Chapter 4 เขตแดนเซียนเทียน.
บุตรทั้งสามที่ลอยขึ้นไปบนระเบียงด้านบน?
หัวใจของเหล่าเยว่จื่อจงที่เต้นไปมา รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีนัก.
"เป็นไปได้ว่าพวกเขาขึ้นไปบนระเบียงด้านบน เพื่อที่จะขอเม็ดยาโพวจวินกับอาจารย์พวกเขา แน่นอนพวกเขาจะต้องไปขอเม็ดยาอย่างแน่นอน."เหล่าเย่วจื่อจงที่กล่าวปลอบใจตัวเอง.
ทว่าบุตรชายทั้งสามของเขา หลังจากที่ขึ้นไปบนระเบียงแล้ว ก็ไปยืนอยู่ข้างหลังอาจารย์ไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ เหล่าอาจารย์ที่จ้องมองอย่างเย็นชามาด้านล่างรอคอยเหล่าสมาชิกคนอื่น ๆ บินขึ้นมา.
เป็นความจริงบนระเบียงบนสุดนั้น จงซีจิว เมื่อไปถึง หลังจากที่ทุกคนรับศิษย์หมดแล้ว พวกเขาก็พาทุกคนขึ้นกระบี่เหิน พร้อมกับบินจากไปในทันที.
ความหวังสุดท้ายของเหล่าเยว่จื่อจง พังทลายไม่เป็นท่าหลังจากที่จงซีจิวจากไป.
เนรคุณ เนรคุณอย่างงั้นรึ? บุตรอกตัญญู เจ้าพวกอกตัญญู เขาที่แอบร้องไห้อยู่ภายในใจ ทว่าด้วยประสบการณ์ที่มี ทำให้เขาอดกลั้นและค่อย ๆ ปิดตาเก็บความเสียใจเอาไว้.
จงตี้และจงเสวียนก็ไม่ต่างกัน พวกเขาที่ยืนอยู่หลังอาจารรอคอยเหล่าศิษย์คนอื่น ๆ กลับมา ซึ่งพวกเขาก็จะจากไปกับอาจารย์เช่นกัน ในเวลาเดียวกันนี้ พวกเขาไม่หันกลับมามองยังทิศทางของเหล่าเยว่จื่อจงเลยแม้แต่ครั้งเดียว.
พี่ชายใหญ่จงเทียน ที่รับรู้ได้ในทันทีถึงสิ่งผิดปรกติและก็รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ภายในใจเขารู้สึกประหลาดใจ เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? เป็นไปได้อย่างไร?
ครั้นเห็นอี้ฟูที่กำลังหลับตาลงด้วยความเศร้า ทำให้จงเทียนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป.
"จงตี้ จงเสวียน พวกเจ้าทั้งสองทำอะไรอยู่?"จงเทียนที่คำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว.
เสียงของจงเทียนที่ตะโกนออกไปนั้น แทบจะทำให้ทุกคนหันมาจ้องมองเขา เหล่าสมาชิกของสำนักเซียนที่ขมวดคิ้วเล็กน้อยทว่าก็หาได้ใส่ใจเขาไม่ คนอื่น ๆ เองก็ไม่ต่างกัน.
จงตี้และจงเสวียนที่ชำเลืองมองมายังจงเทียนด้วยสายตาที่เหยียดหยัน.
"เมื่อพวกเจ้าเป็นขอทาน ใครกันที่เก็บพวกเจ้ามา? ใครกันที่ยื่นเสื้อผ้าและอาหารให้? ใครกัน? อี้ฟูของพวกเรา ตอนนี้พวกเจ้าไม่คิดที่จะตอบแทนเลยเหรอ?"จงเทียนที่ตะโกนออกไปด้วยความโกรธ.
เหล่าเยว่จื่อจงที่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นท่าทางของบุตรชายคนโต.
"เจ้าคนโง่เง่าไร้ค่า หัวใจของเจ้ามันถูกสุนัขกินไปแล้ว? ฝึกตนเป็นเซียน ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นเซียน ก็เป็นแค่มาร."จงเทียนที่ตะโกนออกไปด้วยความโกรธ.
ในเวลาเดียวกัน จงตี้ที่กล่าวอะไรบางอย่างกับอาจารย์ของเขา.
อาจารย์ของเขาที่จ้องมองลงมา พร้อมกับร่ายอาคม พร้อมกับยิงออกมา.
"ตูมมมมมมม"
เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ ขนาดสามเมตรที่ด้านหน้าของจงเทียน เห็นได้ชัดเจนว่าอาจารย์ของจงตี้นั้นต้องการให้จงเทียนเงียบ หากเขาต้องการสังหาร ปานนี้จงเทียนคงตายไปแล้ว.
เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างก็รู้ว่าเป็นเพราะจงตี้นั้นจะต้องกล่าวอะไรบางอย่างกับอาจารย์ของเขา.
โลหิตของจงเทียนที่เดือดปุด ๆ อี้ฟูที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็ก อี้ฟู่ที่มอบชีวิตให้กับเขา ดังนั้น จงเทียนจึงสาบานว่าจะดูแลอี้ฟู่อย่างดีที่สุด ทว่าในเวลานี้ เหล่าน้องชายของเขากับแสดงท่าทางที่ไร้ซึ่งน้ำใจ เขาจะสามารถทนอยู่ได้อย่างไร เขาจะยังคงใส่ใจกับอาจารย์ของจงตี้ได้อย่างไร?
อี้ฟู่ที่ต้องการเม็ดยาโพวจวิน มันยากขนาดนั้นเลยรึ?หรือว่าเพราะในสายตาของพวกเขาแล้ว อี้ฟูและข้าไร้ค่า ไม่ต่างจากแมลงไปแล้ว?
เห็นท่าทางใบหน้าที่เศร้าสร้อยของอี้ฟูแล้ว จงเทียนจะทนได้อย่างไร เขาได้ยกก้อนหินที่อยู่บนพื้น พร้อมกับเล็งไปยังทิศของจงตี้ยืนอยู่ พร้อมขว้างออกไปอย่างแรง.
"วิ้ง......"
ก้อนหินก้อนใหญ่ที่ลอยข้ามฟ้าตรงไปยังระเบียงที่จงตี้ยืนอยู่ ถึงแม้ว่าระดับของจงเทียนจะไม่ได้สูงนัก ทว่าตั้งแต่เกิดกำลังแขนของเขานั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก พลังแขนของเขานั้นเทียบได้กับระดับผู้ฝึกยุทธ์ระดับเซียนเทียนเลยก็ว่าได้.
หินก้อนใหญ่ที่พุ่งตรงไปยังระเบียงด้านบนอย่างรวดเร็ว.
แทบจะทำให้ทุกคนตื่นตะลึง คนผู้นี้ต้องการตายอย่างงั้นรึ? หาญกล้าที่จะขว้างก้อนหินใส่สมาชิกของสำนักเซียนเลยอย่างงั้นรึ?
"แส่หาความตาย "อาจารย์ของจงตี้คำรามด้วยความโกรธ.
อาจารย์ของจงตี้ที่ปล่อยกระบี่เหินสีเงินลอยออกไปกระแทกก้อนหินที่ลอยมา.
"ตูมมมมมม"
ก้อนหินที่แตกกระจายเป็นผุยผง กระบี่เหินยังคงพุ่งตรงไปยังจงเทียนด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ.
เหล่าเยว่จื่อจงที่เห็นตกใจโบกไม้เท้ามังกรออกไปพยายามที่จะหยุดกระบี่เหิน ทว่ากระบี่นั้นเคลื่อนที่เร็วจนเกินไป แทบจะทันทีได้มาถึงด้านหน้าของจงเทียนที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ.
"พรึด..."
ในช่วงเวลาความเป็นความตาย ปรากฏบอลทองขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของจงเทียน ในเสี้ยววินาทีนั้น กระแทกกระบี่เหินให้ลอยถอยกลับไป.
ในเวลาเดียวกันนั้น ที่บนระเบียงด้านบน นักบวชหัวล้านที่เห็นเข้าก็ลอยลงมาด้านหน้าจงเทียน เขาที่ยืนมือออกไปยังบอลสีทองลูกใหญ่ ก่อนที่บอลลูกนั้นจะกลายเป็นไข่มุกเทวะ หล่นลงมาในมือของเขา.
นักบวชคนดังกล่าวจ้องมองไปยังจงเทียนพร้อมกับหัวเราะอย่างมีความสุข.
"ก่อกำเนิดอำนาจพุทธะ?"นักบวชคนดังกล่าวจ้องมองจงเทียนด้วยความประหลาดใจ.
จงเทียนค่อย ๆ ได้สติกลับมาเมื่อได้ยินคำพูดของนักบวชคนดังกล่าว เหล่าเยว่จื่อจงที่อยู่ข้างเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่จะค่อย ๆ ลดไม้เท้ามังกรและพยุงตัวเองเอาไว้.
"เจ้ายินดีที่จะเป็นศิษย์ของข้าหรือไม่?"นักบวชคนดังกล่าวหัวเราะร่วน.
ทุก ๆ คนที่จ้องมองลงมาด้วยความประหลาดใจกับคำพูดของนักบวชคนดังกล่าว ชายคนที่หยาบคายนี้กลับสามารถเปลี่ยนภัยพิบัติให้กลายเป็นโชควาสนาได้อย่างงั้นรึ?
นักพรตคนที่ซัดกระบี่บินออกมานั้นขมวดคิ้วไปมาจ้องมองไปยังนักบวชด้านล่างพลางขมวดคิ้วไปมาพร้อมกับเก็บกระบี่เหินกลับคืน ต้องไม่ลืมว่านักบวชคนดังกล่าวนั้นอยู่ระเบียงด้านบนเป็นหนึ่งในสำนักซ่างเซียน.
จงเทียนจ้องมองไปยังนักบวชคนดังกล่าวด้วยท่าทางงงงวย เหล่าเยว่จื่อจงที่เดินเข้ามาข้างๆสะกิดจงเทียนให้ตื่นขึ้นมา.
"ศิษย์จงเทียนคำนับอาจารย์ "ทันใดนั้นจงเทียนก็คุกเขาลงโขกพื้นสามครั้ง.
"อืม ลุกขึ้นได้ ตามข้ากลับไปยังขุนเขา."นักบวชกล่าวออกมาพร้อมหัวเราะอย่างพึงใจ.
ทว่าจงเทียนยังไม่ลุกขึ้น เขายังคงคุกเข่ากับพื้นและกล่าวกับนักบวชว่า "ท่านอาจารย์ ข้ามีเรื่องหนึ่งต้องการขอ."
"โอ้ว?"นักบวชค่อนข้างประหลาดใจไม่น้อยทว่าก็ยังจ้องมองไปยังจงเทียนด้วยความใจเย็น.
"ศิษย์มีความปรารถนาให้อาจารย์ประทานเม็ดจาโพวจวินแก่ศิษย์"จงเทียนที่ยังคงคุกเข่า.
นักบวชหลังจากได้ยินก็เพ่งพิศไปยังจงเทียน ทว่าเหล่าเยว่จื่อจงที่แทบจะตะโกนออกมา หัวใจที่กำลังเต้นแรงไปมาด้วยความตื่นเต้น พยายามสงบใจ ในเวลาเดียวกันก็จ้องมองไปยังนักบวชด้วยท่าทางกระตือรือร้น.
นักบวชที่จ้องมองจงเทียนอย่างคาดไม่ถึง จากนั้นก็จ้องมองไปยังเหล่าเยว่จื่อจงอย่างพินิจพิเคราะห์ สายตาของเขาหรี่ตามองพร้อมกับยิ้มออกมา พร้อมกับพยักหน้า.
"เม็ดยาโพวจวินนั้นเป็นเพียงเม็ดยาระดับต่ำ ข้าไม่ได้มีมัน ทว่าในเมื่อศิษย์ของข้าต้องการมัน แน่นอนว่าอาจารย์จะต้องหาให้เจ้าสักเม็ดก็แล้วกัน."นักบวชหัวเราะเสียงดัง.
"ขอบคุณอาจารย์"จงเทียนยังคงคุกเขาด้วยความตื่นเต้น.
"อืม ลุกขึ้นได้แล้ว หัวของเจ้าจะแตกแล้ว."นักบวชกล่าว.
"ขอรับ."จงเทียนลุกขึ้นในทันที ก่อนที่จะหันหน้าไปมองอี้ฟู จากนั้นก็หันหน้าไปมองอาจารย์ พร้อมกับประกายตาที่ตื่นเต้น.
ในเวลาเดียวกันนั้น นักบวชที่สะบัดมือหนึ่งครั้ง ในมือของเขานั้นปรากฏเม็ดยาขนาดเท่าดวงตามังกรปรากฏแสงวับวาว.
เหล่าเยว่จื่อจงที่ได้กลิ่นที่ยอดเยี่ยมของยาได้ เพียงแค่กลิ่นของมันก็ทำให้ทุกรูขุมขนทั่วร่างของเขาผ่อนคลายได้.
"พี่น้องทั้งหลาย ใครที่มีเม็ดยาโพวจวิน? ข้าต้องการที่จะแลกเปลี่ยนมันกับเม็ดยาหัวหยิง."นักบวชที่ประกาศออกไปเสียงดัง.
แทบจะทุกคนหันมาจ้องมองนักบวชคนดังกล่าวทั้งหมด เม็ดยาหัวหยิง เม็ดยาหัวหยิงนั้น? ส่วนเม็ดยาโพวจินเป็นเพียงเม็ดยาระดับต่ำเท่านั้น ทว่าเวลานี้เม็ดยาโพวจวินนั้นสามารถที่จะแลกเปลี่ยนกับเม็ดยาหัวหยิงเลยอย่างงั้นรึ?
เหล่าสำนักเซียนทุกคนแทบจะค้นหาเม็ดยาดังกล่าวในตัวอย่างรวดเร็ว ทว่ากลับไม่มีใครมีเม็ดยาโพวจวินเลย แต่แล้วในกลุ่มของสำนักเซี่ยเซียนนั้น ก็มีคนหนึ่งในชุดสีม่วงพบว่ามีเม็ดยาโพวจวินในกระเป๋าของตัวเอง ใช่แล้ว นี่ไงล่ะ.
เขาที่ตื่นต้นดีใจ ขึ้นกระบี่เหินลงมาด้านล่าง.
"อาวุโส ข้ามีอยู่เม็ดหนึ่ง."คนดังกล่าวกล่าวออมาด้วยความดีใจเสียงสั่น.
"รับนี่ไป."นักบวนที่เปลี่ยนเม็ดยาหัวหยิงในมือเขา พร้อมกับรับเม็ดยาโพวจวินกลับมา.
"ขอบคุณมาก ขอบคุณอาวุโส."ชายคนนั้นรับเม็ดยาหัวอย่างด้วยความตื่นเต้นดีใจอย่างที่สุด ท่ามกลางสายตาอิจฉาของทุกคน.
"รับไป."นักบวชคนดังกล่าวนำเม็ดยามอบให้กับจงเทียน.
"ขอบคุณ อาจารย์."จงเทียนที่รับมาด้วยความซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะหันหน้า และมอบเม็ดยาโพวจวินกลับมาให้กับเหล่าเยว่จื่อจง.
ในเวลาเดียวกันนั้น คนทั่วไปด้านล่างนั้นต่างก็มองเม็ดยาโพวจวินด้วยความอิจฉา หากว่าพวกเขาได้สักเม็ด พวกเขาจะต้องก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนได้อย่างแน่นอน.
พวกเขาที่อิจฉา จ้องตาเป็นมันจ้องมองไปยังเม็ดยาโพวจวินในมือ.
เหล่าเยว่จื่อจงที่ดิ้นรนมาตลอดเวลานานแสนนาน เขาที่จ้องมองไปยังเม็ดยาโพวจวินด้วยความตื่นเต้น กี่ปีมาแล้ว ที่เขาขวานขวยหามัน.
ด้วยความระมัดระวัง เขาที่หยิบเม็ดยาโพวจวินและจ้องมองมันไปรอบๆ เหล่าเยว่จื่อจงที่วางไม้เท้ามังกรลงพื้น พร้อมกับอ้าปากนำมันเข้าปากอย่างไม่ลังเล ก่อนที่จะเริ่มนั่งบำเพ็ญเพียร.
เหล่าเยว่จื่อจงที่ไม่ลังเลที่จะใช้มันทันที นั่นก็เพราะว่าเขาตระหนักได้ว่า หากไม่กลืนมันเข้าไปล่ะก็ หลังจากที่เหล่าสำนักเซียนจากไป เม็ดยาเหล่านี้คนทั้งหมดทั้งหุบเขาคงไม่ปล่อยเขาออกไปจากหุบเขานี้แน่.
เซียนเทียน ใช่แล้ว ดินแดนเซียนเทียน ใครกันที่จะไม่อิจฉา ทุกคนที่จ้องมองด้วยดวงตาที่ลุกวาวต่างก็ได้แต่ทอดถอนใจหลังจากที่เห็นเหล่าเยว่จื่อจงนำมันเข้าปากและเริ่มนั่งบำเพ็ญ.
จงเทียนที่เฝ้ารออย่างอดทนจ้องมองไปยังอี้ฟูที่เริ่มโคจรพลัง นักบวชคนดังกล่าวก็ไม่ดึงดันนำเขาจากไปเช่นกัน เขายังคงรอจงเทียน พร้อมกับเผยยิ้มให้กับเขาเป็นพยานในความซื่อสัตย์ของจงเทียน ศิษย์คนนี้ไม่มีทางที่จะใช้อุบายหลอกเขาอย่างแน่นอน.
เหล่าเยว่จื่อจง หลังจากที่กินเม็ดยาโพวจวินไปแล้ว เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังสุดยอดที่กำลังแผ่ซานไปทั่วร่าง มันกำลังไหลเข้าสู่จุดตานเถียนอย่างบ้าคลั่ง ภายในจุดตานเถียนในเวลานี้เกิดเป็นหลุมน้ำวนขนาดเล็กขึ้น ดูดซับปราณแท้เข้าไปเป็นระยะๆ พร้อมกับเก็บกักปราณที่แท้จริงเอาไว้.
ปราณที่แท้จริงของเหล่าเยว่จื่อจงที่ได้กลายเป็นสีทองแล้วนับตั้งแต่ที่เขาได้เริ่มโคจรพลัง เม็ดยาโพวจวินที่เข้าสู่ร่างกายมันได้ถูกดูดซับหมุนวนก่อนที่จะค่อย ๆ แข็งตัวอย่างรวดเร็ว.
เหล่าเยว่จื่อจงกำลังควบคุมปราณที่แท้จริงอย่างบ้าคลั่ง ดูดซับเข้ามาในจุดตานเถียน ราวกับว่าได้ทำให้ปราณของเขาที่เปลี่ยนไปทีละน้อย ทุกครั้งที่ปราณที่แท้จริงหมุนวนถูกดูดซับเข้ามา จนครบ 72 ครั้ง.
" ครืน...."
ปราณสีทองไปทั้งหมด ท้ายที่สุดก็เกิดการเปลี่ยนแปลง หลุมน้ำวนตอนนี้ลดขนาดลงเหลือแค่ 1 ใน 10 ของขนาดเดิม ทว่าในเวลาเดียวกัน ปราณที่แท้จริงก็ได้กลายเป็นสีทองม่วงไปด้วย หลังจากที่ปราณที่แท้จริงกลายเป็นสีทองม่วงมันก็ได้กระจายออกไปทั่วเส้นปราณทั่วร่างของเขา.
真气Z hēn qì ปราณที่แท้จริง True Qi
ในเวลาเดียวกันนี้ ร่างกายภายนอกของเหล่าเยว่จื่อจง ก็ปรากฏควันสีม่วงมากมายกำลังระเหยออกมา ทำให้ร่างของเหล่าเย่วจื่อจงที่นั่งอยู่ตอนนี้ดูเลือนลาง.
ทุกคนที่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ผมสีขาว คิ้วสีขาว หนวดสีขาวของเหล่าเยว่จื่อจงตอนนี้ได้กลายมาเป็นสีดำ ใบหน้าของเขาในเวลานี้ หลังจากที่เขาได้ทะลวงผ่านระดับได้ ก็ทำให้เขาดูเยาว์ขึ้น ตอนนี้ดูเหมือนชายอายุ 40 ปี หรือ 50 ปี เขาที่ดูหนุ่มแน่นขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ.
เซียนเทียน นี่คือระดับเซียนเทียน.
เหล่าปุถุชนรอบ ๆ ต่างก็จ้องมองมาด้วยสายตาที่อิจฉา สายตาทุกคู่ต่างก็จับจ้องมองมายังเหล่าเยว่จื่อจงที่ทะลวงผ่านระดับขั้นได้แล้ว.
ส่วนเหล่าสมาชิกของสำนักเซียนนั้น พวกเขาต่างก็เผยสีหน้าเหยียดหยันออกมา.
บนท้องฟ้า เหล่าสำนักเซียนมากมายที่ได้นำศิษย์ใหม่ของพวกเขา บินจากไป กลับไปยังสำนัก การทะลวงผ่านระดับของเหล่าเยว่จื่อจงอย่างคาดไม่ถึงนั้น ไม่มีอะไรน่าสนใจ เซียนเทียน? หนำซ้ำยังเป็นการข้ามระดับด้วยเม็ดยาโพวจวิน เป็นไปได้ว่าเขาคงจะเลื่อนระดับได้แค่นั้น ไม่มีทางที่จะพัฒนาต่อไปได้อีกแล้ว.
เหล่าสมาชิกของสำนักเซียนบนระเบียงด้านบนนั้นได้จากไปหมดแล้ว หรือเพียงแค่สองคน หนึ่งคืออาจารย์ของจงเทียนและอีกหนึ่งคือเทพธิดาในชุดสีม่วง สายตาที่เย็นชาของนางจ้องมองสำรวจพื้นที่รอบ ๆ ไม่มีคนที่น่าสนใจสำหรับนางในการต่อสู้ในครั้งนี้ ดังนั้น นางจึงไม่ได้รับศิษย์แต่อย่างใด ทว่านางก็รู้สึกประหลาดใจกับเหตุการณ์วุ่นวายเล็กน้อยที่เกิดขึ้นเช่นกัน นางชำเลืองมองไปยังเหล่าเยว่จื่อจงสักพัก ก่อนที่จะเหินขึ้นฟ้าและลอยจากไป.
หลังจากโคจรปราณที่แท้จริงอีก 36 รอบ ก็สามารถเปลี่ยนปราณเป็นสีม่วงทองโดยสมบูรณ์ เหล่าเยว่จื่อจงที่หยุดการโคจรพลังไปยังจุดต่างๆ ระดับเซียนเทียน นี่คือระดับเซียนเทียน เขารับรู้ได้ว่ามีเขามีพลังที่มากกว่าปรกติมาก พลังกำลังเอ่อล้นออกมาไม่มีสิ้นสุด.
ขณะที่เขาลืมตาขึ้นมา ดวงตาของเขาเปล่งประกาย.
ก่อนที่จะจ้องมองไปยังจงเทียนที่แสดงท่าทางเป็นห่วงเป็นใย.
"อี้ฟู ท่านสำเร็จแล้วรึ?"จงเทียนที่เร่งรีบถามออกไป.
"ขอบใจเจ้ามาก."เหล่าเยว่จื่อจงที่ลุกขึ้นยืนและกล่าวออกมา.
"ชีวิตของข้าเมื่อยังเด็ก เป็นอี้ฟูช่วยเอาไว้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสมควรแล้ว จากนี้ไปข้าต้องไปยังสำนักเซียนแล้ว หลังจากนี้คงไม่สามารถดูแลอี้ฟู่ได้อีกต่อไป."จงเทียนกล่างพลางทอดถอนใจ.
เหล่าเยว่จื่อจงที่ถอนหายใจจ้องมองไปยังบุตรบุญธรรมและพยักหน้าให้ "นับจากนี้เจ้าจงบำเพ็ญอย่างสบายใจ อย่าได้เป็นห่วงด้านหลังอีกเลย ไปเถอะ."
เห็นเหล่าเยว่จื่อจงไม่ได้ร้องเรียกอะไรอีก นักบวชก็พยักหน้าอย่างพอใจ.
"ศิษย์ข้า ไปกันได้แล้ว."นักบวชกล่าว.
"ครับ อาจารย์."จงเทียนกล่าว.
"อี้ฟู่ บุตรต้องไปแล้ว."จงเทียนกล่าวต่อเหล่าเยว่จื่อจง.
เหล่าเยว่จื่อจงที่พยักหน้าให้ นักบวชที่ตวัดมือออกไป ปรากฏเป็นเมฆสีขาวขึ้นที่ด้านหน้า พร้อมกับนำจงเทียนขึ้นไปบนระเบียง ก่อนที่จะเหินขึ้นไปบนฟ้าตามนักบวชคนอื่น ๆ ที่จากไปนานแล้ว เหล่าสำนักเซียนต่างก็บินออกไปจากหุบเขามังกรจนหมดแล้ว.
เหล่าเยว่จื่อจงที่จ้องมองอยู่ชั่วขณะ และรู้สึกประหลาดใจกับเมฆสีขาวที่พาจงเทียนไป.
"เทียนเอ๋อ เจ้าได้พบอาจารย์ที่ดีแล้ว."เหล่าเยว่จื่อจงกล่าวออกมาพร้อมกับพยักหน้าพึงพอใจ.