ตอนที่แล้วChapter 155 ความน่ากลัวของเทพธิดาจื่อซวิน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 157 เถี่ยเสวี๋ย.

Chapter 156 มังกร.


อาวุโสทั้งสามที่ยืนอยู่บนเมฆด้วย ภายในใจของจงซานที่ตื่นเต้นไม่น้อยขณะที่จ้องมองไปยังทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาล.

ส่วนอาวุโสจื่อซวินนั้น นางก็ไม่อธิบายอะไรเช่นกันว่าทำไมถึงเลือกเขา ไม่เพียงแต่ไม่พูด ใบหน้าของนางยังเต็มไปด้วยความเย็นชา จงซานเองก็ไม่กล้ากล่าวถึงเรื่องนี้อีกต่อไป.

แม้ว่าสุ่ยอู๋เหินจะเป็นศิษย์พี่สอง ทว่าก็ไม่เจ้ายศ หรืออหังการเหมือนเทียนชา ทำให้จงซานพูดคุยกับเขาด้วยความสบายใจ ในสายตาของจงซานนั้น สุ่ยอู่เหิน แม้ว่าจะดูน่าเกรงขาม แต่ก็เป็นคนตรงไปตรงมา ทำให้เขานึกถึงจ้าวโส่วเซี่ยงขึ้นมาเช่นกัน.

"ศิษย์พี่สุ่ย ก่อนหน้านี้ท่านเป็นขุนนางของราชวงศ์ต้าโหลวมาก่อนอย่างงั้นรึ?"หนานป้าเทียนสอบถาม.

"ถูกแล้ว ข้าเป็นเพียงขุนนางระดับแปดชั้นล่างเท่านั้น ข้าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของบิดา ทำให้ข้ามีโอกาส นับว่าโชคดีจริง ๆ ที่อาวุโสเลือกข้า."สุ่ยอู๋เหินที่พยักหน้าขณะพูด.

จงซาน หนานป้าเทียนและสุ่ยอู๋เหินขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่ ทันใดนั้น ที่ด้านล่างของทะเลที่กว้างใหญ่นั้น ก็เกิดคลื่นยักษ์ที่สาดกระเซ็นไปทุกทิศทุกทาง.

เมฆสีขาวที่หยุดลง อาวุโสคนหนึ่งที่ลอยออกไปทันที จ้องมองไปยังคลื่นน้ำ ทันใดนั้นก็มีเสาน้ำพุ่งตรงขึ้นมาในทันที.

เมฆสีขาวที่ลอยอยู่กับที่ สายตาของทุกคนที่จ้องมองลงไปด้านล่าง.

"ตูมมมมม"

เสาน้ำขนาดใหญ่ที่พุ่งขึ้นมาจากทะเล หลังจากนั้นก็ปรากฏเป็นหัวมังกรสีทองขนาดมหึมาปรากฏขึ้นมาทันทีเช่นกัน.

มังกร?

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่จงซานได้เห็นมังกร เป็นมังกรที่แท้จริง ก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งที่ไล่ล่าไท่จื่อเห่าซานในครั้งนั้น รูปร่างของพวกมันดูเหมือนกับอสรพิษมากกว่า แม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นมังกรเขา ทว่ามีเพียงแค่เขาเดียว แตกต่างจากมังกรเขาคู่ ซึ่งเป็นมังกรที่แท้จริง.

มังกรตนนี้มีเกล็ดสีทองอร่าม ดวงตากลมโต จงซานรู้สึกว่ามันยังเป็นมังกรเด็ก ใช่แล้ว ยังไม่โตเต็มที ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงมังกรที่ยังเยาว์อยู่นั่นเอง.

ทว่าแม้ว่าจะเป็นมังกรทองที่ยังหนุ่มอยู่ ทว่าหัวของมันกับใหญ่โตเป็นอย่างมาก.

เกิดเสียงดังสนั่น มังกรทองที่กำลังพุ่งตรงไปยังด้านหน้า จากนั้น เหล่าอสรพิษทะเลขนาดใหญ่ ปรากฏขึ้นรอบ ๆ  ทำให้พื้นผิวของทะเลที่ระเบิดออกมาเป็นระยะ.

"ตูมมมม ตูมมม ตูมม ตูมมม"

ไม่ใช่อสรพิษทะเล แต่เป็นมังกรวารี มังกรหนวด มังกรยักษ์ มังกรเขี้ยว ทว่าไม่มีเพียงมังกรเขาเท่านั้น แต่ละตัวที่ปรากฏขึ้นมาล้วนแล้วแต่เป็นมังกรวารี ที่กำลังไล่ตามคุ้มกันมังกรเด็กสีทอง.

เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ประหลาดใจมากนัก ความจริงเรื่องที่ทำให้จงซานประหลาดใจที่สุดคือบนหัวของมังกรทองนั้น มีร่าง ๆ หนึ่งในชุดสีเขียว ในชุดที่โอ่อ่าอยู่บนนั้น.

เป็นเด็กสาวที่มีอายุราว 8-9 ปี ใบหน้าตาที่ดูน่ารักน่าชัง จับเขามังกรแน่น จ้องมองไปยังทะเลด้วยความตื่นเต้น.

"เสี่ยวจิน เร็วเข้า เร็วเข้า!"

สาวน้อยที่ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น.

จากนั้น ดูเหมือนว่ามังกรเด็กนั่นจะเข้าใจในคำพูดของหญิงสาว มันที่กำลังดำผุดดำไว้ตรงออกไป โดยที่มีมังกรวารีนับร้อย ที่กำลังไล่ตามไปข้าง ๆ  มังกรเด็กสีทอง.

"เร็วเข้า ไปให้เร็ว อย่าให้ตาแก่นั่นจับพวกเราได้."หญิงสาวที่ดูไร้เดียงสาตะโกนออกมาอย่างสนุกสนาน ดวงตาเล็ก ๆ ของนางที่หรี่เล็กเป็นเสี้ยวจันทรา ดูน่ารักเป็นอย่างมาก.

"โฮกกก."

มังกรทองเด็กตะโกนออกมาเสียงดัง แสดงท่าทางตื่นเต้นอย่างถึงที่สุดเช่นกัน.

"ครืน ๆ  ๆ "

บนพื้นทะเล ร่าง ๆ หนึ่งที่กำลังโผล่ขึ้นมาด้วยเช่นกัน.

เป็นชายชราคนหนึ่งที่สวมชุดนักพรต ผมของชายชราที่เป็นสีขาว ใบหน้าของเขาที่มีรอยเหี่ยวย่น ทว่าดวงตาของเขานั้นดูเหมือนว่าแววตาดูไม่เหมือนมีเจตนาร้าย.

"ศิษย์น้อย! อย่าวิ่งหนี รับข้าเป็นอาจารย์เร็วเข้า!"อาวุโสเฒ่าที่ตะโกนออกไปเสียงดัง พร้อมกับไล่ตามไป.

"ไม่เอา! ข้าไม่ต้องการ เจ้าตัวเหม็น ข้าไม่ต้องการคนตัวเหม็น!เสียวจิน เร็วเข้า ตาเฒ่าไล่มาแล้ว!"สาวน้อยที่กุมเขามังกรทองตะโกนลั่น.

"โฮก ๆ  ๆ "

มังกรทองน้อยเร่งรีบว่ายน้ำตรงไป เพิ่มความเร็วขึ้นอีกครั้ง มังกรวารีมากมายก็ยังคงไล่ตามไป เข้าไปขนาบข้างไปพร้อม ๆ กัน พวกมันที่คอยคุ้มกันมังกรทอง.

"โอ้ว มันเป็นกลิ่นยาอายุวัฒนะ ตอนนี้มันไม่มีแล้ว อย่าวิ่งหนี รับข้าเป็นอาจารย์เดี๋ยวนี้."ชายชราที่ไล่ตาม ขณะที่ตะโกนด้วยความกระวนกระวายใจ.

"ข้าไม่ต้องการ!ไม่ต้องการ!เจ้าตามพวกเรามา พวกเราจะกลับตำหนักมังกรแล้วนะ."สาวน้อยที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.

เหล่ามังกรมากมายที่ห่างออกไป ได้ยินเสียงเบาลงเรื่อย ๆ .

"บรรพชนน้อย! อย่าเพิ่งไป..."เสียงของชายชราที่เต็มไปด้วยความเศร้า ก่อนที่จะเฝ้ามองฝูงมังกรหายไปลับตา.

ทุกคนที่มีสีหน้าประหลาดใจ คิดว่ากำลังจะถูกลอบโจมตี ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเรื่องราวที่น่าขบขันเช่นนี้.

"จักรพรรดิพิษตะวันตก เขาคือจักรพรรดิพิษตะวันตกอย่างงั้นรึ?"อาวุโสชายคนหนึ่งที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"หืม จักรพรรดิพิษตะวันตก เป็นเขาอย่างงั้นรึ?แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?"อาวุโสอีกคนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางหวาดผวาไปด้วย.

จากนั้นอาวุโสทั้งสองที่จ้องมองหน้ากันและกัน แววตาของพวกเขาเผยท่าทางไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย จักรพรรดิพิษตะวันตกอย่างงั้นรึ? เขาคือจักรพรรดิพิษตะวันตก แต่กับกำลังขอให้ใครบางคนมาเป็นมาเป็นศิษย์ของเขา? หญิงสาวคนนั้นเป็นใคร ถึงได้ทำให้จักรพรรดิพิษตะวันตกทำเช่นนี้?

หลังจากที่พวกเขาจ้องมองด้วยท่าทางตื่นตะลึงก่อนที่จะหันหน้าไปมองอาวุโสจื่อซวิน.

"เป็นจักรพรรดิพิษตะวันตกแน่นอน เอาล่ะ พวกเราก็เดินทางต่อได้แล้ว."อาวุโสจื่อซวินกล่าว.

"อืม."คนทั้งสองพยักหน้า.

ทว่าจงซานที่สูดหายใจลึก สาวน้อยที่ยืนอยู่บนศีรษะของมังกร ไม่ใช่ว่าตระกูลของนางสามารถอัญเชิญมังกรได้หรอกรึ?

......

หลังจากนั้นก็ผ่านมาอีกครึ่งเดือน.

เมฆสีขาวก็สามารถข้ามผ่านทะเลได้ในที่สุด พวกเขาเดินทางมาถึงทวีปศักดิ์สิทธิ์แล้ว.

จงซานที่ยืนอยู่บนเมฆสีขาว สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณ เป็นพลังวิญญาณที่มากมาย ยิ่งเขาอยู่ในระดับแกนทอง สัมผัสในพลังวิญญาณย่อมมีมากกว่าปกติ

พลังวิญญาณของทวีปแห่งนี้ เทียบกับเกาะหมาป่าสวรรค์แล้วดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าเท่าหนึ่ง แม้ว่าจะด้อยกว่าภายในสำนักไคหยาง ทว่าสำหรับผู้ฝึกตนทั่วไปแล้ว ทุกแห่งบนผืนดินแห่งนี้ย่อมสามารถช่วยเพิ่มพลังฝึกตนได้มากกว่าราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้งของเขามาก.

ทวีปศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่เต็มไปด้วยคนที่โดดเด่น ด้วยพลังวิญญาณที่หนาแน่น แน่นอนว่าที่แห่งนี้ย่อมมียอดฝีมือมากมาย.

จงซานที่จ้องมอง พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยภูเขามากมายนับไม่ถ้วน มีภูเขาที่สูงเด่นนับไม่ถ้วน หากกล่าวแล้วล่ะก็ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหน้าผาที่สูงชัน หากไม่สามารถบินได้ล่ะก็ คงยากที่จะเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ได้ตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้.

พวกเขาที่เห็นเงาคนอยู่เป็นระยะ ทว่าอาวุโสทั้งสามก็ไม่ได้คิดที่จะหยุด ยังคงมุ่งตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ.

ห้าวันถัดมา.

"อีกไม่นานพวกเราก็จะเข้าสู่แนวเขาซือซวินแล้ว."สุ่ยอู๋เหินกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.

"เทือกเขาซือซวินอย่างงั้นรึ?"หนานป้าเทียนที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

"อืม เทือกเขาซือซวินนั้น เป็นพรมแดนระหว่างอาณาจักรทั้งสอง ระหว่างราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีและราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว ที่แห่งนี้มีกองกำลังของราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีปรากฏขึ้นมาบ่อย ๆ  ดังนั้นอาจจะกล่าวได้ว่า ค่อนข้างอันตรายทีเดียว โดยเฉพาะการบินอยู่พื้นที่แห่งนี้ต้องระมัดระวัง หากไม่ระวังล่ะก็ อาจจะพบเข้ากับอันตราย ต้องไม่ลืมว่าหากมีพลังฝึกตนไม่พอไม่ควรผ่านเส้นทางนี้."สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาเบา ๆ .

"ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี?ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว? ทั้งสองอาณาจักรทำสงครามกันเป็นประจำอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

"เป็นเรื่องปรกติ ทั้งสองอาณาจักรมีพรมแดนติดกัน ย่อมมีการแข่งขันกันและกัน? เพื่อที่จะแย่งชิงพื้นที่กัน? ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว เป็นหนึ่งในอาณาจักรยักษ์ใหญ่ที่เป็นหนึ่งในสามราชวงศ์วาสนาที่แข็งแกร่งที่สุด แน่นอนว่าอาณาจักรอื่น ๆ ย่อมมีความอิจฉาในราชวงศ์วาสนา ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวไม่เพียงแค่มีความแข็งแกร่งเท่านั้น ยังสามารถดูดซับพลังฟ้าดินได้มากกว่าด้วย ทว่าสงครามก็เกิดขึ้นแทบจะทุกแห่งเป็นประจำ ไม่มีสถานที่แห่งใหนสงบสุข ต้องไม่ลืมว่า ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนั้นมีขนาดใหญ่มาก."สุ่ยอู๋เหินที่ตอบ.

"ปล่อยลูกศร!"

ขณะที่สุ่ยอู๋เหินอธิบายเรื่องต่าง ๆ อยู่ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังคำรามลั่นจากที่ไกลออกไป.

แทบจะในทันที ประกายแสงสีแดงที่พุ่งตรงมา.

ศรปราณทะลวง เป็นศรปราณทะลวงนั่นเอง ประกายแสงสีแดงที่พุ่งมาด้วยความเร็ว จงซานรู้ดี เป็นศรปราณทะลวงที่น่าเกรงขามมาก ก่อนหน้านี้ เขาและเป่ยชิงซือเกือบเอาตัวไม่รอด นอกจากนี้ คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะถูกปล่อยออกมานับพัน ยิงตรงมายังเมฆสีขาวที่พวกเขายืนอยู่.

ศรปราณทะลวงที่พุ่งตรงมาด้วยความเร็วสูง แทบจะทันที ศรปราณทะลวงกว่าพันลูกก็มาอยู่ด้านหน้าเมฆสีขาวแล้ว.

ศรปราณทะลวง แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณ หากไม่มีอาวุธวิเศษที่ร้ายกาจ เกรงว่าคงจะถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ เช่นกัน.

แม้ว่าจะมั่นใจในฝีมือของอาวุโสทั้งสามก็ตาม จงซานก็ยังชักดาบยักษ์ของตัวเองออกมา แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก แต่ดูเหมือนว่าการกระทำของเขา มันจะเป็นไปตามสัญชาตญาณ ด้วยนิสัยของเขา ไม่ชอบรอคอยความตาย ที่ไม่ได้อยู่ในมือของตัวเอง ถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะแข็งแกร่งกว่าก็ตาม อย่างน้อยก็ได้ขึ้นชื่อว่าได้พยายามปกป้องตัวเองเต็มทีแล้ว.

"ตูมมม ตูมมม ตูมมม ตูมมม ตูมมมม!!"

ประกายแสงสว่างจ้า หลังจากที่ได้ยินเสียงดังสนั่น ศรปราณทะลวงก็ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นร่วงหล่นลงบนหุบเขา.

ทว่าหลังจากนั้นอาวุโสชายคนหนึ่ง ได้ชักกระบี่ออกมาลอยออกไปกลางอากาศในทันที ใบหน้าที่เย็นเยือบจ้องมองไปยังตำแหน่งที่ลูกศรถูกปล่อยออกมา ก่อนที่ปราณกระบี่มากมายจะถูกปล่อยออกไป ปรากฏเป็นเหมือนกับหิมะที่ร่วงหล่นซัดสาดลงไปด้านล่าง.

ปราณกระบี่มากมายที่พุ่งตรงลงไปราวกับพายุยังพื้นที่รอบ ๆ  แทบจะในทันทีหลังจากที่อาวุโสชายได้ปล่อยปราณกระบี่ออกไป.

พื้นที่ไกลออกไปนั้น จงซานสามารถมองเห็นได้ เหนือขึ้นไปบนภูเขา มีกองกำลังทหารที่มีอยู่ราว ๆ  5,000 คน รวมทั้งทหารก่อนหน้านี้ราว ๆ พันคนที่ได้ปล่อยธนูออกมา ในเวลาเดียวกัน ที่บนหุบเขาแห่งนั้น มีกระโจมมากมาย ดูเหมือนว่าจะเป็นฐานของทหารประจำการอยู่ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังฝึกฝนทหารอยู่นั่นเอง กลิ่นอายที่เหล่าทหารปล่อยออกมานั้น ทำให้จงซานต้องหายใจลึกทีเดียว พลังฝึกตนต่ำสุดนั้นมีระดับหกเซียนเทียน และทักษะของพวกเขาเองก็ไม่ได้อ่อนด้อยเลย ปราณกระบี่?ปราณดาบ เหล่าทหารทั่วไปสามารถปล่อยปราณกระบี่ได้? เรื่องนี้ หากว่าออกไปต่อสู้ในสนามรบจะเป็นอย่างไร?

จงซานรู้ดีว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุที่พวกเขาผ่านเข้ามาในค่ายพักทหาร ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้เหล่าทหารคุ้มกันปล่อยลูกศรออกมา หนำซ้ำ ลูกศรเหล่านั้นยังเป็นศรปราณทะลวง ที่มีมากกว่าหนึ่งพัน.

จงซานที่ยืนนิ่งไม่ขยับ ยังรอคอยปฏิกิริยาของอาวุโสทั้งสามอยู่.

อย่างไรก็ตามท่าทางของอาวุโสจื่อซวิน ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทุกข์ร้อนตื่นตกใจแต่อย่างใด.

อาวุโสชายที่ยืนอยู่บนอากาศ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ทั้งหมด.

ที่ไกลออกไป ศรปราณทะลวงของพวกเขาไม่มีผลเลยแม้แต่น้อย ผู้นำทัพทหารรับรู้ได้ในทันทีว่าเหตุการณ์ค่อนข้างตรึงเครียด พวกเขาไม่คิดที่จะปล่อยศรปราณทะลวงระลอกสองออกมา ทว่าได้แจ้งข่าวเข้าไปภายในหุบเขาอย่างรวดเร็ว.

เป็นความจริง ที่ไกลออกไปนั้น ลึกเขาไปในหุบเขามีชายคนหนึ่งที่ถือดาบยักษ์ลอยออกมาจากภายในหุบเขา.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด