ตอนที่แล้วChapter 151 ทะลวงระดับในโพรงวิญญาณ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 153 สิบปีพบอีกครั้ง.

Chapter 152 จื่อซวินปรากฏตัว.


สิบวันหลังจากนั้น หงหนิวที่ตื่นขึ้นมา ท้ายที่สุดเขาก็สามารถทะลวงผ่านระดับได้ ระดับแกนทอง หงหนิวที่รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขาสามารถเชื่อมจุดชีพจนทั้งหมดได้แล้ว สามารถสร้างมันเป็นแกนทองผสมกันได้แล้ว เขาในเวลานี้ที่ต้องการที่จะเงยหน้าตะโกนออกไปบนท้องฟ้า.

ระดับแกนทอง ดูเหมือนว่ามันช่างง่ายดาย ขณะที่เขาลืมตาขึ้นมา พร้อมกับเตรียมตัวร้องออกมาเสียงดัง หงหนิวต้องหุบปากไปในทันที เพราะว่าเขาเห็นเรื่องที่เต็มไปด้วยความงงงวยสงสัย.

จงซานในเวลานี้ หงหนิวต้องเบิกตากว้าง เมื่อจงซานนำเม็ดยาออกมาอีกครั้ง ก่อนที่จะกินลงไปอีกครั้ง ดูไม่เร่งรีบราวกับว่าเขาอยู่ในสถานที่แห่งนี้คนเดียว.

เพียงแค่เม็ดเดียวหงหนิวก็สามารถทะลวงผ่านระดับได้ ทว่าจงซานตอนนี้เขาได้ใช้เม็ดยายกระดับไปเท่าไหร่แล้วกัน นอกจากนี้ด้วยพรสวรรค์ทางร่างกายที่ย่ำแย่ กี่วันมาแล้ว จำนวนเท่าไหร่แล้วเม็ดยาเพิ่มระดับที่เขากินลงไป? เม็ดยาจำนวนนี้ จะสามารถสร้างผู้ฝึกตนระดับแกนทองได้มากขนาดใหนกัน?คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีเม็ดยามากมายขนาดนี้ ด้วยพรสวรรค์ทางร่างกายของเขา ไม่คิดเลยว่าจะย่ำแย่ขนาดนี้?

ภายในใจของจงซานรู้สึกห่อเหี่ยวไม่น้อย เม็ดยายกระดับที่เขากินไป ทว่าด้วยพรสวรรค์ทางร่างกายของเขาที่ย่ำแย่ ราวกับว่ามันจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันเม็ดยายกระดับอย่างคาดไม่ถึง จากเม็ดแรกจนถึงตอนนี้ มันให้ผลแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยิ่งใช้ก็ยิ่งมีผลอ่อนลงเท่านั้น จุดชีพจนทั่วร่างตอนนี้เกือบจะเชื่อมกัน ทว่ามันก็ยังแค่เกือบที่จะผสานรวมกันอยู่เท่านั้น

แกนแท้สีแดงเข้ม ตอนนี้จุดชีพจรต่าง ๆ เคลื่อนที่เข้าใกล้กันแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการบังคับให้แกนแท้จากจุดชีพจรทั้ง 360 จุด บังคับให้แกนแท้ทั้งหมดยกระดับพลังให้สูงหลอมรวมเชื่อมต่อกันให้เป็นหนึ่ง.

หลุมลึกที่ใจกลาง จุดศูนย์กลางที่ตอนนี้กำลังตกผลึกแกนทอง จุดชีพจรทั้งหมดกำลังตกผลึกพลัง พร้อมกับสร้างปราสาทหยางบริสุทธิ์ขึ้นที่ใจกลางหลุม.

ปราณหยางบริสุทธิ์ สีม่วง ตอนนี้มันกำลังก่อร่างสร้างตัวเองขึ้นมาที่กลางหลุม เป็นแกนที่มีสีม่วง.

ปราสาทหยางบริสุทธิ์สีม่วง ที่เป็นฐานของพลังเหนือธรรมชาติ หลังจากที่ก้าวไปถึงระดับแกนทอง จะสามารถใช้วิชาลับ ด้วยการปลดปล่อยพลังจากปราสาทหยางบริสุทธิ์นี้ได้.

ระดับแกนทอง คือการสร้างแกนหยางบริสุทธิ์ขึ้น จงซานในเวลานี้กำลังบีบบังคับแกนแท้ อัดแน่นบังคับจุดชีพจรทั้งหมดอย่างเต็มกำลัง แกนแท้ทั้ง 360 จุดชีพจรกำลังถูกบีบเค้นเพื่อสร้างแกนหยางบริสุทธิ์ขึ้นมา.

ทว่ายิ่งผ่านไปก็ยิ่งทำได้น้อยขึ้นเรื่อย ๆ .

ด้วยเม็ดยายกระดับมากมายที่กินเข้าไป จงซานเวลานี้ดูเหมือนว่าจะหมดความอดทนแล้ว เอาล่ะ เม็ดยายกระดับคงไม่สามารถใช้การได้อีกแล้ว.

ด้วยการสะบัดมือหนึ่งครั้ง ขวดยาเล็ก ๆ สีม่วงอ่อนก็ปรากฏขึ้นมา.

ไม่ไกลออกไป หงหนิวดวงตาที่เบิกกว้าง เพราะว่าเขาเห็นจงซานนำขวดยาขนาดเล็กออกมาอีกครั้ง ทว่าคาดไม่ถึงว่าคราวนี้ไม่ใช่เม็ดยายกระดับแล้ว.

แม้ว่าจะอยู่ไกลออกมา ทว่าหงหนิวสามารถสัมผัสได้ว่าเม็ดยานี้อัดแน่นไปด้วยพลังจิตวิญญาณ เพียงแค่กลิ่นอายของมันยังสามารถผลักดังพลังวิญญาณในโพรงแห่งนี้ให้ซัดกลิ้งออกไปได้เลย.

นี่มัน เม็ดยาอะไรกัน?

หงหนิวที่ดวงตาเบิกกว้างชำเลืองมอง ทว่าเม็ดยาดังกล่าวถูกกลืนลงไปในท้องของจงซานไปแล้ว.

เม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์ ท้ายที่สุดจงซานก็ไม่สามารถรอคอยอีกต่อไป เขาที่คิดจะใช้เพื่อจะก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณ ทว่าเวลานี้หากไม่สามารถก้าวไปถึงระดับแกนทองได้ ยังจะคิดถึงระดับก่อตั้งวิญญาณได้อย่างไร?

เม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์ ตอนนี้มันได้ปลดปล่อยพลังงานที่ไม่ธรรมดาออกมา แทบจะในทันที แกนแท้ในร่างกายของเขาก็ดูอ่อนโยนนุ่มนวลไปในทันที ปราสาทหยางบริสุทธิ์เวลานี้กำลังถูกอัดหนาขึ้นและก็หนาขึ้นอย่างรวดเร็ว.

พลังหยางบริสุทธิ์ที่รวมตัวกัน ท้ายที่สุด แกนแท้จากจุดชีพจรทั้งหมดก็เริ่มหลอม จงซานที่สร้างขนาดปราสาทหยางบริสุทธิ์ไม่หยุดหย่อน ไม่ติดขัดอีกแล้ว แกนแท้เวลานี้กำลังหลอมรวมกัน พลังวิญญาณมากมายที่ถูกดูดซับเข้ามาในร่างกาย ตอนนี้มันสะสมช่วยสร้างปราสาทหยาง ปราสาทหยางเวลานี้ดูเหมือนว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มันกำลังขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ  ตอนนี้มันเริ่มอิ่มตัวโชกไปด้วยแกนแท้แล้ว จากนั้นปราณหยางบริสุทธิ์ ก็ถูกส่งกลับคืนไปยังจุดชีพจรต่าง ๆ อีกครั้ง คาดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้มันเริ่มเปลี่ยนแกนแท้ในจุดชีพจรไปอย่างรวดเร็ว.

ปราสาทหยางสีม่วง ตอนนี้แกนแท้ภายในจุดชีพจรทั้ง 360 กำลังหมุนวนราวกับหลุมน้ำวน แกนแท้ทั้งหมดกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มันกำลังถูกบีบอัด ด้วยปราณหยางบริสุทธิ์ พร้อมกับสร้างปราสาทหยางบริสุทธิ์ ปราณหยางบริสุทธิ์ที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ  พลังของมันเพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน.

พลังงานที่กำลังสะสมเพียงพอแล้ว จงซานที่อัดแน่นพลังหยางบริสุทธิ์ รวมตัวบีบอัดครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งการบีบอัดนี้เมื่อก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณปราณหยางบริสุทธิ์ก็จะถูกบีบอัดอีกครั้งในภายหลัง.

ระดับแกนทองนั้นคือสามารถเชื่อมต่อจุดชีพจรทั้งหมดเข้าด้วยกัน เมื่อสามารถเคลื่อนพลังวิญญาณโคจรผ่านจุดชีพจรทั้งหมดได้อย่างไม่ติดขัด นั่นก็หมายความว่าทะลวงผ่านขั้นแกนทองได้ จุดชีพจรที่เป็นศูนย์รวมพลังฟ้าดิน จุดที่สามารถดูดซับพลังฟ้าดิน ทว่าตอนนี้จงซานก็เหมือนกับคนที่ขาดสารอาหารไม่สามารถที่จะดูดซับพลังฟ้าดินจากจุดชีพจรเหล่านี้ได้เพียงพอ.

"ครืนนนน"

จงซานที่ทะลวงผ่านระดับ พร้อมกับคำรามออกมาเสียงดัง ขณะที่จงซานคำรามออกมาเสียงดังนั้น ปราณหยางบริสุทธิ์ที่ได้สะสมอัดกันแน่น จนทำให้โพรงวิญญาณสั่นสะเทือนไปเลยทีเดียว.

ผ่านไปสิบลมหายใจ หลังจากที่จงซานคำรามออกมาทุกอย่างก็หยุด ภายในใจของเขาเวลานี้เต็มไปด้วยความพึงพอใจ ระดับแกนทอง แม้ท้ายที่สุดเขาจำเป็นต้องใช้เม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์ก็ตามที ทว่ามันก็คุ้มค่าแล้ว หากว่าสามารถทำให้ก้าวตรงไปสู่ความเป็นอมตะได้ ด้วยการใช้เม็ดยา ไม่ว่าอย่างไรก็ถือว่าคุ้มค่า.

จงซานที่รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที ส่วนหงหนิวที่อยู่ด้านข้างนั้นรู้สึกเหมือนว่าความสุขของเขาได้หายไป เม็ดยายกระดับหลายร้อยเม็ดแต่ก็ไม่สามารถทะลวงผ่านระดับ แต่เม็ดยาสุดท้ายที่เขานำมันออกมาเพียงแค่ครึ่งวัน ก็สามารถทะลวงผ่านระดับได้อย่างงั้นรึ?นี่มัน เม็ดยาอะไรกัน?

ดวงตาของหงหนิวที่เบิกกว้างเผยสีหน้าแววตาที่ไม่อยากเชื่อ ทว่าจงซานตอนนี้เพิ่งเห็นสายตาของหงหนิวที่เพิ่งจ้องมองมา คิดว่าเสียงของเขานั้นรบกวนการบำเพ็ญของเขา จึงพยักหน้าขออภัยเรื่องที่เกิดขึ้น.

ทว่าที่จริงแล้วหงหนิวตื่นตะลึงกับภาพที่เห็นมากกว่า ก่อนที่จะพยักหน้าให้จงซาน.

หลังจากที่ขออภัยฝ่ายตรงข้ามแล้ว จงซานก็ไม่สนใจหงหนิวอีกต่อไป ทว่าตอนนี้เริ่มฝึกฝนวิชาที่เทียนซวินจื่อได้มอบและเตรียมมาให้กับเขาแล้ว"วิชาเพลิงสวรรค์พันธนาการอสนี" สองเดือนหลังจากนั้น พลังวิญญาณที่ชื้นอาบไปทั่วบริเวณ ซึ่งเหมาะที่จะยกระดับเป็นอย่างมาก.

จงซานยังคงหลับตา บำเพ็ญเพียรต่อไป.

วิชาเพลิงสวรรค์พันธนาการอสนี นับว่าเป็นวิชาที่ร้ายกาจมาก มีด้วยกันทั้งหมดสิบขั้น หลังจากสามารถฝึกฝนได้ทั้งสิบขั้น ก็จะสามารถก้าวไปยังดินแดนก่อตั้งวิญญาณได้ ทว่าก็นับว่าเป็นหนึ่งในวิชาที่ฝึกฝนได้ยากด้วยเช่นกัน การจะฝึกฝนวิชานี้แกนแท้จะต้องมีคุณสมบัติทางสายฟ้าถึงจะเหมาะสมที่จะฝึก วิชาเพลิงสวรรค์พันธนาการอสนีนี้นับว่าเป็นหนึ่งในเวลาที่น่าเกรงขามในพันปีที่ไม่มีใครฝึก ทว่าเทียนซวินจื่อนั้นไม่ใช่ว่าไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ ทว่าด้วยพรสวรรค์ทางร่างกายของจงซาน ก่อนหน้านี้หลังจากที่กลับมาจากหุบเขาแมงป่องอสนี แกนแท้ของจงซานนั้นมีสายฟ้าที่แฝงเอาไว้อยู่ นี่จึงเป็นเหตุให้วิชานี้เหมาะสมกับเขาที่สุด.

อย่างไรก็ตามเมื่อจงซานเริ่มฝึกฝนวิชานี้แล้ว ดูเหมือนจงซานจะรับรู้ได้ถึงเหตุการณ์พิเศษที่ผิดปรกติ.

เม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์นั้น ไม่เพียงแต่ทำให้เขาทะลวงผ่านไปยังดินแดนแกนทอง ทว่าหลังจากนั้น จงซานก็พบว่าเม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์นั้นยังมีฤทธิ์มากกว่านั้น.

วิชากายาเทพอสูรที่ยากที่จะก้าวข้ามในแต่ระดับ ทันใดนั้นก็ทะลวงผ่านไปยังระดับสามได้.

ระดับสาม ก้าวไปยังระดับสามแล้ว เวลานี้สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งสี่เท่าภายในเวลาสองชั่วโมง  คิดแค่นี้ก็ทำให้จงซานรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.

อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแค่นั้น ที่หน้าผากของเขา เพลิงหงหลวนที่ดูเหมือนว่าจะเริ่มตกผลึก ไม่  น่าจะเรียกว่ามันได้ลุกไหม้เปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นดอกบัวตูม.

เคล็ดวิชาหงหลวนเทียน ระดับสี่อย่างงั้นรึ?

เคล็ดวิชาหงหลวนเทียน หลายต่อหลายครั้ง เมื่อเขาอยู่ในสภาวะวิกฤติสามารถช่วยเขาได้หลายครั้ง นับว่าเป็นวิชาที่ล้ำค่าเป็นอย่างมาก นานมาแล้วที่ไม่มีวี่แววว่าจะทะลวงผ่านระดับ ท้ายที่สุดเมื่อใช้เม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์ ก็ทำให้มันเลื่อนระดับไปยังระดับสี่ในทันที เช่นนั้น เขาที่สามารถปล่อยหมอกหงหลวนได้เป็นจำนวนมากขนาดไหน?  ไม่ใช่ว่าเขาสามารถใช้มันในการรักษาได้ด้วยอย่างงั้นรึ? ว่าแต่จะสามารถรักษาได้ดีขนาดใหน?

แน่นอนว่าจงซานรู้ดีว่า เคล็ดวิชาหงหลวนเทียนนั้นไม่ธรรมดา ไม่เพียงแต่ใช้รักษาได้ ทว่าในขั้นสุดท้ายนั้น จะเป็นวิชาที่ร้ายกาจเป็นอย่างมาก.

ผ่านมาหนึ่งปีแล้วที่เสวียนซวินจื่อปิดโพรงวิญญาณ ตอนนี้ถึงเวลาเปิดผนึกแล้ว.

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้สำนักไคหยางดูจะคึกคักเป็นอย่างมาก นับว่าในวันนี้อึกทึกกว่าปรกติ สำนักไคหยางในวันนี้ มีผู้ฝึกตนมากมายที่เดินทางกลับมา ผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณกว่า 20 คน ระดับแกนทองกว่า 500 คน ซึ่งศิษย์ของสำนักไคหยางส่วนมากนั้นถูกผู้พิทักษ์สำนักเรียกตัวกลับมาจากทวีปศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง.

ด้วยประมุขสำนักไคหยางที่ตายไป ซึ่งจำเป็นต้องมีการแต่งตั้งประมุขคนใหม่ วันนี้จึงเป็นวันสำคัญ ถึงแม้ว่าทุกคนจะยุ่ง ก็จำเป็นต้องกลับมา.

สำนักไคหยางในวันนี้ดูยิ่งใหญ่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.

บนยอดเขายอดเขาไคหยาง มีศิษย์ของสำนักไคหยางกว่าห้าร้อยคนที่กำลังยืนอยู่ด้วยความเคารพ แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณ ที่ยืนอยู่ด้านหน้า ซึ่งด้านข้างของยอดเขาไคหยางนั้น.

มีผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาและผู้พิทักษ์สำนัก คนหนึ่งยืนอยู่ด้านซ้าย คนหนึ่งยืนอยู่ด้านขวา สายตาของทุกคนไม่สามารถที่จะละเลยได้เลย ด้วยความน่าเกรงขามของผู้พิทักษ์ผู้คุมกฎ ทำให้ทุกคนต่างก็เงียบนิ่งงันไม่มีใครส่งเสียง.

ที่ใจกลางห้องนั้น มีคนที่ไม่คุ้นตาอยู่สามคน สองชายหนึ่งหญิง.

คนทั้งสามนี้เป็นอาวุโสของศาลาเจ็ดดาวที่ผู้พิทักษ์สำนักไคหยางเชิญมานั่นเอง อาวุโสทั้งสามที่ยืนอยู่ด้านหน้า ทุกคนต่างก็แสดงความเคารพต่อเสวียนซวินจื่อ.

วันนี้เป็นวันแต่งตั้งประมุขสำนักคนใหม่เสวียนซวินจื่ออย่างเป็นทางการนั่นเอง.

ซึ่งต้องมีอาวุโสสามคน และเหล่าศิษย์ของสำนักไคหยางร่วมเป็นพยานในครั้งนี้.

อาวุโสทั้งสาม อยู่ในชุมคลุมสีม่วง ชายสองคนที่มีมงกุฎหยกบนศีรษะ หน้าตาหล่อเหลา เพียงแค่ยืนอยู่ก็เต็มไปด้วยความสง่างามน่าเกรงขามอย่างไร้เหตุผล.

ส่วนอาวุโสหญิงนั้น เส้นผมที่พริ้วไหวนุ่มนวล ใบหน้าที่ดูประณีตงดงามแต่เย็นชาไม่ได้ด้อยไปกว่าเป่ยชิงซือเลย นางที่อยู่ในชุดสีม่วงพริ้วไหวตามสายลม รูปร่างที่ดูโค้งเว้าน่าดึงดูด ราวกับว่าได้รวมความงดงามในปฐพีมาไว้ที่ตรงนี้แล้ว.

ความงามที่น่าหลงไหล ทุกสายตาต่างก็ชำเลืองมายังอาวุโสหญิงผู้นี้ รองเท้าสีขาวล้วน ดูราวกับว่ายืนอยู่บนพื้นด้วยเท้าเปล่า ทว่าพื้นดินที่อยู่ใต้เท้าที่นางยืนนั้นกับดูสะอาดไร้ซึ่งฝุ่นผงกล้ำกลายได้ ดูโดดเด่นทุกก้าวเปล่งประกายทุกตำแหน่งที่นางก้าวผ่าน.

หากว่าจงซานอยู่ที่นี่ เขาย่อมจดจำได้ในทันที สิบปีที่แล้ว หลังจากจบงานประลองประตูมังกร ความรักชั่วข้ามคืน เทพธิดาจื่อซวิน นางคืออาวุโสของสำนักไคหยาง เทพธิดาจื่อซวินนั่นเอง.

และอาวุโสชายอีกสองคน ที่ยืนอยู่ด้านหน้าเสวียนซวินจื่อ ในมือของเสวียนซวินจื่อมีกระบวยอันหนึ่งซึ่งได้รับมาจากเทียนซวินจื่อนั่นเอง นี่คือสัญลักษณ์ของประมุขสำนักไคหยาง กระบวยสงครามสำนักไคหยางนั่นเอง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด