Chapter 138 คำวิจารณ์
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น จงซานกลับถึงสำนักไคหยางได้สิบวันแล้ว เขาไม่เห็นอาจารย์เลย จนวันที่สิบ จงซานก็ถูกอาจารย์เรียกเข้าไปพบ.
ในห้องโถงไคหยาง จงซานที่แสดงความเคารพต่อเทียนซวินจื่อ.
"เหล่ยติงตายแล้วรึ?"เทียนซวินจื่อสอบถาม.
"ครับ."จงซานพยักหน้ารับ ทุกครั้งที่เขานึกถึงเรื่องที่หลิงเอ๋อเอาตัวเข้าบังเขา มันทำให้เขาเจ็บปวดทุก ๆ ครั้ง.
เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังจงซาน และถอนหายใจเบา ๆ พยักหน้าให้ และกล่าว่า"ข้าเชื่อเจ้า หลิงเอ๋อมีเจ้าอยู่ก็พอแล้ว."
"ครับ อาจารย์."จงซานพยักหน้า.
"ข้าจะพาเจ้า ไปคารวะป้ายศพของซือมู่(ภรรยาอาจารย์)."เทียนซวินจื่อกล่าว.
"ครับ"จงซานที่พยักหน้ารับในทันที.
จากนั้นเทียนซวินจื่อก็สร้างเมฆสีขาวพาจงซานออกไปจากห้องโถงไคหยาง ตรงไปยังยอดเขาทิศเหนืออย่างรวดเร็ว.
ผ่านภูเขามาหลายลูกลึกเข้ามาในขุนแห่งหนึ่งเข้ามาตรงกลางภูเขา.
ดูเหมือนว่าที่บนภูเขาจะมีบ้านอยู่สองหลัง ที่ยังใหม่และอีกหลังหนึ่งที่ดูเหมือนว่าสร้างมามากกว่าหนึ่งปีแล้ว.
ด้านซ้ายเป็นกอไผ่ ด้านขวาเป็นสระน้ำ บ้านสองหลังที่คั่นกลางด้วยสระน้ำอยู่ติดกับป่าไผ่เช่นกัน.
ทว่าตรงกลางนั้น เป็นหลุมฝังศพที่ดูสะอาดสะอ้านจริง ๆ .
หลุมศพสีขาวบริสุทธิ์ รอบ ๆ หลุมศพเต็มไปด้วยดอกไม้ที่สดใหม่ ที่วางไว้อยู่บนแท่นและมีป้ายหลุมศพที่สลักเอาไว้ว่า.
สุสานภรรยารักอู๋โหยว!
อักขระเจ็ดตัว ที่เทียนซวินจื่อสลักเอาไว้แทนความรู้สึกของเขาที่มีต่อภรรยา.
เทียนซวินจื่อที่ลงมาจากเมฆ จับจ้องมองไปยังศิลาเกาะสลัก ทุกคำพูดแทนใจของเขาที่มีต่ออู๋โหยว มันได้กลั่นทุกสิ่งทุกอย่างออกมาจากใจของเขา.
จงซานที่ยืนอยู่ด้านหลังของเทียนซวินจื่อ ใบหน้าที่แสดงความเคารพ.
"จงซาน คารวะเยวี่ยมู่ซะ."เทียนซวินจื่อที่ถอนหายใจยาว.
"ครับ."จงซานที่พยักหน้าในทันที.
จากนั้นก็เดินออกไปอยู่ด้านหน้าป้ายหลุมศพ พร้อมกับคุกเข่าแสดงความเคารพ คำนับสามครั้งต่อหน้าหลุมศพ.
"อู๋โหยว นี่คือนวี่ซวี่ของพวกเรา หลิงเอ๋อได้ยอมรับเขาแล้ว เจ้าโปรดสบายใจเถอะ."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาช้า ๆ ."
女婿(nǚxù/นวี่ซวี่) ลูกเขย
"จงซานคำนับเยวี่ยมู่."จงซานที่กล่าวต่อป้ายหลุมศพ.
เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังจงซาน พร้อมกับเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล ทว่าในรอยยิ้มนั่นแฝงไปด้วยความเศร้า ดวงตาที่เปียกชื้นขึ้นมาเล็กน้อย.
"อู๋โหยว หลิงเอ๋อมีที่พักพิงแล้ว เขาเป็นคนที่สามารถปกป้องหลิงเอ๋อได้ ข้าสามารถเบาใจได้ รอคอยให้ข้าสังหารศัตรูที่สังหารเจ้าได้ ข้าจะไปพบกับเจ้า."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาช้า ๆ .
กับคำพูดของเทียนซวินจื่อ หัวใจของจงซานที่บีบรัด เพราะว่าคำพูดเหล่านั้น เหมือนกับคนปลงตกพร้อมที่จะตาย ดูเหมือนว่าอาจารย์ของเขาเต็มไปด้วยความเศร้า หลายปีมานี้ใช้ชีวิตที่อาบไปด้วยความเสียใจ.
"แอ๊ด แอ๊ด แอด...."
กระท่อมไม้ข้าง ๆ กับก่อไผ่ เสียงประตูเปิดและคนก้าวออกมา จงซานที่หันหน้าไปมอง ก่อนที่จะพบเห็นชายในชุดผ้าป่าน.
หนี่ปู่ซา เป็นหนี่ปู่ซานั่นเอง! เขาอาศัยอยู่บ้านไม้หลังใหม่อย่างงั้นรึ?เขาที่มาอยู่อาศัยอยู่ข้าง ๆ หลุมศพรึอย่างไร?ส่วนบ้านไม้อีกหลังถัดไปจากสระน้ำ เป็นไปได้ว่านั่นคือที่อยู่อาศัยของอาจารย์อย่างงั้นรึ?
เทียนซวินจื่อที่ไม่มองหนี่ปูซ่า และหนี่ปู่ซาเองก็ไม่มองเทียนซวินจื่อ หนี่ปู่ซาที่เดินออกมา พร้อมกับช่อดอกไม้ที่มีดอกไม้หลากสีที่เขากำลังถือออกมา พร้อมกับนำมันมาวางไว้ที่ด้านหน้าป้ายหลุมศพ ใบหน้าของเขาที่จ้องมองอย่างโดดเดี่ยวไปยังป้ายหลุมศพ.
คนทั้งสองต่างยืนอยู่คนละข้าง จ้องนิ่งไปยังหลุมศพ จงซานที่ถอนออกมาอยู่ด้านหลังคนทั้งสอง.
"กระบี่ของนักฆ่าที่สังหารอู๋โหยว เจ้านำมาด้วยหรือไม่?"หนี่ปูซ่าที่เอ่ยออกมาช้า ๆ สายตาที่ยังมองไปยังป้ายหลุมศพ ไม่หันมามองเทียนซวินจื่อเลยแม้แต่น้อย.
"ท้ายที่สุดเจ้าก็ยอมเอ่ยปากแล้วรึ?"เทียนซวินจื่อมองไปยังหนี่ปู่ชาช้า ๆ พร้อมกับถอนหายใจ.
"นำมันมา."หนี่ปู่ซากล่าวอกมาเบา ๆ .
เทียนซวินจื่อที่สะบัดมือเบา ๆ ก่อนที่จะปรากฏกระบี่สีดำขึ้นในมือ กระบี่สีดำไม่มีด้ามจับ ปลดปล่อยกลิ่นอายลวงตาออกมา เป็นกระบี่ที่ราวกับว่าไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง ๆ .
หนี่ปูซาที่หันหน้ากลับมา จ้องมองไปยังกระบี่สีดำ แววตาที่ดูจริงจัง สายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.
"ถอยออกไป."หนี่ปู่ซากล่าว.
จงซานและเทียนซวินจื่อถอนออกไปอย่างรวดเร็ว ออกไปยืนดูอยู่ห่าง ๆ .
หนี่ปู่ซาที่สะบัดมืออีกครั้ง.
"ครืนนนน"
เสียงดังสนั่น ก่อนที่จะปรากฏเข็มทิศทรงกลมลูกโลกขนาดสองเมตรปรากฏขึ้นมา ครึ่งหนึ่งของทรงกลมที่ทะลวงลงไปยังพื้นดิน อีกครึ่งหนึ่ง หนึ่งเมตรโผล่ขึ้นมาบนดิน.
"แค๊ก ๆ ๆ ."
เข็มทิศ ที่หมุนไปมาช้า ๆ พร้อมกับส่งเสียงออกมาเป็นระยะ พร้อมกับปลดปล่อยพลังที่ลึกลับกระจายไปทุกทิศทุกทาง จากแปดตำแหน่งด้านล่างและด้านบน หมุนวนส่งพลังออกไปรอบทิศ แปดทิศสร้างผังสวรรค์ขึ้นมา พื้นที่ทั้งแปดทิศปรากฏหมอกกระจายไปทั่ว ซัดกลิ้งไปมา ก่อนที่จะค่อย ๆ หยุดลง แต่ละตำแหน่งด้านล่างของเข็มทิศราวกับว่าได้เชื่อมต่อเข้ากับผืนปฐพี และตำแหน่งด้านบนของเข็มทิศที่เชื่อมต่อกับผืนฟ้า.
เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังเข็มทิศด้วยความคาดหวัง ส่วนจงซานเองก็เต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าหนีปู่ซาเวลานี้หลับตาลงข้างหนึ่งพร้อมกับสูดหายใจยาว.
"ส่งมันมา."หนี่ปู่ซาเอ่ย.
เทียนซวินจื่อที่ส่งกระบี่ดำให้กับหนี่ปู่ซา.
หลังจากที่คว้าไปยังกระบี่ดำ หนี่ปู่ซามีท่าทางขมขื่น นิ้วของเขาที่คีบไปยังใบกระบี่ ก่อนที่จะนำมันส่งลงไปในพื้นที่ผังสวรรค์
หมอกที่ปกคลุมกระบี่สีดำทันที จนไม่สามารถมองเห็นได้.
"ท้องฟ้าสีดำ ผืนแผ่นดินสีเหลือง กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา จักรวาลกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ..."
หนี่ปู่ซาที่ท่องอาคมที่ค่อนข้างยาว อักขระมากมายทีไหลออกมาจากปากของเขา แผนผังสวรรค์ตอนนี้ มีหมอกปกคลุมหนาขึ้นเรื่อย ทว่าเข็มของมันยังคงหมุนไปเรื่อย ๆ ในเวลาเดียวกัน เข็มทิศลูกโลกเองก็เริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็วโคจรตามวิธีสวรรค์.
เข็มทิศที่หมุนรอบทิศ ประกายแสงสีทองที่ถูกฉายออกไปนับหมื่นจั้งในทันที ประกายแสงที่เจิดจ้า แม้แต่ศิษย์ของสำนักไคหยางรอบนอกยังสามารถมองเห็นได้ ทว่าก็ไม่มีใครกล้าเข้ามา เพราะว่าสถานที่แห่งนี้คือพื้นที่หวงห้ามของสำนักไคหยางนั่นเอง.
จงซานที่จ้องมองอยู่ข้าง ๆ อย่างสนใจ กับเข็มทิศที่โคจร ภายในความคิดที่ดื่มด่ำลึกลับกับความลึกล้ำนี้ รู้สึกราวกับว่าเป็นสวรรค์และปฐพีที่หมุนวนขึ้นลงแตกดับไปมามากมายนับไม่ถ้วน.
เขาที่ยับยั้งความสนใจเอาไว้ จงซานที่จับจ้องมองไปยังหนี่ปู่ซา ในเวลานี้ ใบหน้าของเขาที่มีเหงื่อเม็ดโตไหลออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้มันเริ่มลามไปทั่วร่าง.
เทียนซวินจื่อยังคงมองอย่างจริงจัง.
หลังจากผ่านไปหนึ่งธูปไหม้.
"แค๊ก."
เข็มทิศเข็มแรกที่หยุดลง เข็มอื่น ๆ ที่ค่อย ๆ ช้าลงเรื่อย ๆ .
"แค๊ก แคก แคก แคก แคก."
เข็มอื่น ๆ ตอนนี้กำลังเริ่มหยุดตาม ๆ กัน ก่อนที่จะหยุดไปทั้งหมด แสงสีทองที่หายไป ทิศทั้งแปดของผังสวรรค์ปรากฏหมอกขึ้นมาแปดทิศที่ย้อมไปด้วยสีดำทมิฬ ก่อนที่หมอกสีดำทั้งหมดจะค่อย ๆ รวมตัวกันกลายเป็นอักษรขนาดเล็กสี่แถวขึ้นที่ด้านบนของแปลนสวรรค์.
อาคมอสูรลึกล้ำเริ่มต้น วิชาหมื่นเงาสวรรค์ พันวันเสด็จสู่โลกหล้า ไล่ล่าสังหารไท่ตาน.
คนทั้งสามที่จับจ้องประโยคที่ปรากฏขึ้นทั้งสี่แถว สายตาจ้องเขม็ง พิจารณาความหมายของมัน.
"เป็นสำนักไท่ตาน หนึ่งในห้าสำนักเซียนขนาดใหญ่ในเกาะหมาป่าสวรรค์อย่างงั้นรึ?"เทียนซวินจื่อที่จ้องมองอย่างเย็นชา หมัดที่กำแน่น สายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นปฏิปักษ์อย่างรุนแรง.
"ไม่ใช่ หลังจากนี้พันวัน อสูรที่สังหารอู๋โหยว จะไปเยือนสำนักไท่ตาน ไล่ล่าสังหารคนในสำนักไท่ตาน."หนี่ปู่ซาที่เอ่ยปาก ดวงตาของเขาเองก็เต็มไปด้วยความมืดครึ้ม.
ได้ยินคำพูดของหนี่ปู่ซากล่าว เทียนซวินจื่อก็ขมวดคิ้วไปมา พร้อมกับเอ่ยปากออกมาว่า"เช่นนั้น อีกพันวันข้างหน้า อสูรตนนั้นจะไปสังหารคนในสำนักไท่ตาน."
ในความคิดของเทียนซวินจื่อนั้นไม่ได้ต้องการช่วยสำนักไท่ตานแน่นอน หนำซ้ำเขายังคาดหวังให้เจ้าอสูรนั่นปรากฏตัวขึ้นที่สำนักไท่ตาน ส่วนจงซานเข้าใจดีว่าไม่มีใครที่สนใจกับความเป็นอยู่ของสำนักอื่น เมื่อไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกันเลย คงไม่มีใครเสี่ยงชีวิตเพียงเพื่อคุณธรรม นอกจากนี้การล่มสลายของสำนักดังกล่าวยังช่วยตัวเองได้อีกด้วย.
"ถูกต้อง."หนี่ปู่ซาพยักหน้า.
เห็นได้ชัดเจนว่า พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ต้องการแก้แค้นให้กับอู๋โหยว แววตาของหนีปู่ซาเองก็เต็มไปด้วยความชั่วร้าย.
จงซานไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา ต้องไม่ลืมว่า นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น.
หนี่ปู่ซาที่สะบัดมืออีกครั้ง เข็มทิศขนาดใหญ่ค่อย ๆ ย่อขนาดลงมา ถูกเก็บกลับไป ที่ด้านหน้าเป็นหลุมขนาดใหญ่ ก่อนที่เทียนซวินจื่อจะสะบัดมือตาม หลุมดังกล่าวก็ค่อย ๆ หายไป.
ในเวลาเดียวกัน หลังจากที่หนี่ปู่ซารวบรวมลมหายใจให้คงที่ได้แล้ว ทันใดนั้นเขาก็จ้องมองไปยังจงซาน สายตาของเขาที่ค่อยข้างประหลาดใจ.
เห็นสายตาของหนี่ปู่ซาที่จ้องมองมาแล้ว ภายในใจของจงซานถึงกับบีบรัด.
"ศิษย์ของเจ้าอย่างงั้นรึ?"หนี่ปูซาที่สอบถามเทียนซวินจื่อ.
"อืม."เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังจงซาน สายตาของเขาที่มีท่าทางพึงพอใจ.
"กลิ่นอายจักรพรรดิมนุษย์ คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะมีกลิ่นอายจักรพรรดิมนุษย์ หากข้าไม่ใช้ลั่วผาน(เข็มทิศจีน)ดูดซับกลิ่นอายสวรรค์และปฐพีล่ะก็ ข้าคงมองไม่เห็น ว่าศิษย์เจ้านั้นไม่ใช่คนธรรมดา."หนี่ปู่ซากล่าวออกมาในทันที.
"กลิ่นอาจจักรพรรดิมนุษย์อย่างงั้นรึ?"ทันใดนั้นเทียนซวินจื่อก็จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางประหลาดใจ.
เมื่อได้ยินหนี่ปู่ซากล่าวเช่นนั้น จงซานก็รู้แล้วว่าไม่สามารถปิดบังความจริงได้ จงซานที่กล่าวต่อเทียนซวินจื่อในทันที "เรียนอาจารย์ ความจริงศิษย์ได้สนับสนุนหุ่นเชิดสร้างราชวงศ์วาสนาขึ้นที่โลกปุถุชน โดยมีชื่อว่า ต้าเจิ้ง."
"อย่างงั้นรึ?"แววตาของเทียนซวินจื่อที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเขาก็จ้องมองไปยังจงซานอีกหลายครั้ง พร้อมกับแสดงท่าทางพึงพอใจ.
"ไม่แปลกใจเลยว่าพรสวรรค์ของเจ้าไม่ค่อยดี ทว่ากับฝึกฝนพลังฝึกตนได้อย่างราบรื่น เป็นเพราะได้วาสนาจากประเทศนี่เอง ดังนั้นจึงก้าวไปถึงระดับแปดเซียนเทียนแล้ว."เทียนซวินจื่อที่ถอนหายใจเบา ๆ .
"นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าจะได้การยอมรับจากตี้เสวียนชา นับว่าเป็นคนที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ "หนี่ปูซาจ้องมองไปยังจงซาน ดวงตาที่สาดประกายด้วยความตื่นตะลึง.
"ตี้เสวียนชา? จือจุ้นเผ่าหมาป่า?"เรื่องนี้ทำให้เทียนซวินจื่อตื่นตกใจอย่างหนัก สนับสนุนราชาหุ่นเชิด นี่เป็นสิ่งที่เทียนซวินจื่อพอยอมรับได้ ทว่านี่ได้รับการยอมรับจากจื่อจุ้นเผ่าหมาป่าอีก เรื่องนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลย.
เทียนซวินจื่อที่จับจ้องมองไปยังจงซาน ราวกับว่ารอคำตอบจากเขาอยู่.
จงซานที่สูดหายใจเข้าลึก จงซานในเวลานี้รับรู้แล้วว่าหนีปู่ซานั้นน่าเกรงขามนัก เป็นพลังที่ลึกล้ำ เขารับรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?
"ครับ ช่วงระยะเวลาที่ข้าได้เข้าไปในดินแดนหมาป่า ศิษย์ได้รับการยอมรับแบ่งปันวาสนากับตี้เสวียนชา และก่อตั้งอาณาจักรหมาป่าคู่บารมี ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สามารถล้อมกรอบสังหารเหล่ยติงได้ ซึ่งข้ามีวิชาอัญเชิญหมาป่าออกมาได้ด้วย."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคารพ ในเวลาเดียวกันเขาที่จ้องมองไปรอบ ๆ ดวงตาที่เปล่งประกายกระพริบรอฟังความเห็นของหนีปู่ซา.
"อืม ดีแล้ว การที่ข้ามอบหลิงเอ๋อให้กับเจ้าได้ ข้ารู้สึกวางใจได้แล้ว."เทียนซวินจื่อที่รู้สึกมีความสุข ตราบเท่าที่หลิงเอ๋ออยู่ในการดูแลของเขา ทุกอย่างก็พอแล้ว.