ตอนที่แล้วChapter 168 ไม่ว่าใครก็สามารถเปลี่ยนได้.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 170 การแข่งขันเป็นเจ้าเมือง.

Chapter 169 เซียนเซิง.


จงซานที่ยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ  กงจูเฉียนโหยวจ้องมองไปยังจงซานด้วยความสนใจ แสดงท่าทางชื่นชอบเป็นอย่างมาก แน่นอน ไม่ใช่ความชื่นชอบของชายที่มีต่อหญิงสาว ทว่าเป็นความรักที่มีต่อพรสวรรค์ นางที่ค้นหาคนที่มีความสามารถมาตลอด นี่คือคนที่มีความสามารถที่นางต้องการ.

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับจงซานนั้น ในเวลานี้ นี่คือโอกาส จงซานต้องการเข้าใจข้อมูลโครงสร้างทั้งหมดของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถทำตามอำเภอใจได้ สิ่งเหล่านั้นเป็นข้อมูลต้องห้ามที่ยากจะเข้าถึงได้ เพียงแค่ขุนนางระดับห้านั้นยังไกลเกินกว่าจะทำได้ ทำให้จงซานต้องการต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ที่จะสามารถบดบังสายลมและพายุได้.

กงจูเฉียนโหยว ก็คือต้นไม้ใหญ่ในเวลานี้ จงซานตัดสินใจที่จะเลือกนาง แน่นอนว่าต้นไม้ใหญ่นี้จะสามารถบดบังมอบความปลอดภัยให้กับเขาได้ เช่นนั้นเขาจึงจำเป็นต้องแสดงความสามารถออกมา! เพื่อที่จะให้เป็นที่สนใจต่อนางได้ เป็นการตัดสินใจที่รวดเร็ว พลิกผันไปตามสถานการณ์

หลังจากที่เขาแสดงความสามารถแล้ว ก็ยืนรออยู่ข้าง ๆ  เพราะว่าจงซานเชื่อมันว่าเป้าหมายของเขาได้สำเร็จไปก้าวหนึ่งแล้ว ตอนนี้เขาควรค่าที่จะยื่นอยู่ในร่มไม้ใหญ่เช่นนางแล้ว.

อาเอ้อและสุ่ยเทียนหยาจับกระดาษข้อมูลพร้อมกับจดจ้องมองอยู่นาน.

"จริงด้วย ถูกแล้ว นี่คือเรื่องจริงเหรอ."สุ่ยเทียนหยาที่ขมวดคิ้วบ่นพึมพำ ชำเลืองมองตาโต แสดงสีหน้าไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.

ต้องรู้ด้วยว่าข้อมูลเรื่องราคาของเมืองอู๋ซวังก็ถูกส่งมายังพวกเขาด้วย มีเพียงแค่สินค้าหายาก สินค้าระดับหก สินค้าเหล่านี้ นับว่าล้ำค่ามาก ดังนั้นราคาจึงไม่ตายตัว ทว่าราคาที่อยู่ในกระดาษนี้ หลังจากผ่านมาสิบปี หรือแม้แต่หลายร้อยปีก็ไม่เปลี่ยนแปลง สามารถใช้ราคาตามนี้ได้.

สินค้าเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าธรรมดาทั่วไป และยังใช้แทนเงินตราในการแลกเปลี่ยนได้ในหลายร้านอีกด้วย.

"เป็นความจริงอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวสอบถาม.

"ตามที่เขียนนี้ ราคาในการแลกเปลี่ยนถูกต้อง เนื่องจากมันมีจำนวนมาก ทำให้ผู้น้อยไม่สามารถจดจำได้ทั้งหมด ทว่าส่วนมากราคาที่ข้าเห็นนี้ ดูเหมือนว่าจะถูกต้อง หากดูจากรายการทั้งหมด เช่นนั้น .........."สุ่ยเทียนหยาถึงกับหวาดผวาบนใบหน้าเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ.

"อะไร?"กงจูเฉียนโหยวที่สอบถามออกไป.

"พวกเราได้ส่งผู้เชี่ยวชาญไปศึกษาราคาของสินค้าในเมืองอู๋ซวัง ราคาในตลาดนั้นแทบไม่เปลี่ยนเลย นอกจากนี้มันยังเหมือน ๆ กันอีกด้วย เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้มันมีราคาเพิ่มขึ้นมาได้ ทว่า หากที่เขียนในนี้เป็นความจริง เม็ดยายกระดับจะต้องกลายเป็นเม็ดยารวมวิญญาณได้แน่ มหัศจรรย์ยิ่งนัก."สุ่ยเทียนหยาอุทาน.

ท่าทางของจงซานไม่ได้ประหลาดใจอะไร แม้คนอื่นจะเห็นเป็นเรื่องลึกลับ ทว่าเกี่ยวกับการค้าแล้ว พวกเขาส่งคนออกไปศึกษาอย่างงั้นรึ? นั่นไม่ใช่ว่าเจ้าไม่ได้เข้าใจในธุรกิจ เขตแดนตัวเอง มีแต่ตัวเองเท่านั้นถึงจะสามารถเปรียบเทียบและหาข้อมูลได้อย่างถูกต้อง?

จงซานยังคงสุขุม ตอนนี้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอให้ความจริงปรากฏ ทว่ากงจูเฉียนโหยวเองเหมือนว่าจะพึงพอใจแล้ว.

ทันใดนั้นกงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มก้าวมาด้านหน้าจงซาน พร้อมกับยกมือประสานขึ้นมา แสดงท่าทางคารวะต่อจงซาน.

"เซียนเซิง มีความสามารถที่ยิ่งใหญ่ เฉียนโหยวได้เสียมารยาทแล้ว."กงจูทีกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

เห็นเช่นนั้น ภายในจงซานถึงกับถอนหายใจยาวกับการกระทำของนาง ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของนางที่ทำการคารวะกับคนที่ไม่สำคัญและไม่มีเชื่อเสียง แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่หนักหนาใหญ่โตมาก.

หากเป็นคนทั่วไปไม่สำคัญก็ยังพอว่า แต่นี้คือกงจู นางคือกงจูของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว มีเกียรติที่สูงส่ง ตอนนี้คาดไม่ถึงเลยว่านางจะนับถือเขาเหมือนกับอาวุโส?

กงจูผู้นี้ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าทรงเกียรติขนาดใหน กับยอมยกมือคารวะจงซานเช่นนี้ แสดงด้วยท่าทางเต็มใจ เห็นได้อย่างชัดเจนว่านางมีความสามารถทางการเมืองขนาดใหนกัน การจะชนะใจผู้คนนั้น ย่อมต้องไม่สนใจในชื่อเสียงของตัวเองอันซึ่งจะนำมาซึ่งการขัดขวางความสำเร็จของงานสำคัญ สิ่งที่ควรต้องใส่ใจที่สุดก็คือความสำเร็จหรือล้มเหลว นี่คือสิ่งสำคัญของคนยิ่งใหญ่ที่พึงจะมี คนผู้เข้าใจคนที่แท้จริง การแสดงความเคารพเท่านี้ ไม่ได้ทำให้นางพ่ายแพ้ หรือสูญเสียผลประโยชน์ใด ๆ .

อย่างไรก็ตาม กงจูกับแสดงท่าทางเคารพซึ่งแตกต่างจากคนอื่น ๆ แน่นอน จงซานเป็นใคร? เหมือนดั่งในทีวีที่จงซานเคยได้ดูเมื่อตอนเด็กเมื่อครั้งอยู่โลกเดิม เกี่ยวกับความคิดและความเป็นผู้นำของผู้ปกครอง ชื่นชมผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อที่จะควบคุมพวกเขา นับว่าเป็นหนึ่งในการใช้งานคนด้วยการยกยอ?

เห็นท่าทางของกงจูเฉียนโหยวที่คารวะเขาด้วยความเคารพแล้ว ทำให้เขาได้แต่คิดอยู่ในใจ คำนับไป คำนับกลับ ก่อนหน้านี้ข้าคำนับเจ้า ตอนนี้เจ้าคำนับข้า ไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยรึ? การคำนับกันและกันเช่นนี้ มันเหมือนกับสามีภรรยาคำนับกัน?

อย่างไรก็ตาม ก็ทำให้จงซานตื่นตระหนกเช่นกันเกี่ยวกับการได้รับความโปรดปราณอย่างคาดไม่ถึงเช่นนี้.

"กงจูใยถึงได้จริงจังขนาดนั้น ผู้น้อยคงรับไม่ไหว."จงซานที่รับรู้ได้ในทันทีว่ากงจูเฉียนโหยวผู้นี้ ดูน่าเกรงขามยิ่งนัก.

"ไม่ เซียนเซิงสมควรได้รับ หากเฉียนโหยวได้กุนซือเช่นเซียนเซิงคอยช่วยเหลือแล้ว ย่อมไม่เสียเปรียบอี้เหยี่ยนราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีเป็นแน่ อี้เหยี่ยนถึงแม้ว่าจะมีร่างกายที่อ่อนแอ ทว่ากลับได้รับการยอมรับจากผู้คนมากมาย"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"กงจูไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ จงซานพร้อมที่จะช่วยกงจูสุดความสามารถ "จงซานที่กล่าวออกมาในทันที กับท่าทางสุภาพเรียบร้อยดังที่เคยเห็นในทีวี ไม่คาดคิดเลยว่าวันนี้เขาจำต้องนำมาใช้.

"อืม ได้ยินคำพูดของเซียนเซิง เฉียนโหยวก็รู้สึกวางใจ หลังจากนี้หากเซียนเซิงมีสิ่งใดต้องการ เฉียนโหยวก็พร้อมจะสนับสนุนเต็มที่เช่นกัน."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ขอบคุณกงจู หลังจากนี้กงจูไม่จำเป็นต้องเรียกข้าว่าเซียนเซิงเลย ท่านสามารถเรียกจงซานตรง ๆ ก็ได้ เช่นนั้นจะดูคุ้นเคยมากกว่า."จงซานที่กล่าวออกมา.

กงจูเฉียนโหยวที่จับจ้องมองไปยังจงซาน ราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล."อืม เช่นนั้นจะไม่เรียกเซียนเซิงต่อหน้าคนอื่นก็แล้วกัน ทว่าในเมื่อเฉียนโหยวได้รับปากไปแล้ว ก็ย่อมต้องรักษาคำพูด."

"ขอบคุณกงจู."จงซานพยักหน้า.

อาเอ้อ และสุ่ยเทียนหยาที่จ้องมองด้วยความประหลาดใจ กับภาพที่เห็น คนทั้งคู่ไม่เคยเห็นท่าทางเช่นนี้จากกงจูเลย ไม่เคยเลยจริง ๆ .

เห็นท่าทางตะลึงงันของคนทั้งสอง กงจูเฉียนโหยวขมวดคิ้วและกล่าวออกมาว่า"สิ่งที่พวกเจ้าเห็นก่อนหน้านี้ จงลืมไปเสีย จงซาน ยังคงเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของข้า รับตำแหน่งองค์รักษ์ขั้นสาม."

"ครับ."คนทั้งสองพยักหน้า แม้ว่าจะยังมีอะไรบางอย่างที่สงสัย ทว่านี้คือเรื่องของกงจู พวกเขาไม่สามารถก้าวก่ายได้.

จงซานที่ดูเหมือนว่าจะเข้าใจความคิดของกงจู นางต้องการที่จะซ่อนความลับเอาไว้ ให้เขาเป็นผู้ช่วยลับ ๆ ไม่ให้คนอื่นรู้ เป็นการซ่อนความสามารถของจงซานเอาไว้เงียบ ๆ เพื่อใช้งานให้มีประสิทธิภาพ.

อย่างไรก็ตาม จงซานเองก็ไม่ได้สนใจกับแผนนี้ สิ่งที่เขาต้องการคือเข้าใจข้อมูลต่าง ๆ ของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว เมื่อกงจูให้เขาเป็นกุนซือ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เปิดตัวในที่สาธารณะก็ตาม แต่นั่นก็ทำให้เป็นไปตามเป้าหมายของเขาแล้ว ทำให้เขามีโอกาสได้รับข้อมูลที่น่าสนใจและลดเวลาของเขาได้มากเลยทีเดียว.

"เซียนเซิงยังไม่มีที่อยู่อย่างงั้นสินะ เอาเป็นว่าให้มาพักที่นี่เลยเป็นไง."กงจูกล่าว.

"อืม ขอบคุณกงจู."จงซานพยักหน้ารับ.

"เซียนเซิงที่เป็นคนของศาลาเจ็ดดาว ทว่าวิชาที่ใช้นั่นคือ วิชาเพลิงสวรรค์พันธนาการอสนี อย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวกล่าว เห็นได้อย่างชัดเจนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ภูเขานั้นนางเห็นจงซานใช้วิชาดังกล่าว.

"อืม."จงซานพยักหน้า.

"ที่นี่มีบุฟผาอสนีอยู่หลายดอก ข้าจะสร้างที่อยู่อาศัยให้เล็กน้อย สร้างห้องที่สร้างขึ้นจากศิลาอสนี และหลังจากนั้นจะให้ผู้เชี่ยวชาญสร้างค่ายกลสายฟ้าล้อมพื้นที่รอบ ๆ ให้."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ขอบคุณ."จงซานกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

ศิลาอสนี? วัตถุดังกล่าวล้ำค่ามาก นอกจากนี้ในตลาดทั่วไปยังมีไม่มากนัก ตอนนี้คาดไม่ถึงเลยว่าจะนำมาสร้างเป็นที่พักเลยเหรอ นี่เป็นเหมือนกับโพรงฝึกฝนวิชาเลย ดูเหมือนว่าการได้เป็นกุนซือกงจูเฉียนโหยว จะได้รับผลประโยชน์มหาศาลทีเดียว.

เห็นท่าทางซาบซึ้งใจของจงซานแล้ว กงจูเฉียนโหยวก็เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.

ในเวลาเดียวกัน ?ด้านนอกห้องโถงนั้น อาต้าวิ่งเข้ามาด้วยความดีใจ ในมือของเขามีเม็ดยาที่ส่องสว่างวับวาว เม็ดยารวมวิญญาณ.

"กงจู กงจู เปลี่ยนได้แล้ว เม็ดยายกระดับกลายเป็นเม็ดยารวมวิญญาณแล้ว."อาต้ากล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"เซียนเซิง ปริศนาสองข้อถูกแก้แล้ว เฉียนโหยวขอบคุณ."กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.

จงซานที่พยักหน้าเผยยิ้มอย่างนุ่มนวล จะไม่ให้เขาพึงพอใจได้อย่างไร กับปัญหาสองข้อที่ไม่ได้ยากเย็นนัก กับทำให้ได้รับประโยชน์ไม่น้อย.

"เช่นนั้น หากว่าใช้วิธีของจงซาน ไม่ใช่ว่าสามารถเปลี่ยนเม็ดยายกระดับเป็นเม็ดยารวมวิญญาณจำนวนมากหรอกรึ?"สุ่ยเทียนหยาที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

กับการทำเช่นนี้ จะทำให้คนยากจนกลายเป็นคนร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว.

"ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้."จงซานที่ส่ายหน้าไปมาขณะพูด.

"ทำไมรึ?"ทุกคนที่จ้องมองด้วยความสงสัยไปยังจงซาน.

"ภายใต้ขั้นตอนที่ข้าได้เตรียมไว้นั้น สินค้าบางอย่างมีไม่มากนัก เมื่อถูกซื้อขายไปแล้ว ก็ยากที่จะสามารถหาได้ในตลาด และเมื่อเป็นเช่นกันก็จะทำให้ราคาของสินค้าเปลี่ยนไป เม็ดยาบางอย่างมีการใช้ในกลุ่มคนเล็ก ๆ  ไม่ได้ผลิตมามากมาย หากว่าทำการซื้อขายเช่นนี้หลายครั้งก็จะทำให้ระบบซื้อขายพังทลายไป เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะไม่สามารถซื้อขายได้อีก."จงซานกล่าว.

ได้ยินคำพูดของจงซานแล้ว อาต้าและอาเอ้อนั้นไม่เข้าใจดีนัก ทว่าสุ่ยเทียนหยาและกงจูเฉียนโหยวเข้าใจอย่างชัดเจน พร้อมทั้งพยักหน้าให้.

"เซียนเซิง ในเวลานี้มีเรื่องเร่งด่วน ในมือของเฉียนโหยวเวลานี้มีเรื่องสำคัญที่ต้องการคำแนะนำจากเซียนเซิง."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"อย่างไรรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยวด้วยความสงสัย.

"ที่จริง นอกเหนือจากการตกลงพันธสัญญาของสองราชวงศ์ เพื่อพักรบกันนั้น ยังมีเรื่องการแข่งขันเลือกตั้งเจ้าเมืองอยู่ นี่ถือว่าเป็นงานใหญ่อย่างหนึ่ง ที่สำคัญเลยทีเดียว ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นมาเป็นจำนวนมาก เมืองอู๋ซวังนั้นจะถูกยกระดับให้กลายเป็นเมืองใหญ่ ทำให้เวลานี้จึงมีการเลือกตั้งเจ้าเมืองกันเกิดขึ้น."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

ได้ยินคำพูดของกงจูแล้วจงซานที่ขมวดคิ้วไปมา ราวกับว่าเข้าใจอะไรบางอย่างได้.

"อย่างไรก็ตาม เจ้าเมืองคนใหม่นั้นจะต้องเป็นหนึ่งในสี่ของเฉิงตงของเมืองอู๋ซวัง."กงจูเฉียนโหยวอธิบาย.

"สี่เฉิงตงอย่างงั้นรึ? ใต้เท้าสุ่ย?"จงซานที่จ้องมองไปยังสุ่ยเทียนหยา.

"ในเฉิงตงทั้งสี่นั้น ข้าเป็นหนึ่งในนั้น มี ตงเฉิงตงและซีเฉิงตงและเป่ยเฉิงตง กล่าวได้ว่าตงเฉิงตงและซีเฉิงตงนั้นไม่จำเป็นต้องใส่ใจ มีเพียงแค่ข้าและเป่ยเฉิงตง มู่ไป่หลีเท่านั้นที่แข่งขันกันเป็นเจ้าเมือง "สุ่ยเทียนหยากล่าว.

"อย่างงั้นรึ? แต่ข้ายังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเมืองอู๋ซัง นอกจากนี้ระบบการแข็งขันเป็นอย่างไร?ข้าจึงไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอะไรได้ในตอนนี้?"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา กับหัวข้อดังกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ  ที่จะสามารถดึงของวิเศษออกมาจากกระเป่าแล้วแก้ปัญหาได้เลย.

"เซียนเซิงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจ หนึ่งปี พวกเราสามารถใช้เวลาหนึ่งปีในการเตรียมการ เพื่อใช้ในการแข่งขัน เกี่ยวกับการเลือกตั้งตำแหน่งเจ้าเมือง ข้าจะเป็นคนอธิบายเรื่องราวต่างให้เซียนเซิงรู้จากเริ่มต้นจนเข้าใจทั้งหมดเอง."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

จงซานพยักหน้า หากเป็นเช่นนั้นก็ดีเยี่ยมทีเดียว นี่จะทำให้เขาเข้าใจระบบต่าง ๆ ของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว กับเรื่องที่เขาต้องการ ไม่คิดเลยว่าจะรวดเร็วขนาดนี้ นี่เป็นโอกาสที่ดีแล้วที่จะศึกษาข้อมูลทั้งหมด.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด