ตอนที่แล้วChapter 149 เม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 151 ทะลวงระดับในโพรงวิญญาณ.

Chapter 150 ความทะเยอทะยานของหงหนิว.


เม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์!

หลายวันมานี้ จงซานได้ความรู้หลายอย่างมาจากเป่าเอ๋อ สำนักไท่ตานตอนนี้มีเม็ดยาที่ยอดเยี่ยมที่สุด ด้วยการสะสมพลังฟ้าดินจากเตาจักรวาล ประมุขรุ่นที่ 4 ของสำนักไท่ตานเป็นผู้คิดค้น เม็ดยาเทวะระดับแปด มีสรรพคุณที่ลึกลับ สามารถแก้พิษได้นับหมื่นชนิด กำจัดพลังความมืดได้อย่างหมดจด สามารถรักษาบาดแผลได้ทุกชนิด ช่วยเพิ่มแกนแท้ แน่นอน นี่ไม่ใช่เรื่องยอดเยี่ยมที่สุด สิ่งที่สุดยอดก็คือสามารถช่วยทะลวงพลังฝึกตนได้ มีสรรพคุณสูงกว่าเม็ดยายกระดับหลายเท่า ขอเพียงแค่อยู่ในระดับสูงสุดของพลังฝึกตน จะสามารถทะลวงผ่านระดับได้อย่างรวดเร็ว.

ขอเพียงแค่มีระดับพลังฝึกตนตั้งแต่ระดับหลอมกายธาตุลงมา.

เป็นเม็ดยาที่มีสภาพนุ่มนวล ระดับเซียนเทียน ระดับแกนทอง ระดับก่อตั้งวิญญาณและระดับหลอมกายธาตุ ตราบเท่าอยู่ในระดับขั้นปลาย สามารถช่วยทะลวงผ่านระดับได้ ไม่ใช่มีโอกาสส่วนมาก แต่สามารถทะลวงผ่านได้อย่างแน่นอน.

อาวุโสทั้งสามนั้นอยู่ในระดับหลอมกายธาตุขั้นปลาย เพราะว่าสำนักไท่ตานนั้นค่อนข้างพิเศษ พลังฝึกตนของทุกคนนั้นจึงต้องขึ้นอยู่กับตัวตนของประมุข ดังนั้นจนถึงตอนนี้ อาวุโสทั้งสามจึงยังอยู่ในระดับหลอมกายธาตุขั้นปลาย ไม่มีวี่แววว่าจะพัฒนาไปได้เลย.

เหนือกว่าระดับก่อตั้งวิญญาณก็คือระดับหลอมกายธาตุ ระดับก่อตั้งวิญญาณมีอายุขัย 800 ปี ระดับหลอมกายธาตุมีอายุขัย 1600 ปี อาวุโสทั้งสามจนถึงตอนนี้ก็มีอายุมากกว่า 1000 ปีแล้ว หากว่าไม่สามารถทะลวงผ่านพลังฝึกตนไปได้แล้วล่ะก็ พวกเขาก็จะเริ่มเข้าสู่สัญญาณเตือนทั้งห้า ผมหงอกผิวเหี่ยวย่น.

ภายในเตาจักรวาลนั้น มีเม็ดยาเทวะต้นกำเนิดทั้งสิ้นแปดเม็ด ประมุขคนก่อนได้ใช้ไปแล้วสอง และเมื่อไม่นานมานี้หนึ่งเม็ดถูกใช้ไปโดยหยิงอู่เซี่ย ทว่าตอนนี้ยังเหลืออีกห้า ซึ่งเป็นของเป่าเอ๋อทั้งหมด.

อาวุโสทั้งสามที่จ้องมองไปยังเป่าเอ๋อ ดวงตาเปล่งประกายดูลังเล เม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์?นับตั้งแต่อดีตถูกกำหนดให้เป็นของประมุข.จะมอบให้พวกเขาจริง ๆ รึ?

"อาวุโสทั้งสาม คิดว่าอย่างไร?ราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้งไม่ช้าก็เร็วย่อมสามารถกลายเป็นราชวงศ์จักรพรรดิ และราชวงศ์ราชันย์ หรือแม้แต่ราชวงศ์สวรรค์ได้ในที่สุด เพียงแค่อาวุโสทั้งสามต้องร่วมด้วยช่วยกันเพียงเท่านั้น."เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

จงซานที่อยู่ใกล้ ๆ เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย เกี่ยวกับเม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์นั้น จงซานเองก็สนใจ ไม่ว่าจะเป็นสมบัติวิเศษใดก็ตามหากสามารถแลกเปลี่ยนอายุขัยได้ล่ะก็ ทว่าหากสำหรับเม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์ หากว่าสามารถแลกเปลี่ยนกับอาวุโสทั้งสามของสำนักไท่ตานได้ เช่นนั้นบอกได้คำเดียวว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม.

อาวุโสทุกคนที่ชำเลืองมองไปยังเป่าเอ๋อ ตอนนี้กำลังครุ่นคิดอย่างหนักเลยทีเดียว.

"ตกลง!"อาวุโสเหย้ายวีเป็นคนแรกที่กล่าวตอบรับ.

ตกลง! เป็นคำที่เขาต้องการได้ยินที่สุด ถึงกับทำให้จงซานหัวใจเต้นระทึกเลยทีเดียว.

ภายในใจของจงซานนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ทว่าสีหน้า ยังคงสุขุมอยู่.

"ดี อาวุโสทั้งสาม เม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์ ข้าจะมอบให้พวกท่าน นับจากนี้ไปสำนักไท่ตานจะเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้ง อาวุโสทั้งสามจะเป็นผู้พิทักษ์ของที่นี่ อาวุโสสองคนเริ่มทะลวงผ่านระดับทันที ส่วนอีกคนรับผิดชอบในการคุ้มกัน."เป่าเอ๋อที่จัดแจงในทันที.

"ได้."อาวุโสทั้งสามพยักหน้า.

"พวกท่านตามข้ามา."เป่าเอ๋อกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

เป่าเอ๋อที่เดินนำหน้า อาวุโสทั้งสามที่เดินตาม เปิดประตูตรงไปยังลานจัตุรัส ซึ่งในเวลานี้มีเหล่าศิษย์ของสำนักไท่ตานยี่สิบคนรอคอยอยู่ แต่ละคนต่างก็จ้องมองมายังเป่าเอ๋อและอาวุโสทั้งสามด้วยความเคารพ ไม่มีใครคิดว่าสำนักไท่ตานในเวลานี้จะถูกขายแม้แต่อาวุโสทั้งสามก็ยังเห็นด้วย.

ที่อีกฝั่งนั้นมีเหว่ยไท่จงและคนอื่น ๆ ยืนรอคอยอยู่เช่นกัน.

ที่ด้านหน้าเตาจักรวาลนั้น มีทางเข้าแปดเส้น เป่าเอ๋อที่เลือกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งเป็นทางเข้า ด้วยการใช้วิชาลับในการผนึก จึงมีทางที่ถูกต้องทางเดียวเท่านั้น.

"ครืน ๆ  ๆ  ๆ ."

เตาจักรวาลที่สั่นเล็กน้อย พลังวิญญาณที่เอ่อล้นออกมารอบ ๆ ในทันที อาวุโสทั้งสามต่างก็กำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้น มีเพียงแค่ประมุขสำนักเท่านั้น ถึงจะมีความสามารถที่จะเปิดเส้นทางเข้าไปในเตาจักรวาลแห่งนี้ได้ คนทั่วไปยากที่จะสามารถทะลวงเข้าไปเพื่อให้ได้เม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์ได้ ไม่เช่นนั้นอาวุโสคงจะใช้กำลังเอามันออกมาแล้ว แน่นอนอาวุโสทั้งสามเองก็แอบสงสัยในตัวของหยิงอู๋เซี่ยเช่นกัน ทว่าตอนนี้หยิงอู่เซี่ยตายแล้ว จึงไม่สามารถที่จะสืบสวนได้.

พลังวิญญาณที่แผ่ออกมารอบ ๆ เตา จากนั้นก็ค่อย ๆ รวมตัวกันขึ้นเป็นดวงตามังกร ที่ด้านในนั้นมีประกายแสงสีทอง มีหมอกควันสีทองที่หมุนวน เป็นภาพที่ดูน่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก.

"อาวุโสเหย้ายวี."เป่าเอ๋อเรียก.

"อืม."อาวุโสเหย้ายวีที่รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะรับขวดหยกมา ซึ่งด้านในนั้นมีเม็ดาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์อยู่.

เหย้าเฉินและเหย้าลู่จ้องมองอาวุโสเหย้ายวี แววตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา แต่ก็ต้องเก็บสีหน้าเอาไว้ อาวุโสทั้งสองที่จ้องมองไปยังเป่าเอ๋อ.

เห็นท่าทางของอาวุโสทั้งสามแล้วเป่าเอ๋อที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล ก่อนที่จะค่อยปลดผนึก และนำเม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์ออกมาอีกสองเม็ด เหย้าเฉินและเหย้าลู่รู้สึกดีใจตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะมีอายุมากกว่าหนึ่งพันไปแล้ว ทว่าเวลาส่วนใหญ่ของพวกเขาก็ถูกใช้ไปในการศึกษาและปรุงยา เกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ นั้นพวกเขาไม่ได้ล้ำลึกมากมายนัก.

...........

สามปีหลังจากนั้น ราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้ง ห้องโถง พระราชวัง.

จงซานที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ เป่าเอ๋อที่นั่งอยู่ด้านข้าง และเหล่าอาวุโสเองก็นั่งถัดลงไปด้านล่าง.

"อาวุโสเหย้ายวี ตอนนี้ท่านคิดว่าอย่างไร?"จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.

"ด้วยกองกำลังหมาป่าที่สามารถค้นหาสมุนไพรล้ำค่ามากมายได้อย่างง่ายดาย การปรุงยาของสำนักไท่ตานเองก็มีจำนวนมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ด้วยวัตถุดิบที่มีอยู่เพียงพอ สามารถที่จะปรุงยาได้หลายชนิด นอกจากนี้สำนักไท่ตานยังเปิดรับศิษย์ได้มากกว่าเดิมด้วย."อาวุโสเหย้ายวีกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ด้วยกองกำลังหมาป่าที่สามารถเดินทางไปได้อย่างอิสระ พวกท่านสามารถปรุงยาได้อย่างเพียงพอ กองกำลังหมาป่าของพวกเราเองสามารถเสาะหาสมุนไพรที่จำเป็น อีกอย่างหนึ่งด้วยการผลิตเป็นจำนวนมาก ทำให้เม็ดยาที่สนับสนุนกองกำลังราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้งนั้นมีต้นทุนที่ถูก ทำให้สามารถผลิตยาสนับสนุนได้จำนวนไม่น้อย เป็นผลให้พลังฝึกตนของทหารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม หวังว่าเหนือหัวจะสามารถเพิ่มพลังฝึกตน ตนเองเพิ่มขึ้นได้โดยเร็ว และนำราชวงศ์ต้าเจิ้งให้น่าเกรงขามได้ในที่สุด."ใบหน้าของอาวุโสเหย้ายวีที่ดูจริงจัง.

จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างอักอ่วน พยักหน้าให้อาวุโสเหย้ายวี แม้ว่าจะผ่านมาสามปีแล้ว ทว่าอาวุโสเหย้ายวีเองดูเหมือนว่าจะยังไม่พอใจราชวงศ์ต้าเจิ้งเท่าไหร่ ต้องไม่ลืมว่าตอนนี้ยังอยู่ในช่วยบุกเบิกเริ่มต้นนั่นเอง.

เป่าเอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ เห็นจงซานที่แสดงท่าทางอักอ่วน ทันใดนั้นนางก็กล่าวออกมาว่า"เอาล่ะ อาวุโสเหย้ายวี ท่านไปดูแลเหล่าศิษย์ ๆ ต่อเถอะ ข้าและเหล่าเยว่มีเรื่องสำคัญที่ต้องพูดคุยกัน."

เห็นท่าทางของเป่าเอ๋อแล้ว อาวุโสเหย้ายวีที่ทำได้แค่ฝืนยิ้มออกมา พยักหน้าไห้ก่อนที่จะจากไป.

จงซานที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา อาวุโสทั้งสามย่อมมีความภาคภูมิใจเป็นของตัวเอง แม้ว่าการที่พวกเขาเข้าร่วมราชวงศ์กษัตริย์นั้นจะเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง และพลังฝึกตนของพวกเขาเองก็อยู่ในอาณาจักรเรือนสวรรค์แล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ในระดับที่เหนือยิ่งกว่าหวงตี้ผู้ปกครองที่อยู่ในระดับเซียนเทียนเท่านั้น แน่นอนว่าภายในใจย่อมรู้สึกตะขิดตะขวงใจ.

ในเวลานี้ เป่าเอ๋อที่เดินเคียงข้างไปกับจงซานอยู่บนถนนแห่งหนึ่ง.

"เหล่าเยว่ อย่าได้สนใจเกี่ยวกับคำพูดของอาวุโสที่รู้จักแต่วิธีหลอมยาเลย พวกเขาไม่ค่อยมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องทางโลกเท่าไหร่."เป่าเอ๋อที่กล่าวต่อจงซานด้วยเสียงที่นุ่มนวล.

"ข้าไม่ได้ใส่ใจ อีกอย่างก็เป็นเรื่องจริงไม่ใช่รึ? เจ้าก็รู้ว่าเหล่าเยว่ของเจ้าเป็นอย่างไร คิดว่าข้าใส่ใจเรื่องนี้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม ในเวลานี้ราชวงศ์กษัตริย์ วาสนายังมีน้อยเกินไป แม้ว่าพลังฝึกตนของเหล่าเยว่จะเพิ่มขึ้น ทว่าก็ยังถือว่าช้าอยู่ สามปีมานี้ท่านกินเม็ดยาไปไม่น้อย แต่เพิ่งก้าวไปถึงระดับสิบเซียนเทียนไม่กี่วันมานี้เอง."เป่าเอ๋อที่กล่าวพลางทอดถอนใจ.

"ฮ่าฮ่า สามปีข้าสามารถก้าวไปถึงระดับสิบเซียนเทียนได้ สำหรับข้านับว่าดีแล้ว ก่อนหน้านี้ เจ้าคงจะไม่รู้ เมื่อข้าอยู่ในระดับโห่วเทียน การจะก้าวข้ามไปยังแต่ละระดับนั้นต้องใช้เวลานานถึงเจ็ดปี."จงซานที่กล่าวปลอบ.

"อืม เหล่าเยว่ ท่านต้องการจะเดินทางไปยังสำนักไคหยางตอนนี้เลยรึ?"เป่าเอ๋อที่สอบถามเขา.

"ใช่แล้ว ตอนนี้ข้าอยู่ในระดับสิบเซียนเทียน สามารถเปิดจุดชีพจรทั่วร่างได้หมดแล้ว เวลานี้ถึงเวลาที่ข้าจะก้าวไปยังระดับแกนทองขั้นต้นแล้ว ที่สำนักไคหยางนั้นมีโพรงวิญญาณซึ่งมีความหนาแน่นพลังวิญญาณสูง ข้าจะต้องทำสำเร็จได้แน่."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ.

เห็นท่าทางมั่นใจของจงซานแล้ว เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่งดงาม.

"เหล่าเยว่ ตอนนี้ยังมีเม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์อยู่สองเม็ด ท่านนำไปด้วยเถอะ เพื่อความแน่นอน ต้องไม่ลืมว่าเม็ดยายกระดับนั้นไม่ได้ให้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ในการทะลวงผ่านระดับ."เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.

"สองเม็ดอย่างงั้นรึ?เจ้าไม่ได้บอกข้าว่าคน ๆ หนึ่งสามารถกินเม็ดยาเทวะต้นกำเนิดสวรรค์ได้แค่เม็ดเดียวอย่างงั้นรึ? เม็ดที่สองนั้นไม่สามารถใช้ในการทะลวงระดับได้ ใช้ได้แค่เพียงรักษาร่างกายหรือว่าขับพิษได้เท่านั้น "จงซานที่จ้องมองไปยังเป่าเอ๋อ.

"เหล่าเยว่(master)นำไปด้วยเถอะ ร่างกายของเป่าเอ๋อเป็นเช่นไรท่านก็รู้ว่าไม่สามารถใช้ได้ เหล่าเยว่นำไปเตรียมไว้ก่อนย่อมดีกว่า."เป่าเอ๋อที่กล่าวอย่างมั่นคงต่อจงซาน.

จงซานที่หยุดเดินอยู่ชั่วครู่ สายตาที่จับจ้องมองไปยังเป่าเอ๋อ สายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมากมาย ดูเหมือนว่าสวรรค์จะไม่ได้ใจร้ายกับเขาซะทีเดียว.

"เป่าเอ๋อ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว ข้าจะพักราชกิจเอาไว้ เพื่อที่จะได้อยู่กับเจ้าอย่างเต็มทีก่อนไป."

.....

ก่อนหน้านี้เก้าปี หงหนิวที่เข้าร่วมสำนักไคหยาง เขาคือคนที่มีพรสวรรค์ที่โดดเด่น ได้รับการดูแลฝึกฝนจากอาจารย์เป็นอย่างดี พลังฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงแค่สองปีก็มีระดับ 4 เซียนเทียนแล้ว ในบรรดาศิษย์รุ่นเดียวกันที่เข้ามา เขามีพัฒนาการที่เร็วที่สุด เวลานั้นเขามีจิตใจที่ฮึกเหิมเป็นอย่างมาก แต่ก็มีเรื่องที่คาดไม่ถึงในเวลานั้นเขาได้พ่ายแพ้ระดับสามเซียนเทียน พ่ายแพ้แก่คนที่มีระดับต่ำกว่าขั้นหนึ่ง.

อับอาย เป็นความอับอายอย่างแน่นอน หงหนิวที่สูญเสียความภาคภูมิใจไป ทำให้หลังจากนั้นเขาฝึกฝนหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิมสองเท่า ท้ายที่สุดหลังจากนั้นหนึ่งปี หงหนิวก็กลายเป็นคนแรกในรุ่นที่สามารถก้าวไปถึงระดับหกเซียนเทียน และสามารถสร้างแกนแท้ได้.

หลังจากที่หงหนิวสร้างแกนแท้ได้แล้ว เขาก็คิดว่าถึงเวลาที่จะชำระแค้น จงซานได้แล้ว เขาที่หาโอกาสในการท้าประลอง เพื่อทวงความอับอาย ทว่าในเวลานั้นจงซานกลับไม่รู้ว่าหายไปใหน จวบจนอีกหกเดือนต่อมา จงซานก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แต่กับกลายเป็นว่าเขาได้ท้าประลองกับระดับเก้าเซียนเทียนไปซะได้.

แส่หาความตาย แม้ว่าจงซานจะสามารถก้าวไปถึงระดับหกเซียนเทียนได้แล้ว แต่ยังมีความห่างของระดับชั้นเป็นอย่างมาก จะไปมีโอกาสชนะได้อย่างไร นี่เท่ากับว่าได้แสวงหาความอับอายมาให้ตัวเองเท่านั้น ทว่า การต่อสู้ในครั้งนั้น ได้ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงอีกครั้ง นี่คือระดับหกเซียนเทียนอย่างงั้นรึ?กับสิ่งที่หงหนิวได้เห็น ระดับหกเซียนเทียน การต่อสู้ของจงซานและหนานป้าเทียนในครั้งนั้นไม่ได้อ่อนด้อยเสียเปรียบกันมากมายนัก.

หงหนิว ถึงกับใจเสียไปเลยทีเดียว ทว่าหลังจากกลับไปเขาก็ได้เปลี่ยนความหดหู่นั่นเป็นพลังผลักดันตัวเองในทันที เขาที่ตั้งมั่นฝึกฝนให้หนักยิ่งกว่าเดิม วันแล้ววันเล่า คาดหวังว่าสักวันจะสามารถลดความเหลี่ยมล้ำระหว่างกันได้.

ท้ายที่สุด หงหนิวก็ทำสำเร็จ ทุก ๆ เจ็ดปีของสำนักไคหยางนั้นโพรงจิตวิญญาณจะมีความเข็มข้นสูงสุด หงหนิวที่ก้าวไปถึงระดับสิบเซียนเทียน โดยใช้เวลาเพียงแค่เก้าปีเท่านั้น หลังจากที่ผ่านพิธีการชำระล้าง เข้าไปบำเพ็ญในโพรงวิญญาณ เขาจะต้องทะลวงผ่านไปยังดินแดนแกนทองได้อย่างแน่นอน ในเวลานั้นจงซานยังจะเทียบเขาได้อีกรึ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด