ตอนที่แล้วChapter 39 ระดับ 4 เซียนเทียน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 41 เจตนาร้าย.

Chapter 40 ชายชราที่น่าสะพรึงกลัว.


ครึ่งวันผ่านไป หลังจากที่ผลของวิชากายาเทพอสูรได้หายไปแล้ว.

จงซานสามารถสัมผัสได้ว่าพลังในระดับสี่เซียนนั้น มีพลังมากมายจนเอ่อล้นออกมาจากร่างของเขา.

เพียงแค่ผลเดียวก็ทำให้เขาประสบผลได้มากมายขนาดนี้เลยรึ?

จงซานที่เด็ดผลโลหิตนิพพานที่เหลืออยู่ลงมา.

"หลิงเอ๋อ แบ่งกันคนละหนึ่งลูก."จงซานกล่าว.

"ข้าไม่ต้องการแล้ว มันไม่มีประโยชน์สำหรับข้า ข้าต้องใช้สิบลูก หากน้อยกว่านั้นมันไม่มีผลใด ๆ ทั้งสิ้น เจ้าเก็บเอาไว้เถอะ ผลโลหิตนิพพานเป็นยารักษาบาดแผลด้วย เจ้าควรที่จะเก็บไว้."เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.

"อืม."จงซานพยักหน้า ไม่ได้โต้แย้งแต่อย่างใด.

"ข้าเก็บไว้ในกำไลเก็บของได้ใช่ใหม?"จงซานสอบถาม.

"แน่นอน เตี่ยบอกข้าว่าผลโลหิตนิพพานนั้นไม่มีเหี่ยวเฉา เจ้าสามารถเก็บเอาไว้ในกำไลเก็บของหนึ่งปียังไม่เสียเลย."เทียนหลิงเอ๋อที่นึกถึงคำพูดที่นางได้ยินมา.

"อืม ดีเลย."จงซานพยักหน้าและเก็บผลโลหิตนิพพานทันที.

"จงซาน เจ้าพร้อมรึยัง?พวกเราจะทำการสำรวจด้านในถ้ำแล้ว เพียงแค่เข้ามาก็พบกับผลโลหิตนิพพานแล้ว บางทีเมื่อเข้าไปด้านในอาจจะมีอะไรที่ดีกว่าก็ได้."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความคาดหวัง.

"อืม."จงซานพยักหน้า.

จงซานที่จับดาบยักษ์เอาไว้แน่น หลังจากทีเขาฟื้นฟูร่างกายเสร็จแล้ว เขารู้สึกประหลาดใจกับถ้ำแห่งนี้เป็นอย่างมาก ราวกับว่าถ้ำแห่งนี้เพิ่งถูกสร้างขึ้นมา หนำซ้ำผลโลหิตนิพพานเติบโตขึ้นมาได้เองอย่างงั้นรึ? มีอะไรที่แปลกประหลาดหลายอย่างที่ดูเหมือนไม่สมเหตุสมผลเลย ราวกับว่ามีใครจงใจสร้างมันขึ้นมา.

"ระวังตัวด้วย ตามหลังข้ามา."จงซานกล่าวเตือน.

ไม่รู้ว่าทำไมเช่นกัน เทียนหลิงเอ๋อที่ได้ยินเสียงของจงซานตอนนี้ทำให้นางรู้สึกดีไม่น้อย นางที่เคยดื้อรั้นมาตลอด เวลานี้กลับทำได้แค่ตอบรับคำพูดของเขา "อืม."

ดาบยักษ์ที่เฝ้าระวังเขาเดินนำออกหน้าไป จงซานและเทียนหลิงเอ๋อก้าวตรงลึกเข้าไปในถ้ำ.

หลังจากนั้น จงซานเริ่มประหลาดใจสังเกตเห็นว่ายิ่งเข้าไปลึกก็ยิ่งเป็นทางลาดชันลงไปเรื่อย ๆ ลึกลงไปใต้พื้นดิน.

ประกายแสงสีแดงที่สว่างจ้าส่งผ่านออกมาจากด้านใน.

จงซานสังเกตเห็นว่าโครงสร้างของถ้ำแห่งนี้ดูไม่ปลอดภัยแม้แต่น้อย มันพร้อมที่จะพังถล่มลงมาทุกขณะ.

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาช้า ๆ และค่อย ๆ เดินลงไป ลึกลงไปนั้น มีความร้อนที่สูงมาก แสงสว่างสีแดงที่เริ่มสว่างขึ้นเรื่อย ๆ  จงซานสามารถสัมผัสได้ในทันที ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเป็นอย่างมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ความจริงพวกเขาต้องการที่จะลงมาด้านล่าง วาดหวังว่าจะเจอโชคลาภบางอย่าง ทว่ามีอะไรอยู่ด้านล่างอย่างงั้นรึ?

พวกเขารู้สึกว่าได้ลงมา ลึกกว่าพันเมตรแล้ว ถ้ำแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก มีความลึกถึงหนึ่งพันเมตรเลยรึ?

ในเวลาเดียวกัน จงซานที่สัมผัสได้ว่าอุณหภูมิรอบ ๆ นี้ร้อนมากเทียบเท่าจุดเดือดทีเดียว ไม่ บางทีอาจจะร้อนยิ่งกว่านั้น เสื้อผ้าของเขาในเวลานี้เต็มไปด้วยไอร้อนแผ่ออกมา จงซานที่ลองนำน้ำออกมาจากกำไลเก็บของเทลงในถ้วย พริบตาเดียวเท่านั้น กลายเป็นไอน้ำระเหยไปในทันที.

เขาที่เก็บถ้วยและตอนนี้ได้ยินเสียงดัง "ผุด ผุด "อยู่ห่างออกไป ลาวา?เขามั่นใจว่าจะต้องเป็นลาวาแน่นอน.

เสียงดังกล่าวนี้คือเสียงพองตัวของลาวา เขาที่สังเกตเห็นเหตุการณ์แปลก ๆ  ในเวลาเดียวกันพื้นที่แห่งนี้ดูหนาแน่นไปด้วยหมอก เต็มไปด้วยไอน้ำมากมาย.

ไอน้ำที่ออกมาจาผนังถ้ำ ทว่ามันกลับถูกดูดลงไปด้านล่างแทบจะในทันที.

"จงซาน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"เทียนหลิงเอ๋อที่ชี้ไปยังไอน้ำที่ถูกดูดออกมาจากผนังด้วยท่าทางประหลาดใจ.

มีไอน้ำที่ถูกดูดออกมาจากก้อนศิลาอย่างงั้นรึ?เป็นไปได้อย่างไร?เทียนหลิงเอ๋อที่เบิกตากว้างไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.

"น้ำใต้ดิน ถูกเปลี่ยนไห้เป็นไอน้ำ ก่อนที่จะถูกดูดออกไป."จงซานที่จับจ้องอยู่.

"น้ำใต้ดิน?"เทียนหลิงเอ๋อที่รู้สึกประหลาดใจมา เตี่ยของนางเคยเล่าให้นางฟัง แต่ว่านางก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นกัน.

"แต่ว่า...."จงซานที่หรี่ตาจ้องมองด้วยท่าทางสงสัย.

"แต่ว่าอะไรอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามออกไป ทำไมพวกเขาถึงหยุดไม่ไปข้างหน้าล่ะ?

"แต่ว่า ทำไมมันถึงถูกดูดลงไปด้านล่าง? เหมือนกับว่าไอน้ำเหล่านั้นถูกส่วนลึกในถ้ำนั้นกำลังดูดเข้าไปอยู่."จงซานที่กำลังครุ่นคิดกับสิ่งที่เขาเห็น.

ตามความเข้าใจของเขาแล้ว หากว่ามีลมอยู่ใต้ถ้ำนั้นปกติมันจะต้องพัดออกมา.

อย่างไรก็ตาม การที่มันถูกดูดลงไปด้านล่างนี้ เป็นเรื่องที่แปลกไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นกัน.

"พวกเราก็แค่ลงไปดู ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเราจะรู้อย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นและวิ่งตรงลงไปด้านล่างทันที.

"เฮ้ ช้าก่อน."จงซานที่เร่งรีบวิ่งตามนางไปทันที.

พวกเขาที่วิ่งลงไปราว ๆ  20 เมตร ซึ่งก็ไปถึงจะสิ้นสุดทางเดินเช่นกัน.

มีลาวา ที่กำลังเดือดปุด ๆ  ที่จุดสิ้นสุดของถ้ำ เป็นภาพที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก เป็นบ่อลาวาขนาดใหญ่และมีระเบียงเป็นชั้น ๆ ล้อมรอบ ซึ่งด้านบนนั้นเป็นหลุมขนาดใหญ่เป็นเหมือนกับปล่องภูเขาไฟที่ปล่อยควันไฟและไอน้ำออกไปเหมือนทุกที่.

นี่คือลาวาใต้ดิน.

ไอน้ำมากมายที่ถูกดูดซับลงมาที่นี่และปล่อยออกไปยังปล่องควัน.

บ่อลาวานั้นมีขนาดรัศมีหนึ่งร้อยเมตร ฟองลาวามากมายที่ผุดปุด ๆ กลายเป็นฟองและระเบิดออกเป็นระยะ ๆ .

ระเบียงรอบ ๆ สระเหล่านี้เป็นฝีมือสร้างขึ้นมาอย่างแน่นอน เนื่องจากพื้นที่ดูเรียบมากและยังอยู่ด้านล่างสุดของถ้ำอีกด้วย.

เทียนหลิงเอ๋อที่นำหน้าเขามาก่อนอย่างรวดเร็ว ทว่าไม่รู้ว่านางคิดอะไร นางเปลี่ยนเป็นหันหลังหันวิ่งกลับคืนมา.

ร้อนอย่างงั้นรึ? แม้แต่จงซานยังสามารถทนได้ แน่นอนว่าความร้อนย่อมไม่มีปัญหาสำหรับเทียนหลิงเอ๋อ หรือว่านางไปเจออะไรด้านใน.

"ผี มีผีด้านใน!"เทียนหลิงเอ๋อที่พุ่งกลับหลัง พร้อมกับพุ่งเข้าสู่อ้อมกอดของจงซาน.

"หึ หึ ในที่สุดพวกเจ้าก็มาถึงอย่างงั้นรึ?"เสียงที่แผ่วเบาดังผ่านมาจากด้านล่างแต่ก็ทำให้พวกเขาได้ยิน.

จงซานที่มองออกไปถึงกับทำให้หนังหัวชาหนึบ ขนลุกเกรียวเลยทีเดียว.

ชายผู้นี้เป็นใครกัน?

แม้ว่าจะมีรูปร่างเป็นมนุษย์ทว่าก็เพียงครึ่งตัวเท่านั้น จากส่วนเอวลงไปด้านล่างนั้นถูกผนึกไว้ในของแข็งเหมือนกับกล่องน้ำแข็ง ครึ่งร่างของเขานั้นถูกแช่แข็งเอาไว้ นอกจากนี้ก้อนน้ำแข็งที่ผนึกเขานั้นยังเป็นสีดำอีกด้วย แม้ว่าจะอยู่ใกล้ ๆ กับลาวาก็ตาม อากาศรอบ ๆ กายเขาก็ยังคงส่งผ่านความเย็นออกมา ผ่านลึกเข้าไปในน้ำแข็งสีดำนั้น จงซานสามารถมองเห็นขาของเขาได้ อย่างไรก็ตามมันอาจจะไม่เรียกว่าขาอีกต่อไปแล้ว.

ขาทั้งสองข้างถูกแช่แข็งนั้นหักเป็นส่วน ๆ  มีกระดุกที่ทิ่มออกมาจากผิวหนัง บางส่วนกลายเป็นผลึก ดูเป็นภาพที่สยดสยองเป็นอย่างมาก

ส่วนเหนือเอวขึ้นไปนั้นกลับมีความร้อนที่สูงมาก ร่างกายท่อนบนของเขานั้นแดงไปหมด และที่สำคัญที่สุด ดูน่าขนลุกอย่างยิ่งก็คือเส้นผมของเขา.

ผมทุกเส้นของเขาที่ยืดยาวออกมา ส่องประกายแสงสีแดงถักเป็นตาข่ายและเชื่อมต่อกับลาวา หากไม่เห็นกับตาคงไม่มีใครเชื่ออย่างแน่นอน.

จงซานที่สังเกตเห็นใบหน้าของเขา นับว่าเป็นชายชราที่อัปลักษณ์ทีเดียว ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นย่อมรู้สึกขวัญผวาไปตาม ๆ กัน.

"ข้าดูเหมือนผีขนาดนั้นเลยรึ?"เสียงของชายชราที่น่าพรั่นพรึงเผยยิ้มออกมา.

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา มือของเขายังคงกุมดาบเอาไว้แน่นเพื่อป้องกันตัวเอง.

"ท่านเห็นพวกเราตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"จงซานถามออกไปด้วยท่าทางสุขุม.

"ตั้งแต่พวกเจ้ากินผลโลหิตนิพพานแล้ว."ชายชราที่น่าหวาดกลัวเผยยิ้มอย่างสยอดสยองออกมา.

เทียนหลิงเอ๋อตอนนี้รับรู้แล้วว่าเขาไม่ใช่ผี นางที่ค่อยหันกลับมาจ้องมองไปยังชายคนดังกล่าวอีกครั้ง.

"พวกเราขออภัยท่านด้วยที่เข้ามารบกวน ตอนนี้พวกเราขอไปตามทางของพวกเราก็แล้วกัน "จงซานเร่งรีบกล่าวออกมา พร้อมกับเร่งรีบถอนตัวกลับ ซึ่งมีเทียนหลิงเอ๋อในอ้อมแขนของเขา.

"ข้าไม่เคยเห็นคนมีชีวิตมานานกว่าหนึ่งร้อยปีแล้ว พวกเจ้าไม่คิดที่จะมาพูดคุยกับชายชราคนนี้สักเล็กน้อยหน่อยรึ?"ชายชราที่น่ากลัวกล่าวออกมาด้วยเสียงหดหู่.

เทียนหลิงเอ๋อที่รู้สึกเห็นอกเห็นใจเมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา เขาคงจะเหงาขนาดใหนที่ไม่เห็นใครมานานนับร้อยปีแล้ว?บางทีแค่อยู่คุยกับเขาสักพักก็คงได้.

"ขออภัย อาวุโสด้วย พวกเรามีธุระที่ต้องจัดการ ไว้พวกเราจะมาเยี่ยมท่านครั้งหน้าก็แล้วกัน."จงซานที่เร่งรีบถอยหลังทันที เขาไม่มีความสงสารอาทรต่อชายชราคนนี้ได้แน่.

เห็นจงซานที่ยืนกรานที่จะจากไป ทำให้ชายชราดังกล่าวรู้สึกไม่พอใจ และเขาชำเลืองมองออกไป ทันใดนั้น จงซานก็แข็งทื่อไปในทันที.

จงซานที่รู้สึกหวาดผวาขึ้นมาทันที เขาไม่สามารถขยับได้? เกิดอะไรขึ้นกัน? ชายชราคนนี้ทำอะไรกัน? ในเวลาเดียวกันนั้น เทียนหลิงเอ๋อเองก็เบิกตากว้างไม่อยากเชื่อเช่นกัน แม้แต่เทียนหลิงเอ๋อก็ไม่สามารถขยับได้.

"ข้าเพียงแค่ต้องการคนพูดคุยด้วยเท่านั้น."ชายชราคนดังกล่าวพูดขึ้นมาอีกครั้ง.

จากนั้น ร่างของจงซานและเทียนหลิงเอ๋อก็ลอยขึ้นมาบนอากาศถูกลากมุ่งตรงไปหาชายชรา.

"อ๋า ๆ  ๆ  ๆ  เจ้าทำอะไร?"เทียนหลิงเอ๋อที่ตะโกนโวยวายเสียงดัง.

"อาวุโส พวกเราจะอยู่ วางพวกเราลงก่อน."จงซานที่กล่าวออกมาทันที.

"ครืน ๆ  ๆ ."

พวกเขาทั้งสองที่หล่นลงไม่ไกลจากชายชรา.

ชายชราผู้นี้ เพียงแค่มอง ก็ทำให้พวกเขานิ่งงัน เป็นคนที่แข็งแกร่งทรงพลังมาก.

จงซานที่รู้สึกระวังตัวกับท่าทางของชายชราคนนี้เป็นอย่างมาก เขาที่เก็บดาบของเขาเข้าไว้ในกำไลเก็บของเพื่อลดท่าทางขัดขืนของเขาออกไป.

แน่นอนว่า ชายชราที่รู้สึกยินดีกับการกระทำของจงซาน อย่างไรก็ตามแม้ว่าจงซานจะลดการป้องกันลง ทว่าก็ยังระวังภัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม.

"ท่าน ท่านหยุดพวกเราและควบคุมพวกเราด้วยสัมผัสเทวะอย่างงั้นรึ?แม้แต่เตี่ยของข้ายังไม่สามารถทำได้ ท่านแข็งแกร่งกว่าเตี่ยของข้าอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่นั่งอยู่บนพื้นจ้องมองไปยังชายชราด้วยความระมัดระวัง.

"บางทีนะ."ใบหน้าที่น่าหวาดกลัวอัปลักษณ์ของชายชราที่เผยยิ้มออกมา.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด