Chapter 145 บัวหิมะพิสุทธิ์
"ศิษย์พี่ พวกเรากลับก่อนเถอะ ไว้ค่อยคุยกันที่สำนักไคหยาง "กู่ซ่างจื่อที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าจ้องมองไปยังเทียนซวินจื่อ.
เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังทุกคน ก่อนที่จะมองไปยังสิ่งของขนาดใหญ่บนทะเลเถ้าถ่าน "เตาเผาจักรวาล เป็นสมบัติของสำนักไท่ตาน อีกไม่นาน สำนักไท่ตานจะต้องส่งคนมาอย่างแน่นอน."
"อืม."ทุกคนพยักหน้า.
จากนั้น เมฆสีขาวก็พาทุกคนบินตรงกลับสำนักไคหยาง.
ทว่าเมื่อเทียนซวินจื่อนำทุกคนจากไปแล้ว ที่ห่างออกไปไม่ไกลจากสำนักโหยวหยินที่ล่มสลาย.ปรากฏหมาป่าขนาดสิบเมตร ที่บนหัวของหมาป่านั้นมีร่างของชายคนหนึ่งในชุดที่หรูหราโอ่อ่า.
จงซาน เป็นจงซานนั่นเอง หรือก็คือร่างแยกเงาจงซานซึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านนอกของสำนักโหยวหยิง และในเวลาเดียวกัน ที่ด้านหลังจงซาน มีหมาป่ากว่าหนึ่งร้อยตน ซึ่งแต่ละตนมีคนยืนประจำอยู่บนศีรษะของพวกมัน เป็นนักรบหมาป่าของราชวงศ์ต้าเจิ้งนั่นเอง.
จงซานที่ชี้นิ้วไปด้านหน้า สั่งการให้หมาป่ายักษ์นำเขาไปยังเตาเผายักษ์ ซึ่งอยู่บนทะเลเถ้าถ่าน ซึ่งมีความสูงสิบจั้ง เป็นหม้อที่มีขนาดใหญ่มากดูเหมือนว่ามันไม่มีรอยขีดข่วนเลยแม้แต่น้อย.
เหล่านักรบหมาป่าพร้อมกับหมาป่าจำนวนมากได้รับการฝึกฝนมาอย่างพิเศษ พวกเขาทำการใช้กล่องขนาดใหญ่คลุมหม้อยักษ์อย่างรวดเร็ว.
"ไปได้."จงซานที่ออกคำสั่งในทันที.
พวกเขาที่ใช้เชือกมัดกล่องยักษ์อย่างแน่นหนา พร้อมกับผูกยึดกับหมาป่ายักษ์ยี่สิบตัว พร้อมกับยกขึ้นขนออกไปอย่างรวดเร็ว.
หลังจากที่กลุ่มของจงซานจากไป ก็มีกลุ่มคนบนกระบี่เหินร่อนลงมา ทุกคนต่างก็รู้ว่าสถานที่แห่งนี้เดิมทีคือสำนักโหยวหยิงซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นทุ่งขี้เถ้าไปแล้ว ทุกคนที่หายใจลึก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตาเห็น.
ที่นี่มีสำนักเซียน สำนักเซียน กลายเป็นเถ้าเพียงแค่พริบตาเดียวอย่างงั้นรึ?เป็นเรื่องจริงอย่างงั้นรึ?ก่อนหน้านี้มันเกิดสิ่งใดขึ้นกัน?
เหล่าผู้ฝึกตนแต่ละคนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที น่าเกรงขามเกินไปแล้ว มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
เหล่าผู้ฝึกตนที่มารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทุกคนต่างก็แสดงท่าทางหวาดกลัวขึ้นมาไม่ต่างกัน และมีคนหนึ่งในนั้นเอ่ยปากออกมาทันที นี่คือค่ายกลกระบวยใหญ่ ทุกคนถึงกับหายใจที่เย็นเยือบเข้าไปพร้อม ๆ กันเลยทีเดียว.
สำนักไคหยาง นี่เป็นฝีมือของสำนักไคหยางงั้นรึ? แข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ? สามารถทำลายสำนักเซียน สำนักอื่นได้อย่างราบคาบ นอกจากนี้ยังใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำ แม้แต่สำนักเซียนที่มีความแข็งแกร่ง ไม่คิดเลยว่าจะไม่สามารถเทียบได้กับพวกเขา หากเป็นสำนักเล็ก ๆ ล่ะ ทุกคนที่หายใจติดขัด แม้แต่ภูเขายังกลายเป็นเถ้าถ่าน?นี่คือเพลิงดาราอย่างงั้นรึ? สามารถที่จะเผาไหม้ทุกอย่างให้หายไปแทบจะในทันที กับสำนักเซียนที่มีประวัติยาวนานเช่นพวกเขา ยากที่จะมีใครสามารถเทียบเคียงได้เลยจริง ๆ .
สำนักไคหยาง ด้านหน้าหลุมศพของอู๋โหยว.
ด้านหลังของเทียนซวินจื่อมีคนอยู่มากมาย แม้แต่ผู้ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาและผู้พิทักษ์สำนักทั้งสองด้วย.
ใบหน้าของเทียนซวินจื่อที่จ้องมองหลุมศพของอู๋โหยวด้วยความอ่อนโยน เขาที่เอ่ยปากออกมาเบา ๆ "จงซาน ตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว?"
"อาจารย์ตอนนี้ ยามซวี"แววตาของจงซานที่อาบไปด้วยความโศกเศร้า.
ยามซวี (戌时) คือเวลา 19.00 น. – 21.00 น.
"ข้ายังมีเวลาอีกสองชั่วโมงก่อนที่จะไปพบอู๋โหยว."เทียนซวินจื่อที่เผยยิ้มออกมาด้วยใบหน้าแห่งความคาดหวัง.
กับรอยยิ้มของเทียนซวินจื่อ ทว่าคนอื่น ๆ นั้นกับไม่สามารถยิ้มออกมาได้เลย สายตาของทุกคนที่เต็มไปด้วยความเศร้า เพราะว่าเทียนซวินจื่อนั้นได้ใช้อายุขัยของตัวเองทั้งหมดเพื่อถวายแต่ค่ายกลกระบวยใหญ่ ทำให้เขามีชีวิตอยู่หลังจากจบยามซวีนี้เท่านั้น ซึ่งก็เหลือแค่สองชั่วโมง ใครยังจะยิ้มได้อีกงั้นรึ?(1 ชั่วยามจีนเท่ากับ 2 ชม.)
"ศิษย์น้อง."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาต่อเสวียนซวินจื่อ.
"ศิษย์พี่."ใบหน้าของเสวียนซวินจื่อที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า.
แม้ว่าเขาจะไม่ได้โศกเศร้าเลยที่จะตายไป ทว่าเห็นคนอื่น ๆ ที่เป็นห่วงเป็นใยเขา ก็ทำให้เขาใจหายไปด้วยเช่นกัน.
ด้วยการสะบัดมือหนึ่งครั้ง เทียนซวินจื่อได้นำกระบวยใหญ่ออกมา.
"ศาลาเจ็ดดาว สัญลักษณ์ประมุขของสำนักไคหยาง กระบวยสงคราม วันนี้ข้าได้ส่งมันให้เจ้าแล้ว นับจากวันนี้ เจ้าคือประมุขของสำนักไคหยาง เป็นผู้นำของศิษย์ทั้งหมด ให้อาวุโสทั้งสอง แต่งตั้งและจัดการเรื่องทุกอย่างให้เป็นทางการ."เทียนซวินจื่อได้กล่าวออกมา.
"ศิษย์พี่."ดวงตาของเสวียนซวินจื่อที่เปียกชื้นขึ้นมาทันที.
เทียนซวินจื่อที่ได้ส่งกระบวยสงครามให้กับเสวียนซวินจื่อ ก่อนที่จะหันหน้าไปมองกู่ซ่างจื่อ "ศิษย์น้องหญิง หลังจากนี้เจ้าต้องช่วยเหลือศิษย์น้องให้ดี ก่อนหน้านี้เจ้ามักเคร่งครัดในการฝึกฝนมากจนเกินไป ชีวิตควรที่จะมีการยืดหยุ่น อย่าได้ต้องเสียใจเช่นข้า ข้านั้นไม่ต้องการก้าวต่อไปด้านหน้า มันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ การใช้เวลาเพื่อการบำเพ็ญทั้งหมดนั้นมีแต่เสียเวลาเปล่า อย่าให้ก่อนที่จะรู้สึกตัวมันก็สายเกินกว่าที่จะเสียใจได้."
กู่ซ่างจื่อที่อัดอั้นไม่สามารถที่เอ่ยออกมาได้ ดวงตาของนางที่มีน้ำตาไหลออกมา.
เทียนซวินจื่อที่หันหน้าไปทางผู้พิทักษ์สำนัก "ต้องรบกวนท่านเดินทางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์ เรียกศิษย์ทั้งหมดกลับมา เดินทางไปยังศาลาเจ็ดดาวเพื่อเชิญอาวุโสระดับสูงทั้งสองของสำนักไคหยางกลับมาด้วย จะต้องทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้นในเวลาสี่ปี."
"เป็นหน้าที่ข้าเอง."ผู้พิทักษ์สำนักที่รับคำสั่งเทียนซวินจื่อด้วยความเคารพ จากนั้นร่างกายของเขาก็หายไปในทันที.
"หนีปู่ซา เจ้ามีแผนการจะทำอะไรต่อไปรึ?"เทียนซวินจื่อที่จ้องมองสอบถามหนีปู่ซา.
"หลังจากฝังเจ้าแล้ว ข้าจะเดินทางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความเศร้า ข้าจะไม่กลับมาหลังจากนี้."หนี่ปูซากล่าว.
หลังจากที่หนี่ปู่ซากล่าวออกมา เหล่าศิษย์ต่างก็จ้องมองไปยังเขา หลังจากฝังเจ้าแล้ว?เป็นคำพูดที่ควรพูดอย่างงั้นรึ?
อย่างไรก็ตามเทียนซวินจื่อก็ไม่ได้โกรธแต่อย่างใด ความเป็นจริง ในเวลานี้เขาก็ยังเหลือเวลาแค่สองชั่วโมงก่อนสิ้นอายุขัยไป.
"ศิษย์น้อง เจ้าพาศิษย์กลับไปยังตำหนักไคหยางก่อน ข้าและจงซานมีเรื่องที่จะคุยกันก่อน."เทียนซวินจื่อที่กล่าวต่อเสวียนซวินจื่อ.
"ครับ ศิษย์พี่ "เสวียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาพร้อมน้ำตา.
หลังจากนั้น ก็เหลืองเพียงแค่จงซาน ส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็จากไปแล้ว.
จงซานที่มองไปที่เทียนซวินจื่อ แววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความอ้างว้าง อาจารย์ของเขา กำลังจากไปแล้วอย่างงั้นรึ?
"จงซาน."เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังจงซาน.
"อาจารย์."จงซานที่ถอนหายใจเบา ๆ .
"ข้าสัมผัสได้ว่าเจ้ามีอนาคตไกล สามารถที่จะก้าวข้ามข้าได้ ในอีกไม่กี่ร้อยปี หลิงเอ๋ออยู่กับเจ้า ไม่มีทางผิดหวังแน่นอน หลังจากนี้ข้าของฝากหลิงเอ๋อเอาไว้กับเจ้าด้วย."ใบหน้าของเทียนซวินจื่อที่ได้แต่ทอดถอนใจ.
"อาจารย์โปรดวางใจหลิงเอ๋อคือภรรยาข้า เมื่อข้าก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณ ข้าจะไปหานาง และทำให้นางเต็มไปด้วยความสุข."จงซานที่กล่าวหนักแน่น.
"เฮ้ เฮ้ เจ้ารู้รึว่าหลิงเอ๋ออยู่ที่ใหน?"เทียนซวินจื่อกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ศิษย์รู้เพียงแค่ว่าตำหนักหงสา หากเดินทางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าจะต้องพบตำหนักหงสา เมื่อนั้นก็จะพบหลิงเอ๋อได้."ใบหน้าของจงซานที่เต็มไปท่าทางหนักแน่น.
"ตำหนักหงสา? ฮ่าฮ่า การจะพบหลิงเอ๋อนั้นไม่ง่ายเลย ก็เหมือนดั่งที่เจ้าได้รับการยอมรับจากเผ่าหมาป่า ตระกูลเนี่ยเองก็ได้รับการยอมรับจากเผ่าหงสาเช่นกัน หงส์มรกตที่เนี่ยชิงชิงนำมาวันนั้น ก็เป็นหนึ่งในสัตว์อัญเชิญของตำหนักหงสา ตระกูลเนี่ยนั้น ลึกล้ำเกินจะหยั่ง ในเวลานี้เจ้าไม่สามารถติดต่อกับพวกเขาได้."เทียนซวินจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
"ตระกูลเนี่ย?อาจารย์โปรดวางใจ ไม่ว่าจะที่ใหนก็ตาม ตราบเท่าที่จงซานยังหายใจอยู่ จะต้องนำหลิงเอ๋อกลับมาอย่างแน่นอน."จงซานที่กล่าวอย่างหนักแน่น.
เทียนซวินจื่อที่เผยยิ้มออกมา "ทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้นมีราชวงศ์สวรรค์สามราชวงศ์ ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว ราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่และราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย ตระกูลเนี่ยนั้น เป็นผู้ปกครองของราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่ เพราะว่าหลิงเอ๋อนั้นมีร่างสถิตในตำนาน มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นกงจูของราชวงศ์ต้าหลี่ เจ้าคิดว่าสามารถอย่างงั้นรึ?."
"อาจารย์โปรดเชื่อมั่นจงซานจะต้องทำให้ได้."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"ดี."เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยความคาดหวัง.
เทียนซวินจื่อสะบัดมือครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะปรากฏดอกบัวสีขาวที่ที่ฝ่ามือขนาดเท่ากับกำปั้น ไม่ น่าจะเรียกว่าช่อหนึ่งซะมากกว่า.
เทียนซวินจื่อที่ถอนหายใจยาว จ้องมองไปยังดอกบัวสีขาวนั่น "หลิงเอ๋อแต่งกับเจ้า ข้าและอู๋โหยว ได้รับของวิเศษมา จึงมอบของชิ้นนี้ให้เจ้าเป็นของขวัญแต่งงาน ตอนนี้เจ้ายังไม่มีพลังเพียงพอ จึงไม่สามารถใช้ได้ เมื่อเจ้าก้าวไปถึงระดับแกนทองขั้นสุดท้าย ค่อยนำมันมาใช้ จำไว้ให้ดี สิ่งนี้เรียกว่า บัวหิมะพิสุทธิ์ มันเป็นของที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน อย่าได้ให้คนอื่นรู้ จนกว่าเจ้าจะมีพลังที่จะปกป้องมัน."
บัวหิมะพิสุทธิ์อย่างงั้นรึ? จากบันทึกในหอตำราหายาก จงซานรู้เกี่ยวกับบัวหิมะ ทว่าไม่รู้ว่าบัวหิมะพิสุทธิ์ที่ได้มาจากเทียนซวินจื่อนั้นคืออะไร ทว่าจากน้ำเสียงของเทียนซวินจื่อแล้ว จงซานรู้ได้ทันทีว่ามันเป็นของล้ำค่าเป็นอย่างมาก.
"ขอบคุณเยวี่ยฟู่."จงซานที่แสดงท่าทางเคารพก่อนที่จะรับบัวหิมะพิสุทธิ์มา.
เพียงแค่สัมผัสบัวหิมะพิสุทธิ์ จงซานก็สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็น ก่อนที่จะเก็บเข้าไว้ในกำไลเก็บของ หลังจากนี้ค่อยตรวจสอบอีกครั้ง.
เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังจงซาน พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล."ก่อนหน้านี้ แม้แต่หนีปู่ซาเองก็เห็นว่าพรสวรรค์ทางร่างกายของเจ้านับว่าย่ำแย่ ทว่าชะตาของเจ้านั้นกับยอดเยี่ยม แม้ว่าเขาจะบำเพ็ญฮวงจุ้ย ทว่าเขาก็สามารถมองเห็นสิ่งที่เจ้ามีได้ ด้วยการได้รับการยอมรับจากตี้เสวียนชา ชะตาชีวิตของเจ้าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน วาสนาที่ยิ่งใหญ่ หากพยายามย่อมสามารถยืนอยู่เหนือลิขิตได้."
"ครับ."จงซานที่พยักหน้ารับ.
"หนีปู่ซานั้น เป็นคนที่น่ากลัวผูกใจเจ็บ วันนี้เจ้าได้สังหารหยิงอู๋เซี่ย เขาย่อมไม่ลงมือกับเจ้า ทว่าวันหนึ่งเขาจะต้องมาหาเจ้าอย่างแน่นอน เจ้าต้องรับมือเขาอย่างระมัดระวัง."เทียนซวินจื่อกล่าวออกมาอย่างตรงไปตรงมา.
"หนีปุ่ซาเขาจะมาหาข้าอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"เขาต้องการทำลายกระจกที่เจ้าเพิ่งได้รับมา เคล็ดวิชาหมื่นเงาสวรรค์."เทียนซวินจื่อกล่าว.
"ครับ ศิษย์จะระวังให้ดี."จงซานพยักหน้าในทันที.
"หลังจากที่ข้าจากไปแล้ว ให้ฝังข้าและอู๋โหยวเอาไว้ด้วยกัน."เทียนซวินจื่อกล่าวออกมาเป็นครั้งสุดท้าย.
"ครับ."จงซานจ้องมองไปยังเทียนซวินจื่อ ถอนหายใจเบา ๆ แววตาเป็นไปด้วยความเศร้าห่อเหี่ยวใจปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง.
"เอาล่ะ ไปยังตำหนักไคหยางกับข้า ข้ายังมีสิ่งที่ต้องสะสางก่อนที่จะจากไป."
ชายฝั่งทะเลทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะหมาป่าสวรรค์.
เชวียนเป่าเอ๋อในชุดที่ดูโอ่อ่า ด้านหลังมีอาวุโสสำนักไท่ตานสามคนคุ้มกัน ท้ายที่สุดพวกเขาก็จากมาจากทวีปศักดิ์สิทธิ์แล้ว.
บนภูเขาสูงชายฝั่งของเกาะหมาป่าสวรรค์ เป่าเอ๋อที่โลหิตสูบฉีด จ้องมองไปยังแผ่นดินที่กว้างใหญ่ ด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.
"เหล่าเยว่ เป่าเอ๋อกลับมาแล้ว."เชวียนเป่าเอ๋อที่พึมพำออกมาเบา ๆ .
"ท่านประมุข ได้เวลากลับสำนักแล้ว."อาวุโสเหย้ายวีกล่าวออกมาทันที.
"อืม."เป่าเอ๋อพยักหน้า สามอาวุโสที่ควบคุมเมฆให้ลอยลึกเข้าไปในดินแดนเกาะหมาป่าสวรรค์.
ราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้ง.
ร่างแยกเงาจงซานที่นำนักรบหมาป่าเดินทางไปยังสำนักโหยวหยิง ก่อนที่จะนำเตาจักรวารกลับมาด้วย หลังจากที่ชิงอวิ๋นประจำอยู่ในวิหารหมาป่าเห็นถึงกับจ้องมองดวงตาเบิกกว้างเลยทีเดียว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจที่เห็นหมาป่าตัวใหญ่แบกสิ่งของนี้กลับมา.
"ครืนนนนน"
กล่องขนาดใหญ่ที่บรรจุเตาจักรวาลถูกวางลงบนจัตุรัสขนาดใหญ่.
ชิงอวิ๋นหลางเจียงที่ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าจงซานในทันที.
"เตาจักรวาลอย่างงั้นรึ?เจ้าเอามันมาได้อย่างไร?"ชิงอวิ๋นหลางเจียงที่ตื่นตะลึงไปเลยทีเดียว.