Chapter 41 เจตนาร้าย.
เทียนหลิงเอ๋อที่ชี้ไปยังก้อนน้ำแข็งสีดำ "ทำไมท่านเป็นเช่นนี้?"
"พิษเยือกแข็ง."ชายชราที่ถอนหายใจส่ายหน้าไปมา.
"พิษเยือกแข็ง?"เทียนหลิงเอ๋อทีอุทานออกมาเสียงดัง.
"เป็นไปไม่ได้ พิษเยือกแข็ง? ข้าได้ยินมาจากเตี่ยของข้าว่าใครก็ตามที่ถูกพิษเยือกแข็งจะต้องตายอย่างแน่นอน แล้วท่านเป็นใครกันถึงได้รอด?"เทียนหลิงเอ๋อที่ชี้ไปยังชายชราด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.
"นั่นเป็นเพราะเตี่ยของเจ้ายังไม่ทะลวงผ่านระดับก่อตั้งวิญญาณนะสิ."ชายชรากล่าว.
"หืม ท่านรู้ได้อย่างไร? เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามออกไปด้วยท่าทางโง่งม.
"ฮ่าฮ่าฮ่า."ชายชราหัวเราะอย่างเต็มแรง.
"แล้วท่านใช้เส้นผมของท่านทำอะไร?"เทียนหลิงเอ๋อเห็นเขาไม่ตอบจึงได้สอบถามออกไปอีกครั้ง.
"พิษเยือกแข็งนั้นแช่แข็งแม้แต่ดวงวิญญาณของข้าและข้าไม่มีพลังที่จะสลายมันได้ ดังนั้นข้าจึงทำได้แค่เพียงใช้พิษอัคคีเพื่อต้านมันไว้ ให้ข้าได้มีชีวิตอยู่ต่อได้ ต่อสู้ด้วยพิษเยือกแข็งด้วยพิษอัคคีนั่นเอง."ชายชราส่ายหน้าไปมา พร้อมฝืนยิ้มออกมา.
"ดังนั้น ท่านเลยใช้พิษอัคคีที่อยู่ในลาวาอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
ชายชราคนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนช่างพูดเหมือนกัน เป็นไปได้ว่าเขาไม่ได้พูดคุยกับใครมานานแล้ว และเทียนหลิงเอ๋อยังได้รับคำตอบจากชายชราอีกว่า "ที่จริงแล้ว พิษอัคคีที่ได้จากลาวานั้น ข้าไม่สามารถที่จะดูดซับมันมามากเกินไป หากพิษอัคคีมีมากกว่าพิษเยือแข็ง เช่นนั้นมันจะทำให้ข้าต้องตายทันที ตอนนี้ข้าได้ใช้เส้นผมของข้าเพื่อดูดซับและควบคุมพิษดังกล่าวให้มันสมดุลกับพิษเยือกแข็งในร่างของข้า."
เทียนหลิงเอ๋อที่แสดงท่าทางเห็นอกเห็นใจกับชะตากรรมของชายชรา.
"แล้วมันสมดุลรึยัง? อีกนานแค่ใหนท่านถึงจะสามารถกำจัดพิษเยือกแข็งได้?"เทียนหลิงเอ๋อสอบถาม.
"กำจัดมันอย่างงั้นรึ?หนึ่งร้อยปีที่แล้ว พิษเยือกแข็งนั้นอยู่เพียงแค่เข่าของข้าเท่านั้น "ชายชราที่ทำท่าทางโศกเศร้า บ่งบอกว่าเขานั้นไม่มีทางที่จะกำจัดพิษดังกล่าวนี้ได้.
"ช่างน่าเศร้านัก แล้วมีสิ่งใดที่พวกเราจะช่วยท่านได้?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามออกไป.
"ช่วยข้ารึ?ฮ่าฮ่า เป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพียงแค่ช่วยข้าหาใครคนหนึ่ง."ชายชราที่เผยยิ้มออกมาทันที.
"หาใครคนหนึ่งอย่างนั้นรึ?ใช่แล้ว ข้าจะไปหาเตี่ยของข้าเอง ตราบเท่าที่เตี่ยข้ามาถึง เขาจะช่วยท่านได้แน่นอน."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเห็นใจ.
"ไม่ ข้าไม่ต้องการผู้ฝึกตน คนธรรมดาทั่วไปก็เพียงพอแล้ว.
"คนธรรมดาอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่เต็มไปด้วยท่าทางสงสัย.
จงซาน ภายในใจของเขานั้นยิ่งสงสัยเข้าไปอีก เขาไม่สามารถวางใจได้เลย เขาที่ระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา.
"รับศิลาผลึกนี่ไป ให้คนทั่วไปสัมผัสมัน หาว่ามันส่องแสงออกมาล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นสีใหนก็ตาม เช่นนั้นเขาคือคนที่ข้าต้องการ นำเขามาหาข้าและเขาจะสามารถช่วยข้าได้."ชายชราที่โยนศิลาผลึกใสออกมาจากที่เก็บของต่างมิติของเขา.
เทียนหลิงเอ๋อที่กำลังจะรับทว่าจงซานเร่งรีบคว้ามันเอาไว้ก่อน.
ชายชราดังกล่าวรู้สึกประหลาดใจที่จงซานสามารถเคลื่อนที่ได้ในทันที ทว่าเทียนหลิงเอ๋อเองก็รู้สึกสงสัยในศิลาผลึกคริสตัลนั่นเหมือนกัน.
"เช่นนั้น อาวุโส พวกเราจะไปหาคนที่ท่านต้องการเพื่อมาช่วยอาวุโสก็แล้วกัน "จงซานที่จับมือเทียนหลิงเอ๋อพร้อมจะหนีไปในทันที.
"ไม่."ชายชราที่กล่าวออกมาทันที.
"หืม?"เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยังเขาด้วยท่าทางแปลกประหลาด.
"หากว่าพวกเจ้าหนีไปล่ะ? หนึ่งคนจะต้องอยู่กับข้าที่นี่ ออกไปได้แค่คนเดียว "ชายชราที่กล่าวออกไปอย่างขึงขัง.
"อยู่ที่นี่อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วและจ้องมองไปยังชายชรา.
เทียนหลิงเอ๋อเริ่มรู้สึกไม่พอใจ ทำไมจะต้องให้คนหนึ่งอยู่กับเขาด้วยกัน.
"ออกไปเพียงคนเดียว ข้ารู้ว่าเจ้าจะอยู่ ให้นางออกไป."ชายชราที่ชี้ไปยังจงซานในทันที.
"เฮ้ พวกเราจะต้องกลับมาแน่ ท่านสบายใจได้เลย."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาในทันที.
ชายชราที่ส่ายหน้าไปมา เขาจ้องมองไปยังจงซานและจากนั้นก็จ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อ "หากว่าพวกเจ้าไม่ต้องการ พวกเจ้าทั้งคู่ก็อยู่เป็นเพื่อนข้าที่นี้ได้ ข้าเองไม่มีคนคุยด้วยมานานมากแล้ว."
จงซานที่จ้องมองไปยังชายชราที่ดื้อรั้น เขาที่ขมวดคิ้วไปมา เขาเข้าใจได้ถึงนิสัยของคนจำพวกนี้ ชายคนนี้ถูกขังอยู่ที่นี่มานานจนจิตใจบิดเบี้ยวไปแล้ว หากว่าใครไม่เชื่อฟังเขาล่ะก็ เขาพร้อมที่จะจัดการคนเหล่านั้นในทันที เป็นกระบวนการความคิดที่ตรงไปตรงมา ไร้ซึ่งความปรานี.
"หลิงเอ๋อ เจ้าไปเถอะ หลังจากเจ้าไปจากนี้แล้ว ให้เดินทางไปยังเมืองเปี้ยน แล้วจะมีคนมาหาเจ้าเอง พวกเขาจะช่วยดูแลเจ้าและช่วยหาคน และพาคนที่ต้องการมาที่นี่."จงซานที่กล่าวออกไปพร้อมกับส่งผลึกไปยังเทียนหลิงเอ๋อ.
เห็นจงซานให้ความร่วมมือ ชายชรารู้สึกพึงพอใจ และแสดงท่าทางตื่นเต้นด้วย.
เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยังศิลาผลึกดังกล่าว สายตาของนางที่ไม่ต้องการจะจากไปเลยแม้แต่น้อย.
ขณะที่มือของนางยื่นออกไปรับศิลาดังกล่าวมานั้น ทันใดนั้นมันก็ส่องประกายแสงสีแดงสว่างจ้า ส่องสว่างกลบแสงของลาวาที่ส่องออกมาด้วยซ้ำ.
ชายชราที่จ้องมองออกไปด้วยความตื่นตะลึงยังฝ่ามือของเทียนหลิงเอ๋อ จงซานเองก็แสดงท่าทางประหลาดใจเป็นอย่างมากเช่นกัน เทียนหลิงเอ๋อที่ชำเลืองมองศิลาผลึกด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.
"ร่างสถิตอัคคี นี่มันร่างสถิตอัคคี."ชายชราตัวสั่นกล่าวออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้น หญิงสาวที่อยู่ด้านหน้าของเขาคือร่างสถิตอัคคีอย่างงั้นรึ?นี่คือร่างสถิตอัคคีอย่างงั้นรึ?
"เอ๊ะ มันสว่าง มันสว่างด้วยล่ะ พวกเราไม่ต้องเดินทางออกไปด้านนอกแล้ว ข้าสามารถช่วยท่านได้ ทว่าข้าจะช่วยท่านได้อย่างไร?"เทียนหลิงเอ๋อที่เป็นกังวลกลับมาแสดงท่าทางดีใจ.
ทันใดนั้นจงซานก็เห็นประกายแสงที่เต็มไปด้วยความโลภของชายชราที่จ้องมองมายังร่างของเทียนหลิงเอ๋อได้.
เฮ้ ไม่!
"วิ่ง."จงซานที่จับมือของเทียนหลิงเอ๋อแน่นและพุ่งตรงออกไปยังทางเดินราวกับลูกศรที่ออกจากคัน.
ก่อนที่นางจะตระหนักได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เทียนหลิงเอ๋อที่รู้สึกเจ็บที่ข้อมือ ร่างของนางที่ถูกลากไปในทันที.
"หึ!!!"
ชายชราที่แค่นเสียงตามหลัง ร่างของจงซานและเทียนหลิงเอ๋อที่แข็งค้าง ลอยกลับมาช้า.
"ท่านกำลังทำอะไร?"เทียนหลิงเอ๋อที่ตะโกนออกมาทันที.
"ไม่ใช่เจ้าบอกว่ากำลังจะช่วยข้าอย่างงั้นรึ?"ชายชราที่เผยสีหน้าบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย.
"ช่วยท่าน แล้วข้าจะช่วยท่านอย่างไร?"เทียนหลิงเอ๋อรู้แล้วว่านางพบกับปัญหาแล้วด้วยนางเห็นใบหน้าท่าทางที่ชั่วร้ายของชายชราในเวลานี้.
"ง่ายมาก ข้าต้องการร่างกายของเจ้า ร่างสถิตอัคคี ตราบเท่าทีเจ้ามอบร่างกายของเจ้ามา เช่นนั้นข้าก็จะสามารถทำให้ร่างของของข้าสะอาดจากพิษเยือกแข็งได้ ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าคือร่างสถิตอัคคี น่าเสียดาย หากว่าข้าพบเจอเจ้าก่อนถูกพิษล่ะก็ ข้าคงสามารถใช้ร่างกายของเจ้าเพื่อใช้ในการบำเพ็ญเพียรได้ มันจะกลายเป็นร่างที่สมบูรณ์แบบที่สุด."
"ไม่ ไม่! เจ้าสารเลว ไม่นะ!"เทียนหลิงเอ๋อที่ร้องออกมาด้วยความตื่นตกใจหวาดผวา.
ยึดครองร่าง? ยึดครองร่างของนาง? ในเวลานี้ แม้แต่คนไร้เดียงสาเช่นเทียนหลิงเอ๋อ นางก็สามารถบอกได้ถึงเจตนาร้ายของชายชราได้ เขาต้องการที่จะลบจิตสำนึกและวิญญาณของนางออกไปจากร่างอย่างงั้นรึ?
"อาวุโส."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางสุภาพ.
ชายชราจ้องมองมายังจงซานด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"ระดับสี่เซียนเทียนอย่างงั้นรึ? มันน่าอัศจรรย์ใจจริง ๆ ที่คนเช่นเจ้าจะก้าวไปถึงระดับสี่เซียนเทียนด้วยพรสวรรค์เช่นนี้."ชายชราแค่นเสียง.
"อาวุโส พวกเรามาจากสำนักไคหยาง นี่คือบุตรสาวของประมุขสำนักไคหยาง ข้าจะหาร่างอื่นมาให้กับท่าน อย่าได้ทำอันตรายนางเลย."จงซานกล่าวออกมา.
"สำนักไคหยางอย่างงั้นรึ?"ชายชราหยุดชั่วขณะ.
ท้ายที่สุด เขาก็ส่ายหน้าไปมา."หากว่านางไมใช่ร่างสถิตอัคคีล่ะก็ แน่นอนว่าข้าอาจจะไว้หน้าให้กับสำนักไคหยางได้ ทว่าร่างสถิตอัคคีนั้นยากที่จะหาพบได้ในหนึ่งพันปีจะให้ข้ายอมแพ้ได้อย่างไร ในเมื่อสวรรค์ส่งนางมาให้ข้าแล้ว เช่นนั้นจงโทษชะตาของพวกเจ้าที่มันเลวร้ายเอง."
ขณะที่เขากล่าวนั้น ร่างของเทียนหลิงเอ๋อที่ค่อย ๆ ลอยผ่านจงซานไป.
เทียนหลิงเอ๋อที่กำลังหวาดผวาเป็นอย่างมาก นางกำลังจะสูญเสียร่าง?นางที่หวาดกลัวจนต้องร้องไห้เสียงดัง.
"จงซาน ฮือฮือ จงซาน ช่วยข้าด้วย."เทียนหลิงเอ๋อที่ร้องไห้โฮขณะที่นางลอยไป.
"จงซาน จงซาน ช่วยข้า."
"ช่วยเจ้ารึ? แค่เขานี้รึ?"ชายชราแค่นเสียง.
จงซานรู้ว่าหากร่างของเทียนหลิงเอ๋อถูกยึดครอง ก็ไม่ต่างจากตาย ทว่าท่าทางของเขาที่แสดงท่าทางหวั่นเกรงสำนักไคหยาง แน่นอนว่าเขาจะต้องสังหารจงซานเพื่อปิดปากเขาไม่ให้ไปรายงานที่เกิดขึ้นแน่.
ไม่ว่าอย่างไรชายชราคนนี้ไม่มีทางปล่อยจงซานไปแน่.
หลังจากคิดอย่างดีแล้ว ภายในใจของจงซานที่บีบรัด ที่หน้าผากของเขาพลังจิตที่ถูกกระตุ้น อย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับส่งมันไปที่ฝ่ามือ จงซานที่มีเพียงโอกาสเดียว เขาไม่สามารถล้มเหลวได้ เขาที่ต้องการสร้างหมอกหงหลวนขึ้นมาให้มากที่สุด.
วิชากายาเทพอสูร!
"อ๊าก ๆ ๆ ๆ "
จงซานที่คำรามลั่น กล้ามเนื้อทั่วร่างที่ขยายเป็นสองเท่า เขาที่พยายามต้านทานการกักขังด้วยสัมผัสเทวะอย่างบ้าคลั่ง.
"ครืน ๆ ๆ "
เขาที่หลุดออกมาจากพันธนาการ.
ชายชราที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยความประหลาดใจ เขาที่ปล่อยสัมผัสเทวะเพื่อควบคุมร่างกายของเป้าหมายซึ่งได้คำนวณพลังตามระดับพลังของเขา.แน่นอนว่าการควบคุมร่างของจงซานก็ต้องใช้พลังในระดับห้าเซี่ยนเทียนเพื่อควบคุมร่างของเขา.
เห็นจงซานที่หลุดจากพันธนาการ เทียนหลิงเอ๋อที่สิ้นหวังมืดมน ดูเหมือนว่าจะเริ่มมีความหวังอีกครั้งแล้ว ทุกครั้งที่นางมีปัญหา จงซานจะเป็นวีรบุรุษมาช่วยนางได้ทุกครั้ง.
เมื่อจงซานหลุดจากพันธนาการ ดาบยักษ์ของเขาที่ปรากฏขึ้นที่ฝ่ามือ.
ทลายภูเขาสวรรค์!
ที่ไกลออกมา จงซานที่ตวัดปราณดาบเล็งไปยังร่างของชายชรา พร้อมกับนำพาพลังงานสีชมพูพุ่งตรงไปยังร่างของชายชราทันที.
"ชิ!"ชายชราแค่นเสียง เขาที่ขยับร่างกายเล็กน้อยเพื่อสะกดจงซานอีกครั้ง.
ดาบยักษ์ที่หยุดอยู่กลางอากาศทว่าพลังงานสีชมพูนั้นไม่ได้หยุด มันยังคงพุ่งตรงไปยังชายชรา.
ชายชราถึงกับตะลึงงัน สัมผัสเทวะของเขาไม่สามารถหยุดพลังงานสีชมพูได้อย่างงั้นรึ?เป็นไปได้อย่างไร?
"พรึด ๆ ."พลังงานสีชมพูที่เขาปกคลุมร่างกายของชายชรา พร้อมกับซึมเข้าไปในร่างทันที.
ชายชราที่เร่งรีบส่งพลังออกมาต้านทานการรุกรานของพลังงานสีชมพู อย่างไรก็ตามพลังงานสีชมพูนั้นเข้าสู่ร่างกายของเขาก็ละลายและกระจายหายไปในทันที.
ชายชราที่รับรู้ว่าเกิดสิ่งผิดปรกติและเร่งรีบตรวจสอบร่างกายของตัวเองในทันที.
จงซานที่เห็นพลังงานสีชมพูซึมเข้าร่างกายของชายชราได้ ภายในใจของเขาที่รู้สึกดีใจ แน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วมันจะทำงานในทันที.เขาที่กระตุ้นสร้างหมอกดังกล่าวขึ้นอีก
หมอกกำหนัดหงหลวนที่กระจายออกไปรอบ ๆ มันแพร่กระจายไปทุกทิศทุกทาง.
ด้วยวิชาหงหลวนระดับสอง ทำให้มันทรงพลังมากกว่าเดิม เขาที่ใช้วิชากายาเทพอสูร ซึ่งแน่นอนว่ามันให้ปราณแท้ของเขาเข้มข้นมากกว่าเดิม ทำให้หมอกหงหลวนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเป็นเท่าตัว.
เวลาแค่อึดใจเดียวมันก็กระจายออกไปรอบ ๆ พื้นที่แห่งนี้ไปแล้ว.