Chapter 34 หุบเขาหมาป่าอัคคี.
"จงตี้ เจ้าพูดความจริงอย่างงั้นรึ?"หวังกุยจ้องมองไปยังจงซานที่อยู่ไกลออกไปพร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.
"เป็นความจริงแน่นอน จงตี้ไม่กล้าปิดบังอะไรต่อศิษย์พี่รองอยู่แล้ว."จงตี้ที่ตอบกลับ.
"ศิษย์พี่ใหญ่ ตามที่จงตี้กล่าว จงซานเป็นคนที่ร้ายกาจมาก ก่อนหน้านี้เขามีพลังระดับสามเซียนเทียนเท่านั้น แต่กับมีพลังสามารถสังหารถังเสี่ยวโหยวได้ หากว่าพวกเราบุ่มบ่ามล่ะก็..."หวังกุยที่จ้องมองไปยังหลิวหมิง ขมวดคิ้วไปมา.
"จงตี้ เจ้าคิดว่าอย่างไร?"หลิวหมิงที่จ้องมองไปยังจงตี้และกล่าวออกมาอย่างขึงขัง.
"ศิษย์พี่ใหญ่ตัดสินใจ"จงตี้ที่ก้มหน้ากล่าวออกมาด้วยเสียงเบา ดูเหมือนว่าเขาไม่ต้องการให้คนทั้งสองเห็นสีหน้าหวาดหวั่นของเขาเช่นกัน.
"ด้วยความเร็วของพวกเราคงยากที่จะตามเห่าซานทัน และพวกเขาเองก็คงจะไม่สามารถไล่ตามคนอื่น ๆ ทันด้วยเช่นกันแล้ว เช่นนั้นเป้าหมายของพวกเราก็ควรจะ..."หวังกุยที่เผยสีหน้าที่ชั่วร้ายออกมา.
จงตี้และหวังกุยต่างก็จ้องมองไปยังหลิวหมิงเพื่อถามความเห็น.
หลิวหมิงที่คิดอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "พวกเขามุ่งหน้าไปยังหุบเขาหมาป่าเพลิง."
"ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่ก็คิดเหมือนกับที่ข้าคิด."หวังกุยเผยยิ้มออกมาในทันที.
อย่างไรก็ตาม สำหรับจงตี้แล้ว เขากลับหายใจที่เย็นยะเยือบเข้าไป ภายในใจรู้สึกหนักอกหนักใจมากกว่าเดิม.
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จงซานที่วิ่งตามหลังเทียนหลิงเอ๋อ เขาที่คิดกับตนเอง หากเขารู้ว่าจะมีปัญหาถึงขนาดนี้เขาคงจะไม่รับปากเทียนซวินจื่อ ทว่าอีกใจหนึ่งก็คิดอีกแง่หนึ่ง หากว่าเขาสามารถก้าวผ่านปัญหาทั้งหมดได้เขาก็จะได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย.
เพียงแค่ปีเดียว ดูแลนางเพียงแค่ปีเดียว จากนั้นเขาก็จะมีอาจารย์เป็นผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณ สำหรับจงซานแล้ว เขาที่มีพรสวรรค์ต่ำเตี้ย นี้คือโอกาสที่จะเพิ่มพลังฝึกตนอย่างเร็วที่สุด เทียนหลิงเอ๋อที่บินหนีไปด้วยความโกรธ ทว่าไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร นางไม่ได้บินเร็วนัก อย่างน้อยก็เพียงพอที่จะทำให้รองเท้าขับวายุไล่ตามได้ทัน เพื่อให้จงซานยังสามารถตามเธอได้.
ตอนค่ำ เทียนหลิงเอ๋อที่ร่อนลงบนหุบเขาแห่งหนึ่ง และจงซานที่ตามนางทัน ทว่าเทียนหลิงเอ๋อยังคงบูดบึ้งไม่ยอมพูดจากับจงซานและยังหันหลังให้กับเขาตลอด.
"สัมภาระ."จงซานกล่าว.
"แค๊ก."เทียนหลิงเอ๋อโยนสัมภาระลงบนพื้น.
จงซานที่ส่ายหน้าให้กับนิสัยเด็ก ๆ ของเทียนหลิงเอ๋อ เขาที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อยและนำอาหารพร้อมกับเปลญวนเพื่อเตรียมที่นอนให้กับพวกเขา.
แม้ว่าเทียนหลิงเอ๋อจะโกรธ ทว่านางก็ยังกิน เพียงแค่ว่านางไม่พูดคุยกับจงซานเท่านั้น เห็นสถานการณ์ที่ตรึงเครียดแล้ว จงซานจึงเลือกที่จะไม่พูด.
เทียนหลิงเอ๋อที่เห็นขนมกุ้ยฮวาในมือ นางที่รู้สึกขมขื่นอัดอั้นตันใจขึ้นมาอีกครั้ง นางที่จ้องมองไปยังขนมด้านหน้าของนางเงียบ ๆ .
"หากไม่ต้องการกินตอนนี้ เก็บไว้กินตอนเช้าก็ได้นะ."จงซานที่ทำการแขวนเปลญวนบนต้นไม้เสร็จแล้ว.
ได้ยินคำพูดของจงซานจากด้านหลัง เทียนหลิงเอ๋อที่ไม่จ้องมองอีกต่อไป นางอ้าปากกลืนกินขนมกุ้ยฮวาอย่างรวดเร็ว หากเขาไม่ต้องการให้นางกิน เช่นนั้นนางก็จะกิน.
บนยอดเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป.
จงตี้ หวังกุยและหลิวหมิงที่ยืนอยู่บนยอดเขา.
"จงตี้ เจ้าว่าอะไรนะ? นี่เป็นโอกาสดีแล้ว ทำไมพวกเราไม่ควรจะโจมตี?"หวังกุยที่แสดงท่าทางประหลาดใจสอบถามจงตี้.
หลิวหมิงที่จ้องมองไปยังจงตี้ภายในสายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน.
"ข้ารู้จงซานนั้น เขาเป็นคนที่ระวังตัวตลอดเวลาแม้แต่ตอนพักผ่อน หากพวกเราเข้าไปใกล้ เขาจะรู้ตัวในทันที ถึงแม้ว่าหุบเขานั่นจะดูเหมือนไม่มีอะไร ทว่าข้ารับประกันได้เลยว่าเพียงแค่พวกเราเคลื่อนที่เข้าไป เขาจะต้องสังเกตเห็นพวกเราแน่นอน."จงตี้กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ.
"หืม?"หลิวหมิงที่จ้องมองจงตี้พร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.
"มันจะไปรู้ได้อย่างไร?"หวังกุยที่ไม่อยากเชื่อ เรื่องนี้เป็นไปได้ด้วยอย่างงั้นรึ?
"เป็นความจริง ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเขาทำได้อย่างไร ก่อนที่ข้าจะเข้าสำนักเซียนนั้น ขณะที่พวกเราเดินทางมาเข้าร่วมคัดเลือก เมื่อครั้งพักอยู่กลางภูเขา ข้าสามารถบอกได้ว่าเขาตรวจจับการเคลื่อนไหวของทุก ๆ สิ่งได้ในรัศมีหนึ่งพันเมตรเลย และนั่นทำให้พวกเราไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลยในการเดินทาง."จงตี้ที่กล่าวขณะกลืนน้ำลายเสียงดัง.
หวังกุยนั้นไม่อยากจะเชื่อแม้แต่น้อย เขาที่จ้องมองไปยังหลิวหมิงที่ขมวดคิ้วไปมา ท้ายที่สุดก็กล่าวออกมาว่า "เอาล่ะ เช่นนั้นรอจนกว่าพวกมันจะเข้าไปใกล้หุบเขาหมาป่าอัคคี."
"ทว่า ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเดินทางไร้จุดหมาย แม้ว่าจะมุ่งไปยังหุบเขาหมาป่าอัคคีก็ตาม แล้วพวกมันจะเข้าไปในหุบเขาดังกล่าวอย่างงั้นรึ? แล้วถ้าหากพวกมันไม่เข้าไปยังสถานที่ดังกล่าวล่ะ?"หวังกุยขมวดคิ้ว.
"ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รอง ที่จริงแล้ว ข้าได้สังเกตมาระยะหนึ่งแล้ว เทียนหลิงเอ๋อนั้นเป็นคนนำทาง จงซานเพียงแค่ตามไปเท่านั้น เช่นนั้นข้ามีวิธีในการล่อพวกเขาเข้าไปในหุบเขาหมาป่าอัคคีอย่างไม่ต้องสงสัยและไม่ต้องเปิดเผยตัวตนของพวกเราด้วย."จงตี้กล่าว.
"อย่างงั้นรึ?"ชายทั้งสองที่จ้องมองจงตี้ด้วยท่าทางประหลาดใจ.
เห็นศิษย์พี่ทั้งสองจ้องมองเขาด้วยท่าทางสงสัย จงตี้ได้แต่ฝืนยิ้มอย่างขม ๆ ออกมา."ที่จริงแผนการดังกล่าวนี้ เป็นจงซานที่เคยสอนข้าไว้ ทว่า เขาคงไม่รู้ว่าพวกเราจะใช้ ข้าคิดว่าพวกเขาไม่มีทางที่จะสังเกตหรือพบพวกเราได้."
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันถัดมา เทียนหลิงเอ๋อที่ยังโกรธจงซานไม่หาย นางที่กินขนมกุ้ยฮวาไปหลายชิ้นก่อนที่จะบินหนีไปเช่นกัน นางยังไม่คิดที่จะพูดคุยกับจงซาน ทว่าตอนนี้ก็ใจเย็นลงหน่อยแล้ว นางไม่ได้บินเร็วนัก ยังคงให้จงซานสามารถตามนางได้.
จงซานที่ส่ายหน้าไปมา อารมณ์ของหญิงสาวยากที่จะคาดเดาได้จริง ๆ .
ระหว่างทางนั้น จงซานที่พบเข้ากับสัตว์ที่ถูกถลกหนัง ซึ่งอวัยวะภายในของมันถูกคว้านออกมาทั้งหมด และมีหยดโลหิตที่ชี้ทางไปยังทิศทางหนึ่ง.
จงซานที่ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เขาคิดว่าแถวนี้คงมีพรานป่าที่ล่าสัตว์ถลกหนังป่าไปขายอยู่แล้ว.
เขาที่ยังคงไล่ตามเทียนหลิงเอ๋อไป ไม่ไกลออกไปนั้น จงซานก็พบเข้ากับอีกร่างหนึ่ง ในเวลานี้ ดูเหมือนว่ามันจะดูน่าขยะแขยงกว่าเดิม ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเร่งรีบถลกหนังมันออกมาเป็นอย่างมาก.
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาและยังคงไล่ตามเทียนหลิงเอ๋อต่อไป.
และอีกครั้ง ในครั้งที่สามจงซานที่เห็นซากสัตว์ที่ดูน่ารังเกียจยิ่งกว่าเดิมอีก ใจของเขาที่สั่นไปมาและเริ่มสัมผัสได้ว่ากำลังเกิดเรื่องที่ไม่ถูกต้องเป็นลาง ๆ แล้ว.
เขาที่จ้องมองพื้นที่รอบ ๆ ซึ่งพบว่าอากาศรอบ ๆ เวลานี้กำลังร้อนขึ้น ที่ไกลออกไปนั้นมีกลุ่มควันสีดำทมิฬที่พ่นออกมาจากภูเขาไฟ.
เขาที่ตรวจสอบเส้นทางรอบ ๆ แล้ว เกิดความรู้สึกย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิมซะอีก.
"หลิงเอ๋อ หยุดก่อน."จงซานที่ตะโกนไปยังเทียนหลิงเอ๋อ.
อย่างไรก็ตาม เทียนหลิงเอ๋อที่กำลังโกรธจงซานอยู่ แน่นอนว่านางไม่ฟังจงซานอยู่แล้ว.
จงซานที่เร่งรีบเคลื่อนที่เข้าใกล้ด้วยความเร็วกว่าเดิมและรู้สึกกระวนกระวายเป็นอย่างมาก เทียนหลิงเอ๋อที่เห็นจงซานเร่งรีบไล่ตามเข้ามาใกล้ นางก็ยิ่งเพิ่มความเร็วพุ่งตรงไปยังภูเขาไฟ.
ไม่ไกลออกมาจากภูเขา เป็นยอดเขาที่สูงชันเป็นอย่างมาก ที่บนยอดเขานั้นเป็นป่าขนาดใหญ่ที่หนาแน่นเป็นอย่างมาก และที่อีกฝั่งด้านขวานั้นเป็นภูเขาไฟ จงซานที่เร่งรีบตามเทียนหลิงเอ๋อที่เร่งความเร็วบินตรงไปอย่างรวดเร็ว.
บนยอดเขานั้น หวังกุย หลิวหมิงและจงตี้ที่ยืนจ้องมองจงซานที่ตรงเข้าไปยังป่าทึบดังกล่าว.
"จงตี้ แผนการของเจ้าใช้ได้ผล แม้ว่ามันจะน่าขยะแขยงไปหน่อยก็เถอะ เทียนหลิงเอ๋อที่ลอยอยู่บนฟ้า ดังนั้นนางไม่มีทางที่จะเห็นศพเหล่านี้ ทว่านางก็ยังมุ่งตรงไปยังทิศทางดังกล่าว เพราะเหตุใดกัน?"หวังกุยที่จ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อที่พุ่งตรงเข้าไปยังทิศทางดังกล่าวเร็วขึ้นและเร็วขึ้น เต็มไปด้วยความประหลาดใจ.
จงตี้ที่เห็นจงซานที่อยู่ไกลออกไป จงตี้ที่ถอนหายใจยาว "เมื่อต้องพบกับทางแยกมากมาย สภาพของจิตใจมีผลต่อการตัดสินใจ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็นำพาไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างออกมาได้."
"นี่คงจะตรงกับที่เขาว่าแค่เลือกทางผิดชีวิตก็เปลี่ยน?"หวังกุยที่หัวเราะอย่างมีความสุข.
"เอาล่ะ พวกเราเริ่มแผนต่อไปเลย."หลิวหมิงกล่าว.
"ครับ."หวังกุยพยักหน้า.
หวังกุยที่นำธนูและลูกธนูออกมาจากสร้อยข้อมือเก็บของ.
เค้าที่ง้างคันธนูจนกลายเป็นเสี้ยวดวงจันทร์เล็งตรงเข้าไปในหุบเขาที่เทียนหลิงเอ๋อมุ่งไป พร้อมกับปล่อยลูกศรออกไป.
"ฟิ้ว!"
เสียงของลูกธนูที่พุ่งเลยผ่านไป เทียนหลิงเอ๋อพบว่าลูกธนูนั้นไม่ได้เล็งมายังนาง แต่เป็นหุบเขาด้านหน้าของนาง ทำให้นางประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
ในเวลาเดียวกันนั้น จงซานที่จ้องมองไปยังทิศทางของลูกธนู ก็ทำให้เขาตื่นตระหนกขึ้นในทันที เขาจ้องมองกลับไปยังต้นทางของลูกธนูที่ปล่อยออกมา.
จงตี้?เป็นจงตี้ บุตรบุญธรรมอกตัญญู?
จงซานที่ตระหนักได้ทันทีเลยว่ากำลังจะเกิดสิ่งใดขึ้น.
"หลิงเอ๋อ อันตราย เร็วเข้า กลับมา ."จงซานที่ร้องตะโกนลั่น.
เทียนหลิงเอ๋อที่ดื้อรั้นเต็มไปด้วยทิฐิ ทำไมนางต้องเชื่อฟังเขาด้วยล่ะ? ทว่านางก็ดูสับสนเล็กน้อยกับทิศทางที่ลูกธนูพุ่งหายไป นางที่จ้องมองลึกเข้าไปในทิศทางดังกล่าว.
"โฮกกกกกก!"
ทันใดนั้น เสียงหอนของหมาป่าที่ดั่งลั่นไปทั่วทั้งพื้นที่ที่ลูกธนูหายไป.
ขณะที่จงซานได้ยินเสียงหมาป่า เขาก็รู้ทันทีว่าเกิดปัญหาแล้ว ปัญหาใหญ่ซะด้วย เป็นกับดับของลูกอกตัญญูของเขา?เทียนหลิงเอ๋อที่รับรู้ได้ถึงอันตรายแล้ว ใบหน้าของนางที่ก็ตกใจเช่นกันและจ้องมองเข้าไปภายในหุบเขาดังกล่าว.
ชายสามคนที่แอบซุ่มจ้องมองจากที่ไกลออกไป พวกเขาที่เห็นเสียงหมาป่าที่ร้องโหยหวน ใบหน้าของพวกเขาแสดงออกมาถึงความดีใจ.
"ครืน ๆ ๆ ."
ร่างกายสูงสองเมตร หมาป่าอสูรสีแดง ดวงตาดุร้าย ทันทีที่มันเห็นคนก็มีหมาป่าอีกหลายตัวที่ตามออกมา.
ไม่ถึงสองลมหายใจด้วยซ้ำ ก็ปรากฏหมาป่าขนาดสองเมตรกว่าสองร้อยตัว หมาป่าอสูรขนสีแดงมากกว่าสองร้อยตัวเลยรึ?
และยังมีอีกสิบกว่าตัวที่มีขนาดสามเมตร และหนึ่งตัวที่มีขนาดสูงถึงสี่เมตร จะต้องเป็น ราชาหมาป่าแน่นอน.
หมาป่าอัคคี สัตว์อสูรธาตุเพลิง.
เทียนหลิงเอ๋อที่รับรู้ถึงสถานการณ์ทันที ที่นางเห็นหมาป่าอัคคีมากมายปรากฏตัวออกมา.
"หนีเร็วเข้า."จงซานที่ตะโกนบอกเทียนหลิงเอ๋อและตัวเขาที่หันหลังกลับและเริ่มวิ่งแล้ว.
"โฮก ๆ ๆ ."
เสียงคำรามของหมาป่าอสูรอัคคีสี่เมตร พร้อมกับหมาป่าอสูรอีกหลายร้อยตัวที่พุ่งตรงไล่ล่าจงซานและเทียนหลิงเอ๋อทันที แต่ละตัวนั้นเต็มไปด้วยความกระหายโลหิต เห็นพวกเขาทั้งสองนั้นไม่ต่างจากมื้ออาหารของพวกมัน.