ตอนที่แล้วChapter 45 ไท่จื่อเห่าซาน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 47 การเคลื่อนทัพกองกำลังอสรพิษ.

Chapter 46 มังกรเขา.


"มีเม็ดยาปู่เทียนเหลืออยู่เพียงแค่สองเม็ด."เหล่าเหว่ยที่นำมันออกมาจากกำไลเก็บของ ซึ่งอยู่ในขวดหยกสองขวด.

เขาจ้องมองไปยังลวดลายสลักบนขวดหยกทั้งสอง บนใบหน้าของเห่าซานก็เต็มไปด้วยความหดหู่เศร้าสร้อย.

เขาที่รับมันมาขวดหนึ่ง ก่อนที่จะจ้องมองอย่างระมัดระวังและกล่าวว่า "แค่นี้ก็พอ เพียงแค่สองขวด ก็สามารถอัญเชิญขั้นสุดท้ายได้."

เขาที่เปิดขวดขนาดเล็กออกมา เห่าซานที่ยกขวดหยกขวดแรกขึ้น เทของเหลวสีขาวที่เหนียวหนืดที่อยู่ในขวดหยกออกมา ดูเหมือนว่าเมื่อมันหล่นลงมายังปากของเขา ก็รวมตัวเป็นเหมือนกับเม็ดยาลูกกลอน ก่อนที่จะไหลลงเข้าไปในปาก.

เขาที่กลืนมันลงไปทั้งหมดจนไม่เหลืออะไรในขวด.

ใบหน้าของเห่าซานเวลานี้กำลังรู้สึกเจ็บปวด ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้างราวกับว่าจะหลุดออกมาจากเบ้า จากนั้น ควันสีขาวที่หลั่งไหลออกมาจากร่างกายของเขา และค่อย ๆ ปกคลุมไปทั่วร่างของเขา.

ที่ด้านข้างของเขา เหล่าเหว่ยจ้องมองด้วยสายตาที่เศร้าสร้อยด้วยเช่นกัน.

หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป หมอกสีขาวที่หายไปหมด เหลือเพียงร่างของเห่าซาน.

เพียงแค่หนึ่งก้านธูป หลังจากที่ทนความเจ็บปวดทนทุกข์ทรมานได้ ใบหน้าที่ขาวซีดของเห่าซาน ชั่วระยะเวลาต่อมา ดูเหมือนว่าจะดูมีน้ำมีนวล ดูสงบราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน ดวงตาที่ทอแสง ผมสีเทาตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีดำทั้งหมด.

"ไท่จื่อเห่าซาน."เหล่าเหว่ยกล่าว.

"เหล่าเหว่ย ออกไปยืนด้านหลัง"เห่าซานกล่าว.

"รับด้วยเกล้า."เหล่าเหว่ยที่มายืนด้านหลังของเห่าซานในทันที.

จากนั้น เห่าซานที่หายใจลึกเข้าและร่ายอาคมบางอย่างออกมา หลังจากร่ายอาคม มือซ้ายของเขาที่ตวัดเขียนอักขระสีดำบนอากาศ ซึ่งมันค่อย ๆ กลายเป็นควันสีดำ ๆ ปรากฏขึ้นมา.

หลังจากนั้นสองลมหายใจ ดวงตาของเห่าซานที่เปล่งประกาย มือขวาของเขาที่ประทับลงไปบนพื้น พร้อมกับคำรามออกมาเสียงดัง.

"ต้าหง ออกมา."

ขณะที่ฝ่ามือของเขาสัมผัสกับพื้น หลังมือของเขานั้นก็พ่นควันสีดำทมิฬออกมา ทันใดนั้น มังกรหมอกเก้าตนก็ปรากฏตัวออกมาล้อมรอบเห่าซานทันที แต่ละตัวนั้นมีขนาดสิบห้าเมตร กำลังขดวนล้อมรอบเห่าซาน เป็นมังกรที่มีหมอกสีดำทมิฬแผ่ออกมาจากร่างของมัน.

มังกรหมอกทมิฬทั้งเก้าทันใดนั้น พวกมันก็กระแทกร่างลงไปบนพื้น ปรากฏเป็นเหมือนกับหมึกสีดำสนิทที่เขียนวาดวงเวทย์กระแทกลงไปบนพื้น ไม่ใช่สีดำทั่วไป แต่ดูเหมือนกับหลุมดำ ร่างของพวกมันที่ผุดลงไปดำผุดดำว่ายไปมาระหว่างพื้นหมุนวนไปรอบ ๆ ร่างของเห่าซาน ราวกับว่าร่างของพวกมันนั้นจะทะลวงผ่านทุกอย่างไปได้.

จากนั้นมังกรทั้งเก้าตนก็สร้างวงเวทย์อักขระขนาดใหญ่ขึ้นมา เพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้น ก็ปรากฏแท่นบูชาที่ลอยขึ้นมาจากวงเวทย์.

"ตูมมมมมมม"

แท่นบูชาสีดำทมิฬที่กำลังผุดขึ้นมา และปลดปล่อยหมอกสีดำทมิฬปกคลุมไปทั่ว ทรงกลมครึ่งซีกปิดทับวงเวทย์ขนาดใหญ่จากบนลงล่างเต็มไปด้วยหมอกทมิฬ.

เหล่าเหว่ยที่เฝ้ามองจากด้านนอก รู้สึกกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก.

"วู๊ซซซซซซซซซซ"

หลังจากที่หมอกสีดำทมิฬ ได้จางหายไป ราวกับว่ามันสลายหายไปในอากาศ.

แท่นบูชาที่โผล่ขึ้นมาก็หายไปด้วย ซึ่งตอนนี้เห็นเพียงร่างของเห่าซานที่ยืนนิ่ง ตลอดจนร่างกายของเห่าซานเวลานี้ ผมของเขาที่กลับมาขาวโพลนและมีสีดำเป็นจุด ๆ กระจายไปรอบศีรษะของเขา ใบหน้าที่ซีดขาวขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลังจากที่เขากินเม็ดยาปู่เทียนเข้าไปแล้ว ผมของเห่าซานก็ได้กลายเป็นสีดำไปหมดแล้ว.

คลื่นสีขาวที่สาดซัดไปทั่วร่างของเขา ร่างกายที่สั่นสะท้านราวกับว่าเขาจะล้มลงได้ทุกเมื่อ.

เหล่าเหว่ยที่เร่งรีบ เข้าไปประคองเขาในทันที สีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นกังวล.

ร่างของเห่าซานที่ดูอ่อนแอเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามประกายสายตาของเขาที่ปรากฏความตื่นเต้นดีใจไม่น้อย เพราะที่ด้านหน้าของเห่าซานนั้นมีสัตว์อสูรขนาดมหึมาปรากฏขึ้นมา.

อสรพิษขนาดยักษ์ตนหนึ่ง ร่างสีแดงฉานมีความยาวสามสิบเมตร ปากที่ใหญ่โตของมันสามารถกลืนคนสองคนเข้าไปพร้อม ๆ กันได้อย่างสบาย ๆ  หัวของมันที่ส่ายไปมา หางที่บิดเกลียวแลบลิ้นออกมาพร้อมกับโน้มตัวเข้ามาหาเห่าซาน.

นี่คือสัตว์อัญเชิญที่เห่าซานทำการเรียกออกมา อสรพิษสีชาดยักษ์.

หลังจากนั้น หัวของอสรพิษตนนี้โค้งเข้ามาถูไปที่แขนของเห่าซานไปมา.

เห็นท่าทางของอสรพิษที่ดูเป็นมิตรเป็นอย่างมาก เห่าซานก็เผยยิ้มออกมา เขาพยุงตัวเองขึ้นจากการพยุงของเหล่าเหว่ย พร้อมกับลูบไปที่หัวของอสรพิษ.

"ต้าหง ฮ่าฮ่า ข้าคิดว่าข้าจะอยู่ได้ไม่นานสำหรับโลกนี้ นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเราจะได้พบกัน."เห่าซานที่กล่าวออกมาด้วยความเศร้าใจ.

อสรพิษที่เฝ้ามองเห่าซานราวกับว่ามันเข้าใจคำพูดของเขา มันที่ใช้หัวสะกิดร่างของเห่าซานเบา ๆ  เหมือนว่ามันไม่ต้องการให้เขาตายไป.

"ไม่มีประโยชน์ ครั้งนี้ต่างจากทุกครั้ง ข้ากำลังจะตายแน่นอน เจ้าคือสหายของข้า ตลอดชีวิตของข้า หลายสิบปี ที่เจ้าอยู่กับข้า ปกป้องตำหนักมังกร เจ้าคือสหายคนเดียวที่ข้าเชื่อใจ เพราะว่าเจ้าคือเพื่อนที่ดีที่สุดของข้านั่นเอง."เห่าซาน กล่าว มือของเขาที่ลูบไปมาที่หัวของอสรพิษสีแดง.

"ฟู่ ฟู่."

อสรพิษที่ตะวัดลิ้นของมันไปมา ราวกับว่ามันกำลังรู้สึกขมขื่น.

เห็นต้าหงเป็นเช่นนั้น เห่าซานที่ถอนหายใจและกล่าวออกไปว่า "ด้วยพลังของเจ้า เทียบเท่ากับระดับแกนทองของมนุษย์ ด้านนอกนั้นมีผู้ฝึกตนมากมายต้องการสังหารข้า เจ้าไม่สามารถช่วยข้าได้ ในครั้งนี้ ข้าอัญเชิญเจ้าออกมานั้น ต้องการให้เจ้าช่วยข้านำสิ่งของสิ่งหนึ่งไปยังตำหนักมังกร มอบให้กับสายโลหิตสุดท้ายของตระกูลเห่าที่เหลืออยู่."

"ฟู ฟู."

อสรพิษยักษ์ที่พยักหัวไปมาพร้อมกับตวัดลิ้นออกมาไม่หยุด.

ด้วยท่าทางระมัดระวัง เห่าซานที่นำกล่องไม้ที่สร้างขึ้นมาจากต้นท้อ และสลักด้วยอาคมอักขระมากมายจนดูเหมือนกับศิลปะชั้นสูง.

"ข้าเชื่อใจเจ้า เพราะว่าเจ้าคือสหายที่ยอดเยี่ยมที่สุด  มีเพียงแค่เจ้าที่ไม่เคยขัดแย้งและต้องการผลประโยชน์ใด ๆ จากข้า ต้าหง นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ข้าต้องการขอร้องเจ้า กล่องไม้กล่องนี้ เจ้าจงนำมันไปมอบให้กับทายาทคนสุดท้ายของตระกูลเห่า."เห่าซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจังและเสียงที่เศร้าสร้อย.

อสรพิษสีชาดที่จ้องมองไปยังเห่าซาน ดวงตาของมันที่มีน้ำตาไหลออกมาช้า ๆ  มันที่ใช้ลิ้นตวัดกล่องไม้พร้อมกับนำลงไปในท้องของมัน ก่อนที่จะนำหัวของมันถูไปยังร่างของเห่าซานไปมา.

เห่าซานที่จ้องมองไปยังอสรพิษดังกล่าว พร้อมเผยยิ้มด้วยท่าทางห่อเหี่ยวใจก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า"ก่อนหน้านี้ ข้าได้ทำการอัญเชิญเพื่อน ๆ ของเจ้ากว่าห้าสิบตัวที่ด้านหลัง เจ้าควรที่จะไปทักทายพวกเขาก่อนและหลังจากนั้นก็ทำตามคำแนะนำของข้าและหนีไป."

"ฟู่ ฟู่."

อสรพิษเลื้อยไปมาพันร่างของเห่าซานรอบหนึ่ง จากนั้นก็ใช้ลิ้นของมันเลียที่ใบหน้าของเห่าซานและค่อย ๆ จากไปช้า ๆ  อย่างไรก็ตาม ที่ด้านหลังของวิหารนั้น มีอสรพิษห้าสิบตัว พวกมันมีรูปร่างเหมือนกับต้าหงเว้นแต่สีของร่างเท่านั้น.

ที่ด้านหน้าของวิหารนั้น มีเพียงเห่าซานและเหล่าเหว่ยเท่านั้นที่เหลืออยู่.

เหล่าเหว่ยที่เร่งรีบเข้ามาประครองเห่าซานไว้.

"ไท่จื่อเห่าซาน."เหล่าเหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล.

"เหล่าเหว่ย นำเม็ดยาปู่เทียนเม็ดสุดท้ายมาให้ข้า."เห่าเทียนกล่าว.

เหล่าเหว่ยที่จ้องมองไปยังเห่าซาน สีหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะนำขวดยาสุดท้ายออกมา.

เหมือนก่อนหน้านี้ เมื่อกินเม็ดยาปู่เทียนเข้าไป เห่าซานก็กลับมามีพลังวังชาอีกครั้ง ตอนนี้สีผมของเขากลายเป็นสีดำอีกครั้งแล้ว.

เห่าซานที่ยืนนิ่ง จ้องมองไปยังเหล่าเหว่ย "เหล่าเหว่ย ไปยืนด้านหลังไกล ๆ ".

เหล่าเหว่ยจ้องมองไปยังเห่าซาน น้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เขาที่ถอยห่างออกไปไกลระยะหนึ่ง.

เหมือนดังเช่นก่อนหน้านี้ เห่าซานที่เร่งรีบท่องอาคมออกมา ก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า"ด้วยชีวิตของข้า ขออัญเชิญมังกร."

เห่าซานที่คำรามออกมาเสียงดัง ฝ่ามือของเขาที่ประทับลงไปบนพื้นเหมือนเมื่อครั้งที่แล้ว วงเวทย์อักขระวงกลมขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นมาบนพื้น แทบจะในเวลาเดียวกัน แท่นบูชาขนาดใหญ่ที่มีขนาดใหญ่ร้อยห้าสิบเมตรก็ปรากฏขึ้นมา เป็นแท่นบูชาที่ดูลึกล้ำเป็นอย่างมาก เหมือนกับว่ามันถูกส่งผ่านมิติมาจากดินแดนอันไกลโพ้น.

หมอกดำทมิฬวงกลมครึ่งซีกปรากฏขึ้นมาอีกครั้งคลุมไปทั่วพื้นที่บริเวณ จากนั้นเมื่อหมอกค่อย ๆ สลายหายไป เห่าซานก็ยืนอยู่ตรงกลางแล้ว.

ผมของเห่าซานในเวลานี้ได้กลายเป็นสีขาวทั้งหมด.เวลานี้ไม่มีเส้นใหนที่มีสีดำเลยแม้แต่น้อย เขาที่กลายเป็นชายแก่ขึ้นมาทันที ประกายแสงในตาของเขาที่มีแต่ความบ้าคลั่งถูกทิ้งเอาไว้.

"ไท่จื่อเห่าซาน."เหล่าเหว่ยที่เร่งรีบไปประคองเห่าซานที่อ่อนแอเอาไว้ และเขาที่นำเม็ดยาหลายอย่างให้กับเห่าซานกิน แม้ว่ามันจะอ่อนด้อยกว่าเม็ดยาปู่เทียน ทว่าก็ยังพอทำเนาให้เห่าซานดีขึ้นบ้าง แม้ว่าผลเขาจะไม่กลับมาดำอีกครั้ง ทว่าก็ยังคงทำให้เขายังประคองสติอยู่ได้.

ที่ด้านหน้าของพวกเขาทั้งสองคนนั้นเหมือนกับอสรพิษยักษ์ อาจไม่ใช่ นี่น่าจะถูกเรียกว่ามังกรมากกว่า อย่างไรก็ตาม มังกรตนนี้กลับมีเพียงแค่เขาเดียว เหมือนกับดาบยาวที่ยื่นออกไปด้านหน้าราวกับจะทะลวงท้องฟ้า ทั่วร่างของมันนั้นมีเกล็ดมากมายนับไม่ถ้วน.

มังกรเขาเดี่ยว

มังกรเขาที่ขดตัวไปรอบ ๆ มีความยาวถึงร้อยห้าสิบเมตร หมุนวนโค้งเป็นวงกลมกระจายตัวไปทั่วบริเวณ หัวของมันที่กำลังจับจ้องมองมายังเห่าซาน.

"เห่าซานรึ?"มังกรเขาที่กล่าวออกมา คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะพูดภาษามนุษย์ได้.

"ไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นท่าน ข้าคิดว่าจะเป็นมังกรวารีซะอีก."เห่าซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างคาดไม่ถึง.

"เจ้าได้ใช้อายุขัยทั้งหมดที่มีของเจ้าในการอัญเชิญข้า เจ้าตอนนี้มีอายุแปดสิบปี อยู่ในขั้นเซียนเทียน อายุขัยที่เหลือน่าจะมีร้อยยี่สิบปี ตามที่ได้ทำพันธะสัญญาทั่วไป การถูกอัญเชิญจะได้รับอายุขัยเพียงแค่หนึ่งในสิบปี นั่นก็คือสิบสองปี ทว่าสิบสองปีนั้นมันน้อยเกินไป สำหรับข้า  อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าได้ใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมด ทำไมข้าจะไม่มาล่ะ นับจากนี้เจ้าจะมีอายุขัยเหลือเพียงแค่ก่อนตะวันตกดินเท่านั้น."มังกรเขากล่าว.

"ตะวันตกดินอย่างงั้นรึ? นั่นก็เพียงพอแล้ว ท่านเพียงแค่นำข้าหนีออกไปจากที่นี่ ก่อนตะวันตกดินก็พอ เพียงแค่นี้ก็ทำให้ข้าพึงพอใจแล้ว."เห่าซานกล่าว.

"อืม กล่าวตามจริง ตระกูลเห่าตกต่ำเช่นนี้ ข้ารู้สึกไม่คุ้นเคยนัก เอ่อใช่ ผู้หญิงของเจ้า ที่ตำหนักมังกร นางได้ให้กำเนิดทารกแล้ว แม้ว่าจะให้กำเนิดทารกได้ ทว่านางกลับตายไปด้วย."มังกรเขากล่าว.

"กำเนิด? จริง ๆ รึ?กำเนิดแล้ว?เป็นชายหรือหญิงกัน?"เห่าซานที่กล่าวออกไปในทันที.

"โชคไม่ดีนัก นางเป็นหญิง คงยากที่จะสืบทอดตระกูลเห่าของเจ้าต่อไปได้."มังกรเขากล่าว.

"ผู้หญิง?เป็นผู้หญิงได้อย่างไร? ช้าก่อน เป็นผู้หญิงก็ดี ใช่แล้วเป็นผู้หญิงก็ดีเช่นกัน."เห่าซานที่โกรธเกรี้ยวก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นหัวเราะอย่างพออกพอใจ.

"ผู้หญิงของเจ้า นางเป็นใครมาจากใหนอย่างงั้นรึ?หลังจากที่นางให้กำเนิดบุตร ธิดาของเจ้าเหมือนว่ามีกลิ่นอายปิศาจที่รุนแรงแผ่ออกมา ทั้งที่ผู้หญิงของเจ้าไม่มี กลิ่นอายปิศาจของธิดาของเจ้านั้น ทำให้พืชพรรณรอบ ๆ ตายไปหมด."มังกรเขาที่สอบถามออกไปด้วยความสงสัย.

"ใช่แล้ว ถูกต้องแล้ว! ฮ่าฮ่า ร่างสถิตหมื่นปิศาจ นั่นคือร่างสถิตหมื่นปิศาจ!"เห่าซานที่อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"อะไรนะ?ผู้หญิงของเจ้าคือมารพยาบาทเก้าชีวิตอย่างงั้นรึ?และเจ้าก็ทำให้นางท้อง?"มังกรเขาที่จ้องมองเห่าซานด้วยความไม่อยากเชื่อ.

"มารพยาบาทเก้าชีวิต นางตายด้วยความขุ่นเคืองอย่างรุนแรงตลอดเก้าชีวิต นางที่เป็นปิศาจแห่งความมืด หากว่านางให้กำเนิดบุตรชาย เช่นนั้นก็จะเป็นเรื่องดี เขาจะสามารถทำงานสร้างตระกูลเห่าขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าในเมื่อนางเป็นหญิงสาว ความอาฆาตแค้นที่นางมีตลอดเก้าชีวิต มันจะถูกส่งไปยังร่างของบุตรสาว และทำให้นางเป็นร่างสถิตหมื่นปิศาจ ฮ่าฮ่าฮ่า และนางจะเป็นรุ่นที่สิบของตระกูลเห่า และเป็นลูกหลานรุ่นสุดท้าย ท้ายที่สุดข้าก็มีโชค ทุกอย่างมันถูกฝากเอาไว้ที่นางแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า."เห่าซานที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งด้วยความตื่นเต้น.

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ที่หุบเขาด้านนอกของภูเขาหมอกนั้นมีเงาร่างของคนสองคนที่กำลังเดินทางมายังหุบเขาดังกล่าว.

"โปรดวางใจ ศิษย์พี่ใหญ่จะต้องอยู่ข้างหน้าแน่นอน."จงซานที่บอกต่อเทียนหลิงเอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ เขา.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด