ตอนที่แล้วChapter 23 พบกับอีกาเหมันต์อีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 25 กระบี่นิรันดร์.

Chapter 24 ความสับสน


จงซาน ที่อุ้มเทียนหลิงเอ๋อ พร้อมกับพุ่งลงไปยังเนินเขา.

อีกาเหมันต์มากมายที่บินไล่ตามเขาไม่หยุด ทั้งซ้ายและขวา หน้าและหลัง ปิดทางเขาเอาไว้ทุกทิศทุกทาง.

จงซานที่ผูกดาบยักษ์เอาไว้ด้านหลังด้วยเชือก มือของเขาที่กอดเทียนหลิงเอ๋อไว้แน่นเพื่อป้องกันนางเอาไว้.

"กอดข้าเอาไว้ให้แน่น."จงซานที่กล่าวกับเทียนหลิงเอ๋อ.

การมาถึงของจงซานนั้น แทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่เทียนหลิงเอ๋อกำลังทิ้งความหวังทั้งหมดไป ทว่าในเวลานี้ทันทีที่จงซานปรากฏตัวขึ้น เทียนหลิงเอ๋อก็รู้สึกราวกับว่ามีกลิ่นอายที่อบอุ่นที่กำลังแผ่ออกมาจากจงซาน เหมือนกับวีรบุรุษจากสวรรค์ส่งลงมาปกป้องนาง ในเวลาเดียวกันนี้ น้ำตาของเทียนหลิงเอ๋อที่ไหลไม่หยุด นางที่กอดเขาเอาไว้แน่นและหวังที่จะพึงพาเขาเพียงคนเดียว.

ด้วยคำพูดของจงซาน เทียนหลิงเอ๋อที่ยังพอมีสติ ใช้มือทั้งสองกอดคอเขาเอาไว้แน่น.

ไอเย็นที่ถูกพ่นมาจากทุกทิศทุกทาง จงซานที่กระโดดและพุ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็วและพลังทั้งหมดที่มี เขาพุ่งทะลวงไปยังฝูงอีกาเหมันต์มากมาย พร้อมกับตรงดิ่งไปยังด้านล่างของภูเขาในทันที.

เขาไม่สามารถที่จะโดดพ้นจากเหล่าอีกาเหมันต์ได้ ทว่าทันทีที่ร่วงหล่นลง เท้าของเขาก็ก้าวไปบนร่างของอีกาเหมันต์ไปพร้อม ๆ กัน.

จงซาน ที่มีเทียนหลิงเอ๋อในอ้อมกอด ที่ม้วนหมุนร่างไปพร้อม ๆ กัน.

"ครืนนนน."

พวกเขาที่วิ่งผ่านอีกาเหมันต์ พร้อมกับเหยียบย่างไปบนสันเขาตรงไปด้านหน้า.

ขณะที่เขาทะลวงออกมาจากวงล้อมของอีกาเหมันต์ได้ จงซานก็วิ่งต่อไปพร้อมกับอุ้มเทียนหลิงเอ๋อ ด้วยพลังทั้งหมด.

เขาที่วิ่งเข้าไปในหุบเขาด้วยความเร็วที่เขาสามารถวิ่งได้.

อย่างไรก็ตาม เหล่าอีกาเหมันต์ยังไม่คิดจะยอมแพ้ยังคงวิ่งไล่ตามเขาไม่หยุดหย่อน.

เมื่อทั้งคู่ลงมาจากเนินเขาและพุ่งเข้าไปในหุบเขา พวกเขาที่เคลื่อนที่เร็วเป็นอย่างมาก ทว่าเมื่อลงมาถึงหุบเขาแล้ว ความเร็วของอีกาเหมันต์ก็ไล่ติดตามพวกเขามาอย่างรวดเร็ว.

ด้วยการจ้องมองสำรวจพื้นที่รอบ ๆ  จงซานที่เห็นพื้นที่เขตยุงพิษที่อยู่ห่างออกไป

ในภาวะล่อแหลมนั้น จงซานที่ตัดสินใจมุ่งไปยังทิศทางดังกล่าว เขาที่เคลื่อนที่เร็วเป็นอย่างมาก.

ในเวลานี้เขาไม่สามารถที่จะวางเทียนหลิงเอ๋อลงได้ หากเขาหยุดเมื่อไหร่อีกาเหมันต์จะต้องล้อมรอบพวกเขาในทันที.

จงซานที่ใช้กำลังทั้งหมดที่มีพุ่งตรงไปยังทิศทางดังกล่าว อีกาเหมันต์ที่ไล่หลังเขามาไม่หยุด ดูเหมือนว่ามันจะมีจำนวนมากกว่าเก่าสะอีก.

ท้ายที่สุด หลังจากที่อีกาเหมันต์ไล่หลังเขามาไม่หยุดเช่นนี้ เขาที่พุ่งตรงไปยังพื้นที่พิษมาเลเลีย พุ่งเข้าไปพื้นที่ด้านในโดยไร้ซึ่งลังเล.

เป็นดังที่เขาคาด อีกาเหมันต์ไม่กล้าเข้าใกล้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับแกนทองยังไม่สามารถต้านพิษมาลาเลียได้.

"กา...."

"กา...."

…………

…………

……

อีกาเหมันต์มากมายที่ร้องลั่นด้านนอกด้วยความโกรธเกรี้ยว ทว่าก็ไม่กล้าเข้ามาด้านใน.

พวกเขาปลอดภัยแล้วรึ? จงซานช่วยนางเอาไว้แล้วเหรอ อย่างไรก็ตาม เทียนหลิงเอ๋อที่รู้ว่ากำลังต้องเชิญกับพิษมาลาเลีย พิษมาลาเลียที่สามารถสังหารทุกคนและซึมเข้ามาในผิวหนังแม้ว่าไม่หายใจก็ตาม.

"ปิดตา ปิดปาก และห้ามหายใจ "จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

หลังจากที่กล่าวจบ ไม่รอให้เทียนหลิงเอ๋อกล่าวแต่อย่างใด เขาที่ใช้พลังจิตและปราณแท้ สร้างหมอกหงหลวนขึ้นมา หมอกหงหลวนที่ปกคลุมร่างของคนทั้งสอง.

จงซานที่มั่นใจว่าหมอกดังกล่าวนั้นปกคลุมร่างของเขาและเทียนหลิงเอ๋อและป้องกันไม่ให้ซึมเข้าไปในร่างของนางด้วย.

เมื่อเทียนหลิงเอ๋อได้ยินจงซาน นางที่ปิดตาและยับยั้งการหายใจทันที.

จงซานที่ต้องเคลื่อนที่ให้เร็วที่สุดในการผ่านพื้นที่พิษมาลาเลีย ซึ่งหมอกหงหลวนเวลานี้ไม่ได้ปกคลุมร่างของเขาคนเดียว แต่เป็นสองคนไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้น เขาจะต้องผ่านพื้นที่แห่งนี้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่เช่นนั้นแล้วหากพลังจิตของเขาหมดลงขณะวิ่ง พวกเขาทั้งคู่จะเกิดปัญหาใหญ่.

จงซานที่วิ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง ภายในใจนั้นเต็มไปด้วยความกระวนกระวานใจ.

เทียนหลิงเอ๋อที่ใช้ปราณแท้แทนการหายใจ นางที่สังเกตุเห็นว่าแขนของนางนั้นกอดคอของจงซานอยู่ ทำให้ใบหน้าของนางแดงขึ้นมาทันที.

ไม่มีอีกาตามมา ไม่ได้ยินเสียงอีกาเหมันต์อีกต่อไป ตอนนี้นางปลอดภัยแล้ว?

"ตอนนี้พวกเราปลอดภัยแล้วรึยัง?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาขณะหลับตา.

โอ้ว ไม่!

จงซานที่รุ้ว่าเขาได้กระทำเรื่องที่ผิดพลาดแล้ว เขาลืมเตือนว่าไม่ให้นางพูดด้วย ที่จริง ดูเหมือนว่าจะมีหมอกหงหลวนหลุดเข้าไปในปากของนางนิดหน่อย.

"ห้ามพูดด้วย."จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

เขาที่กำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีเวลาที่จะนำหมอกหงหลวนออกมาจากร่างของเทียนหลิงเอ๋อ หากว่าเขาทำเช่นนี้ เขาก็จะไม่มีพลังจิตเพียงพอในการป้องกันพิษมาลาเลียเวลานี้.

เทียนหลิงเอ๋อที่หยุดพูด อย่างไรก็ตาม นางรู้สึกว่าร่างกายของนางที่ร้อนรุ่มไปทั่วร่าง นางที่รู้สึกแปลกประหลาดต้องการที่จะเปลื้องผ้าออกให้หมด.

เทียนหลิงเอ๋อที่คิดว่าตอนนี้ตนเองรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก หนำซ้ำมันยังรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ  ตอนนี้นางต้องการที่จะเปลืองผ้าออกให้หมดจริง ๆ  ใบหน้าของนางที่เปลี่ยนเป็นแดงซ่าน.

จงซานที่วิ่งอยู่นั้น เห็นท่าทางที่แปลกประหลาดของเทียนหลิงเอ๋อ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ผลของหมอกหงหลวนรวดเร็วขนาดนี้เลยเหรอ.

จงซานที่เพิ่มความเร็วขึ้นอีก วิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมดูเหมือนว่าจะไม่มีเวลาถึงพรุ่งนี้แน่.

ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ของเทียนหลิงเอ๋อมันยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม นางไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายได้แล้ว ราวกับว่าร่างของนางไม่ฟังคำสั่งของนางเลยแม้แต่น้อย.

เทียนหลิงเอ๋อที่สับสน นางที่เริ่มหายใจหอบ ๆ แม้แต่สูดหมอกหงหลวนเข้ามาในร่าง นางที่ได้กลิ่นกายของจงซานทำให้นางเริ่มเลียเขาราวกับว่าเขาเป็นขนมกุ้ยฮวา.

ท่าทางของเทียนหลิงเอ๋อนั้นไม่เป็นที่ใส่ใจของจงซาน เขาแก่เกินเรื่องเช่นนี้แล้ว โชคดีที่พวกเขาจวนจะออกจากพื้นที่พิษมาลาเลียแล้ว.

เขาที่ก้าวเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมเขาที่ยังคงใช้พลังจิตอยู่ จนท้ายที่สุดก็ออกมาจากพื้นที่พิษมาลาเลีย.

จงซานเร่งรีบใช้พลังจิตที่เหลืออยู่ขับหมอกหงหลวนออกจากร่างของเทียนหลิงเอ๋อในทันที.

ท้ายที่สุด หลังจากผ่านไปสิบลมหายใจ เขาก็สามารถขับหมอกหงหลวนออกจากร่างนางได้หมด.

ใบหน้าของเทียนหลิงเอ๋อที่ยังคงแดงซาน และเสื้อผ้าของนางที่ถูกปลดออกด้วยฝีมือนางจนมองเห็นชุดชั้นใน เทียนหลิงเอ๋อที่เหนื่อยหอบ ใบหน้าขาวซีด หมดแรงจนหลับไป.

จงซานที่หายใจลึกเข้ามาและค่อยติดกระดุมเสื้อเทียนหลิงเอ๋อกลับคืน พร้อมกับวางนางลงบนพื้นที่โล่ง จงซานที่หลับตาเริ่มบำเพ็ญพลัง เขาที่ใช้วิชากายาเทพอสูรหลังจากครบสองชั่วโมง เขาจะเริ่มเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่าง.

จงซานมาหยุดอยู่ใกล้ ๆ ทะเลสาบแห่งหนึ่ง พื้นที่แห่งนี้ดูสะอาดและเงียบสงบ จงซานเริ่มฟื้นฟูพลังกายของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับผลประโยชน์จากภัยที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ด้วยการบีบเร้นการใช้พลังจิตจนถึงขีดสุด ทำให้พลังจิตที่มีตอนนี้มีมากกว่าเดิม วิชาหงหลวนเทียนของเขาก้าวไปถึงระดับสองแล้วอย่างงั้นรึ?

ส่วนวิชากายาเทพอสูรนั้นจะยังอยู่ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม จงซานสามารถสัมผัสได้ว่ามันได้ก้าวไปถึงประตูพร้อมที่จะเลื่อนไปยังระดับขั้นต่อไปแล้ว หากเป็นเช่นนั้น เขาจะมีพลังมากกว่าเดิมถึงสามเท่า.

เทียนหลิงเอ๋อจะไม่ตื่นขึ้นมาจนกว่าจะถึงตอนเช้า.

จงซานที่นั่งอยู่ข้าง ๆ รอคอยนาง.

.....

เทียนหลิงเอ๋อที่ตื่นขึ้นและค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนที่นางจะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นนางก็หลับตาอีกครั้ง.

นางที่กำลังนึกถึงเรื่องมากมายเมื่อวาน.

นางที่กระทำเรื่องเช่นนั้นลงไปได้อย่างไร?เพียงแค่คิดใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดง นางรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก ตอนนี้นางจะพูดกับจงซานอย่างไรดี?

"เจ้าตื่นแล้วรึ?"จงซานกล่าว.

"อืม."เทียนหลิงเอ๋อที่ตอบรับเบา ๆ  และลืมตาขึ้น นางที่แสร้งว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ทว่าใบหน้าของนางยังแดงไม่หาย.

"ตื่นแล้ว กินอะไรหน่อย พวกเราจะได้เดินทางต่อ."จงซานกล่าว.

เห็นจงซานที่ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องอะไรอีก และเทียนหลิงเอ๋อที่สังเกตเห็นว่าท่าทางจงซานก็ยังเป็นปกติดี ทำให้นางถอนหายใจยาว.

"อืม."เทียนหลิงเอ๋อที่พยักหน้าในทันที.

นางที่กินขนมกุ้ยฮวาช้า ๆ  รู้สึกว่ามันรสชาติดีกว่าปรกติ จงซานที่ก้าวออกไปฝึกท่วงท่าของเพลงดาบเหมือนเช่นเคย และดูเหมือนว่าเขาจะทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยเมื่อวาน  ส่วนเทียนหลิงเอ๋อ แอบสงสัยเหมือนกันว่ามันเป็นแค่ภาพลวงตาหรือไม่? ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ รึ?

นางมั่นใจว่ามันอาจจะเป็นแค่อาการประสาทหลอนเท่านั้น บางทีคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ ? จากนั้นนางก็กลับมาร่าเริงเช่นเดิม.

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นางจ้องมองจงซานฝึกฝนเพลงดาบ ทันใดนั้นเทียนหลิงเอ๋อก็ปรากฏความคิดที่แปลก ๆ   ภาพหลอนนั่นดูเหมือนว่ามันจะเหมือนจริงมาก ๆ เลย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด