Chapter 39 ระดับ 4 เซียนเทียน.
"โลหิตนิพพาน?"เทียนหลิงเอ๋อที่อุทานออกมาทันที.
ผลที่มีขนาดเท่าผลเฉ่าเหมยสิบสามลูกที่เหมือนผลไม้เติบโตบนไม้เลื้อยบนผนังถ้ำ แต่ละลูกนั้นส่องประกายแสงวับวาว ราวกับว่ายั่วยวนให้คนต้องการลิ้มลองรสของมัน.
จงซานรู้อยู่แล้วว่ามีผลไม้วิญญาณในโลกใบนี้ ที่สำนักไคหยาง ที่ถ้ำผลไม้สวรรค์เขาก็พบเช่นกัน ผลไม้ดังกล่าวนั่นเห็นได้ชัดเจนว่ามันทรงพลังกว่าผลไม้ทั้งสิบสามลูกนี้.
"โลหิตนิพาน?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"จงซาน จงซาน วางข้าลงเร็วเข้า นี่คือผลไม้โลหิตนิพพาน ตราบเท่าที่ข้ากินมันเข้าไป บาดแผลของข้าก็จะหายไปในทันที นอกจานี้มันยังช่วยเพิ่มพลังธาตุเปลวเพลิงเป็นอย่างมากด้วย บางทีข้าอาจจะก้าวไปถึงระดับสิบเซียนเทียนได้เลย."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
ดวงตาของจงซานเองก็เป็นประกายหลังจากได้ยินเรื่องดังกล่าว นี่คือผลโลหิตนิพพานอย่างงั้นรึ?
เขาที่ค่อย ๆ วางเทียนหลิงเอ๋อลงจากหลังของเขา.
เมื่อเท้าของนางแตะพื้น เทียนหลิงเอ๋อที่รู้สึกว่างเปล่าราวกับว่ารู้สึกเสียดายเล็กน้อยอย่างไร้ซึ่งเหตุผล.
นางที่ขมวดคิ้วไปมาพลางส่ายหน้าไปมาสลัดความรู้สึกแปลก ๆ นั่นไป นี่นางเป็นอะไรไปกัน?
"ผลไม้โลหิตนิพพานนี้สามารถกินได้ตรง ๆ เลยรึ?"จงซานสอบถาม.
"แน่นอน เจ้าเองก็สามารถกินได้ อย่างไรก็ตามเจ้าอยู่ในระดับสามเซียนเทียนเอง หากกินเข้าไปอาจจะทำให้เจ้าได้รับความเจ็บปวด ทว่ารับรองได้ว่าเป็นประโยชน์แน่นอน ทว่าไม่ควรกินมากกว่าหนึ่งลูก "เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาทำที.
"เจ็บปวดรึ?"จงซานที่จ้องมองไปที่นางด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"ถ้าจะกล่าวให้ถูกล่ะก็ พลังของมันนั้นมีมากจนเกินไปอาจจะทำให้เจ้าทรมานได้ ข้าได้ยินมาจากเตี่ยว่า ผลไม้โลหิตนิพพานนั้นไม่ใช่ผลไม้วิญญาณธรรมดาทั่วไป ทว่ามันเติบโตได้ในสถานที่พิเศษเท่านั้น ในถ้ำภูเขาไฟ ทว่าก็ไม่ใช่ทุกถ้ำภูเขาไฟทั้งหมดจะมี ข้าเองก็ไม่ค่อยสามารถบอกเหตุผลมันได้เช่นกัน แต่มีตั้งสิบสามลูก ตามที่เตี่ยข้าบอก ข้าจำเป็นต้องกินมันแปดลูกเพื่อก้าวไปถึงระดับสิบเซียนเทียน เมื่อบำเพ็ญโคจรพลังก็จะเลือนระดับได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ยอดเยี่ยมหรอกรึ?"เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.
"มันไม่มีผลข้างเคียงหรอกรึ?เป็นต้นว่ามีผลต่อการฝึกในภายหลัง?"จงซานที่ถามออกมาอย่างจริงจัง.
"อืม ไม่มี สำหรับเจ้าและข้า."เทียนหลิงเอ๋อที่คิดชั่วขณะก่อนที่จะกล่าวออกมา.
"ทำไมล่ะ?"จงซานที่ค่อนข้างสงสัย.
"เพราะว่าโลหิตนิพพานนั้นเป็นผลไม้วิญญาณธาตุหยาง เจ้าที่ฝึกฝนเพลงดาบสวรรค์กายาสุริยันดังนั้นจึงไม่มีปัญหาสำหรับเจ้า ส่วนข้าฝึกฝนคัมภีร์เพลิงเทวะ จึงไม่มีปัญหาต่อข้าด้วยเช่นกัน."เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.
"อืม ข้าจะเป็นคนเฝ้าระวังให้เจ้าเอง เจ้าเริ่มก่อนเลย."จงซานกล่าว.
"ไม่."เทียนหลิงเอ๋อตอบ.
"หืม?"จงซานขมวดคิ้ว.
เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยแววตาที่มุ่งมั่น "ครั้งนี้เจ้ากินก่อนเถอะ ข้าจะเป็นคนคุ้มกันเจ้าเอง.
เห็นสีหน้าที่จริงจังของนางแล้ว จงซานก็เผยยิ้มอย่างนุ่มนวลออกมา "เช่นนั้นก็ได้."
จงซานที่ค่อย ๆ เด็ดผลโลหิตนิพพานตามที่เทียนหลิงเอ๋อบอกเขา.
เพียงแค่สัมผัสก็รับรู้ได้ถึงความร้อนยิ่งกว่าน้ำเดือด ทว่าเขาที่ก้าวไปถึงระดับสามเซียนเทียนแล้ว จงซานย่อมไม่หวั่นเกรงความร้อนที่แผ่ออกมานี้จากเถาของมันแน่.
"พรึด."
จงซานเด็กผลโลหิตนิพพานออกมา.
"ซี่ ๆ ๆ ๆ ."
เถาวัลย์ที่ถูกเด็ดผลโลหิตนิพพานออกไป ก็เหี่ยวแห้งไปในพริบตาทีเดียว กลายเป็นสีเหลือง สั่นไปมาก่อนที่จะล่วงหล่น ไม่เกาะผนังถ้ำอีกต่อไป.
"เมื่อเด็ดผลโลหิตนิพพานออกมา เถาของมันก็จะแห้งตายไปในทันที."เทียนหลิงเอ๋ออธิบาย.
จงซานที่พยักหน้าและเริ่มนั่งสมาธิข้าง ๆ กับผนังถ้ำ เขาที่กลืนผลโลหิตนิพานเข้าไปในทันที.
ผลโลหิตนิพพานเมื่อถูกกลืนลงท้องของเขา.
แทบจะทันที ก็แปรเปลี่ยนเป็นคลื่นความร้อนที่รุนแรงแผ่ออกมา กระจายออกไปทั่วร่างของจงซาน.
เจ็บปวด ความเจ็บปวดที่แผ่ซานออกไปรอบ ๆ โดยปรกติแล้วเขามักจะได้รับความเจ็บปวดจากภายนอก ทว่าครั้งนี้กับเป็นข้างในร่าง ร่างของจงซานที่เต็มไปด้วยพลังงานธาตุไฟ ดูเหมือนว่าผลโลหิตนิพพานนี้จะทำให้ร่างของเขาไม่ต่างจากเตาอบ ผิวทั่วร่างที่กลายเป็นสีแดงในทันที.
เหงื่อที่ซึมไหลออกมาชโลมไปทั่วไปหน้า อย่างไรก็ตามนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากของเขา จงซานที่เริ่มโคจรพลังภายในด้วยทักษะดาบสวรรค์กายาสุริยันอย่างบ้าคลั่ง ปราณแท้สะสมหมุนวนอยู่ในร่างของเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ .
อย่างไรก็ตาม จงซานตอนนี้ตระหนักได้ว่าเขาประมาทคำพูดของเทียนหลิงเอ๋อมากเกินไป ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับมันขนาดนั้น ผลโลหิตนิพพานนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่อยู่ในระดับสามเซียนเทียนนั้นสามารถที่จะถูกเผาไหม้ด้วยพลังดังกล่าวให้ตายไปได้เลย.
หากไม่เพราะว่าเขาที่ฝึกฝนวิชากายาเทพอสูรด้วยแล้วละก็อวัยวะภายใน แม้แต่ร่างกายของเขาคงจะระเบิดไปด้วยพลังที่มากมายของมันไปแล้ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะยังคงทนมันได้ก็ตาม จงซานกลับรู้สึกว่าร่างกายของเขาพร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุก ๆ เมื่อ.
วิชากายาเทพอสูร!
จงซานที่ใช้วิชากายาเทพอสูรและพยายามที่จะกำราบพลังดังกล่าวนี้ให้ได้ภายในสองชั่วโมง แน่นอนว่าเกี่ยวพันกับผลของวิชากายาเทพอสูรด้วย หากว่าเขาไม่สามารถควบคุมพลังดังกล่าวนี้ได้ล่ะก็ พลังของผลไม้โลหิตนิพพานนั้นจะทำให้เขาระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ ได้.
กล้ามเนื้อและหลอดเลือดที่ขยายใหญ่ขึ้นมาทันทีทันใด เทียนหลิงเอ๋อที่เฝ้าดูร่างของจงซานด้วยท่าทางประหลาดใจ ทว่านางก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น นางสัมผัสได้ว่าจงซานอยู่ในช่วงระยะเวลาตรึงเครียด ด้วยเหงื่อที่ไหลออกมามากมาย ทำให้นางคิดที่จะซับเหงื่อให้กับเขา ทว่านางก็หยุดตัวเองเอาไว้ เพราะเกรงว่าจะไปทำลายสมาธิของเขาได้.
จงซานที่พยายามควบคุมพลังของเขาเพื่อที่จะให้ทะลวงระดับไปให้ได้ ปราณแท้ที่หมุนวนโคจรไปทั่วร่าง นี่คือช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายเลยก็ว่าได้ เขาตระหนักได้ดีว่า หากว่าไม่สามารถกลั่นพลังจากผลโลหิตนิพพานได้ในสองชั่วโมงล่ะก็ เขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย.
พรึด ๆ ๆ และแล้ว ก่อนจะครบสองชั่วโม.ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เขาก็สามารถเลื่อนระดับพลังฝึกตนได้.
ระดับสี่เซียนเทียน เขาได้ก้าวไปถึงระดับสี่เซียนเทียนแล้ว.
จงซานที่โล่งใจในทันที ที่เขาสามารถทะลวงผ่านระดับสำเร็จ ทว่าตอนนี้ยังคงเหลือขั้นตอนในการควบรวมปราณให้แข็งตัว.
ไม่นานหลังจากนั้น ร่างกายทั่วร่างของจงซานก็บังเกิดความเจ็บปวดขึ้นมา นี่คือผลข้างเคียงของการใช้วิชากายาเทพอสูรนั่นเอง!
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาก็ปลอดภัยแล้ว ถึงแม้ว่าปราณแท้ของเขานั้นจะลดลงไปสามสิบเปอร์เซ็นต์ทันที ทว่าในเมื่อเขาก้าวไปถึงระดับสี่เซียนเทียนแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป เขามั่นใจว่าหนึ่งวันหรือสองวัน เขาก็จะกลับมาเป็นปรกติ.
จงซานที่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ .
"จงซาน เป็นอย่างไรบ้าง? เป็นพลังที่ทรงพลังมากเลยใช่ไหม?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาในทันที.
จงซานที่อ้าปากราวกับจะพูดอะไรทว่าก็เปลี่ยนเป็นถอนหายใจ มันทรงพลังมากจริง ๆ เกือบทำให้เขาไม่มีชีวิตรอดซะแล้ว.
"อืม ข้าก้าวไปถึงระดับสี่เซียนเทียนแล้วตอนนี้ ตอนนี้ถึงคราวของเจ้าแล้ว ทว่าทางทีดีควรกินทีละลูกข้าคิดว่ามันทรงพลังเป็นอย่างมากทีเดียว."จงซานพยักหน้า.
"ระดับสี่แล้วรึ?"ดวงตาของเทียนหลิงเอ๋อเป็นประกาย แสดงท่าทางดีใจประหลาดใจราวกับว่าตัวนางทะลวงระดับได้เอง.
"รอข้าก่อนเถอะ."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาในทันที.
เทียนหลิงเอ๋อที่เด็ดผลโลหิตนิพพานในทันทีแน่นอนว่าเถาของมันเหี่ยวแห้งไปในทันทีเช่นกัน.
ตามที่จงซานร้องขอ เทียนหลิงเอ๋อที่ค่อย ๆ เด็ดกินผลโลหิตนิพพานทีละลูก.
สิ่งที่ทำให้จงซานประหลาดใจเป็นอย่างมากหลังจากครบแปดลูกแล้ว เทียนหลิงเอ๋อยังคงกล่าวออกมาว่า"ยังไม่เพียงพอ จงซาน นำมันให้ข้าเพิ่มอีก."
จงซานที่เด็ดผลโลหิตนิพพานให้กับนางอีกสองลูก หลังจากนั้นเทียนหลิงเอ๋อก็หลับตาเริ่มบำเพ็ญพลังเพื่อทะลวงระดับต่อ.
สิบลูก สิบผลโลหิตนิพพานเลยรึ?
จงซานที่สามารถมองเห็นได้ช่องว่างระหว่างเขากับเทียนหลิงเอ๋อ ปราณแท้และแกนแท้นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป็นความกว้างที่ห่างกันมาก เขาได้ยินมาว่าเทียนหลิงเอ๋อนั้นนางเพิ่งเลื่อนระดับไปยังระดับเก้าเมื่อครึ่งปีที่แล้วนี่เอง!
จงซานยังคงนั่งอยู่ข้าง ๆ นางและรอคอยอย่างอดทน เขาเห็นผิวกายของนางมีประกายแสงสีแดงส่องออกมา ทำให้ผิวกายของนางดูประณีตเป็นอย่างมาก ทำให้ดูเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ไปแล้ว
จงซานยังไม่ต้องการที่จะเข้าไปสำรวจลึกเข้าไปในถ้ำ และดูเหมือนว่าจะยังไม่ถึงเวลาสำรวจ เขาต้องรอให้เทียนหลิงเอ๋อทะลวงผ่านระดับซะก่อน.
ครั้งนี้ดูเหมือนว่าเทียนหลิงเอ๋อใช้เวลาในการทะลวงระดับนานอยู่เหมือนกัน.
หนึ่งวันหนึ่งคืนผ่านไป.
ขณะที่นางลืมตาขึ้นมา ดวงตาของนางที่ขยิบตาเป็นรูปจันทร์เสี้ยว.
"จงซาน ข้ามีระดับสิบแล้ว ข้าอยู่ระดับสิบเซียนเทียนแล้ว."เทียนหลิงเอ๋อที่ตื่นเต้นดีใจจับแขนจงซานแกว่งไปมาพร้อมกับกระโดดโลดเต้นอีกด้วย.
จงซานที่เผยยิ้มออกมา เขาสังเกตเห็นว่าตอนนี้นางสามารถกระโดดไปมาได้แล้ว หมายความว่าบาดแผลของนางได้หายแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะหายไปพร้อมกับการที่นางเลื่อนระดับไปยังอีกขั้นได้.
"เยี่ยม ยอดเยี่ยมเลย."จงซานที่ทำได้แค่เพียงพยักหน้าให้กับนาง.
"จงซาน พวกเราจะเข้าไปสำรวจในถ้ำรึยัง พวกเราอาจจะพบอะไรที่ยอดเยี่ยมกว่านี้ก็เป็นได้."ดวงตาของเทียนหลิงเอ๋อเป็นประกาย.
"รอก่อนหนึ่งวัน."จงซานกล่าวตอบ.
"หนึ่งวันเลยรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่สงสัย.
"ใช่ พวกเราควรพักให้เพียงพอหนึ่งวันค่อยเข้าไป นอกจากนี้เจ้าจะเข้าไปในสภาพนี้นะรึ?ไปหาสถานที่เปลี่ยนชุดเถอะ."จงซานกล่าวต่อเทียนหลิงเอ๋อ.
เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปรอบ ๆ ร่างของนางและทันใดนั้นก็จ้องมองไปยังจงซาน.
"จริง ๆ ด้วย เช่นนั้นเจ้าออกไปก่อน ห้ามมองนะ ข้าจะเปลี่ยนชุด."เทียนหลิงเอ๋อกล่าวออกมา.
จงซานที่ส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะเดินออกมา รอสักหนึ่งวันอย่างงั้นรึ?นั่นไม่ใช่เพราะรูปลักษณ์ของเทียนหลิงเอ๋อยังไม่พร้อม ทว่าเป็นเพราะผลของวิชากายาเทพอสูรของเขายังไม่หายไปต่างหาก เขาจึงจำเป็นต้องรอก่อน.
ไม่นานหลังจากนั้น หลังจากที่เปลี่ยนชุดล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว นางสวมชุดสีแดงทั้งชุด ก่อนที่จะมายืนอยู่ด้านหน้าจงซาน.