Chapter 160 เจ้าไม่สามารถล่วงเกินข้า.
"ระดับหก?"สุ่ยอู๋เหินที่ค่อนข้างประหลาดใจ เพราะว่าสุ่ยอู๋เหินจำได้ว่า ยกเว้นลานประมูลแล้ว ย่านธุรกิจแห่นี้ กลับมีของวิเศษระดับหกด้วย นอกจากนี้ยังไม่ใช่ร้านใหญ่ที่สุด เป็นเพียงแค่ร้านเล็ก ๆ กลับมีของวิเศษระดับหกอย่างงั้นรึ?
แม้ว่าเถ้าแก่อ้วนจะแนะนำความรู้พื้นฐานกับจงซาน ทว่าเขาก็ยินดีให้บริการคนกลุ่มนี้เป็นอย่างดีเหมือนกัน.
กับคนที่เข้ามาในร้าน ถือพัดกระดาษ นอกจากนี้ที่เอวยังมีหยกเนื้องาม เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ใช่คนยากจน นอกจากนี้ยังมีคนที่ดูเหมือนไม่รู้อะไรเลย ถึงจะดูธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อเห็นราคาของวิเศษแล้วกลับไม่รู้สึกหวาดผวา ตลอดจนคนทั้งสามเดินทางมาด้วยกัน.
สำหรับเถ้าแก่อ้วนแล้วนี่เป็นอะไรที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ภายในใจของเขานั้นตระหนักได้เลย นี่คือ"บ่อน้ำมันชั้นดี."เหมาะที่จะใช้เล่ห์เหลี่ยมล่อลวง.
ล่อลวงจงซานอย่างงั้นรึ? ตามหลักธุรกิจแล้ว จงซานที่นับว่าอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม ด้วยการสอบถามซอกแซกมากมาย เป็นทั้งแผนการและหาข้อมูลแสร้งทำว่าไม่รู้อะไรเลย.
แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ รู้เขารู้เรา เข้าใจในสิ่งที่คนอื่นคิดเพื่อลดการสูญเสีย แน่นอนว่าการจะทำให้จงซานขาดทุนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแน่.
"ระดับหก?ให้ข้าได้ยล."สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
เห็นท่าทางของสุ่ยอู๋เหินที่สนใจ เถ้าแก่อ้วนที่หรี่ตาเผยยิ้มออกมา."ได้."
เพียงแค่สะบัดมือครั้งหนึ่ง เถ้าแก่อ้วนก็นำธวัชมัดหนึ่งขนาดเล็กออกมา.
"โย่ สุ่ยอู๋เหิน ไม่ได้เจอกันนานเลย."ที่ด้านนอกนั้นมีเสียงที่ทำให้งงงวยปรากฏขึ้นในทันที.
ได้ยินเสียงดังกล่าวแล้ว สุ่ยอู๋เหินที่ขมวดคิ้วไปมา จ้องมองออกไปด้านนอก.
ที่ด้านนอกร้านนั้น มีคนสามคนที่ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาช้า ๆ .
สองคนด้านหลังดูเหมือนว่าจะเป็นผู้คุ้มกัน สวมชุดดำยืนอยู่ด้านหลัง ชายที่อยู่ด้านหน้านั้นสวมชุดที่ดูหรูหรา เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มที่แปลกประหลาด.
"โม่เส้าเหยี่ย."เถ้าแก่อ้วนจำคนดังกล่าวได้ทันที และคำพูดของเส้าเหยี่ยโม่ เรียกคนด้านหน้าเขาว่าสุ่ยอู๋เหินอย่างงั้นรึ?
少爷 shàoye คุณชาย นายน้อย
ใบหน้าของชายอ้วนเปลี่ยนเป็นโง่งมทันที ใบหน้าฝืนยิ้มออกมา เขาที่กำลังเตรียมการขายเกินราคา ตอนนี้เมื่อพบความจริงแล้ว ต่อให้มีความกล้าสิบเท่าก็ ไม่กล้าแล้ว.
"สุ่ยเส้าเหยี่ย ต้องขออภัยที่ผู้น้อยจำท่านไม่ได้ "เถ้าแก่อ้วนยังคงยิ้มออกมาอย่างขม ๆ .
สุ่ยอู๋เหินพยักหน้าให้ ไม่ได้ใส่ใจนัก.
"โม่เหยียนปิง!"สุ่ยอู๋เหินกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่แสดงท่าทางรังเกียจ.
"เขาเป็นใคร?"หนานป้าเทียนที่สอบถามออกไปด้วยเห็นใบหน้าที่รังเกียจฉายอยู่บนใบหน้าของสุ่ยอู๋เหิน.
"บุตรชายของเป่ยเฉิงตง."สุ่ยอู๋เหินที่ตอบเบา ๆ .
"นี่เป็นของวิเศษชั้นยอด เถ้าแก่ ข้าต้องการ เสี่ยวซานจ่ายเงิน "โม่เหยี่ยนปิงที่เข้ามาในร้านเห็นสมบัติในมือเถ้าแก่อ้วน ทันในนั้นเขาไม่ลังเลเลยเข้าแย่งซื้อสินค้าดังกล่าวในทันที.
"โม่เหยี่ยนปิง ของสิ่งนี้ข้าเป็นคนพบก่อน ข้าเองก็มีแขกด้วยในวันนี้ ข้าไม่ต้องการที่จะมีปากเสียงกับเจ้าหรอกนะแต่อย่างน้อยควรจะแข่งกันอย่างเป็นธรรม."สุ่ยอู๋เหินที่กกล่าวออกมาในทันที.
ได้ยินคำพูดของสุ่ยอู๋เหิน สายตาของโม่เหยี่ยนปิงที่กวาดตามองออกไป จ้องมองไปยังจงซานและหนานป้าเทียน พร้อมกับคิดอยู่ในใจ นี่คือแขกของเจ้าเหรอ กำลังล้อข้าเล่นอยู่รึ ๆ ไง.
"ข้าต้องการสิ่งนี้ เจ้าต้องการแข่งกับข้ารึ?เสี่ยวซาน ถอยออกมาก่อน."โม่เหยียนปิงเองก็ไม่ยอมง่าย ๆ เช่นกัน.
เถ้าแก่อ้วนเวลานี้ฝืนยิ้มออกมา แอบปาดเหงื่อเล็กน้อย ทั้งเป่ยเฉิงตงและหนานเฉิงตงมีความขัดแย้งกันโดยตลอด เวลานี้เส้าเหยียทั้งสองขัดแย้งกัน หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่คิดเลยว่ามันจะมาเกิดขึ้นที่ร้านของเขาเช่นนี้ ทั้งคู่ต่างก็เป็นคนที่ไม่สามารถล่วงเกินได้.
"เถ้าแก่ ของชิ้นนี้มีราคาเท่าไหร่."สุ่ยอู๋เหินเองเห็นได้ชัดเจนว่าไม่ยอมโม่เหยี่ยนปิงเช่นกัน.
" 10,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง "เถ้าแก่อ้วนเอ่ยออกมาในทันที.
"อะไรนะ?"โม่เหยี่ยนปิงถึงกับอุทานออกมา.
"ของหัก ๆ นี้มีราคาถึง 10,000 ศิลาวิญญาณระดับสูงเลยรึ?"โม่เหยียนปิงกล่าวออกมาเสียงดัง.
"นี่คือธวัชระดับหก ค่ายกลหมอกเทวะอำพราง."ชายอ้วนกล่าว.
"ระดับหก?หนึ่งหมื่น?"ใบหน้าของโม่เหยียนปิงแข็งค้าง จากนั้นจ้องมองไปยังเถ้าแก่อ้วนด้วยความประหลาดใจ.
ระดับหก คาดไม่ถึงเลยจะมีราคาแค่ 10,000 ? มารดาเถอะถูกสุด ๆ เลย.
สุ่ยอู๋เหินเองก็จ้องมองออกไปยังเถ้าแก่อ้วนด้วยความประหลาดใจเช่นกัน.
"ที่จริงแล้ว ธวัชนี่ ก่อนหน้านี้ลูกค้าร้อนเงิน ดังนั้นจึงได้ส่งให้นิกายฉีเจิ้งนำมา และขายมาให้พวกเรา และพวกเขาเองก็ไม่ได้ขอเพิ่มแต่อย่างใด ยอมขายในราคาหนึ่งหมื่นศิลาวิญญาณตั้งแต่แรกแล้ว."เถ้าแก่อ้วนที่กล่าวออกมาในทันที.
"เจ้าใช้เล่ห์เหลี่ยมให้ได้มาอย่างงั้นรึ? น่าประทับใจมาก 10,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง ขายให้เจ้ารึ? เจ้าไม่รู้รึอย่างไร?ของวิเศษระดับหกนั้น มีราคาต่ำสุดคือ 50,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง."โม่เหยียนปิงกล่าวออกมาเสียงดัง.
"เขายินยอมในราคานี้ ราคาที่ข้าให้ก็นับว่าสูงแล้ว."เถ้าแก่อ้วนกล่าวออกมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ.
"หืม?ธวัชนี้มีประโยชน์อะไรกัน สามารถป้องกันระดับก่อตั้งวิญญาณได้หรือไม่."โม่เหยียนปิงเอ่ยออกมาเสียงดัง.
"ไม่สามารถป้องกันได้."เถ้าแก่อ้วนกล่าว.
"หืม? แล้วระดับแกนทองล่ะ?"โม่เหยียนปิงกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"แม้แต่ระดับเซียนเทียน ก็ไม่สามารถป้องกันได้."เถ้าแก่อ้วนกล่าว.
"นี่มันธวัชระดับหกไม่ใช่รึไง?"โม่เหยียนปิงเต็มไปด้วยความสงสัย.
"ทว่าธวัชนี่ สามารถช่วยป้องกันสัมผัสเทวะเพื่อใช้ในการตรวจสอบได้ "เถ้าแก่อ้วนกล่าว.
"เดี่ยวก่อน เดี่ยวก่อน เจ้าบอกว่ามันช่วยในปิดการตรวจสอบอย่างงั้นรึ?"โม่เหยียนปิงเอ่ยออกมาทันที.
"เอิ่ม คือมันจะช่วยปกปิดตัวตนจากสัมผัสเทวะในการตรวจสอบ ทำให้ไม่สามารถใช้สัมผัสเทวะตรวจสอบคนที่อยู่ค่ายกลได้ หรือกล่าวได้ว่าค่ายกลนี้มีพลังที่ใช้ในการรบกวนสัมผัสเทวะได้ ด้วยการสร้างพลังที่แปลกประหลาดขึ้นมา ทำให้กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม หลบการใช้สัมผัสเทวะได้."เถ้าแก่อ้วนกล่าว.
"มันยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยรึ?เช่นนั้นมันก็ควรจะมีค่ามากกว่า 50,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง.
สุ่ยอู๋เหินที่ชำเลืองมองไปยังเถ้าแก่อ้วน ความจริง หากเพียงแค่รบกวนสัมผัสเทวะ ของวิเศษชิ้นนี้ไม่คู่ควรกับของวิเศษระดับหกอย่างแน่นอน.
"แต่ว่า มันยังมีจุดอ่อนอยู่."ใบหน้าของเถ้าแก่อ้วนที่เผยยิ้มอกมา.
"จุดอ่อน? จุดอ่อนอย่างไร?"โม่เหยียนปิงที่เอ่ยออกมา.
"ทุก ๆ ท่านเชิญไปลานด้านหลังกับข้า ข้าจะสาธิตให้กับทุกคนดู."เถ้าแก่อ้วนกล่าว.
"เชิญ."ทุกคนที่พยักหน้ารับ.
เถ้าแก่อ้วนที่เรียกพนักงานร้านมาดูหน้าร้าน ก่อนที่จะนำคนทั้งหกเดินไปยังลานด้านหลัง.
ที่ด้านหลังนั้นค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว เป็นพื้นที่โล่งเตียน เถ้าแก่อ้วนที่นำธวัชขนาดเล็กทั้ง 18 อัน ปักอยู่พื้นที่รอบ ๆ ก่อนที่ค่ายกลลับจะเริ่มทำงาน.
"พรึด ๆ ๆ "
ธวัชทั้ง 18 ที่สั่นไปมาเล็กน้อย จากนั้นก็ปลดปล่อยควันสีดำออกมา เป็นหมอกควันสีดำที่ปิดบังค่ายกลแห่งนี้เอาไว้ พื้นที่รอบ ๆ ค่ายกลแห่งนี้ถูกควันสีดำปกปิดไปในทันที.
"เสี่ยวซาน.เจ้าไปยืนอยู่ตรงนั้น."โม่เหยี่ยนปิงที่กล่าวออกมา.
ชายในชุดสีดำที่ยืนอยู่ด้านหลังโม่เหยียนปิงเดินออกไปในทันที.
เข้าไปในหมอก สามารถมองเห็นชายชุดดำได้ ทว่าโม่เหยียนปิงและสุ่ยอู๋เหินทั้งคู่ที่เผยแววตาประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
"สัมผัสเทวะไม่สามารถสัมผัสถึงเขาได้."โม่เหยียนปิงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ใช่แล้ว เส้าเหยียทั้งสอง สัมผัสเทวะไม่สามารถสัมผัสถึงเขาได้ ทว่าก็ยังสามารถมองเห็นได้ด้วยสายตา แม้ว่าภายในจะมีหมอกอยู่แต่ก็ไม่มีผลต่อผู้ฝึกตนเช่นพวกเรา ค่ายกลนี้จึงไม่สมบูรณ์แบบ หากจะกล่าวล่ะก็ มันไม่สามารถใช้กับกองกำลังที่แข็งแกร่ง อย่างดีที่สุดก็เป็นเพียงแค่ของเล่นเท่านั้น."เถ้าแก่อ้วนที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.
"งั้นก็สามารถเพิ่มค่ายกลลวงตาด้านนอกอีกชั้น."โม่เหยียนปิงกล่าว.
"เพิ่มค่ายกลลวงตา ด้วยสัมผัสเทวะแล้ว ไม่ใช่ว่าจะทำให้รับรู้ตำแหน่งหรอกรึ?แล้วจะยังเหมาะที่จะเพิ่มเข้ามาอีกอย่างงั้นรึ?"สุ่ยอู๋เหินกล่าวออกมาด้วยความเหยียดหยัน.
"เช่นนั้นค่ายกลนี้ ก็เพียงแค่สร้างความสับสนให้กับสัมผัสเทวะเท่านั้น?"จงซานที่กล่าวออกมา.
"ไม่ใช่อย่างนั้นซะทีเดียว ค่ายกลนี้ไม่ว่าจะเป็นสัมผัสเทวะใด ๆ ก็ไม่สามารถที่จะค้นหาหรือตรวจสอบด้านในได้ ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่ยอมจ่าย 10,000 ศิลาก่อนเกิดเพื่อซื้อมัน ทว่าหลายปีมานี้ก็ไม่สามารถขายได้เลย."เถ้าแก่อ้วนที่ส่ายหน้าไปมา.
"หากว่าเป็นเช่นนั้น ธวัชนี้ ข้าต้องการ."จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
เถ้าแก่อ้วนนั้นรู้ว่ามันค่อนข้างหายาก ดังนั้นจึงได้ใช้เงินซื้อในจำนวนสูง ทว่ากลับไม่สามารถหาลูกค้าได้มาเป็นเวลานาน ตอนนี้ทำให้เถ้าแก่อ้วนเสียความมั่นใจไปเหมือนกัน จงซานเป็นพ่อค้าเช่นกัน เขาย่อมรับรู้ค่ามันได้เป็นอย่างดี ยิ่งรู้คุณสมบัติของมันแล้ว ก็ทำให้เขาตื่นเต้นไปเลยทีเดียว.
นี่นับว่าเป็นสิ่งค้าหายาก ตามความเชื่อของจงซานแล้ว "สิ่งของหายากสามารถซื้อได้ด้วยเงิน ถึงแม้ว่าจะเป็นราคาสูงเท่าไหร่ ก็ยังนับว่าถูก"ด้วยคุณสมบัติที่เถ้าแก่อ้วนกล่าวว่าสามารถปกปิดสัมผัสเทวะได้ ไม่ว่าจะมีคุณสมบัติอื่นเพิ่มขึ้นมาหรือไม่ นี่ก็นับว่าล้ำค่าแล้ว.
แม้ว่าจะดูเหมือนว่าจะไร้ประโยชน์ แต่มันขึ้นอยู่กับคนใช้และวิธีการใช้ต่างหาก นี่คือของวิเศษชั้นยอดเลย.
"เจ้าต้องการอย่างงั้นรึ?ข้าจะเป็นคนซื้อให้เจ้าก่อนแล้วกัน."สุยอู๋เหินกล่าว
ต้องไม่ลืมว่า ในสายตาของสุ่ยอู๋เหินนั้น จงซานที่เพิ่งมาจากสำนักไคหยาง น่าจะยังมีทรัพย์สินไม่มาก เป็นไปไม่ได้ที่จะมีศิลาวิญญาณระดับสูงถึง 10,000.
ได้ยินคำพูดของสุ่ยอู๋เหิน จงซานที่ขมวดคิ้ว แม้ว่าจะรู้ว่าสุ่ยอู๋เหินจะมีปรารถนาดี ทว่าก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ.
ที่จริงก็มีเสียง ๆ หนึ่งที่ดังขึ้นมา.
"เถ้าแก่ ธวัชนี้ข้าก็ต้องการ."โม่เหยียนปิงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันจ้องมองไปยังสุ่ยอู๋เหิน.
จากนั้นทั้งคู่ก็ก็เริ่มต่อสู้กันในทันที.
สุ่ยอู๋เหินขมวดคิ้วกล่าวออกมาว่า"เถ้าแก่ ข้าให้ 11,000."
"ข้าให้ 12,000 "โม่เหยียนปิงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ข้า..."ขณะที่สุ่ยอู๋เหินต้องการที่จะเพิ่มราคาอยู่นั้น.
จงซานที่ยื่นมือออกไปแตะไหล่ของสุ่ยอู๋เหิน ที่กำลังแข่งกับโม่เหยียนปิง.
เถ้าแก่อ้วนเวลานี้ที่จริงกำลังหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา เขาไม่กล้าที่จะตอบรับใครเลย ทำได้แค่ให้คนทั้งคู่โต้เถียงกันไปมา ไม่ว่าราคาที่ทั้งสองจะให้สูงขึ้นมาเท่าไหร่ ก็ไม่เว้นที่จะต้องกลายเป็นยุแหย่คนที่พ่ายแพ้ในที่สุด.
"ข้าคิดว่าสินค้านี้ ข้าควรที่จะเป็นคนประมูลมากกว่า."จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.
สุ่ยอู๋เหินพยักหน้า ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เขาจะรีบร้อนไปหน่อย.
เห็นสุ่ยอู๋เหินที่พูดคุยกับชายคนดังกล่าวพร้อมกับก้าวไปยืนด้านหลัง ทำให้โม่เหยียนปิงหรี่ตามอง ชายคนนี้เป็นใครกัน?
จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวลให้กับโม่เหยียนปิง "สหายผู้นี้ ธวัชนี้เป็นข้าที่สนใจ ไม่ใช่สุ่ยอู๋เหิน ข้าขอเรียกราคาสู้กับเจ้าก็แล้วกัน."
จงซานที่แสดงความกล้าออกมากดข่มในทันที นอกจากนี้ยังกล่าวชื่อสุ่ยอู๋เหินตรง ๆ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าทำให้โม่เหยียนปิงสับสน ทำให้เขาแยกแยะความสัมพันธ์ของเขาและสุ่ยอู๋เหินไม่ออก.
"มีปัญหาอะไร?ข้าต้องการ เถ้าแก่กล้าที่จะไม่ขายให้กับข้าอย่างงั้นรึ?"โม่เหยียนปิงที่กล่าวออกมาอย่างเย็นชา.
เห็นโม่เหยียนปิงที่กล่าวเบ่งออกมาแล้ว จงซานที่หายใจยาวพร้อมกับรอยยิ้ม."นั่นควรที่จะดูว่าใครมีศิลาวิญญาณมากกว่ากัน!"
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า สุ่ยอู๋เหิน เขาเป็นอะไรกับเจ้าอย่างงั้นรึ?"โม่เหยียนปิงที่กล่าวออกมาเสียงดังด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าเขาต้องการทราบสถานะของจงซานจากสุ่ยอู๋เหิน ขณะที่จ้องมองด้วยความสงสัยในตัวของจงซาน ว่าเขากำลังแสร้งอวดเบ่งอยู่หรือไม่?
"ข้าและสุ่ยอู๋เหินนั้นจะมีความสัมพันธ์ใดไม่สำคัญ ที่สำคัญนั้น เจ้าไม่สามารถล่วงเกินข้าได้!"จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล