Chapter 42 เพลิงหงหลวน
"ฮึด ฮึบ ฮึบ."
ที่กลางอากาศนั้น เทียนหลิงเอ๋อที่หายใจแรง.
นางที่เริ่มดิ้นรน เพื่อที่ทำให้ตัวเองหลุดพ้น.
อีกฝั่งหนึ่งนั้น ใบหน้าของชายชราเปลี่ยนเป็นสีแดง จ้องมองไปยังจงซานด้วยความไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.
ร่างกายของเทียนหลิงเอ๋อเองก็ส่ายไปมา จากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง นางที่สามารถความคุมร่างได้ทีละนิด?
ร่างกายของนางที่ส่ายไปมา?
เทียนหลิงเอ๋อที่เห็นแขนของนางเริ่มขยับได้แล้ว ดูเหมือนว่าพันธนาการจะอ่อนแรงลง? มันอ่อนแอลง?
เทียนหลิงเอ๋อที่ตะเกียกตะกายอย่างหนักหน่วง คาดไม่ถึง ท้ายที่สุดก็สามารถหลุดออกมาได้.
เทียนหลิงเอ๋อที่พุ่งตรงไปหาจงซาน ซึ่งจงซานตอนนี้ก็ยังถูกพันธนาการเอาไว้.
เมื่อนางไปอยู่ข้าง ๆ ของจงซาน นางสัมผัสได้ว่าพื้นที่รอบ ๆ นั้นราวกับว่าอุณหภูมิสูงขึ้นยิ่งกว่าเก่าซะอีก ทำไม ทำไมล่ะ นางถึงได้รู้สึกร้อนขึ้นในทันที?ราวกับว่ามันจะเผาไหม้ไปทั้งร่างของนาง ความร้อนนี้เป็นความร้อนที่ทำให้นางต้องการที่จะถอดเสื้อผ้าออก ร้อนมาก ๆ .
ส่วนชายชราที่ดูดซับหมอกหลงหลวนเข้าไปเป็นจำนวนมาก ใบหน้าตอนนี้กำลังบิดเบี้ยว สับสัน? เวลานี้เขาเริ่มแสดงท่าทางหวาดกลัวขึ้นแล้ว หวาดกลัวขึ้นเรื่อย ๆ ความรู้สึกนี่จะเป็นอย่างไรในสภาพที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้? มันจะกลายเป็นอย่างไร?
ร่างกายท่อนล่างตั้งแต่เอวลงไปที่ถูกแช่แข็งด้วยน้ำแข็งทมิฬ เขารับรู้ได้ในทันทีว่ามันอยู่ในสภาวะอันตรายอย่างถึงที่สุด.
เขาที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยใบหน้าที่ดุร้าย.
"พรึด ๆ ๆ "
ร่างกายของจงซานที่ลอยม้วนกระแทกเข้าไปยังผนังของถ้ำ หน้าอกที่กระแทกผนังถ้ำอย่างรุนแรง โลหิตที่พุ่งออกมาจากปากของเขา.
ด้วยสัมผัสเทวะของชายชราที่บังคับให้จงซานลอยกระแทกผนัง หากว่าจงซานเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับสี่เซียนเทียนทั่วไปล่ะก็ เขาจะต้องตายแน่นอน.
จงซานที่ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นพร้อมกับจ้องมองออกไปด้วยความยากลำบาก ก่อนที่จะเริ่มหัวเราะราวกับคนเสียสติ.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า."
ยิ่งเขาหัวเราะเสียงดังเท่าไหร่ หมอกหงหลวนก็ยิ่งถูกสร้างขึ้นมามากเท่านั้น พลังงานสีชมพูที่พวยพุ่งตรงไปยังทิศทางของชายชรา จงซานรู้ดีว่าหากว่าจิตใจของชราไม่สามารถควบคุมได้ล่ะก็ เขาจะอยู่ในภาวะอันตราย เขาจะต้องมั่นใจว่าสามารถทำให้ชายชราสับสนและนั่นคือโอกาสเดียวทีจะทำให้เขามีชีวิตรอด.
จงซานที่ใช้พลังจิตสร้างหมอกหงหลวนไปจนถึงขีดสุด ทว่าเขาก็ยังคงกระตุ้นให้มันทำงานต่อไปเหมือนเดิม.
"แค๊ก ๆ ๆ "
เสียงแตกร้าวที่ดังขึ้นที่หว่างคิ้วของเขา ซึ่งมันคือช่องว่างเก็บพลังจิตของเขานั่นเอง.
เขาไม่สามารถใช้พลังจิตได้อีกแล้วรึ?
อย่างไรก็ตาม จงซานที่แสดงสีหน้าที่แปลกประหลาดใจขึ้นมาในทันที.
เพราะว่า ที่ใจกลางของช่องวางนั้นเขาสัมผัสได้ว่า กำลังมีอะไรเปิดออกมา เป็นสีชมพูขนาดเล็ก ส่องประกายแสงวับวาวอย่างคาดไม่ถึง.
เปลวเพลิง? เป็นเหมือนเพลิงขนาดเล็กแต่ดูไร้ซึ่งขอบเขต?
"ไม่หมดไม่ทะลวง ไม่ทะลวงไม่เติบโต ไม่เติบโตไม่จุดเพลิง."
ทันใดนั้นจงซานที่นึกขึ้นได้ถึงข้อความบทหนึ่งในคัมภีร์หงหลวนเทียน ระดับสาม? นี่คือการก้าวไปสู่ระดับสามอย่างงั้นรึ?
จงซานไม่อยากเชื่อถึงการเปลี่ยนแปลงที่ระหว่างคิ้วของเขา ระดับสาม?รวดเร็วขนาดนี้เลยรึ? ทั้งวิชาหงหลวนเทียนและกายาเทพอสูรนั้นต่างก็มี12 ระดับทั้งคู่ ทว่าวิชากายาเทพอสูรกลับยังอยู่ในระดับแรกอยู่เลย ไม่มีท่าทีที่จะทะลวงไปยังระดับสองมาเป็นระยะเวลานานแล้ว.
โชคชะตาช่างเล่นตลกกับข้า? พรสวรรค์ที่ต่ำเตี้ย ทว่าเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะมีพรสวรรค์ด้านการสกัดกลั่นหรือปรุงยาอย่างงั้นรึ?
จงซานยังไม่สามารถขยับได้และเขาก็หมดแรงด้วยการใช้เคล็ดวิชาหงหลวน แม้ว่าตอนนี้เขาจะก้าวไปยังระดับสามก็ตาม เขารู้ดีว่าเขาอยู่ในสภาพอ่อนแอที่จะพยายามใช้งานมัน นอกจากนี้ เขาที่จ้องมองไปยังชายชรา ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก ดูเลวร้ายยิ่งกว่าเมื่อก่อนมาก กระดูกทั่วร่างของเขาราวกับว่ามันกำลังจะทะลวงออกมานอกร่าง กระดูกซีกโครงของขาที่แตกหัก มันมีพลังที่มากมายมหาศาลกำลังจะทะลวงเนื้อของเขาออกมา.
เทียนหลิงเอ๋อที่เห็นจงซานลอยออกไปกระแทกกำแพง นางที่ตื่นตกใจเร่งรีบเข้ามาหาจงซาน ซึ่งจงซานตอนนี้เพิ่งใช้หมอกหงหลวนกระจายออกไปรอบ ๆ เทียนหลิงเอ๋อที่เข้ามาประคองจงซานขึ้น นางที่รู้สึกสับสนขึ้นมาในทันที.
จงซานเวลานี้ไม่สามารถที่จะขยับได้เลย ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้เทียนหลิเอ๋อกระทำตามที่ต้องการ.
อีกฟากหนึ่ง ชายชราในเวลานี้สูญเสียการควบคุมร่างกายกลายเป็นสับสนวุ่นวายไปแล้ว.
ถึงแม้ว่าพลังฝึกตนของชายชราจะทรงพลังเป็นอย่างมาก ทว่าหมอกกำหนัดหงหลวนที่เป็นยาทิพย์ที่ต่อต้านสวรรค์ ดวงตาของชายชราตอนนี้กลายเป็นสีแดงฉาน ถึงแม้ว่าส่วนร่างของเขาจะถูกแช่แข็ง และมันแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ไปแล้ว เขาที่ไม่ต่างจากขันที หากแต่เมื่อได้รับหมอกหงหลวนเข้าไป ก็ไม่สามารถที่จะต้านทานความกระสันซ่านได้.
เส้นผมของเขาที่บิดเกลียวไปมาอย่างบ้าคลั่ง.
"อ๊าก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ "
ชายชราที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว ร่างของเขาที่บิดเบี้ยวไปมา เส้นผมที่เชื่อมต่อกับลาวาตอนนี้ถูกดึงหลุดออกมา น้ำแข็งสีดำที่กำลังเริ่มงอกลุกลามขึ้นมาเรื่อย ๆ กินไปจนถึงหน้าอกของเขาเพียงชั่วพริบตา เขาที่รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากและค่อย ๆ สูญเสียเหตุผลสติสัมปชัญญะทันที ผมของเขาเวลานี้หมุนเกลียวพุ่งลงไปยังลาวาอีกครั้ง พร้อมกับดูดซับความร้อนเข้ามาอย่างไม่สามารถควบคุมได้.
พิษอัคคีมากมายที่ถูกดูดซับเข้ามาภายในร่างของชายชรา.
"อ๊ากก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ !"
ชายชราที่หวีดร้องโหยหวน น้ำแข็งทมิฬที่กัดกินร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วและทั่วร่างของเขาก็เกิดไฟลุกไหม้ไปพร้อม ๆ กัน.
ชายชราที่ลอยออกไปด้วยความเจ็บปวด.
"ตูมมมมมมมมมมมมมมมมม"
ร่างกายของเขาที่กระแทกกับเพดานถ้ำ.
เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งถ้ำแห่งนี้ ก่อนที่การสั่นสะเทือนนั้นจะทำให้ลาวาเกิดคลื่นสาดกระเซ็นไปทั่ว.
หลังจากกระแทกไปยังเพดาน ร่างของชายชราก็เปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง.
"ตูมมมมม"
จงซานที่เฝ้าดูเหตุการณ์รู้สึกหวาดผวาไปพร้อม ๆ กัน.
ถ้ำขนาดใหญ่นี้กำลังจะพังทลายลงอย่างงั้นรึ?ชายชรากำลังจะพังถ้ำแห่งนี้หรือไม่?
อย่างไรก็ตาม จงซานที่นอนกองอยู่บนพื้น เขาที่ไม่สามารถขยับได้เลย แขนทั้งสองข้างของเขาที่สั่นไหว ที่ด้านหน้าของของเขานั้น มีเทียนหลิงเอ๋อที่เคลียคลอร่างของเขาไปมา นางที่จูบและลูบไล้ไปทั่วร่างของเขา ทั้งหน้าและหน้าอกของเขา.
ร่างกายที่อ่อนนุ่ม แขนของนางที่ราวกับปลาหมึกกำลังโลมเล้าไปทั่วร่างเขาไม่หยุดหย่อน ลูบไล้ไปทั่วร่างของจงซาน นางที่รุกเร้าร่างของเขาทีละนิด ๆ ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ต้องทำอย่างไร?และสถานการณ์ตอนนี้จะเป็นเช่นไรต่อไป.
เทียนหลิงเอ๋อที่อยู่บนร่างของจงซาน นางที่สับสนเป็นอย่างมากไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ใบหน้าของนางที่เหมือนสะอึกสะอื้น ปากเล็ก ๆ ของนางที่จูบลงไปบนปากของจงซานไม่หยุด และยังมีเสียงสะอื้นออกมาเบา ๆ ด้วย.
ช่างน่าอายนัก!
บนใบหน้าของจงซานตอนนี้เผยท่าทางเป็นกังวลเป็นอย่างมาก หากว่ายังเป็นเช่นนี้ล่ะก็?ทั้งสามคน ชายชราที่กระแทกไปยังผนังต่าง ๆ อย่างรุนแรง ศิลามากมายที่แตกกระจาย เกิดเป็นหลุมต่าง ๆ ตอนนี้เป็นเรื่องอันตรายเป็นอย่างมาก มีโอกาสที่ถ้ำแห่งนี้จะทรุดพังถล่มลงมา.
เขาที่ไม่สามารถขยับได้ ได้รับบาดเจ็บหนัก อีกทั้งตอนนี้เทียนหลิงเอ๋อยังควบคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้ด้วย.
เห็นเทียนหลิงเอ๋อบนร่างของเขา รูปร่างที่อ่อนนุ่นสง่างามของนาง แม้ว่าจะดูท่าทางตะขิดตะขวงใจอยู่ ทว่าไม่ว่าชายใดก็คงไม่สามารถทนได้ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บหนักอยู่ก็ตาม.
จงซานในตอนนี้ ที่จริงเขาไม่ควรที่จะอยู่ในฤทธิ์ของหมอกหงหลวน ด้วยปรกติเขามีภูมิคุ้มกันเนื่องจากเป็นผู้ใช้วิชา ทว่าเนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บหนัก จึงทำให้มีผลอยู่บ้างเหมือนกัน.
ทำได้แค่เพียงกัดฟัน ทนการโลมเล้าของเทียนหลิงเอ๋อ ทว่าก็ยากที่จะต้านทาน และท้ายที่สุดแขนของเขาที่สั่นไปมา ตอนนี้สามารถขยับได้แล้ว สามารถที่จะคว้าร่างของเทียนหลิงเอ๋อเอาไว้ ร่างกายของเขาที่ค่อย ๆ ขยับได้ทีละน้อย ๆ .
ขณะที่ยื้อหยุดเทียนหลิงเอ๋อเอาไว้ จงซานที่จ้องมองออกไป เห็นถ้ำบางส่วนเริ่มพลังทลายลงมา ดูเหมือนว่ามีเศษหินที่ล่วงหล่นลงมาบ้างแล้ว พลังของชายชรานั้นมีมากมายมหาศาล เขาที่ชนกระแทกพื้นที่รอบ ๆ เสียงดังสนั่น จนทำให้พื้นที่รอบ ๆ พังทลายลงมา.
จงซานที่พยายามที่จะผลักดันให้เทียนหลิงเอ๋อขยับออกไป.
เพื่อหลีกเลี่ยงเศษดินเศษหินที่กำลังพังลงมาก เขาที่ทำการลากเทียนหลิงเอ๋อเข้าไปหลบที่มุมแห่งหนึ่ง.
"ครืน ๆ ๆ ๆ ๆ "
ผุด ๆ ๆ ๆ ๆ คลื่น ๆ ก่อนที่เสียงดังกล่าวจะสงบลง.
สายตาของจงซานที่จ้องมองไปยังใจกลางของบ่อลาวา ชายชราที่กระโดดลงไปยังใจกลางแล้วนั่นเอง.
ผู้แข็งแกร่ง ผู้ฝึกตนที่ยืนอยู่เหนือใคร ๆ แน่นอนว่าเขาคือผู้แข็งแกร่ง เขาที่สูญเสียตัวตน เกิดความสับสนอย่างรุนแรง จนกระโดดลงไปสู่บ่อลาวา.
จงซานที่อาปากค้างนิ่งงัน จ้องมองไปยังชายชราที่หล่นลงไปในบ่อลาวา เขาที่กำลังพยายามตะเกียกตะกาย ทว่าก็ไร้ซึ่งเสียงใด ๆ ออกมาจากปากของเขา.
เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ในที่สุดเขาก็ตะหนักได้ว่าพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้ว.
เขาที่หันกลับมา จ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อที่ไร้สติ นางที่ถอดเสื้อผ้าตัวเองออกมา ตอนนี้เสื้อผ้าของนางที่หลุดลุ่ย เผยให้เห็นชุดชั้นในสีแดงด้านใน เป็นชุดลายปักรูปดอกไม้ขนาดเล็ก กระต่ายน้อยสีขาวที่ชูช่อโผล่ออกมาให้เห็น และกดลงไปยังหน้าอกของจงซาน เสื้อผ้าของจงซานที่ถูกเทียนหลิงเอ๋อฉีกออก.
บนใบหน้าของจงซานนั้นกำลังฝืนยิ้มออกมา.
เมื่อพลังค่อย ๆ กลับคืนมา เพลิงหงหลวนของเขาเวลานี้ลุกไหม้ขึ้นในทันที มันกำลังดูดซับเผาไหม้หมอกหงหลวนอย่างรวดเร็ว พิษหงหลวนในร่างของเทียนหลิงเอ๋อ เพียงแค่สองลมหายใจก็สามารถสลายมันไปได้หมด จงซานที่ยิ้มออกมาอย่างขม ๆ .
เทียนหลิงเอ๋อ? จงซานที่ส่ายหน้าไปมา บนใบหน้าที่เผยสีหน้าที่แปลกประหลาด เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นเหมือนกัน แต่ถึงกระนั้น ภายในใจของเขาก็ยังคงมั่นคง ยังพอที่จะขัดขืนมันได้.
ส่วนหมอกหงหลวนที่อยู่รอบ ๆ ตอนนี้ได้ถูกดูดซับกลับคืนมาหมดแล้ว.
ที่ใจกลางหน้าผากของเขานั้น กลุ่มก้อนเปลวเพลิง ที่ค่อย ๆ ขยายใหญ่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม.
เทียนหลิงเอ๋อที่ถูกถอนพิษก็หลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ดูเหมือนว่าผลของหมอกหงหลวนนั้นจะมีผลไม่น้อย เมื่อถูกดูดซับพิษออกไปหมดนางถึงหลับไปในทันที จงซานได้แต่ฝืนยิ้มออกมา อีกครั้งแล้วที่ต้องดูดซับพิษหงหลวนเทียนออกจากร่างของนาง.