกัน นับตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว หากนางตั้งใจจ้องมองไปที่ศิษย์พี่ใหญ่ล่ะก็ เขาแทบจะไม่ใส่ใจคนอื่นเลยนอกจากเป่ยชิงซือ.

ชั่วขณะที่เทียนหลิงเอ๋อเห็นศิษย์พี่ใหญ่นางที่รู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันที เหมือนกับว่าเป็นจิตใต้สำนึกของนางที่สั่งการ นางที่เร่งรีบวิ่งตรงออกไปยังยอดเขาทางทิศเหนือ ซึ่งมีกลุ่มคนของสำนักไคหยางประจำการอยู่.

"เดี๋ยว ช้าก่อน....."

จงซานที่ไม่เร็วพอที่จะหยุดเทียนหลิงเอ๋อเอาไว้ เขาที่ทำได้แต่ถอนหายใจยาวและเร่งรีบวิ่งตามนางไป.

คนทั้งสองที่วิ่งผ่านเข้าไปในหุบเขาสร้างความสนใจกับคนอื่น ๆ จ้องมองมาในทันที.

เดิมทีพวกเขาทุกคนที่จับจ้องมองไปยังภูเขาหมอกด้านหน้า รอคอยเห่าซานปรากฏตัวออกมา ซึ่งก็ระมัดระวังกลุ่มอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นคนเริ่มก่อน แน่นอนว่ากลุ่ม ๆ นั้นไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จในตอนท้ายได้.

ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ จ้องมองคนสองคนที่ปรากฏขึ้นมาในทันที มีใครกำลังบุกเข้าจับตัวเห่าซานแล้วรึ?

หลาย ๆ คนที่ตื่นตกใจ อย่างไรก็ตามคนทั้งสองนั้นมุ่งตรงไปยังยอดเขาทางทิศเหนือ ไม่ใช่ภูเขาในม่านหมอกแต่อย่างใด.

พวกเขากำลังทำอะไรกัน?

บนยอดเขาทางทิศตะวันออก "เฉียนโหยว มีคนสองคนเคลื่อนไหวแล้ว."กู่เหลินที่กล่าวบอกหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ ในทันที.

กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมาขณะที่ได้ยินกู่หลินกล่าว พร้อมกับเหลือบมองเขาราวกับว่านางรู้สึกเบื่อนายกับเขาเต็มทนแล้ว.

"กงจู่ ดูเหมือนคนทั้งสองจะอยู่ในระดับเซียนเทียนเท่านั้น พวกเขามุ่งหน้าไปยังยอดเขาทางทิศเหนือ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มาจับตัวเห่าซาน."เซียนเซิงสุ่ยจิง อธิบาย.

"เพียงแค่ระดับเซียนเทียนเองรึ?"กู่หลินชำลองมองไปยังเซียนเซิงสุ่ยจิงด้วยทางไม่อยากเชื่อ.

บนยอดเขาฝั่งทิศเหนือ ศิษย์ของสำนักไคหยางที่ยืนประจำการอยู่."ศิษย์พี่ใหญ่ นั่นหลิงเอ๋อและเจ้าศิษย์ใหม่นั่น นี่นา."หยุนเฉียนที่เอ่ยออกมาในทันที.

เทียนชาที่จ้องมองออกไปเห็นคนทั้งสองที่กำลังมุ่งตรงมายังทิศทางพวกเขาด้วยความเร็ว จากนั้นเขาก็ชำเลืองมองไปยังเป่ยชิงซือที่อยู่ข้าง ๆ เขาพร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.

เทียนชาไม่ได้โง่แน่นอน เขาย่อมรู้ว่าเทียนหลิงเอ๋อชื่นชอบในตัวเขา อย่างไรก็ตาม เป่ยชิงซือที่อยู่ด้านข้างเขาตอนนี้แล้ว เขาไม่ต้องการให้เป่ยชิงซือเข้าใจในตัวเขาผิด ๆ อย่างแน่นอน.

ในเวลาเดียวกันนั้น เป่ยชิงซือเองก็จับจ้องไปยังคนทั้งสองคน นางจดจำได้อย่างแม่นยำ เป่ยชิงซือจ้องมองไปยังจงซาน อดไม่ได้เลยที่จะนึกถึงเรื่องที่พวกเขาเจอกันที่บ่อน้ำร้อน.

จงซาน? ทำไมมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ล่ะ?นางที่จงใจไม่เข้าร่วมประชุมในห้องโถงไคหยางเพราะรู้สึกเขินอายที่ต้องเจอหน้าเขา ไม่นานหลังจากนี้พวกเขากำลังจะเจอกันอีกครั้งอย่างงั้นรึ?

เป่ยชิงซือที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย นางไม่รู้ว่าจะต้องทำหน้าอย่างไรหากว่าต้องเจอจงซานอีกครั้ง.

อย่างไรก็ตามเทียนหลิงเอ๋อตอนนี้กำลังพุ่งพรวดตรงเขาไปหาเทียนชาอย่างรวดเร็ว และเป่ยชิงซือที่อยู่ด้านข้างนั้นนางกลับแสร้งว่ามองไม่เห็น.

จงซานที่ตามเทียนหลิงเอ๋อมาด้านหลังนั้น เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายและสายตาจากเหล่ายอดฝีมือจากยอดเขาต่าง ๆ ที่ล้อมรอบพื้นที่แห่งนี้ สายตาของคนเหล่านี้ไม่เป็นมิตรเลย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการมาของพวกเขานั้นสร้างความวุ่นวายขึ้นเล็ก ๆ  เป็นไปได้ว่าเห่าซานอยู่ในภูเขาหมอกด้านในอย่างงั้นรึ?

ขณะที่พวกเขากำลังวิ่งไปยังภูเขาทิศเหนือด้วยความเร็วนั้น ทันใดนั้น ก็เกิดเสียงดังสนั่นเกิดขึ้นไล่หลัง จงซานและเทียนหลิงเอ๋อจากภูเขาในม่านหมอกตรงกลางทันที.

"ครืนนนนนน"

ด้วยเสียงระเบิดดั่งสนั่นนั่นทำให้เทียนหลิงเอ๋อหยุดอยู่กับที่ พร้อมกับจ้องมองด้วยความตื่นตะลึงไปยังภูเขาในม่านหมอกที่อยู่ตรงกลาง.

ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ภูเขาในเวลานี้หันกลับไปมองภูเขาในม่านหมอกต่อ แม้แต่ตัวจงซานด้วย ต้องไม่ลืมว่าเป้าหมายของพวกเขาซ่อนอยู่ในนั้น และคนของสำนักไคหยางก็ยังหันกลับไปมองอย่างไม่วางตา.

หลังจากเสียงระเบิดดังลั่น ม่านหมอกก็ค่อย ๆ จางหายไป ทุกคนสามารถมองเห็นได้ว่าภูเขาที่โล่งเตียนด้านหน้าได้ สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นไม่ใช่พื้นดินอีกต่อไป ทว่าเต็มไปด้วยสีเหลืองอร่ามของทองคำ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าค่ายกลแห่งนี้ได้ทำการเปลี่ยนภูเขาทั้งลูกให้เป็นโลหะบริสุทธิเพื่อปกป้องภูเขาลูกนี้เอาไว้.

เมื่อค่ายกลแห่งนี้ถูกยกเลิก พื้นที่สีทองเวลานี้ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนสี ซึ่งหลังจากนั้นก็มองเห็นธวัชมากมายที่ปักอยู่รอบ ๆ.

ค่ายกลที่สร้างจากธวัช.

ชายชราในชุดสีดำที่มือของเขานั้นมีแส้หางม้า เขาที่ทอดถอนใจก่อนที่จะใช้มืดตวัดกวาดนำเอาธวัชทั้งหมดลอยไปอยู่ในมือของเขาทั้งหมด.

อสรพิษ จำนวนห้าสิบเอ็ดตัว แต่ละตัวมีขนาดใหญ่สามสิบเมตร กำลังแผ่แม่เบี้ยแสดงท่าทางโกรธเกรี้ยว ดูน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก และยังมีอสรพิษอีกตนหนึ่งที่อยู่ตรงกลาง ร่างของมันมีขนาด 150 เมตร ไม่ใช่แน่นอน ไม่ใช่อสรพิษ แต่มันคือมังกรเขา อีกซ้ำยังมีเป็นมังกรเขาเดียวที่ชี้เด่ยาวออกมาราวกับจะฉีกท้องฟ้า ดูน่าพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก.

มังกรเขาเดี่ยวอย่างงั้นรึ?

เหล่าศิษย์ของแต่ละสำนักต่างก็ส่งเสียงอื้ออึ้ง เป็นไปได้อย่างไร? นั่นมันมังกรเขาเดียวไม่ใชรึ?

มังกรเขาที่มีขนาด 150 เมตรเพียงแค่ลำคอที่ชูขึ้นฟ้าก็มีความสูงห้าสิบเมตรแล้ว ราวกับว่ามันลอยอยู่บนอากาศ ดวงตาทั้งสองข้างที่เย็นยะเยือบสัมผัสได้ถึงกับหนาวเย็นไร้ที่สิ้นสุด ร่างขนาดใหญ่ของมันนั้นนอกจากใหญ่โต ยังทรงพลังเกินกว่าที่จะพรรณนาได้.

บนหัวของมังกรเขาเดียวนั้น มีชายผมสีขาว ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเฉยเมย ท่าทางที่ต่อต้านสวรรค์.

"โฮกกกกกกก”

มังกรเขาที่กำลังส่งเสียงคำราม ร่างกายที่ใหญ่โตเมื่อหมุนวนไปมาเคลื่อนไหวรู้สึกราวกับว่าจะทำให้แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงเหมือนจะพังทลายลงมา.

เสียงคำรามดังก้อง อสรพิษห้าสิบเอ็ดตัว แยกย้ายออกเป็นสามกลุ่ม มันที่พุ่งไปยังทิศทางที่แตกต่างกันสามทิศทาง.

มีกลุ่มหนึ่งซึ่งมีจำนวน 16 ตนที่เลื้อยตรงไปยังทิศเหนือ.

เทียนหลิงเอ๋อที่ยังตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ดังกล่าวถึงกับหวาดผวาขึ้นมาทันที ร่างของจงซานขนทั่วร่างลุกตั้งชันขึ้นมาพร้อม ๆ กัน.

"วิ่ง ๆ  ๆ  ๆ  ๆ  ๆ  ๆ  ๆ "

เสียงของจงซานที่ตะโกนลั่นดวงตากลายเป็นแดงและดึงร่างของเทียนหลิงเอ๋อพุ่งตรงไปยังทิศเหนืออย่างบ้าคลั่ง ซึ่งตอนนี้พวกเขาอยู่บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือ.

ความเร็วของอสรพิษเหล่านั้นน่าพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก แทบจะไม่มีเวลาให้ทันตั้งตัว พวกมันก็พุ่งไปยังยอดเขาต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว หนำซ้ำร่างของพวกมันยังสามารถดำดินได้อีกด้วย.

ขณะที่พวกเขาวิ่งหนีตายอยู่นั้น จงซานที่รู้สึกกระวนกระวายเป็นอย่างมากเมื่อเห็นอสรพิษสามารถดำดินได้ พวกมันที่หายลับตาไป ทว่าจงซานกับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความกระหายโลหิตที่แผ่พุ่งตรงมายังเขา.

คนของสำนักไคหยางที่ตื่นตะลึงไปพร้อม ๆ กัน เป่ยชิงซือและเทียนชาที่เร่งรีบนำพาเหล่าศิษย์ทั้งหมดลงเขาไปในทันที.

บนยอดเขาทิศตะวันออก กงจู่เฉียนโหยวจ้องมองออกไปยังกลุ่มอสรพิษและมังกรเขาพร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.

"มังกรเขา? นี่มันมังกรเขาจริง ๆ รึ?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมาเช่นกัน เขารู้สึกประหลาดใจสุด ๆ  พร้อมทั้งตระหนักได้ว่าสถานการณ์ในเวลานี้ยากที่จะจัดการได้แล้ว.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดขนนกไปมาและหรี่ตามองออกไปเล็กน้อย เขาชำเลืองมองมังกรเขาและเห่าซานที่อยู่บนศีรษะของมัน จากนั้นก็จ้องมองไปยังชายชุดดำเหล่าเหว่ย.

กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมาอยู่นั้น เขาที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว หลังจากที่เห็นใบหน้าของนางที่ดูจริงจัง สมองของกู่หลินก็คิดอะไรขึ้นมาทันที "เฉียนโหยว ข้าจะส่งคนไปจับตัวเห่าซานมาให้เจ้าเอง."

เมื่อเขากล่าวจบ เขาก็หันหน้ากลับมาพร้อมกับเตรียมการออกคำสั่ง"พวกเจ้า......"

"หุบปากซะ."กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองเขม็งไปยังกู่หลิน.

เซียนเซิงสุ่ยจิงเองก็ได้แต่สะบัดพัดขนนกไปมา ส่ายหน้าเล็กน้อย ไม่ต้องเอ่ยเลยว่ากู่หลิ่นนั้นไร้สามารถขนาดใหน เขาได้แต่ลอบถอนหายใจ.

ความเร็วของอสรพิษที่ดำดินได้นั้นน่าสะพรึงกลัวมาก มันกำลังไล่ตามจงซานและเทียนหลิงเอ๋อมาอย่างรวดเร็ว.

เทียนหลิงเอ๋อราวกับว่าจะสัมผัสบางอย่างได้ นางและจงซานที่วิ่งตรงไปยังเชิงเขาขณะที่เป่ยชิงซือและเทียนชาก็กำลังเหินลงมาตรงมาหาพวกเขาเช่นกัน จวนจะถึงแล้ว อย่างไรก็ตาม อสรพิษยักษ์พวกมันกับเคลื่อนที่เร็วกว่าคนเหล่านั้นที่บินอยู่ซะอีก.

"ก้าวขึ้นไปบนศิลา กระโดดเร็วเข้า."จงซานที่ตะโกนเสียงดัง.

แต่กระนั้น ขณะที่พวกเขาก้าวขึ้นไปบนศิลายักษ์ด้านหน้านั้น พวกเขาที่ลอยอยู่บนอากาศ พุ่งตรงไปด้วยหน้าเพื่อค้นพื้นที่ปลอดภัยนั้น.

เทียนหลิงเอ๋อที่ได้กลิ่นคาวกระหายโลหิตของอสรพิษได้ นางไม่ลังเลแม้แต่น้อยทำตามคำแนะนำของจงซานอย่างไม่ลังเล.

แทบจะในทันทีที่ร่างของคนทั้งสองยั้งเท้าลงบนศิลายักษ์ ศิลาก้อนใหญ่ก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ทันทีทันใด ร่างของคนทั้งสองก็ลอยออกไป.

"ตูมมมมมมมมม"

ขณะที่ศิลาก้อนใหญ่แตกกระจายออกไป พื้นที่ที่แยกออกมานั้น ปรากฏหัวของอสรพิษสีแดงที่พุ่งขึ้นมา ปากที่อ้ากว้างพุ่งทะยานอย่างรวดเร็วเล็งไปยังคนทั้งสอง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด