ตอนที่แล้วChapter 19 การแข่งขันที่รุนแรง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 21 เทียนชา.

Chapter 20 ดาบฝันร้าย.


จงซานรับรู้วิธีใช้แล้วว่าจะใช้มุกคงหลิงในมือของเขาเช่นไร.

เขาต้องการยกระดับดาบของเขา เขามั่นใจว่าจะทำให้ดาบของเขานั้นคมยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้เขาที่กุมมุกคงหลิงในมือ พร้อมกับทำตามวิธีที่หลิงเอ๋อได้แนะนำมา เขาที่ใช้ดาบในมือเฉือนไปยังแขนของเขาเพื่อใช้โลหิตเทลงไปในมุกคงหลิง.

เมื่อโลหิตของเขาอาบไปทั่วมุกคงหลิง รูปร่างของมันก็เปลี่ยนไป ตอนนี้ราวกับว่ามันกำลังเชื่อมต่อกับจิตสำนึกของจงซาน มุกคงหลิงที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนรูปร่างไปตามความตั้งใจของจงซาน ตอนนี้มันกำลังยืดยาวออกมาช้า ๆ และท้ายที่สุดก็กลายเป็นดาบขนาดใหญ่.

จงซานที่มีความสูงราว ๆ  180 ซม ดาบใหญ่ของเขานี้มีความยาวถึง 160 ซม. ดูเป็นดาบที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก มีร่องระหว่างใบดาบ ใบดาบสีดำทมิฬ มีเดือยขนาดใหญ่ยักษ์หกแท่งด้านหลัง ดาบนี้ดูเหมือนกับนิสัยของจงซานเป็นอย่างมาก ดูดุร้ายป่าเถื่อนไม่น้อย.

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันยังเป็นตัวอ่อนอยู่เท่านั้น.

ขั้นตอนต่อไปเป็นการนำโลหะใส่เข้าไปด้านใน.

จงซานที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาที่นำมันผสานเข้ากับดาบเดิมของเขา ซึ่งตอนนี้มันกำลังผสานหลอมรวมเข้ากันช้า ๆ .

ดูเหมือนว่าเนื้อโลหะจะยังไม่พอ จงซานที่ออกมายังสวนพร้อมกับนำกระบี่ที่อยู่ในสวนติงสุ่ยเซียนเขามาเพิ่ม พร้อมกันนี้ยังมีขวานใส่ลงไปอีก ท้ายที่สุดก็เพียงพอสำหรับเนื้อโลหะของดาบยักษ์ใหญ่เล่มใหม่ของเขา.

ตอนนี้มันยังอยู่ในระดับต่ำสุด เป็นเพียงอาวุธวิเศษระดับหนึ่งเท่านั้น นับจากตอนนี้จำเป็นต้องใช้ปราณแท้ในการหล่อเลี้ยงตลอดจนการใช้จิตสำนึกพลังจิตในการพัฒนาพลังของมันให้ยกระดับขึ้นมา.

เห็นอาวุธวิเศษที่เขาสร้างขึ้นมาเป็นครั้งแรก สายตาที่เปล่งประกายฝังแน่นไปด้วยความเศร้าที่แผ่ออกมา.

"ไท่จื่อเหล่ยเทียน ดาบนี้จะเป็นดาบฝันร้ายสำหรับเจ้าในวันข้างหน้า ข้าจะสร้างฝันร้ายให้กับเจ้านับตั้งแต่วันนี้."จงซานที่กล่าวกับดาบยักษ์ของเขา.

"จงซาน เจ้ากลับมาแล้วรึ?"ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกังวานดังออกมาจากด้านนอก.

จงซานที่เปิดประตูออกมา เห็นหนานป่าเทียนและเทียนหลิงเอ๋อที่มาด้วยกัน.

"เฮ้ เจ้าสร้างเสร็จแล้วอย่างงั้นรึ? ดาบยักษ์เจ้าดูน่าเกรงขามจริง ๆ ."หนานป่าเทียนที่เห็นดาบในมือของจงซานและกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ดาบเจ้าดูร้ายกาจจริง ๆ  เจ้าเองก็ร้ายกาจ รูปร่างของดาบนี้จึงดูร้ายกาจไงล่ะ."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวเสริม.

"เชิญนั่ง ๆ  ข้าจะไปชงชาให้กับพวกเจ้า."จงซานกล่าว.

คนทั้งสามคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะศิลาที่ลานบ้าน ถัดจากสระน้ำ.

"จงซานวันนี้เจ้าสุดยอดจริง ๆ ระดับสามเซียนเทียนล้มระดับสี่เซียนเทียนได้ ชายคนนั้นถึงกับเป็นบ้าไปเลยหลังจากที่กลับไป."เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.

"ใช่ ข้าได้ยินมาว่าชายคนนั้นเป็นอันดับสองของคนที่ดีที่สุดในระดับเซียนเทียนเลย ไม่มีใครคิดเลยว่าเขาจะพ่ายแพ้เจ้า เรื่องนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในรอบหลายปีนี้เลย."หนานป่าเทียนกล่าว.

"ใครบอกเจ้า ศิษย์พี่ใหญ่เคยประลองกับคนที่มีระดับสูงกว่าเมื่อไม่นานมานี้ ในเวลานั้นข้าได้ยินมาว่าเขาสังหารคนที่มีระดับสูงกว่าด้วยไม่ใช่รึ?"เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.

"เจ้าไม่ได้เห็นกลับตาสักหน่อย."หนานป่าเทียนที่แสดงท่าทางราวกับว่าเขาไม่อยากเชื่อนัก.

"ข้าเชื่อว่ามันต้องเป็นจริงแน่นอน พี่ใหญ่ไม่เคยหลอกข้า."เทียนหลิงเอ๋อที่โต้เถียง.

เฝ้าดูการโต้เถียงของทั้งคู่ จงซานที่ไม่ได้สนใจจะห้ามนัก ความจริงการจะล้มใครที่มีระดับสูงกว่าใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ กลับคนหนึ่งที่ตะเกียกกายเพื่อเอาชีวิตจากความเป็นความตายนั้น สามารถที่จะทำได้ทุกอย่างเพื่อล่อหลอกให้ตัวเองเอาชีวิตรอดหรือสังหารศัตรูได้ อย่างไรก็ตาม จงซานรู้สึกดีใจที่ได้ทั้งสองคนเป็นสหายที่วางใจ ทั้งคู่นั้นมีระดับสูงกว่าจงซานมาก ทว่ากลับยังมีอายุเป็นเพียงผู้เยาว์ ในสายตาของจงซานเท่านั้น ทั้งคู่ยังไร้เดียวสาเป็นเหมือนกับน้องชายและน้องสาวของเขาเท่านั้น.

"ท่านประมุขบอกว่าอีกสิบห้าวันให้ข้าไปพบ มีภารกิจอะไรอย่างงั้นรึ?"ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดของเทียนซวินจื่อที่กล่าวต่อเขาที่ลานฝีกได้.

"เอ๊ะ เจ้ายังไม่รู้อย่างงั้นรึ?พวกเราจะออกไปด้านนอก ออกไปหาประสบการณ์ในโลกด้านนอกไงล่ะ."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"หาประสบการณ์อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่แล้ว พวกเราจะออกไปหาประสบการณ์กัน ก่อนหน้านี้เตี่ยเป็นคนพาข้าไป เขาไม่ยอมปล่อยให้ข้าออกห่างเลยและก็กลับมาในที่สุด ครั้งนี้ ข้าจะออกไปด้วยตัวข้าเองและไม่ต้องฟังคำสั่งเตี่ยแล้ว."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางน่ารัก.

"มีใครต้องไปบ้าง?ข้าต้องไปด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานยังคงขมวดคิ้ว.

จงซานไม่ต้องการที่จะออกไปด้านนอกเลย เขารู้ดีว่าด้านนอกนั้นมีพลังวิญญาณเบาบางไม่สามารถเทียบได้กับภายในสำนักไคหยางเลย นอกจากนี้ เขายังพบถ้ำผลไม้สวรรค์ ทำให้พัฒนาการของเขารวดเร็วกว่าอยู่โลกภายนอกอีกมากมายนัก.

"เจ้าไม่ต้องไปก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ทว่า ก็มีคนไม่น้อยเลยที่ต้องอยู่ที่นี่เป็นเวลานานหลายปีต้องการไป เช่นข้าไง ข้าอยากจะออกไปท่องเที่ยวบ้างสักระยะหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนเหมือนกันที่ต้องการกลับไปเยี่ยมเยือนครอบครัวพวกเขาเช่นกัน."เทียนหลิงเอ๋อเอ่ยอธิบาย.

"อืม."จงซานพยักหน้า.

ไม่ว่าอย่างไร จงซานก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ออกไป.

"หลิงเอ๋อ ป่าเทียน พวกเจ้าอยู่ที่นี่เองเหรอ?"เสียง ๆ หนึ่งที่คุ้นเคยดังออกมาจากด้านนอก.

เสียงของท่านประมุข เทียนซวินจื่อนั่นเอง.

"เตี่ย?ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่ล่ะ?"ทันใดนั้นเทียนหลิงเอ๋อที่หันจ้องมองออกไปยังต้นเสียง.

เทียนซวินจื่อที่เหินลงมาจากฟ้าและมาอยู่ด้านหน้าจงซานที่นั่งอยู่บนโต๊ะศิลา.

จงซานลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและยกมือคารวะเทียนซวินจื่อ."คารวะท่านประมุข."

"เทียนโป๋ว."หนานป่าเทียนเองก็ลุกขึ้นทักทาย.

[伯  bó] older brother; father's elder brother; sir  sire  count ท่านลุง.

"อืม."เทียนซวินจื่อพยักหน้าก่อนที่จะนั่งลงบนโต๊ะศิลา.

เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังจงซาน "จงซาน ตามสบาย ข้าไม่คิดเลยว่าด้วยพรสวรรค์ที่อ่อนด้อยของเจ้า จะสามารถพัฒนาได้มากมายขนาดนี้ เพียงแค่ปีเดียว เจ้าคงจะฝึกฝนอย่างหนัก."

"ใช่แล้ว เตี่ย ท่านไม่รู้ จงซานนะฝึกฝนโดยเข้าไปฝึกในเตาอบเลย จากนั้นเขาก็ยังเดินทางเข้าไปในป่าต่อสู้กับสัตว์อสูรไม่หยุด ทำให้พัฒนาการของเขารวดเร็วขนาดนี้."เทียนหลิงเอ๋อที่ชิงตอบแทนในทันที.

เห็นเตาอบที่ด้านหลังของเทียนหลิงเอ๋อและหนานป่าเทียน เทียนซวินจื่อก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"เจ้าและป่าเทียนไปอยู่ตรงโน้นก่อน ข้ามีเรื่องที่จะพูดกับจงซาน."เทียนซวินจื่อกล่าว.

"ทำไมล่ะ ข้าฟังด้วยไม่ได้เหรอ?"เทียนหลิงเอ๋อที่เบ้ปากและโต้แย้ง.

"มันเป็นเรื่องสำคัญมาก."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"ก็ได้."เทียนหลิงเอ๋อที่พยักหน้าหยุดโต้เถียง นางที่เดินไปข้าง ๆ หนานป่าเทียน.

เทียนซวินจื่อที่เรียกเมฆออกมา เพียงแค่สะบัดมือออกไปอย่างนุ่มนวลพร้อมกับปกคลุมล้อมรอบทั้งคู่ที่อยู่ห่างออกไปราว ๆ ห้าเมตร แยกพวกเขาไม่ให้สามารถได้ยินเสียงได้.

จงซานไม่มั่นใจว่าเทียนซวินจื่อมาหาเขานั้นมีวัตถุประสงค์อะไรเช่นกัน.

"จงซาน."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาอย่างจริงจังจ้องมองไปยังจงซาน.

"ศิษย์อยู่นี่แล้ว."จงซานที่พยักหน้ารับคำ.

"เฮ้เฮ้ เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้ารู้สึกประหลาดใจจริง ๆ  ด้วยความสามารถของเจ้า เจ้านับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากภายในปีเดียว ข้ารู้ดีว่าเจ้าเป็นคนมีน้ำใจและไม่เคยกลัวความลำบาก เจ้าที่ใช้เม็ดยาโพวจวินเพื่อเลื่อนระดับเมื่อตอนอายุแปดสิบปี ไม่ว่าอย่างไรกับสิ่งที่เจ้ามีอยู่ ข้าเชื่อว่ามันลึกล้ำไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนกับเทียนหลิงเอ๋อและคนอื่น ๆ  เจ้ามีปัญญาและยังรู้จักวิธีฝึกฝนหนัก."เทียนซวินจื่อกล่าว.

จงซานไม่ได้กล่าวอะไร เขายังคงพยายามคาดเดาเจตนาที่ซ่อนอยู่ของเทียนซวินจื่ออยู่ รอคอยให้เขากล่าวสรุปออกมา.

"ดังนั้น ครั้งนี้ ข้าต้องการขอให้เจ้าช่วยข้าบางเรื่อง"หลังจากเทียนซวินจื่อกล่าวจบ เขาก็จ้องมองไปยังจงซาน.

จงซานที่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเทียนซวินจื่อ ทว่าเขาไม่สามารถคาดเดาได้จริง ๆ  ก่อนที่จะหันหน้าไปยังเทียนซวินจื่อ "ขอให้อาจารย์กล่าวมาได้เลย."

เทียนซวินจื่อเผยยิ้มออกมา พึงพอใจกับท่าทางของจงซานอยู่เหมือนกัน.

"พวกเขาคงจะบอกกับเจ้าแล้วว่าอีกไม่กี่วัน หลิงเอ๋อและป่าเทียนนั้นจะออกไปด้านนอก พวกเราไม่เป็นกังวลกับป่าเทียนนัก เขาเป็นผู้ชายและยังมีอาวุธพิเศษจากพวกเราเพื่อช่วยชีวิตตัวเองในเวลาวิกฤติ เขาย่อมเอาตัวรอดภายในโลกปุถุชนได้ ส่วนหลิงเอ๋อนั้น ข้าเป็นกังวลเป็นอย่างมาก ดังนั้น ข้าหวังว่าเจ้าจะไปกับนาง เพื่อที่จะดูแลข้างหลังให้กับนางหลังจากนี้สักหนึ่งปี."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ไปกับนางอย่างงั้นรึ?"จงซานขมวดคิ้ว.

"ป่าเทียนเองก็นั้นก็จะเดินทางไปยังเส้นทางของตัวเอง ส่วนหลิงเอ๋อนั้นนางไร้เดียงสาเป็นอย่างมาก นางและเจ้าเป็นสหายกัน หากว่านางเดินทางไปกับเจ้า เช่นนั้นข้ามั่นใจว่านางจะต้องปลอดภัย ตราบเท่าที่เจ้าสามารถนำนางกลับมาอย่างปลอดภัยหลังจากนี้หนึ่งปี ข้าจะเป็นคนชี้แนะการฝึกฝนให้กับเจ้าด้วยตัวเอง."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

ดวงตาของจงซานถึงกับเป็นประกายหลังจากได้ยินว่าเทียนซวินจื่อจะชี้แนะการฝึกให้กับเขาด้วยตัวเอง? แน่นอนว่ามั่นย่อมยอดเยี่ยมกว่าเขาฝึกฝนด้วยตัวเองอย่างแน่นอน.

"ด้วยการชี้แนะของข้า เจ้าย่อมมีพัฒนาการที่รวดเร็วยิ่งกว่านี้แน่นอน ตราบเท่าที่เจ้าก้าวไปถึงระดับแกนทอง ข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์หลัก เป็นอย่างไร?"เทียนซวินจื่อที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

การสัญญาเช่นนี้ไม่มีอะไรเสียสำหรับเทียนซวินจื่อ หากว่าจงซานสามารถทะลวงไปยังขั้นแกนทองด้วยพรสวรรค์เช่นนี้ เช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่รับเขาเป็นศิษย์หลัก อีกอย่างหากเขาไม่สามารถก้าวไปถึงขั้นแกนทองได้ เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญา เขาจำเป็นเพียงแค่ชี้แนะการฝึกของจงซานสักครั้งสองครั้งชั่วคราวเท่านั้นก็พอ.

อย่างไรก็ตาม คำสัญญาเช่นนี้กลับยั่วยวนความต้องการของจงซานเป็นอย่างมาก.

หากว่าเขามีอาจารย์หลักคอยชี้แนะ เขาย่อมประสบความสำเร็จเร็วกว่าปรกติ และสามารถหลีกเลี่ยงความผิดพลาดต่าง ๆ ได้มากด้วย.

หนึ่งปี แค่เพียงหนึ่งปีเท่านั้น มันคุ้มค่าอย่างแน่นอน.

"ตกลง ศิษย์ยินดี."จงซานที่ตอบรับในทันที.

"เช่นนั้น ข้าก็เบาใจ ข้าเชื่อใจเจ้า."เทียนซวินจื่อยืนขึ้น พร้อมกับตบไปที่ไหล่ของจงซานและหัวเราะออกมา.

เขาที่โบกมือเบา ๆ ทำให้เมฆสีขาวหายไปทั้งหมด.

"เอาล่ะ พวกเจ้าพูดคุยกันต่อไปเถอะ ข้าไม่รบกวนแล้ว."เทียนซวินจื่อที่เผยยิ้มให้กับพวกเขาทั้งสองก่อนที่จะกระโดดขึ้นเมฆและลอยหายไป.

"จงซาน เตี่ยข้าพูดอะไรกับเจ้าอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามออกมาทันที.

"เขาต้องการให้ข้าเดินทางไปกับเจ้า."จงซานที่สายหน้าไปมาและกล่าวสรุป.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด