Chapter 21 เทียนชา.
สิบห้าวันหลังจากนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว จงซานที่ยืนอยู่ในห้องโถงไคหยางพร้อมกับดาบใหญ่สะพายอยู่ด้านหลัง.
25 ศิษย์ขั้นสามที่ยืนอยู่ในห้องโถงแห่งนี้ด้วย.
มีศิษย์เพียงสามคนเท่านั้นที่ถูกรับเข้ามาในปีล่าสุด ส่วนคนอื่น ๆ ยี่สิบสองคนนั้นต่างก็เป็นศิษย์ที่รับเข้ามาก่อนแล้วหลายรุ่น พวกเขาหลายคนที่ก้าวไปถึงระดับหกเซียนเทียนหรือสูงกว่าสามารถที่จะสร้างแก่นแท้ขึ้นมาได้แล้ว.
จงซานที่ยืนอยู่ด้านหลัง โดยมีหนานป่าเทียนที่คอยแนะนำคนอื่น ๆ ส่วนเทียนหลิงเอ๋อนั้น ยังไม่เห็นนางปรากฏกายเลย.
ภายในห้องโถงไคหยางนั้น มีที่นั่งของประมุขอยู่สามที่ด้านหน้า หนึ่งอยู่ทางฝั่งด้านเหนือ หนึ่งอยู่ฝั่งด้านตะวันออกและอีกหนึ่งอยู่ทางด้านตะวันตก.
ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่เหินเข้ามาจากด้านนอกเข้ามาด้านในห้องโถงขนาดใหญ่และจากนั้นก็มายืนอยู่ด้านหลังบัลลังก์ทางด้านหลัง.
ด้านตะวันตกนั้น มีหญิงสาวห้าคน ด้านตะวันออกมีชายห้าคนและด้านเหนือนั้นมีเพียงแค่สี่คน.
หนานป่าเทียนที่กระซิบ."พวกเขาคือศิษย์ขั้นสอง แต่ละคนได้ก้าวไปถึงขั้นแกนทองแล้ว ข้าคิดว่าการประชุมนี้ถูกเลื่อนออกไป เป็นเพราะพวกเขามีการประชุมกันเอง."
"อืม."จงซานพยักหน้ารับอย่างนุ่มนวล.
"ทางฝั่งด้านตะวันตกนั้นเป็นคนจากขุนเขาเสี๋ยจู๋ ส่วนทางด้านตะวันออกนั้นเป็นคนของขุนเขาเหยี่ยนซาน และทางทิศเหนือเป็นคนของขุนเขาไคหยาง."หนานป่าเทียนอธิบาย.
"ศิษย์พี่ใหญ่."ในเวลาเดียวกันนั้น เหล่าศิษย์ระดับสองทั้งหมดต่างก็แสดงท่าทางเคารพไปยังคนผู้หนึ่งที่ประตูทางเข้า.
จงซานที่ชำเลืองมองออกไป เห็นชายหนุ่มในชุดสีดำ คิ้วคมกริบราวกับกระบี่ จมูกเป็นสันคม ดูหล่อเหล่า ระหว่างคิ้วมีจุดสีแดงเข้ม ปลดปล่อยกลิ่นอายความเชื่อมั่นและภาคภูมิเป็นอย่างมากออกมา ที่เอวของเขานั้นมีกระบี่ยาวในฝักกระบี่สีดำ ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินตรงไปยังฝั่งทิศเหนือเพื่อที่จะไปยืนอยู่หลังบัลลังก์ของประมุข.
"ศิษย์พี่ใหญ่ เทียนซา."หนานป่าเทียนแอบบอกจงซานข้าง ๆ .
"อืม."จงซานพยักหน้า กลิ่นอายที่หนักหน่วงของศิษย์พี่ใหญ่ ทำให้หัวใจของจงซานรัดแน่นทีเดียว เขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหาร ที่แอบซ่อนเอาไว้ เขารับรู้ว่าจิตสังหารนี้ไม่ใช่ธรรมดา จิตสังหารนี้ใช่ว่าจะมีกันได้ทุกคน ทุกคนย่อมมีแน่นอน ทว่าจะแตกต่างไปตามลักษณ์นิสัยและพลังฝึกตนของคนนั้น ๆ .
ทันทีที่ศิษย์พี่ใหญ่เดินเข้ามาสร้างความสนใจกับทุกคนเป็นอย่างมาก.
เมื่อศิษย์ลำดับหนึ่งได้เข้าประจำที่แล้ว เขาที่จ้องมองไปยังทิศทางของขุนเขาเสี๋ยจู๋ ราวกับว่าต้องการตรวจสอบว่าใครมาบ้าง ซึ่งเหล่ากลุ่มหญิงสาวต่างก็แสดงท่าทางเคารพเขาออกมาเช่นกัน ศิษย์พี่ใหญ่ที่ขมวดคิ้วไปมา เห็นได้อย่างชัดเจนว่า คนที่เขาต้องการเห็นไม่ได้มา.
"ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านมาแล้ว."เสียงที่ดังก้องกังวานไปทั่วห้องโถงใหญ่ เป็นเสียงของเทียนหลิงเอ๋อนั่นเอง ทำให้คนที่อยู่ด้านในถึงกับเงียบไปตาม ๆ กัน.
ไม่นานจากนั้นเทียนหลิงเอ๋อก็เข้ามาในห้องโถงใหญ่ นางที่ตรงดิ่งเข้าไปหาศิษย์พี่ใหญ่ทันที.
"หลิงเอ๋อ?"ศิษย์พี่ใหญ่ที่เห็นเทียนหลิงเอ๋อก็ขมวดคิ้วไปมา.
"ข้าไปถึงระดับเก้าเซียนเทียนแล้ว อีกไม่นานก็จะไปถึงระดับแกนทอง หลังจากนี้ข้าก็จะสามารถเรียกศิษย์พี่ใหญ่ได้อย่างเต็มปากเต็มคำแล้ว."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น การที่ได้พูดคุยกับศิษย์พี่ใหญ่ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้นางมีความสุขเป็นอย่างมาก.
"ยินดีด้วยแล้วกัน."ศิษย์พี่ใหญ่เทียนชาที่กล่าวอย่างสุภาพ.
"อืม!"เทียนหลิงเอ๋อที่พยักหน้า ท่าทางของนางที่ดูสดใสมีความสุขเป็นอย่างมากเมื่อได้รับคำยินดีจากพี่ใหญ่.
"หลิงเอ๋อ เจ้ามายืนอะไรอยู่ตรงนี้?"เป็นเสียงของเทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาทันทีทันใด จากนอกห้องโถง.
ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเข้ามา เทียนหลิงเอ๋อที่แลบลิ้นปลิ้นตาก่อนที่จะเร่งรีบวิ่งเข้าไปอยู่ในแถวกับจงซานและหนานป่าเทียน.
ที่ด้านนอกห้องโถงใหญ่นั้น ประมุขเทียนซวินจื่อ ผู้นำขุนเขาเสี๋ยจู๋ กู่ซางจื่อ ผู้นำขุนเขาเหยี่ยนซาน เสวียนซวินจื่อ ทุกคนที่เดินเข้ามาอย่างสบายใจ.
เมื่อทั้งสามเข้ามา ต่างก็เข้าประจำที่ที่นั่งของตน ซึ่งมีศิษย์ขั้นสาม 26 คนที่โดดเด่นยืนอยู่ด้านหน้า.
"ยกเว้นพวกเจ้าทั้งสามคนที่ได้คัดเลือกจากครึ่งเดือนที่แล้ว ทุกคนคงรู้แล้วว่าจุดประสงค์ครั้งนี้คืออะไร นั่นก็คือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากด้านนอกนั่นเอง."เทียนซวินจื่อกล่าว.
"ครับ ท่านประมุข."ทุกคนที่ตอบรับ แม้แต่จงซานและอีกสองคนที่ได้รับคัดเลือกจากเมื่อครึ่งเดือนที่แล้วเช่นกัน.
"ตอนนี้ มีใครที่ไม่ต้องการออกไปหาประสบการณ์บ้าง?"เทียนซวินจื่อสอบถาม.
ทั่วทั้งห้องโถงที่กลายเป็นเงียบงันในทันที ไม่มีใครตอบกลับ นั่นก็หมายความว่าทุกคนต้องการออกไปด้านนอก แม้แต่อีกสองคนรวมทั้งจงซานเอง ก็ไม่กล่าวสิ่งใด.
"เยี่ยม การฝึกฝนครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการออกไปหาประสบการณ์และความรู้ ทว่ายังมีวัตถุประสงค์อื่นอีกด้วย."เทียนซวินจื่อกล่าว.
ขณะที่กล่าวจบ เขาก็สะบัดฝ่ามือหนึ่งครั้ง ที่บนฝ่ามือของเทียนซวินจื่อนั้น ปรากฏภาพสามมิติเกิดขึ้นมา นี่คือวิชาสร้างภาพอย่างหนึ่งนั่นเอง.
ภาพมายาที่เขาสร้างขึ้นมานั้นเป็นชายที่หล่อเหลาในชุดคลุมสีขาว ใบหน้าขาวซีด ดูราวกับว่ากำลังเหนื่อยล้า ในมือของเขานั้นมีพัดสีม่วง แสดงท่าทางมีเสน่ห์ทีเดียว.
"จำคนนี้เอาไว้ นี่คือข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ เขามีนามว่าเห่าซานและมีพลังฝึกตนในระดับเซียนเทียน เขามีองค์รักษ์คุ้มกัน 1-2คน ทว่าเป็นไปได้ ให้จับตัวคนผู้นี้มา จะเป็นหรือตายก็ได้ หากว่าตายต้องนำศพกลับมาด้วย ใครก็ตามที่ทำได้จะได้รับรางวัลเป็นอาวุธวิเศษระดับสี่หรือเม็ดยาระดับสี่."เทียนซวินจื่อกล่าว.
ระดับสี่? จงซานถึงกับตะลึงงัน ระดับสี่มันน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก อาวุธวิเศษที่ประมุขใช้นั้นมีระดับสี่และระดับห้าเลยอย่างงั้นรึ?
"ครับประมุข."ทุกคนที่รับคำ.
"อีกอย่างหนึ่ง ไม่ว่าพวกเจ้าจะหาคนนี้พบหรือไม่พบก็ตาม หากครบหนึ่งปีแล้ว ทุกคนจะต้องกลับมา."เทียนซวินจื่ออธิบายต่อ.
"ครับ."ทุกคนที่ตอบรับในทันที.
"เอาล่ะ พวกเจ้าไปเตรียมตัวกันได้แล้ว ทุกคนสามารถออกไปได้เมื่อเตรียมตัวเสร็จ."เทียนซวินจื่อกล่าว.
"ครับ!"เสียงตอบรับอย่างพร้อมเพรียง.
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันออกไปคนละทิศคนละทาง.
จงซานที่เดินออกมาถึงทางออกก่อนที่จะได้ยินเสียงของเทียนซวินจื่อกล่าวออกมา "จงซาน หลิงเอ๋อ ป่าเทียน พวกเจ้าไปรอข้าที่ติงสุ่ยเซียของจงซาน."
จงซานที่หยุดนิ่งอยู่ชั่วขณะ เช่นเดียวกับอีกทั้งสองคน ทว่าก็ไม่ได้หันกลับไป พวกเขาเดินลงจากเขา มุ่งหน้าไปยังติงสุ่ยเซี่ย.
ภายในห้องโถงนั้น ประมุขและผู้นำขุนเขาทั้งสองตลอดจนเหล่าศิษย์ขั้นสองที่กำลังปรึกษาหารือกัน.
ติงสุ่ยเซีย.
"พวกเจ้าคิดว่าเห่าซานคนนี้เป็นใครกัน?ทำไมเตี่ยต้องการชีวิตเขาด้วย?"เทียนหลิงเอ๋อกล่าวพลางนั่งเท้าคางนั่งอยู่บนโต๊ะศิลาจ้องมองไปยังน้ำตกที่อยู่ด้านหน้า.
"ข้าเองก็ไม่รู้ เทียนโป๋วให้พวกเรารอ คงจะสรุปให้พวกเราฟังอีกที."หนานป่าเทียนกล่าว.
จงซาน ก่อนหน้านี้เขาได้ทำการเตรียมการมากมาย สมุนไพรมากมายที่เขาเก็บมาจากบนเขาและจัดเตรียมเอาไว้ในการออกเดินทางสู่โลกภายนอก.
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น.เทียนซวินจื่อก็เหินและลงมาด้านหน้าทุกคน.
"เตี่ย นานมากเลยรู้ไหม?พวกเราจะไปกันแล้วเนี่ย."เทียนหลิงเอ๋อบุ้ยปาก.
"ฮ่าฮ่า รอไม่ได้รึไง?"เทียนซวินจื่อจ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อด้วยรอยยิ้ม.
"เทียนโป๋ว"
[伯 bó] older brother; father's elder brother; sir sire count ลุง
""ท่านประมุข"
"เอาล่ะ ๆ ก่อนที่พวกเจ้าจะไปนั้นข้าต้องการที่จะกล่าวอะไรก่อน ป่าเทียน นี่จะเป็นการฝึกฝนอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้เจ้าเข้าใจโลกนี้และคนอื่น ๆ มากขึ้น สมบัติวิเศษในการป้องกันที่ข้าให้เจ้าไปนั้นหากไม่จวนตัวก็ไม่ควรที่จะใช้มัน."เทียนซวินจื่อกล่าวอย่างหนักแน่น.
"ครับ."หนานป่าเทียนกล่าวตอบ.
"ดี การเดินทางครั้งนี้เจ้าจะต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้ จงเรียนรู้ในการเอาตัวรอดซะ."เทียนซวินจื่อกล่าว.
"ครับ."หนานป่าเทียนที่รู้สึกเหมือนกับว่าเทียนซวินจื่อนั้นเป็นเหมือนกับผู้ใหญ่ที่เป็นห่วงเด็ก ๆ ทั้งที่พวกเขาเองก็ไม่เด็กอีกต่อไปแล้ว ทว่าหนานป่าเทียนก็ยังพยักหน้าอย่างสุภาพ.
"เอาล่ะ ตอนนี้ไปได้แล้ว."เทียนซวินจื่อกล่าว.
"เช่นนั้น ซือเจี่ยหลิงเอ๋อ จงซานข้าไปก่อน."หนานป่าเทียนกล่าว.
"รักษาตัวให้ดี."จงซานกล่าวพลางพยักหน้า.
"ไปได้เลย."เทียนหลิงเอ๋อที่พยักหน้าเช่นกัน.
จากนั้น หลังจากที่หนานป่าเทียนจากไปแล้ว.
"หลิงเอ๋อ ครั้งนี้ก่อนที่เจ้าจะไป ข้ามีเรื่องขอร้องอย่างหนึ่ง เจ้าต้องอยู่ข้างจงซานตลอด และฟังทุกอย่างที่เขาพูดด้วย."เทียนซวินจื่อกล่าวอย่างหนักแน่น.
"เตี่ย จงซานมีพลังฝึกตนน้อยกว่าข้าอีกนะ."เทียนหลิงเอ๋อที่บุ้ยปาก แสดงท่าทางไม่พอใจ.
"ในสำนักไคหยางนั้น เจ้าต้องการสิ่งใดก็ทำได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าออกไป เจ้าจะต้องเชื่อฟังจงซาน สัญญากับข้า หากจงซานกลับมาและบอกว่าเจ้าไม่เชื่อฟังเขาเลย เช่นนั้นครบรอบสิบห้าปีนี้ ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าไปเยี่ยมหลุมศพแม่ของเจ้า."เทียนซวินจื่อที่กล่าวอย่างหนักแน่น.
"เตี่ย ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้นะ!"เทียนหลิงเอ๋อที่คร่ำครวญโหยหวน ที่จริงนางไม่ค่อยสนใจกับการลงโทษเท่าใดนัก ทว่าครั้งนี้กลับลงโทษโดยการห้ามไปเยี่ยมหลุมศพท่านแม่เลยอย่างงั้นรึ?
"ตราบเท่าที่เจ้ายอมรับเงื่อนไข เจ้าก็ไปได้ ไม่เช่นนั้นแล้วจะต้องอยู่ในสำนักไคหยาง จนกระทั่งก้าวไปถึงระดับแกนทอง."เทียนซวินจื่อพูดอย่างเด็ดขาด.
ใบหน้าที่ขมขื่นจ้องมองไปยังเทียนซวินจื่อและจงซาน สีหน้าที่ไม่ยินดีเป็นอย่างมาก ทว่าเมื่อนางคิดไปคิดมาหากว่าเป็นจงซาน ที่เป็นสหายของนาง เขาคงจะไม่ห้ามห้างทำอะไรหรือไปใหนแน่?
"ก็ได้."เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.
"ดี."เทียนซวินจื่อพยักหน้า จากนั้นก็หันหน้าไปยังจงซาน.
"ข้าฝากหลิงเอ๋อกับเจ้าด้วย."เขากล่าว.
"ท่านประมุขอย่าได้กังวล หนึ่งปีหลังจากนี้ ข้าจะต้องพาหลิงเอ๋อกลับมาอย่างปลอดภัยอย่างแน่นอน ข้าสัญญา."จงซานทีกล่าวอย่างหนักแน่น.
"ดี."เทียนซวินจื่อรู้สึกพึงพอใจ.
จากนั้น เทียนซวินจื่อสะบัดมือหนึ่งครั้ง พร้อมกับนำมุกคงหลิงออกมา.
พร้อมกับส่งมุกคงหลิงให้กับจงซาน และกล่าวว่า "มุกคงหลิงนี้เป็นรางวัลที่เจ้ารับปากที่จะดูแลหลิงเอ๋อ ตราบเท่าที่เจ้าพบกับศิลามิติและใส่เข้าไปในมุกนี้ มันจะสามารถเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์เก็บของต่างมิติได้.."
"ขอบคุณ ท่านประมุข."จงซานที่รับสิ่งของดังกล่าวมา.
ที่เก็บของต่างมิติเหรอ จงซานที่ได้ยินเทียนหลิงเอ๋อกล่าวมาก่อนหน้านี้เช่นกัน อย่างแรก อุปกรณ์เก็บของต่างมิตินั้นเป็นสมบัติวิเศษ ดังนั้นจำเป็นต้องใช้มุกคงหลิง หลังจากที่ใส่ ศิลามิติลงไปภายใน ก็จะสามารถสร้างมิติภายในได้ ยิ่งใส่ศิลามิติลงไปมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีขนาดช่องว่างมิติใหญ่ขึ้นเท่านั้น.
อย่างไรก็ตาม จงซานนั้นไม่ได้มีแผนในการใช้มุกคงหลิงสร้างที่เก็บของต่างมิติ ที่เขาคิดตอนนี้คือมอบให้กับร่างแยกเงาของเขาเพื่อสร้างอาวุธวิเศษต่างหาก.
"เช่นนั้น ขอให้พวกเจ้าเดินทางโดยปลอดภัย."เทียนซวินจื่อกล่าว.
"ครับ ท่านประมุข."จงซานพยักหน้า.
"เอาละ ๆ เตี่ย ไปได้แล้ว ท่านไปได้แล้ว พูดเยอะจริง."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวขัด เห็นได้ชัดว่านางต้องการจะไปแล้ว.
"ก็ได้ เช่นนั้นข้าไปล่ะ."เทียนซวินจื่อที่หัวเราะเสียงดัง ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นเมฆสีขาวและลอยจากไป.
"เยี่ยมเลย พวกเราก็ไปกันเถอะ."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกาทันที.
"เจ้าเตรียมตัวเสร็จแล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานถาม.
"เฮ้ ๆ ."เทียนหลิงเอ๋อที่สะบัดกำไลที่งดงามบนข้อมือ เป็นที่เก็บของต่างมิติ ทุกสิ่งได้ใส่เอาไว้ข้างในหมดแล้ว.
"อืม ดี ทว่า ก่อนที่พวกเราจะไป พวกเราจำเป็นต้องสร้างรหัสลับกันก่อน."จงซานที่ขมวดคิ้วขณะพูด.
"รหัสลับ? รหัสลับอะไร?"เทียนหลิงเอ๋อที่ กล่าวออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น.