Chapter 137 ความตายของเหล่ยติง.
ตะปูทองอาคมเทวะที่กำเอาไว้ที่มือด้านซ้ายของจงซาน เขาที่จ้องมองไปยังเหล่ยติงที่อยู่ด้านหน้า.
"หมาป่าแดง ข้าไม่รู้ว่าควรเรียกเจ้าว่าอะไร แต่ว่า เจ้ามีระดับแกนทองขั้นแปด ศัตรูคราวนี้มีพลังเหลือยู่แค่ครึ่งเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะทำอันตรายเจ้าจนถึงตายได้ จึงไม่จำเป็นต้องหลบหนี เจ้าควรที่จะลองรักษาคำมั่นของเผ่าหมาป่า."จงซานที่กล่าวอย่างจริงจังกับหมาป่ายักษ์ที่เขายืนอยู่.
"บู๋!"
หมาป่ายักษ์ที่คำรามเสียงดังหนึ่งครั้ง เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันเตรียมสู้เต็มกำลังพร้อมกับจงซานเช่นกัน ดวงตาของมันที่กลายเป็นสีแดง จ้องมองอย่างเฉยเมยไปยังแม่ทัพเหล่ยติง.
ทว่าในเวลานี้ แม่ทัพเหล่ยติง ดวงตากลายเป็นสีแดงเล็กน้อย หายใจแฮก ๆ ขึ้นมาในทันที.
"ย๊าก."จงซานที่คำรามลั่น.
"ตูมมมมม!"
บอลเพลิงอีกลูกที่ถูกยิงออกไปจากปากของหมาป่า พร้อมกับพุ่งตรงไปยังแม่ทัพเหล่ยติงอย่างบ้าคลั่ง.
แม่ทัพเหล่ยติงตอนนี้กำลังสับสน เกิดอะไรขึ้นกัน?เวลานี้เขาทำไมคิดถึงแต่ผู้หญิงกัน?
เหล่ยติงสะบัดหน้าไปมา ภายในใจบีบรัด ไม่ได้การแน่ ถ้าเป็นเช่นนี้เขาคงสูญเสียสมาธิแน่นอน ขณะที่เขากำลังสับสนนั้น บอลเพลิงลูกใหญ่ก็พุ่งตรงมา.
"ตูมมมม!"
ดวงตาของเหล่ยติงที่สร้างบอลสายฟ้าหมุนวนที่หมัด ก่อนที่จะกระแทกไปที่บอลเพลิง ทว่าดวงตาของเขาในเวลานี้กำลังตาลายจ้องมองไปที่ใหนก็เห็นแต่หญิงงามอยู่เต็มไปหมด.
หลังจากที่เขาทำลายบอลเพลิงไป.
เขาที่ราวกับสัมผัสได้ถึงหญิงงามที่พุ่งเข้ามาหาเขา ซึ่งแท้ที่จริงก็คือหมาป่ายักษ์ที่พุ่งตามบอลเพลิงของมันพร้อมกับกงเล็บที่ตวัดตามมาอย่างรวดเร็ว.
บอลเพลิงที่พุ่งมาก่อนซึ่งหมาป่าแดงก็พุ่งตามมาติด ๆ นั่นเอง.
หมาป่าแดงที่เต็มไปด้วยความดุร้าย กงเล็บของมันตวัดใส่ร่างของแม่ทัพเหล่ยติงอย่างรุนแรง.
แม่ทัพเหล่ยติงที่ไม่รู้ว่ากำลังพบเจอกับสภาวะย่ำแย่ แม้ว่าทั่วร่างจะมีปราณปกคลุมไปทั่ว ทว่าร่างของเขาก็ถูกกงเล็บกระแทกลอยออกไป ในหัวของเขาที่ดูราวกับไร้สติดวงตาแดงเถือก.
"ตูมมมม!"
แม่ทัพเหล่ยติงที่ลอยออกไปยังเศษลาวา ทว่าหมาป่าขนแดงนั้นคือหมาป่าอัคคีที่มีธาตุเปลวเพลิง ไม่ได้หวาดกลัวเศษลาวาเล็ก ๆ น้อย ๆ แน่นอน เหล่ยติงที่นอนนิ่งบนพื้น พร้อมกับถูกกงเล็บของหมาป่าตะปบเข้าไปอย่างแรง บอลเปลวเพลิงของหมาป่าขนแดงที่พุ่งออกไปติด ๆ ทรงพลังเป็นอย่างมาก.
อย่างไรก็ตาม แม่ทัพเหล่ยติงนับว่าหนังเหนียวเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าปราณพลังคุ้มกายจะดูเหมือนอ่อนแอ ทว่าก็ยังไม่พ่ายแพ้ง่าย ๆ เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่มีความสามารถโจมตีกลับนั่นเอง.
ในเวลานี้ จงซานที่เก็บดาบของตัวเอง พร้อมกับกระโดดลงมา หมัดของเขาที่กำแน่น ปราณทั่วร่างที่มีหมอกหงหลวนหมุนวนรอบ ๆ ก่อนหน้านี้ขณะที่เมียวเซียนเหรินและเซียนเซิงซือต่อสู้กัน จงซานเห็นได้ถึงวิธีการใช้หมอกหงหลวนเทียนแทรกซึมผสานกับปราณทั่วร่าง
ที่จริง หมอกหงหลวนไร้ซึ่งสิ่งกีดขวาง ตอนนี้มันหมุนวนอาบปราณกระจายไปทั่วตะปูทองอาคมเทวะ ผ่านปราณคุ้มกายของแม่ทัพเหล่ยติงได้อย่างง่ายดาย.
หมาป่าแดงที่ตะปบร่างของแม่ทัพเหล่ยติงมาพร้อมกับกุมเขาเอาไว้ จงซานที่ใช้แรงเต็มที่ตะปูทองอาคมเทวะถูกเจาะทะลวงไปยังข้อมือซ้ายของแม่ทัพเหล่ยติง.
"อ๊ากกก!"
แม่ทัพเหล่ยติงที่ร้องครวญครางคำรามลั่น มือขวาที่ขยับไปมาอย่างบ้าคลั่ง ทว่ามือซ้ายตอนนี้ถูกตะปูทองเจาะทะลวงตรึงเข้าไปยึดกับพื้นดิน จนเขาไม่สามารถขยับได้.
แม่ทัพเหล่ยติงที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว ทำให้เขาไม่สามารถต้านได้ และยังถูกหมาป่าขนแดงตะปบเอาไว้อีก.
"ฉึบ!!!"
ตะปูทองอาคมเทวะอีกดอกหนึ่ง ที่ปักลงไปยังข้อมือด้านขวาของแม่ทัพเหล่ยติง ตรึงเขาเอาไว้บนพื้น.
"อ๊ากกกก!"
แม่ทัพเหล่ยติงที่กำลังโกรธเกรี้ยว ทว่าหลังจากที่ถูกตะปูอาคมปักลงไปแล้ว ก็ดูเหมือนว่าเขาไม่สามารถขยับ เคลื่อนไหวอะไรได้เลย.
หมาป่าขนแดงที่ดูเหมือนว่ารู้ความต้องการของจงซาน ทันใดนั้นมันก็ตะปบขาด้านล่างของแม่ทัพเหล่ยติงด้วยเช่นกัน.
"ฉึบ!!!" "ฉึบ!!!"
ใบหน้าของจงซานที่เต็มไปด้วยความเหี้ยมเกรียม ท้ายที่สุดตะปูทองอาคมเทวะก็ปักไปยังแขนขาทั้งสี่ของแม่ทัพเหล่ยติง ตอนนี้เขายากที่จะขัดขืนหรือดิ้นรนได้เลย.
ในเวลาเดียวกันนี้ จงซานที่นำดาบยักษ์ออกมาอีกครั้ง แม่ทัพเหล่ยติงที่นอนราบอยู่ขยับไปใหนไม่ได้.
"ตูมมมมม!"
ดาบยักษ์ที่ตวัดลงไปยังพื้นดินสร้างทางน้ำให้เตรียมลาวาไหลผ่านมา อีกไม่นานมันจะไหลมายังตำแหน่งที่แม่ทัพเหล่ยติงกำลังนอนอยู่.
จงซานที่มีพลังกายาเทพอสูรระดับสอง เขาที่ทำการรวบรวมปราณปกคลุมไปทั่วร่าง การก้าวไปยังพื้นที่รอบ ๆ นี้โดยไม่มีปัญหา ทว่าเวลานี้ปราณคุ้มกายของแม่ทัพเหล่ยติงไม่เหลือแล้ว ตอนนี้ร่างกายของเขาไม่ต่างจากมนุษย์ปุถุชน ทว่าอย่างไรก็ตามด้วยการฝึกฝนร่างกายทำให้ร่างกายของเขายากที่จะใช้ดาบทั่วไปทะลวงผ่านได้.
อีกอย่างเพราะว่าการฝึกฝนวิชาหลายต่อหลายปี ย่อมทำให้ผิวกายของเขาได้ถูกสกัดกลั่นอยู่ตลอดเวลา มีความเหนียวแน่นกว่าปกติ.
กับสิ่งที่เกิดขึ้น ชิงอวิ๋นหลางเจียงที่เฝ้ามองอยู่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและตื่นตะลึง จงซานที่มีพลังแค่เพียงระดับ 8 เซียนเทียนจริงรึ? เขามีระดับแปดอย่างงั้นรึ? ปราณคุ้มกายของเขานั่นคืออะไร?และตะปูอาคมที่ปักไปยังร่างของเหล่ยติงมีปราณพลังอะไรปกคลุมอยู่กัน?
เป็นไปไม่ได้? ดวงตาของชิงอวิ๋นที่เต็มไปด้วยความสงสัยอย่างรุนแรง หมาป่ายักษ์ที่อยู่ใกล้ ๆ จงซานเอง ดวงตาของมันก็มีประกายแสงแห่งความพึงพอใจ ระดับก่อตั้งวิญญาณ คาดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้ผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณหมดสภาพได้ขนาดนี้เลยรึ?
ที่ไกลออกไป เหล่าทหารมากมายหลายคนที่จ้องมองมายังภูเขาไฟ เหนือหัว เหนือหัวของพวกเขาแข็งแกร่งทรงพลังมาก นั่นคือเซียน เขาเป็นเซียนจริง ๆ รึ? แม้แต่เซียนยังถูกเหนือหัวของพวกเขาจัดการอย่างงั้นรึ?
ในเวลานี้ จงซานที่ได้สลักความน่าเกรงขามต่อหน้าทุกคน ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้หมาป่ายักษ์จะช่วยพ่นเปลวเพลิงออกไป แต่มันก็ไม่ได้ลึกล้ำอะไรมากมายนัก.
แม้แต่เซียนยังไม่มีอะไร เมื่ออยู่ต่อหน้าเหนือหัว เขาที่สามารถระเบิดภูเขาพลิกผืนปฐพี นอกจากนี้เซียนที่มาพร้อมกับเหนือหัว บินอยู่บนอากาศ เซียนที่สวมเสื้อสีเขียว ไม่ได้ลงมือเลยอย่างงั้นรึ?
ในเวลานี้ เหล่าทหารทุกคนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ฮึกเหิม ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาทุกคนก็ได้เป็นประจักษ์พยานกับเรื่องที่ไม่เคยเห็นมาได้ในชีวิตนี้ กับความเก่งกาจของเหนือหัวที่ใช้ตะปูทองปักลงบนร่างเซียน สิ่งดังกล่าวนั่นเป็นของวิเศษที่ทรงพลังมาก.
อีกสามวันหลังจากนี้ ภูเขาไฟจะไหลปะทุผ่านตำแหน่งนี้ไม่หยุดหย่อน.
หมาป่าขนแดงที่ถูกส่งกลับไปยังเขตแดนหมาป่าแล้ว.
พวกเขาที่กลับมาประจำการอยู่บนเนินเขาของค่ายทหาร จงซาน ชิงอวิ๋น หยิงหลาน หลินเซียว เหว่ยไท่จงและจงเจิ้งที่กำลังนั่งมองแม่ทัพเหล่ยติงที่ถูกปักลงบนพื้นที่จะมีลาวาไหลผ่าน.
ตะปูทองอาคมเทวะ ที่อัดแน่นไปด้วยสัมผัสเทวะและแกนแท้ พร้อมกับหมอกหงหลวน ทำการตรึงร่างของแม่ทัพเหล่ยติงเอาไว้ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้.
ทุกคนที่มองเห็นเหตุการณ์ ต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นตะลึง.
ผู้ฝึกตนก่อตั้งวิญญาณ ในเวลานี้ไม่สามารถขยับไปใหนได้ นอนรอบนเขียงให้คนอื่นเชือด.
แม้แต่ชิงอวิ๋นหลางเจียงยังอดกลืนน้ำลายลงคอ แม้ว่าระดับก่อตั้งวิญญาณสำหรับเขาไม่ได้มีอะไรเลย ในสายตาของเขาผู้ฝึกตนก่อตั้งวิญญาณก็ไม่ได้ต่างจากแมวเชื่อง ๆ ตนหนึ่ง ทว่าเทียบกับจงซานที่มีระดับเซียนเทียนแล้ว ผู้เชี่ยวชาญก่อตั้งวิญญาณนั้นเป็นยักษ์ใหญ่ที่ทรงพลัง.
จงซานกับสามารถจัดการเขาได้ ด้วยระดับเซียนเทียนก็สามารถคว่ำระดับก่อตั้งวิญญาณได้อย่างงั้นรึ?
เขาที่สูดหายใจลึก ด้วยพลังฝึกตนที่น้อยนิดของจงซานถึงกับทำให้ดวงตาของชิงอวิ๋นเบิกกว้างทีเดียว คนผู้นี้ไม่ธรรมดา ไม่ เขามีความสามารถ.
"กู่เหยี่ยเยี่ย เขาทำร้ายพี่หลิงเอ๋ออย่างงั้นรึ?"หยิงหลานที่สอบถามออกมาทันที.
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา และกล่าวว่า"หลังจากนี้ให้เรียก กู่ไหนไหน."
"พรึด."หยิงหลานแทบกัดลิ้นตัวเอง.
"ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเด็กกะโปโล เจ้าแมลงสาบ ข้าเกลียดเจ้า อย่าให้ข้าหลุดไปได้ข้าจัดการเจ้าแน่."แม่ทัพเหล่ยติงที่นอนอยู่บนพื้นตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง.
"จัดการข้ารึ?ชิ ข้าต่างหากที่กำลังจัดการเจ้า ข้าหาเจ้ามานานแล้ว ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะคิดฆ่าตัวตาย ครึ่งปีก่อน เจ้าบังอาจเกือบสังหารภรรยาของข้า ในวันนั้นข้าได้สาบานว่าจะหาเจ้าให้เร็วที่สุด ทำให้เจ้าตาย ตายเหมือนกับหมาด้วย."จงซานที่แค่นเสียงอย่างเย็นชา.
"ฮ่าฮ่าฮ่า มาเลย มาสังหารข้า เมื่อนั้นราชวงศ์หยินเยว่จะทำให้เจ้าตายเหมือนกับหมา."แม่ทัพเหล่ยติงที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
"สังหารเจ้ารึ?เจ้าวางใจได้เลย สำหรับราชวงศ์หยินเยว่นะรึ? ข้าไปแน่ ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าตายเหมือนหมาคนเดียว ข้าจะกำจัดตระกูลจ้าวเก้าชั่วโคตร เจ้าไปรอพวกมันในนรกก่อนได้เลย พวกมันที่ต้องตายเป็นเพราะเจ้า ฮึ! ไทจง."จงซานกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"อยู่นี่แล้ว."เหว่ยไท่จงที่กล่าวออกมาทันที.
"ไม่ใช่รอบ ๆ นี้มีมดแดงไฟหรอกรึ เจ้าไปหามดแดงไฟมา ให้มันมาแทะเนื้อมันผู้นี้ซะ."จงซานที่แค่นเสียงอย่างเย็นชา.
"รับด้วยเกล้า."เหว่ยไท่จงที่รับคำในทันที.
ได้ยินคำพูดของจงซาน แม่ทัพเหล่ยติงถึงกับขนลุกตั้งชัน มดอะไรนะ? ทว่าชิงอวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ ร่างกายที่เย็นเยือบด้วยเช่นกัน ราวกับว่าเขากล่าวออกมาเป็นเรื่องธรรมดา.
"หลินเซียว นำกองกำลังหมาป่าห้าร้อยนาย กองกำลังเกราะหนักห้าหมื่นล้อมที่นี่เอาไว้ เมื่อไหร่ที่ร่างของเหล่ยติงละลายหมด ค่อยกลับมาหาข้าพร้อมกับไท่จง.."จงซานที่ออกคำสั่งอีกครั้ง.
"ครับ."หลินเซียวที่ตอบรับคำในทันที.
จากนั้น จงซานที่ทำการเปลี่ยนชุด พร้อมกับนำคนส่วนที่เหลืออกมา.
จงซานที่กลับมายังเมืองเสวียน ทว่าในความเป็นจริงการไล่ล่าเซียนในครั้งนี้ได้กระจายเรื่องราวไปทั่วทั้งกองกำลังของเขาทั้งหมด.
ข่าวคราวเกี่ยวกับเหนือหัวของพวกเขา ที่กระจายอยู่ในใจทุกคน เซียน เซียนบินได้ ความแข็งแกร่งของเหนือหัวที่ได้ทำการใช้ตะปูปักเซียนไว้ที่เมืองหงอวิ๋นทางทิศเหนือของภูเขาไฟ ภูเขาดังกล่าวในเวลานี้ ทุกคนต่างก็ขนานนามชื่อว่า"ภูเขาล่าเซียน."(ถูเซียนซาน)
องค์เหนือหัวโอรสแห่งสวรรค์ แม้แต่เซียนหมาป่ายังให้ความเคารพ.
นับจากนั้นมา ตระกูลหมาป่าสัตว์คู่บารมีของอาณาจักรต้าเจิ้ง นักรบหมาป่าตอนนี้ไม่ใช่ความลับสุดยอดอีกต่อไป ตราบเท่าที่ใครจงรักภัคดีต่อราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้ง พวกเขาอาจจะได้เลื่อนขั้นกลายเป็นนักรบหมาป่า สามารถที่จะครอบครองหมาป่าเพื่อบุกเบิกอาณาจักร ข้ามผ่านหุบเขาสูงที่คนธรรมดาไม่สามารถผ่านไปได้ เป็นนักรบที่ทรงเกียรติมาก.
เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก ราชวงศ์ต้าเจิ้งที่มีทหารนักรบหมาป่า และยังมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ อาณาจักรพันธมิตรทั้งสามเวลานี้ พวกเขาที่หวาดผวาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร.
ตำหนักเฉิงซ่าง ร่างแยกเงาที่กลับมาบริหารแผ่นดินอีกครั้ง ส่วนร่างหลักเวลานี้ได้เดินทางกลับสำนักไคหยาง แม่ทัพเหล่ยติงตายไปแล้ว ถูกลงโทษอย่างแสนสาหัส.
เขาได้แก้แค้นให้หลิงเอ๋อแล้ว อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าหลิงเอ๋ออยู่ที่ใหน จำได้อย่างลาง ๆ ว่า ตำหนักหงสา?อยู่ที่ใหนกัน?ตระกูลเนี่ยชิงชิงเองเป็นใครมาจากใหน เรื่องเหล่านี้ ไว้กลับไปสอบถามอาจารย์ก็แล้วกัน.
และเรื่องในคราวนี้ถือว่าเป็นบทเรียนใหญ่เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเขาจะบินได้ ทว่าการเดินทางบนพื้นดินไปยังสำนักไคหยางนับว่าปลอดภัยกว่า บนท้องฟ้านั้นเขาได้กลายเป็นเป้าขนาดใหญ่ หากไม่มีพลังเพียงพอที่จะปกป้องตัวเอง เช่นนั้นแล้ว เดินทางด้วยเท้าถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดแล้ว.