Chapter 159 ร้านค้า.
"ท่านพ่อ."สุ่ยอู๋เหินที่จ้องมองไปยังหนานเฉิงตง.
"ยืนดีกับต้าเหรินด้วย ยินดีกับเสี่ยวกงจู่ด้วย."เหล่าขุนนางที่อยู่ด้านหลังหนานเฉิงตงต่างก็กล่าวแสดงความยินดีในทันที.
"ไปกันเถอะ ก่อนอื่นต้องทำการลงทะเบียนก่อน ไว้ข้าจะรายงานต่อราชสำนักในทันที พร้อมกับยืนยันตำแหน่งของพวกเจ้าให้."หนานเฉิงตงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ขอบคุณต้องรบกวนท่านแล้ว."จงซานและหนานป้าเทียนกล่าวออกมาในทันที.
ทุกคนที่เข้ามาในห้องโถง ซึ่งภายในห้องโถงแห่งแห่งนี้มีชั้นหนังสือมากมาย มีโต๊ะอยู่เป็นจำนวนมาก เห็นได้อย่างชัดเจนว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่สถานที่ทำงานแห่งหนึ่งนั่นเอง.
ที่แห่งนี้เป็นที่ทำการส่วนตัวของหนานเฉิงตง.
หนานเฉิงตงที่ทำการลงทะเบียนให้กับจงซาน หนานป้าเทียนในทันที ส่วนสุ่ยอู๋เหินนั้นได้รับการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว.
ผ่านไปสักพัก หนานเฉิงตงก็ถามออกมาว่า"ศาลาเจ็ดดาวที่รับรองพวกเจ้า ทว่ามีหัวข้อให้เลือกอยู่ ว่าจะเข้าร่วมกองทัพ?หรือว่าเข้าร่วมราชสำนัก?พวกเจ้าต้องเลือกเอง ข้าจะได้นำชื่อของพวกเจ้าเสนอไปยังราชสำนักอย่างเป็นทางการ."
"ข้าต้องการเข้าร่วมกองทัพ."หนานป้าเทียนที่กล่าวออกมาในทันที.
"ส่วนผู้เยาว์ต้องการเข้าร่วมราชสำนัก."จงซานที่คิดครู่หนึ่งและกล่าวออกมา.
เพราะต้องการเข้าใจระบบต่าง ๆ ของราชวงศ์สวรรค์ การเข้าร่วมราชสำนักจึงนับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุด.
"ดี "หนานเฉิงตงที่ทำการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ตามลำดับ.
หลังจากที่สอบถามข้อมูลที่จำเป็นทุกอย่างแล้ว หนานเฉิงตงก็เผยยิ้มให้กับจงซานและหนานป้าเทียน.
"ข้ามีนามว่าสุ่ยเทียนหยา หลังจากนี้พวกเราคือเพื่อนร่วมงานกัน ตอนนี้ให้อู๋เหินนำพวกเจ้าไปพักก่อน ไว้ข้าจัดการเอกสารทุกอย่างแล้ว จะพาพวกเจ้าไปยังสถานที่ทำงานอีกที."หนานเฉิงตงกล่าว.
"ขอบคุณ!"จงซานที่กล่าวออกมาทันที.
"อู๋เหิน เจ้าควรจะพาศิษย์น้องไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อย."สุ่ยเทียนหยากล่าว.
"ครับ ท่านพ่อ."สุ่ยอู๋เหินพยักหน้า.
"เช่นนั้นขอลา."จงซานกล่าว.
จากนั้น สุ่ยอู๋เหินก็นำคนทั้งสองกลับมายังหุบเขาก่อนหน้านี้ พร้อมกับเดินทางไปยังร้านค้าของเมืองอู๋ซวัง.
"ศิษย์พี่ หนานเฉิงตงนี้ คือตำแหน่งอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วสอบถาม.
"เจ้าหมายถึงบิดาข้าอย่างงั้นรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ใช่แล้ว."จงซานพยักหน้า.
"เมืองอู๋ซวังนั้น ยกเว้นเจ้าเมืองที่เป็นขุนนางระดับสี่ ก็มีเป่ยเฉิงตงและหนานเฉิงตง ซึ่งก็คือบิดาของข้าซึ่งดูแลอาณาเขตทิศใต้ และเป็นขุนนางระดับห้าของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว เป็นผู้ช่วยเจ้าเมืองในการปกครอง."สุ่ยอู๋เหินตอบ.
"ระดับห้าอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"ใช่แล้ว พวกเราที่เพิ่งเข้าร่วมราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวก็ได้เป็นขุนนางระดับห้าแล้ว ซึ่งมีระดับน้อยกว่าระดับห้าจริงเพียงเล็กน้อย ทว่าโดยรวมแล้วก็เหมือนกัน ท่านพ่อนั้นใช้เวลานานกว่าจะก้าวมาถึงตำแหน่งนี้ ส่วนพวกเราที่ได้ตำแหน่งขุนนางระดับห้าอย่างง่าย ๆ มันก็เป็นเหมือนกับเส้นทางลัดอย่างหนึ่งนั่นเอง."สุ่ยอู๋เหินเผยยิ้ม.
"อืม."จงซานพยักหน้า.
"ไปเถอะ.ใกล้ ๆ นี้เป็นย่านการค้า ข้าจะพาพวกเจ้าไปดู."สุ่ยอู๋เหินกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม."หนานป้าเทียนเผยยิ้ม ส่วนจงซานก็พยักหน้ารับ.
ย่านธุรกิจอย่างงั้นรึ? ย่านการค้าของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวจะเป็นอย่างไร? จงซานที่เป็นพ่อค้าที่ยอดเยี่ยมผู้หนึ่ง เกี่ยวกับการค้านั้นถือว่าเป็นเรื่องถนัดของจงซานเลย.
ภายใต้การนำของสุ่ยอู๋เหิน ได้นำทุกคนเข้ามาในย่านที่มีม่านแสงสีน้ำเงินขนาดใหญ่.
ที่แห่งนี้ มีคนมากมาย จงซานที่เห็นคนบางกลุ่มนั่งอยู่บนสัตว์อสูร มีทั้งพยัคฆ์ เสือดาว หมูป่า และสัตว์อสูรยักษ์มากมาย.
เห็นกลุ่มคนมากมายที่ขี่อยู่บนสัตว์อสูร จงซานพอจะคาดเดาได้ เหมือนกับราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้ง กองกำลังหมาป่าของพวกเขา ที่ทำการฝึกฝนสัตว์อสูร เหล่าสัตว์อสูรดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ช่วยที่ดีเลยทีเดียว ยิ่งหากมีสัตว์อสูรตนนั้นมีพลังฝึกตนสูง จะยิ่งทำให้พลังการต่อสู้สูงตามไปด้วย.
ภายใต้การนำของสุ่ยอู๋เหินนั้น ทั้งสามคนที่ก้าวผ่านเข้ามาภายในม่านสีน้ำเงิน พื้นที่ด้านในนั้นไม่ได้มีภูเขาแต่อย่างใด แต่เป็นจัตุรัสที่กว้างใหญ่ มีสิ่งก่อสร้างมากมาย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นร้านค้า.
ทว่าดูเหมือนว่าม่านแสงจะแยกพื้นที่ออกเป็นอีกส่วน และที่ขอบ ๆ ของม่านแสงนั้นมีสัตว์อสูรมากมายประจำอยู่.
ดูเหมือนว่าจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้อาหารของสัตว์อสูรอยู่ด้านข้าง ซึ่งเป็นที่ฝากสัตว์อสูรนั่นเอง ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาซื้อสินค้าในย่านธุรกิจ ทำให้ที่ชายขอบนั้นมีสัตว์อสูรมากมายหลายขนาดกำลังนอนอยู่ มีคนจำนวนไม่น้อยที่มาจากด้านนอก สถานที่แห่งนี้มีการซื้อขายกันด้วยศิลาวิญญาณ.
"ย่านธุรกิจแห่งนี้ สัตว์อสูรไม่สามารถเข้าไปได้ ต้องไม่ลืมด้วยว่ามันเป็นสัตว์ขนาดใหญ่โตกว่าปกติ ดังนั้นจึงให้ฝากเอาไว้ที่ชายขอบ ซึ่งจะมีคนคอยดูแลความปลอดภัยของพวกมันอยู่ด้วย."สุ่ยอู๋เหินอธิบาย.
"อืม."จงซานพยักหน้า.
คนทั้งสามที่ก้าวเข้ามาด้านใน ผ่านลึกเข้ามาราว ๆ ร้อยเมตร พื้นที่แห่งนี้มีร้านค้าต่าง ๆ มากมาย ซึ่งมีธวัชขนาดเล็กปักอยู่ด้านนอก แม้ว่าจงซานจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทว่าก็พอจะคาดเดาได้ว่ามันเป็นค่ายกลขนาดเล็กสร้างขึ้นมาปกป้องสินค้าในร้านค้า.
ร้านแรกเป็นร้านขายยา นอกจากนี้ดูเหมือนว่าจะมีหมายเลข "142 806"ติดอยู่ด้วย เหมือนว่าจะเป็นตัวเลขของร้านค้า ซึ่งเพื่อสะดวกในการจัดเก็บภาษีของราชวงศ์สวรรค์ นับว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ค่อนข้างสะดวกทีเดียว.
สุ่ยอู๋เหินที่นำคนทั้งคู่เข้ามาด้านใน แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีเป้าหมายที่แน่นอน เป็นการเที่ยวชมพื้นที่รอบ ๆ .
พวกเขาที่เข้ามาภายในร้านยา ดูเหมือนว่าจะไม่ต่างจากร้านของโลกปุถุชนเท่าใดนัก ทว่าดูเหมือนว่าสินค้านั้นจะอยู่ในตู้คริสตัล ดูเหมือนกับร้านค้าในชาติที่แล้วของจงซาน ที่เป็นตู้กระจกที่สามารถเลื่อนได้.
ภายในตู้คริสตัลนั้น มีเม็ดยาต่าง ๆ มากมายและมีป้ายบอกสรรพคุณและราคา.
เม็ดยายกระดับ
ระดับ : 3
สรรพคุณ : ช่วยยกระดับพลังฝึกตนขั้นปลาย ความเป็นไปได้ที่จะยกระดับ 90 %
ราคา : 100 ศิลาวิญญาณระดับสูง
รับซื้อคืน : 95 ศิลาวิญญาณระดับสูง.
จงซานที่ได้อ่านเกี่ยวกับสรรพคุณ ถึงกับยิ้มขม ๆ ออกมาเล็กน้อย โอกาสทะลวงผ่านระดับ 90 % อย่างงั้นรึ? เขาที่กินมันไปหลายร้อยเม็ด แต่กับไม่สามารถทะลวงผ่านระดับได้เลย อย่างไรก็ตาม ด้วยราคานี้ถือว่าแพงจริง ๆ 100 ศิลาวิญญาณระดับสูง ก็เท่ากับ 1000 ศิลาวิญญาณ และเท่ากับ 10,000 ศิลาวิญญาณระดับต่ำ.
เขาที่พยายามที่จะทะลวงผ่านระดับ ต้องสูญเสียศิลาวิญญาณระดับต่ำไปหลายล้านเลยไม่ใช่รึ?
นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่ขาย คาดไม่ถึงเลยว่าจะรับซื้อคืนอีกด้วย.
นอกเหนือยาเม็ดยายกระดับแล้ว ยังมีเม็ดยาอื่น ๆ อีกมากมาย ทว่า ด้วยภายในกำไลเก็บของมีเม็ดยาอยู่จำนวนมาก ดังนั้นจงซานจึงไม่ได้สนใจ ทว่าด้วยราคาเหล่านี้ ก็ทำให้เขาต้องจำเอาไว้ บางทีเขาอาจจะสามารถนำมาทำอาชีพเสริมได้.
อย่างไรก็ตาม ที่นี่มีเม็ดยาระดับสูงสุดคือระดับห้า สูงกว่านั้นไม่มีแล้ว ดูเหมือนว่าคลังสินค้าของพวกเขาเองก็ไม่มีด้วยเช่นกัน.
นอกจากเม็ดยาแล้ว ยังมีวัตถุดิบขายอีกด้วย ซึ่งจงซานอ่านข้อความบนแผ่นป้าย.
ผลอัคคี
ระดับ : ขั้นห้า
ราคา :3500 ศิลาวิญญาณ
รับซื้อคืน :3200 ศิลาวิญญาณ
หนานป้าเทียนที่ชำเลืองมองตาโต สายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา พนักงานขายที่จ้องมองมายังคนทั้งสาม รอคอยพวกเขาตัดสินใจ.
หนานป้าเทียนไม่มีเงิน ไม่มีศิลาวิญญาณมากมาย สุยอู๋เหินนั้นพาทั้งคู่มาเปิดหูเปิดตาเท่านั้น ส่วนจงซานเอง ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ.
"ศิษย์พี่ ที่นี่มีเม็ดยาที่สูงกว่าระดับห้าหรือไม่?."จงซานที่ขมวดคิ้วสอบถามออกไป.
"ที่นี่เป็นแค่เพียงร้านขนาดเล็ก เม็ดยาระดับห้าเองก็มีจำกัด หากว่าเป็นเม็ดยาที่สูงกว่าระดับห้าแล้วล่ะก็ จะต้องเป็นหอสินค้าของวิเศษที่อยู่ในเมือง พวกเราลองเดินดูก่อนก็ได้ บางทีอาจจะมีอยู่ในร้านค้าแถวนี้ก็ได้."สุ่ยอู๋เหินตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม.
จากนั้น พวกเขาก็เดินเข้าไปยังร้านที่สอง.
เมื่อทั้งคู่เดินผ่านธวัชเข้าไปในร้าน.
ที่ด้านในเองก็มีชายธวัชต่าง ๆ มากมาย อย่างไรก็ตามเทียบกับร้านอื่นแล้วดูจะค่อนข้างเงียบเหงาทีเดียว.
"นายท่านทั้งสาม เชิญ ๆ !"เถ้าแก่ที่ดูอ้วนถ้วนออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มในทันที.
บางทีเพราะไม่ค่อยมีลูกค้า เมื่อคนทั้งสามเข้ามา แน่นอนว่าทำให้เขาออกมาต้อนรับอย่างดี.
"เถ้าแก่ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราแค่มาดูเท่านั้น."สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยร้อยยิ้ม.
"ไม่ซื้อไม่เป็นไร ข้ายินดีที่จะแนะนำทุกอย่างให้กับทุกคนอยู่แล้ว."เถ้าแก่อ้วนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงหัวเราะ.
"ท่านพูดเองนะ."สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ร้านของข้านั้นเป็นร้านธวัช ภายในร้านนี้มีธวัชครบทุกอย่าง เป็นของวิเศษชั้นหนึ่ง สามารถใช้ปกป้องคุ้มภัย มีด้วยกันหลายระดับ และยังสามารถป้องกันการโจมตีและมีพลังงานแต่ละธาตุ มีทั้งธวัชธาตุไฟ แม้ว่าจะเป็นเพียงของวิเศษระดับสาม แต่ก็สามารถสร้างม่านพลังป้องกันการโจมตีจากของวิเศษระดับสี่ได้เลย."เถ้าแก่ที่อ้วนถ้วนกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับชี้ไปยังธวัชที่อยู่ภายในตู้คริสตัล.
"ของวิเศษนี้ได้สร้างขึ้นมาจากมุกคงหลิงอย่างงั้นรึ? แล้วของวิเศษเหล่านี้ใครก็เป็นเจ้าของก็ได้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกมาทันที.
"หืม ท่านลูกค้า ดูเหมือนว่าเพิ่งมาจากสำนักเซียนจากที่อื่นสินะ?"เถ้าแก่ร่างอ้วนสอบถามออกมาด้วยความสงสัย.
"ข้าเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ข้าเลยไม่ค่อยรู้"จงซานพยักหน้ารับ.
"ฮ่าฮ่า ลูกค้าคงจะมาจากสำนักเซียน แน่นอนว่าทั้งเม็ดยาและสิ่งของนั้นถูกหลอมมาจากสำนักเซียน แต่ก็มีระดับที่แตกต่างกัน."เถ้าแก่อ้วนกล่าวออกมาในทันที.
"อย่างงั้นรึ?"จงซานที่สนใจกับคำพูดของเขา.
"อืม การหลอมของวิเศษนั้นมีอยู่ด้วยกันสองวิธี อย่างแรกเรียกว่า"หลอมด้วยตัวเอง" และอย่างที่สอง"หลอมด้วยเตาเผา" หากลูกค้าสนใจสามารถค้นหาเกี่ยวกับตำราการหลอมได้ "หลอมด้วยตัวเอง"ของวิเศษเหล่านี้ทุกคนสามารถทำได้ เพียงแค่ใส่โลหะเข้าไปด้านในมุกคงหลิงก็จะสามารถหลอมเองได้ เพราะว่าของวิเศษเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นด้วยผู้หลอมเอง และมีรูปร่างตามใจผู้หลอมและยังยกระดับตามผู้เป็นนายได้อีกด้วย ส่วนในดินแดนทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้น ทุกคนต่างก็มีวิธีในการหลอมอาวุธวิเศษขึ้นมาด้วยเช่นกัน เนื่องจากมันเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง จึงมีของวิเศษที่สามารถหลอมขึ้นมาด้วยเตาเผา."
"หลอมด้วยเตาเผา?"จงซานที่สนใจ ดูเหมือนเป็นความรู้ที่น่าสนใจทีเดียว.
"ใช่แล้ว หลอมด้วยเตาเผา การหลอมของวิเศษขึ้นมานั้นต้องใช้วัตถุดิบต่าง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญ ทำการผสานวัตถุดิบเหล่านั้นในเตาเผา พร้อมกับสลักอักขระทักษะบางอย่างลงไป เพื่อที่จะให้ของวิเศษเหล่านั้นมีทักษะต่าง ๆ ซึ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ในการหลอมด้วย และการบันทึกอักขระลงไป ซึ่งจะทำให้ของวิเศษเหล่านั้นมีความสามารถต่าง ๆ กันไป ซึ่งการหลอมของวิเศษนั้นยังสามารถที่จะเลือกทักษะใส่ลงไปได้อีกด้วย ทำให้มีพลังความสามารถไม่ได้ด้อยกว่าการหลอมด้วยตัวเองเลย."ชายชรากล่าว.
"แล้วการหลอมด้วยเตาหลอมและการหลอมด้วยตัวเองแตกต่างกันอย่างไร?"จงซานที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.
"การหลอมของวิเศษด้วยเตาเผา นั้นมีข้อดีด้วยกันอยู่สามอย่าง อย่างแรก คือสามารถซื้อของวิเศษที่มีระดับสูงได้ทันที ไม่จำเป็นต้องค่อย ๆ ปรับแต่งในระยะยาวเพื่อให้ของวิเศษนั้นยกระดับขึ้น อย่างที่สอง สามารถซื้อได้เป็นจำนวนมาก และยังช่วยสนับสนุนความแข็งแกร่งเป็นอย่างดีด้วย อย่างที่สาม ถึงแม้ว่าของวิเศษเหล่านั้นจะถูกทำลาย ก็ไม่ทำให้จิตใจของผู้เป็นเจ้าของพังทลายลง แน่นอนว่ามันก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน อย่างแรกก็คือ มันไม่สามารถยกระดับได้ มันจะมีระดับเดียวกับที่สร้างขึ้นมาในครั้งแรก อย่างที่สองมันไม่ได้เชื่อมโยงกับผู้เป็นนายซึ่งแน่นอนว่ามันไม่สามารถสนับสนุนการใช้วิชาลับได้ อย่างที่สาม มีระดับสูงสุดแค่ระดับหก ทว่า ของที่เหนือกว่าระดับหกนั้น ไม่ได้เรียกของวิเศษแล้ว แต่มันถูกเรียกว่า อาวุธวิญญาณ เพราะว่าของวิเศษเหล่านั้นมีวิญญาณสิงสถิตอยู่ ทว่าดูเหมือนว่าจะมีแค่ในตำนาน ของจริงเป็นเช่นไรยังไม่มีใครเคยเห็น."เถ้าแก่ตัวอ้วนกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ธวัชที่เจ้ามี ที่ดีที่สุดมีแค่เพียงระดับห้าสินะ."สุ่ยอู๋เหินที่จ้องมองไปยังธวัชมากมายในตู้คริสตัล.
"เฮ้เฮ้ ภายในคลังสินค้าของพวกเรา มีธวัชระดับหก."เถ้าแก่ร่างอ้วนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มในทันที.