ตอนที่แล้วChapter 28 พบจงตี้อีกครั้ง.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 30 พู่กันและผงหมึก.

Chapter 29 ไม่สามารถล่วงเกินได้.


สายฝนที่เทกระหน่ำ หวังกุยและจงตี้เดินอยู่บนถนนกับร่มใบใหญ่.

"ศิษย์พี่รอง เกิดอะไรขึ้นกับถังเสี่ยวโหยวอย่างงั้นรึ?"จงตี้สอบถามออกไปพร้อมกับขมวดคิ้ว.

"ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จ้าวโส่วเซี่ยงกลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าเขาทำงานสำเร็จหรือไม่ ศิษย์พี่ใหญ่ไม่ค่อยวางใจถึงได้ให้พวกเราออกมาดู."หวังกุยที่กล่าวออกมาอย่างขึงขัง.

ขณะที่สองคนเดินทางมาถึง ไกลออกไปนั้น ถังเสี่ยวโหยวก็ถือลังไม้ในมืออีกข้างหนึ่งถือร่มกำลังออกมาจากร้านแห่งนี้และพบเข้ากังหวังกุยและจงตี้.

"ศิษย์พี่รอง."ถังเสี่ยวโหยวที่กล่าวออกมาในทันที.

"หือ?"หวังกุยที่จ้องมองออกไป จากนั้นก็เดินเข้าไปในทันที.

"ไปยังสถานที่ลับตาคน."หวังกุยกล่าว.

"ครับ."ถังเสี่ยวโหยวพยักหน้า.

หลังจากนั้นถังเสี่ยวโหยวที่นำคนทั้งสองเดินทางไปยังตระกูลถัง.

ที่ด้านใน หวังกุยที่สอบถามออกไป."มีอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นรึ?"

"ศิษย์พี่รอง ข้าขอโทษ ข้าทำภารกิจล้มเหลว."ถังเสี่ยวโหยวที่กล่าวด้วยความละอาย.

"แล้วมุกคงหลิงล่ะ?"หวังกุยสอบถาม.

"มุกคงหลิงนั้นไม่ได้ส่งมอบให้กับจ้าวโส่วเซี่ยง แต่เป็นสหายของเขาแทน."ถังเสี่ยวโหยวทีถอนหายใจ.

"หืม?"หวังกุยตื่นตะลึง.

"ในตอนแรกนั้นเป็นไปตามแผนของพวกเรา ที่พบสถานที่และโอกาสที่เหมาะสมแล้ว ข้าที่กำลังหาวิธีในการส่งมุกคงหลิงให้กับจ้าวโส่วเซี่ยง หลังจากนั้นก็จะแอบขโมยหมาป่าอสูรนั่นไป จ้าวโสวเซี่ยงจะได้ไม่ผูกใจเจ็บพวกเรามากนัก ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าพวกเราเป็นคนเอาไป ทว่าพวกเขาก็ไม่มีหลักฐาน น่าจะพอไม่ถือสากันได้ และเมื่อพวกเขาไม่มีหลักฐาน ในเมื่อเขาได้มุกคงหลิงแล้วก็คงจะใจเย็นลง ทว่า ......"ถังเสี่ยวโหยวที่เริ่มเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างให้คนทั้งสองฟังในทันที.

"จงซาน?"หวังกุยที่ขมวดคิ้วไปมา.

ส่วนอีกด้าน จงตี้ที่จ้องมองไปยังถังเสี่ยวโหยวส่ายหน้าไปมาและหลังจากนั้นก็ถอนหายใจยาว.

"จงตี้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะคุ้นเคยกับจงซานดีนะ."หวังกุยที่สอบถามออกมาทันที พร้อมกับจ้องมองไปยังจงตี้.

"ศิษย์พี่ เขาได้ทำการตรวจสอบลูกเต๋าก่อนเริ่มหรือไม่?"จงตี้สอบถามถังเสี่ยวโหยว.

"ใช่เขาตรวจสอบ เขารู้กระทั่งลูกเต๋าที่ผิดปรกติของพวกเราและได้ขอเปลี่ยนลูกเต๋าชุดใหม่และทำการตรวจสอบลูกเต๋าชุดใหม่ที่ตระกูลของพวกเรานำออกมาเปลี่ยนด้วยตัวเอง."ถังเสี่ยวโหยวกล่าว.

"ตรวจสอบ? หากว่าลูกเตาถูกจงซานจับแล้วล่ะก็ ท่านจะไม่มีโอกาสชนะเขาได้อีกต่อไป."จงตี้ถอนหายใจยาว.

เมื่อเขาพูดถึงจงซานอดไม่ได้เลยที่ทำได้แต่ทอดถอนใจ จงตี้รู้ว่าจงซานนั้นมีความรู้มากมายและสอนบุตรบุญธรรมทุกคน.

เขาได้สอนเทคนิคเล็ก ๆ น้อยเกี่ยวกับทุกอย่าง รวมทั้งการสอนการฟังเสียงของลูกเต๋าด้วย จงซานที่สามารถบอกผลมันได้อย่างแม่นยำ ซึ่งพวกเขาเองก็รับรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน.

"ทำไมอย่างงั้นรึ?"ถังเสี่ยวโหยวสอบถามออกมา.

"เสียงของลูกเต๋า แต่ละหน้านั้นจะมีเสียงที่ต่างกัน...."จงตี้อธิบายโดยละเอียด.

"มันจะมากเกินไปแล้ว! เขาโกงข้าอย่างงั้นรึ?"ถังเสี่ยวโหยวที่โกรธเกรี้ยว.

"คนที่โกงเขาก่อนเป็นเจ้าไม่ใช่รึไง?"หวังกุยที่แค่นเสียงอย่างเย็นชา.

"ศิษย์พี่รอง"ถังเสี่ยวโหยวที่ขมวดคิ้ว พยายามระงับความโกรธเอาไว้.

"แล้วจงซาน เขาแข็งแกร่งหรือไม่?"หวังกุยที่สอบถามจงตี้.

"หนึ่งปีครึ่ง ก่อนหน้านี้ เขาอยู่ในระดับสิบโหวเทียน และยังไม่ได้เข้าสำนักเซียนด้วยซ้ำ."จงตี้กล่าว ซึ่งเขาเองไม่สามารถบอกได้เช่นกันว่าตอนนี้จงซานแข็งแกร่งหรือไม่อย่างไร.

"หนึ่งปี?พรสวรรค์ต่ำเตี้ย เขาจะเก่งขนาดใหนกัน?"ถังเสี่ยวโหยวที่แค่นเสียง.

"ศิษย์พี่ อย่าได้ประมาท พวกเราไม่สามารถดูแคลนเขาได้ ไม่ควรที่จะยุแหย่เขา."จงตี้กล่าวออกมาทันที.

"โอ้วอย่างงั้นรึ?"หวังกุยที่หรี่ตาจ้องมองออกไป.

"หากข้าจำไม่ผิดละก็ ในอดีต จงซานที่ตอนนั้นเขาอยู่ในระดับเจ็ดโหวเทียน มีคนผู้หนึ่งในระดับเซียนเทียนได้สังหารบุตรบุญธรรมของเขา เมื่อจงซานรู้เข้า...สามวันหลังจากนั้น เขาก็สามารถกลับมาพร้อมกับศีรษะของชายคนนั้น เขาสามารถล้างแค้นให้กับบุตรบุญธรรม และสองวันนั้น เขาที่ใช้เวลาค้นหาและสังหารคนผู้นั้นเพียงแค่ในวันเดียว."จงตี้ที่ถอนหายใจยาว ในเวลาเดียวกันในสายตาของเขาที่เข้าใจความน่ากลัวของจงซานได้.

วันเดียว? ระดับเจ็ดโหวเทียน สามารถที่จะสังหารผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนได้อย่างงั้นรึ?

หวังกุยและถังเสี่ยวโหยวที่จ้องมองหน้ากันและกัน ซึ่งแสดงท่าทางไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย.

"เป็นไปไม่ได้ เขาที่อยู่ในระดับเจ็ดโหวเทียน จะไปสามารถกุดหัวคนที่มีระดับเซียนเทียนได้อย่างไร."ถังเสี่ยวโหยวกล่าวออกมาเสียงดัง ทุก ๆ คนต่างก็รู้ดีว่าความแตกต่างโดยธรรมชาติของเขตแดนทั้งสองกันนั้นยิ่งใหญ่ขนาดใหน.

"แล้วเขากุดหัวชายคนนั้นได้อย่างไร?"หวังกุยกล่าว.

"ไม่มีใครรู้ รู้เพียงแต่ว่าเขาสังหารชายคนนั้นไป และนำหัวของชายคนนั้นกลับมา ดังนั้นหากว่าไปยุแหย่เขาล่ะก็ จะกลายเป็นศัตรูที่หมายหัวของเขาในทันที."จงตี้ที่กล่าวออกมา.

"ในเมื่อไม่เห็น เช่นนั้นก็ไม่สามารถบอกได้ บางทีเขาอาจจะหาคนช่วยก็ได้ หรืออาจจะมีผู้ช่วยในระดับเซียนเทียน."หวังกุยกล่าว.

"ใช่ ๆ  เขาจะต้องมีคนช่วยอย่างแน่นอน ในเมื่อไม่มีใครเห็น เขาอาจจะจ้างคนในระดับเซียนเทียน ไม่มีทางที่เขาจะสามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว."ถังเสี่ยวโหยวกล่าว.

จ้างคนระดับเซียนเทียน?คิดว่าคนเหล่านั้นที่เต็มไปด้วยความอหังการจะยอมฟังอย่างงั้นรึ? จงตี้รับรู้ถึงความน่ากลัวของจงซานได้ดี ระดับเซียนเทียนรึ? หากไม่เพราะว่าเกิดเรื่องขึ้นในการชุมนุมประตูมังกรในครั้งนั้นล่ะก็ ขณะที่จงตี้จะกล่าวต่อก็มีเสียงพูดขึ้นมาก่อน.

"เอาล่ะ ในเมื่อไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ในเมื่อของวิเศษของพวกเราอยู่ในมือเขาแล้ว เช่นนั้นก็ต้องหาทางเอาคืนมา และหาโอกาสกำจัดเขาซะ."หวังกุยที่ออกคำสั่งพร้อมกับจิตสังหารที่แผ่ออกมา.

ในตอนแรกจงตี้ต้องการจะแนะนำอะไรบางอย่าง ทว่าหลังจากที่ได้ยินหวังกุยกล่าวออกมาแล้ว จงตี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก อีกอย่างเขาที่ได้เห็นจงซานในเวลานี้ ทำให้เขารับรู้ได้ว่าต่อไปหลังจากนี้เขาคงจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ ดูเหมือนว่าภายในใจของเขาจะมีจิตมารมารบกวน หากเขาตายไป เรื่องทุกอย่างคงจะบรรเทา.

"ครับ."ถังเสี่ยวโหยวและจงตี้ตอบรับพร้อมกัน.

................

ในคืนที่มืดมิด ฝนที่กระหน่ำตกอย่างรุ่นแรง หมาป่าอสูรที่อยู่ในสวน ทันใดนั้นประตูกรงกระจกก็เปิดออกมาในทันที ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้นชายในชุดคลุมสีขาวที่ถือกระบี่สีขาวเข้าไปหาใครคนหนึ่ง.

"สหายจ้าว คืนนี้ฝนตกอย่างหนักเลย เจ้าไม่คิดที่จะมาฝึกวิชาท่ามกลางสายฝนกับข้าหน่อยรึ? มาทดสอบกันหน่อยเป็นไง"ชายชุดขาวกล่าว.

ชายชุดขาวที่กระโดดเหินขึ้นไปบนหลังคา พุ่งตรงไปยังพื้นที่แห่งหนึ่ง ฝนที่ตกลงมาหนักนั้นไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้เลย.

หลังจากชายชุดขาวแล้ว จ้าวโส่วเซี่ยวที่กวัดแกว่งทวนยาวพุ่งตรงตามไป ประกายแสงแปบ ๆ จากอาวุธ พวกเขาที่ต่อสู้กันไปมาบนหลังคา.

เหล่าเงาในมุมมืดที่เงียบ แต่ละคนที่จ้องมองออกไปด้วยความชื่นชมและเคารพ.

จงซานในเรือนเล็กแห่งหนึ่ง.

จงซานและเทียนหลิงเอ๋อที่นั่งอยู่ในห้องนอนด้านใน เทียนหลิงเอ๋อที่กำลังจะเข้านอนแล้ว ส่วนจงซานที่นอนอยู่ห้องนอนด้านนอก.

"จงซาน เจ้าได้ยินอะไรไหม?"เทียนหลิงเอ๋อที่ออกมาจากห้องนอน.

"อืม."จงซานพยักหน้า.

ถึงแม้ว่าจะมีฝนตกหนัก ทว่าจงซานที่อยู่ในระดับ 3 เซียนเทียน การต่อสู้ของจ้าวโสวเซี่ยงกับใครอีกคนนั้น เขาสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน.

"พวกเราไปดูกันใหม."เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.

"ไม่ ห้ามไป."จงซานขมวดคิ้ว.

"ทำไมล่ะ?"เทียนหลิงเอ๋อที่ตอบออกมาในทันที.

"มันแปลกไป."จงซานที่ขมวดคิ้ว.ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ทว่าจงซานสามารถสัมผัสได้ว่ามีอะไรผิดปกติ.

"แปลกอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามออกไป.

"ไปนอนได้แล้ว พวกเราจะเดินทางแต่เช้า."จงซานที่กล่าวออกไปโดยที่ไม่ตอบคำถามใด ๆ .

"เอะ ไม่บอกข้าเหรอ."เทียนหลิงเอ๋อที่เซ้าซี้.

"เอาล่ะ ไปนอนได้แล้ว."จงซานกล่าว.

แม้ว่าเขาจะให้เทียนหลิงเอ๋อไปนอน ทว่าเขาก็ยังรับรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้.

เมื่อมองออกไปยังด้านนอกแล้ว จงซานไม่สามารถหลับได้เลย หลังจากนั้นราว ๆ เที่ยงคืนฝนก็หยุดตก.

หลังจากที่ฝนอยู่ตกแล้ว เขาไม่สามารถบอกได้เลยว่าจ้าวโส่วเซี่ยงและอีกคนได้หยุดต่อสู้กันหรือยัง.

ใกล้ถึงยามเบ้า จงซานที่ได้ยินเสียงคนพูดออกมาจากด้านนอก.

4. ยาม เบ้า (เหม่า) เท่ากับ เวลา 05.00 น. จนถึง 06.59 น. (ชั่วยามจีน= 2 ชม. ชั่วยาวไทย= 3)

"สหายเจ้า เพลงทวนของท่านร้ายกาจจริง ๆ  นับถือ ๆ ."หลิวหมิงผู้ท้าทายกล่าวออกมา.

"สหายหลิว เพลงกระบี่ของท่านก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน ทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาเลยทีเดียว."จ้าวโส่วเซี่ยงกล่าว.

หลังจากนั้น ก็ไม่มีเสียงดังขึ้นอีก เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาได้กลับไปพักแล้ว จงซานที่รู้สึกวางใจและกลับไปพักผ่อน.

ตอนเช้าตรู่ จงซานที่ไปปลุกเทียนหลิงเอ๋อ เพื่อให้เตรียมตัวเตรียมจากไปในทันที เพราะว่าจงซานนั้นรับรู้ว่ากำลังจะมีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นในไม่ช้านี้.

"ยังเช้าอยู่เลย! เจ้าต้องการอะไร?"เทียนหลิงเอ๋อที่ถูกรบกวน นางที่งัวเงียลุกขึ้นมา.

"โอ้วไม่ ช่วยด้วย! หมาป่าอสูรเปลี่ยนร่างแล้ว หมาป่าอสูรเปลี่ยนร่าง! "มีเสียงใครคนหนึ่งที่ดังมาแต่ไกล.

ได้ยินเสียงดังกล่าวนั่น ทันใดนั้นจงซานก็รับรู้ได้ในทันทีมีอะไรบางอย่างที่ย่ำแย่เกิดขึ้นแล้ว เทียนหลิงเอ๋อเองกลายเป็นสนใจขึ้นมาทันที.

หมาป่าอสูรกลายร่างอย่างงั้นรึ? มันหมายความว่าอย่างไร.

เทียนหลิงเอ๋อที่เร่งรีบทำความสะอาดร่างกายพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าที่แม่บ้านเตรียมให้ และจับมือจงซานเร่งรีบออกไปดูในทันที.

ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงลานบ้านที่หมาป่าอสูรเคยอยู่.

ในเวลานี้ ทุกคนต่างก็ยืนอยู่ที่ลานกันหมด จ้าวโส่วเซี่ยง จงตี้ หวังกุย ถังเสี่ยวโหยว และชายในชุดสีขาว ที่ดูเหมือนว่าทุกคนจะให้ความเคารพเป็นอย่างมากทีเดียว.

ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังกรงกระจก ที่ตอนนี้หมาป่าสีขาวนั้นได้หายไปแล้ว และมีจิ้งจอกตนหนึ่งถูกนำมาแทนที?

"หมาป่าสีขาวเปลี่ยนเป็นจิ้งจอกขาวได้อย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่ไม่อยากจะเชื่อจ้องมองไปยังจิ้งจอกสีขาวที่นอนอยู่ด้านใน.

"เป็นไปไม่ได้ หมาป่าก็คือหมาป่า จะต้องมีคนมาขโมยมันไป."ดวงตาของจ้าวโส่วเสี่ยงที่เบิกกว้าง.

"ถูกสับเปลี่ยนอย่างงั้นรึ?เป็นไปได้อย่างไร?ถังซือ บอกข้าสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น "ถังเสี่ยวโหยวที่กล่าวเสียงดังต่อบ่าวรับใช้.

สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังชายคนดังกล่าว ซึ่งมีนามว่าถังซือที่คุกเข่าลงกับพื้นทันทีและเริ่มอธิบาย.

"นายท่าน ข้าที่นำอาหารมาให้หมาป่าขาวเมื่อวานก็ยังอยู่ดีอยู่เลย ทว่าตอนเช้าข้านำอาหารมาให้มันอีก มันก็เปลี่ยนไปแล้ว!มันเปลี่ยนร่างไปแล้ว!หมาป่าตัวนี้มันกลายเป็นจิ้งจอกไปแล้ว!"ชายที่ถังซือที่ร้องโอดโอยส่ายหน้าไปมา เห็นได้อย่างชัดเจนเขาก็ไม่อยากเชื่อเช่นกัน.

"เจ้าไม่ได้เห็นมันเปลี่ยนร่างตอนให้อาหารกับมันใช่หรือไม่?"จ้าวโส่วเซี่ยงแค่นเสียง.

"ไม่ครับ นานท่าน เมื่อวานนี้ฝนตกหนัก ข้าจึงให้อาหารมันครั้งเดียว ทว่าในตอนนั้นมันก็ยังเป็นหมาป่าอยู่เลย."ถังซือที่ตัวสั่นตอบออกมา.

"นั่นก็หมายความว่า มีคนมาขโมยหมาป่าอสูรแล้วสับเปลี่ยนมันขณะที่ฝนตกอย่างงั้นรึ? พี่หลิวและข้านั้นดวลกันจนถึงยามสาม นั่นก็หมายความว่าขณะที่ฝนหยุดตก ก่อนเช้า จะต้องมีใครมาขโมยหมาป่าอสูรไป?"จ้าวโส่วเซี่ยวที่แค่นเสียงเย็นชาออกมา.

"เป็นเจ้า จะต้องเป็นเจ้าอย่างแน่นอน!"ถังเสี่ยวโหยวที่ชี้ไปยังจงซาน.

ได้ยินคำกล่าวหาของถังเสี่ยวโหยว สายตาของจงซานที่หรี่ตาจ้องมอง.

"แล้วทำไมต้องเป็นพวกเรา? มีคนตั้งมากมายเจ้ากลับเห็นว่าเป็นพวกเราอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่โต้แย้ง.

"เจ้า เจ้าเคยบอกมาก่อนว่า หากว่าพวกเจ้าเจอหมาป่าอสูรก่อน แน่นอนว่าจะต้องปล่อยมัน นั่นก็หมายความว่าจะต้องเป็นพวกเจ้าที่แอบมาปล่อยหมาป่าอสูรตนนี้."ถังเสี่ยวโหยวที่ชี้ไปยังเทียนหลิงเอ๋อ.

"หืม แล้วเจ้าไปได้ยินเรื่องนี้มาจากใหนกัน?"จงซานที่เผยยิ้มอย่างเย็นชา.

ตอนนั้นจงซานสามารถบอกได้เลยว่า ขณะที่เทียนหลิงเอ๋อกล่าวออกมานั้น ถังเสี่ยวโหยวไม่ได้อยู่ที่นี่เลย.

"ใช่แล้ว เจ้าไปได้ยินมาจากไหน?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาทันที.

"ข้า.. ข้าได้ยินศิษย์พี่รองและจงตี้คุยกัน."ถังเสี่ยวโหยวที่เร่งรีบแก้ตัวในทันที เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขายังคงไหวตัวทัน.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด