Chapter 148 ถ่ายทอด.
ไม่จำเป็นต้องสนใจพื้นที่รอบ ๆ แม้แต่น้อย รักษาภาพพจน์เหรอ? เพ่ย! กิริยาของราชาต้องดูน่าเกรงขามตลอดเวลารึอย่างไร? งี่เง่า! ตราบเท่าที่เป่าเอ๋อกลับมา จะให้มันพังทลายไปเลยก็ได้ ไม่ว่าอย่างไรข้าเคยสนใจภาพพจน์อย่างงั้นรึ จะดีหรือไม่ดี ชื่อเสียง หรือเข้มงวด กฎทุกอย่างคือข้าจงซาน
ที่ด้านหน้าตำหนักเฉิงซ่าง เหล่าข้าราชบริพารมากมาย ต่างก็จับจ้องมองด้วยสายตาที่ว่างเปล่า นี่เกิดอะไรขึ้น? เหนือหัวที่วิ่งออกไปทำอะไรในทันทีทันใดเช่นนี้?
สำนักไท่ตานเวลานี้ต่างก็เพ่งพิศจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้น ใบหน้าของแต่ละคนที่มืดครึ้มงงงวยเช่นกัน ประมุข ศิษย์สำนักไท่ตานห้าสิบสามชีวิต ท่านประมุขกำลังทำอะไร?
หยิงหลานเองที่จ้องมองดวงตาชื้น มีความอิจฉาปนอยู่ ชิงอวิ๋นหลางเจียงที่ค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ จงซานแปลกเกินไปแล้ว แปลกมาก!
จงซานที่กระโดดเข้ากอดเป่าเอ๋อ หมุนวนรอบ ๆ ด้วยความดีใจ.
"เหล่าเยว่ เป่าเอ๋อกลับมาแล้ว."น้ำตาของเป่าเอ๋อที่ไหลออกมาเป็นสายด้วยความดีใจ.
จงซานที่หายใจเข้าลึก สัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมที่ชวนคิดถึง "กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว."
เป็นภาษาที่ง่ายที่จะเข้าใจ ทว่ากับท่าทางที่ง่าย ๆ นั้นกับแฝงไปด้วยความรักความห่วงใยที่ยิ่งใหญ่ ความรักความห่วงใจที่สามารถหลอมท้องฟ้าและผืนปฐพีให้กลายเป็นหนึ่ง.
"ท่านประมุข."เหยายวีที่ตั้งสติได้ตะโกนออกไปครั้งหนึ่ง.
หลังจากได้ยินเสียงเรียก เป่าเอ๋อก็พบว่าสถานการณ์ตอนนี้มันช่างน่าอึดอัดใจเหมือนกัน นางที่ไม่สามารถผละออกมาจากอกของจงซานได้เลย นางที่ขยับเล็กน้อยเพื่อออกมาจากอ้อมกอดของจงซาน.
ทว่าจงซานยังคงกอดเป่าเอ๋อไว้แน่น กระโดดหมุน ควงนางไปรอบ ๆ เช่นเดิม.
คนของสำนักไท่ตานตอนนี้ได้ร่อนลงพื้นแล้ว หยิงหลานที่โบกมือ ให้องค์รักษ์วังหลวงถอยออกไป.
จงซานที่ยังคงกอดนางไว้แน่น ราวกับว่าหากปล่อยนางไป เป่าเอ๋อจะหายไป นางที่ได้ถูกฝังเอาไว้ในหัวใจของเขา.
"ใคร่ขอถามท่านประมุข เตาจักรวาลอยู่ที่นี่แล้ว ศัตรูของสำนักไท่ตานคู่แค้นอยู่ที่นี่แล้ว จะให้พวกเราทำอย่างไร?"อาวุโสคนหนึ่งที่แค่นเสียงออกมา.
ได้ยินคำพูดของอาวุโส เป่าเอ๋อถึงกับขมวดคิ้ว ดวงตาที่เย็นเยือบจ้องมองไปยังอาวุโสคนดังกล่าว ศัตรูคู่อาฆาตรึ? ใครบอกเหล่าเย่วเป็นศัตรู?
จงซานที่กวาดตามอง สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว กับคนที่จ้องมองมา จงซานจึงได้ปล่อยเป่าเอ๋อและขมวดคิ้วสอบถาม "เป่าเอ๋อ เจ้าเข้าร่วมสำนักไท่ตานอย่างงั้นรึ?"
เป่าเอ๋อที่ไม่ตอบเหล่าอาวุโส ทว่ากลับหันหน้ามาตอบจงซานอย่างนุ่มนวล "อืม อาจารย์ได้ส่งมอบตำแหน่งมาให้ข้า ตอนนี้ข้าจึงเป็นประมุขสำนักไท่ตาน."
เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความนุ่มนวล กล่าวชี้นำจงซาน ถึงแม้ว่าท่านจะสังหารศิษย์สำนักไท่ตานก็ตาม แต่ข้าก็อยู่ข้างท่าน.
ใบหน้าของสามอาวุโสที่เปลี่ยนเป็นดำมืด จดจ้องด้วยความเย็นชา.
ได้ยินคำพูดของเป่าเอ๋อและใบหน้าท่าทางของคนสำนักไท่ตานแล้ว จงซานที่ขมวดคิ้ว และเริ่มเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดได้ในทันที.
"ดูเหมือนว่า ศัตรูคู่อาฆาตของสำนักไท่ตานนั้น จะไม่มีใครรู้ คนที่สังหารคนของสำนักไท่ตานนั้น ได้ถูกคนของสำนักไคหยางกำจัดไปหมดเรียบร้อยแล้ว ส่วนเตาจักรวาลนี้ ข้าไปนำมาจากที่นั่น."จงซานที่เอ่ยออกไปในทันที ซึ่งทำการอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อยกเลิกความเป็นปฏิปักษ์ของคนสำนักไท่ตาน และเพื่อทำให้สถานการณ์ความอึดอัดใจของเป่าเอ๋อดีขึ้นนั่นเอง.
ได้ยินคำพูดของจงซานเหล่าคนของสำนักไท่ตานขมวดคิ้วไปมา จ้องมองอย่างไม่พอใจกับคำพูดของจงซาน เห็นได้อย่างชัดเจนว่าห้าสิบสามชีวิต จะให้ยกเลิกกับคำพูดไม่กี่คำอย่างงั้นรึ?
"เจ้าเป็นใคร?"อาวุโสคนหนึ่งที่กล่าวอย่างเฉยเมยไปยังจงซาน.
อาวุโสทั้งสามที่หันหน้ามามองจงซานพร้อม ๆ กัน จงซานที่มีพลังฝึกตนเพียงระดับ 9 เซียนเทียน นอกจากนี้ยังมีพรสวรรค์ทางร่างกายที่ย่ำแย่ หากไม่เพราะว่าท่าทางของท่านประมุข พวกเขาคงสังหารไปแล้ว.
"ข้าเป็นหวงตี้ราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้ง เป็นสามีประมุขท่านท่านไงล่ะ!"จงซานที่กล่าวออกมาไม่สนใจใครทั้งนั้น.
"เจ้า!"เหล่าอาวุโสที่จ้องมองไปยังจงซาน ไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอะไรออกมาดี.
จงซานที่เห็นคนของสำนักไท่ตานเต็มไปด้วยความขัดข้องใจ ก่อนที่จะกล่าวออกมา"เกี่ยวกับคำพูดที่ข้ากล่าวออกไปนั้น พวกเจ้าทุกคน คงจะสงสัยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ทว่าคำพูดที่ข้าได้กล่าวเป็นความจริง เอาเป็นว่าพวกเจ้ารอก่อนเป็นไง ข้าจะนำหลักฐานมาพิสูจน์ในเร็ว ๆ นี้."
ใบหน้าของจงซานที่ยังดูสุขุม ทำให้ภายในใจของทุกคนผ่อนคลายลง ทว่าความเป็นปฏิปักษ์ของคนสำนักไท่ตานยังไม่เปลี่ยน ทว่าตอนนี้กับจ้องมองไปยังจงซาน ด้วยสายตาที่ไม่แน่ใจ.
"เจ้ามีอะไรที่จะมาแสดง?"เหย้ายวีที่กล่าวออกมา.
"หยกบันทึก มันอยู่กับอีกคนหนึ่ง รอคอยอีกไม่นาน ข้าได้ส่งคนไปเอามันมาแล้ว จะถูกหรือผิด ไว้ตัดสินกันตอนนั้น."จงซานกล่าว.
ทุกคนต่างก็จ้องมองมายังจงซาน ประมุขเองก็อยู่ในมือของเขาแล้ว อาวุโสทั้งสามก็ได้แต่ถอนหายใจยาว อาวุโสเหย้าหยีที่กล่าวออกมา."ก็ได้."
เกี่ยวกับคำตอบดังกล่าวนั้นทำให้จงซานเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล "ถ้าเป็นเช่นนั้น ทุก ๆ ท่านก็พักอยู่ที่นี่ก่อนก็แล้วกัน สถานที่ที่มีเตาจักรวาลนี้ ข้าได้สร้างตำหนักปรุงยาขึ้น ทุก ๆ ท่านควรจะรอกันที่นี่ ก่อนที่หยกบันทึกจะส่งมาถึง."
"พวกเจ้าพักอยู่ที่นี่ก่อน."เป่าเอ๋อกล่าวออกมาทันที.
"ทราบแล้ว."อาวุโสทั้งสามที่จำต้องตอบรับ ส่วนศิษย์คนอื่น ๆ เองต่างก็ถูกสั่งให้พักอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน.
"หยิงหลาน ให้ทุกคนออกไปอย่าได้รบกวนสถานที่แห่งนี้."จงซานที่กล่าวต่อหยิงหลาน.
"ค่ะ."หยิงหลานที่พยักหน้าในทันที.
จากนั้น จงซานก็นำเป่าเอ๋อจากไป คู่รัก?ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แน่นอนย่อมต้องมีคำพูดมากมายที่จะกล่าว.
ตั้งแต่แรกแล้ว คฤหาสน์จงมีเจดีย์ห้าชั้น ถึงแม้ว่าจะสร้างวังหลวงขึ้นมาใหม่ สถานที่แห่งนี้ก็ยังคงรักษาเอาไว้.
บนเจดีย์ เป่าเอ๋อที่อยู่ในอ้อมกอดของจงซาน จ้องมองลงไปดูฉากต่าง ๆ ที่ด้านล่างด้วยกัน.
"เป่าเอ๋อ นี่คือร่างแยกเงาของข้า ส่วนร่างหลักอยู่สำนักไคหยาง ตอนนี้กำลังเร่งรีบกลับมา."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
"อืม."เป่าเอ๋อพยักหน้าอย่างมีความสุข.
ทักษะร่างแยกเงานั้น ตอนนี้ในโลกใบนี้ มีเพียงแค่สองคนที่รู้ หนึ่งคือเป่าเอ๋อและอีกหนึ่งคือกุยเอ๋อ ทว่ากุยเอ๋อนั้นได้จากไปแล้ว จึงมีแค่เพียงเป่าเอ๋อที่รู้ สามีและภรรยาก็เหมือนกับคน ๆ เดียวกัน แม้ว่าจะแยกห่างกันหมื่นลี้ จากกันมาหลายปี จงซานก็ยังเชื่อใจภรรยาเหมือนเมื่อก่อน ในโลกใบนี้ จะมีใครกันล่ะที่เขาเชื่อใจมากที่สุด.
"บอกข้าสิหลายปีมานี้ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง."จงซานที่ลูบผมของเป่าเอ๋อ พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยเสียงที่อ่อนโยน.
"อืม."เป่าเอ๋อที่มีความสุขอย่างที่สุดทำได้แค่พยักหน้าด้วยความอิ่มเอมใจ.
สำนักไคหยาง ร่างหลักจงซานที่รับรู้ว่าเป่าเอ๋อกลับมาแล้ว เขาที่เตรียมเก็บสัมภาระ เตรียมจากไปจากที่แห่งนี้ในทันที ภายในใจของเขานั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ เป่าเอ๋อ ท้ายที่สุดเป่าเอ๋อก็กลับมา.
จงซานที่ออกมาจากประตูสำนักไคหยาง ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปอีกครั้ง ก่อนที่จะเห็นผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาที่กำลังนั่งจิบน้ำชาอยู่ ท่าทางที่ดูเรียบง่ายสบาย ๆ .
จงซานที่เห็นผู้พิทักษ์แห่งขุนเขา ก็เดินเข้าไปหาในทันที ภายในใจของเขานั้นเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง ในวันนั้นที่เหล่ยติงลอบโจมตีเขา หากว่าไม่ใช่เพราะฝ่ามือของผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาที่ทำให้เขาบาดเจ็บ หากไม่มีผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาที่แผ่พลังออกมาช่วยหลิงเอ๋อเบื้องต้น เป็นไปไม่ได้ได้เลยที่นางจะรอดจนเนี่ยชิงชิงมาถึง.
จงซานที่เดินเข้ามาใกล้ ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาที่จ้องมองไปยังจงซาน.
"อาวุโส."จงซานที่เข้ามาคารวะผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาด้วยความเคารพ.
ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาที่เห็นจงซานก็เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล"มหัศจรรย์ ด้วยพรสวรรค์ทางร่างกายที่ยำแย่ เจ็ดปีมานี้คาดไม่ถึง ๆ เจ้าจะก้าวไปถึงระดับเก้าเซียนเทียน เจ้ายอดเยี่ยม สายตาของหลิงเอ๋อช่างยอดเยี่ยมนัก."
"ขอบคุณ อาวุโสที่ชม."จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
"เจ้าจะออกไปข้างนอกอย่างงั้นรึ?"ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขากล่าว.
"ครับ."จงซานที่ตอบด้วยความเคารพ.
"อืม เดินทางอย่างปลอดภัย สี่ปีหลังจากนี้ สำนักไคหยางพวกเรามีงานใหญ่ ในเวลานั้นเจ้าควรที่จะกลับมาให้ทัน บางทีเจ้าอาจจะได้รับโอกาส."ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขากล่าว.
"ครับ."จงซานที่ตอบรับในทันที สี่ปีหลังจากนี้?อาวุโสของสำนักไคหยางจะกลับมาไม่ใช่รึ?"
"อืม เกือบลืม พลังจิตวิญญาณของสำนักไคหยางจะเพิ่มขึ้นสูงในในทุก ๆ เจ็ดปี หากว่าสามปีหลังจากนี้เจ้าก้าวไปถึงระดับสิบเซียนเทียน ให้รีบกลับมาก่อน ด้วยพลังวิญญาณที่หนาแน่นนั่นจะทำให้เจ้ามีโอกาสที่จะทะลวงไปในขั้นแกนทองได้ดีที่สุด อย่าได้พลาด."ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขากล่าว.
"พลังวิญญาณขาขึ้น?"จงซานที่สอบออกมาด้วยความสงสัย.
"โฮ่ โฮ่ เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าไปสอบถามเสวียนซวินจื่อก็แล้วกัน "ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาที่ส่ายหน้าไปมา ดวงตาที่หลับลงและไม่กล่าวอะไรอีกต่อไป.
"ขอบคุณ อาวุโส."จงซานที่คารวะผู้พิทักษ์แห่งขุนเขา จากนั้นเขาก็เร่งรีบกลับมายังราชวงศ์ต้าเจิ้ง.
ราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้ง ร่างหลักและร่างเงาได้รวมร่างเข้าด้วยกันแล้ว.
ตำหนักเฉิงซ่าง เหล่าข้าราชบริพารต่างก็รอคอยกันอยู่ คาดไม่ถึงเลยว่าในวันนี้เหนือหัวยังไม่เสด็จออกมา.
จงกวนวังหลวง เดินออกมาจากประตู "ทุก ๆ ท่าน เหนือหัวต้องการพักผ่อนในวันนี้ ขอให้ทุกท่านกลับไปก่อนไว้พรุ่งนี้ค่อยเปิดประชุม."
总管 (zóng guǎn)หัวหน้าควบคุมทั่วไป
เหล่าเจ้าหน้าที่ราชสำนักที่เข้ามาพูดคุยกับเหว่ยไท่จง ก่อนที่จะค่อย ๆ จากไป.
ในเวลานี้ ตำหนักเจิ้ง ได้ถูกทำความสะอาดตกแต่งหรูหราโอ่อา และมีคนเพียงสองคนในตำหนัก.
ความรักความอบอุ่นเหมือนคืนวันแต่ง จงซานในชุดนอนสีแดงลายผลไม้นอนอยู่บนเตียง จ้องมองไปยังหญิงสาวที่งดงามในอ้อมกอด เป่าเอ๋อ.
ดวงตาที่พริ้มหลับ ดอกไม้งามแก้มที่ประณีตสีไปมาบนอกของเขา แม้แต่ยามหลับยังเผยยิ้มหวานออกมา.
แน่นอน ความรักความลุ่มหลงอาทรที่มีต่อเป่าเอ๋อ หญิงสาวผู้งดงามผู้นี้ ครั้งหนึ่งที่ทำให้หัวใจที่แข็งกร้าวไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก ปรุงแต่งเขาด้วยความรักของนาง จนทำให้หัวใจที่ด้านชานั้นกลายเป็นอ่อนโยน.
มือที่หยาบกร้าน สัมผัสลูบเบา ๆ ไปที่หลังของนาง ใบหน้าที่พริ้มหลับของนางเต็มไปด้วยความสุข จงซานที่สูดหายใจยาว เอื้อมกายพร้อมกับจุมพิตที่หน้าผากของนางเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจและโหยหา หลายปีมาแล้วกับชีวิตที่ไร้สีสัน จวบจนถึงเป่าเอ๋อกลับมา จึงทำให้เขาสามารถปล่อยวางได้บ้าง คิดว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้ว.
ร่างกายของจงซานที่ขยับนั้น ทำให้เป่าเอ๋อรู้สึกตัว เปลือกตาที่ขยับไปมาอย่างนุ่มนวล ก่อนที่จะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา.
เป่าเอ๋อที่ตื่นขึ้นมาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่อิ่มเอมได้ รอยยิ้มหวานที่นานมาแล้วจะปรากฏ เป็นความรู้สึกที่ดียิ่งนัก ฝ่ามือที่ประณีตของนางที่ลูบไปมาที่หน้าอกของจงซาน.